ขอคำปรึกษา โดนเอาเปรียบในที่ทำงาน

(( รบกวนช่วยอ่านให้จบนะคะ แล้วให้คำปรึกษาเราทีค่ะ ขอบคุณค่ะ ))

เข้าเรื่องเลยนะคะ
เรารู้สึกโดนเอาเปรียบหลายอย่างจากในที่ทำงานค่ะ
ที่ทำงานของเราเป็นโฮมออฟฟิศค่ะ มีคนที่ทำงานในบ้านด้วยกัน 2 คน(ไม่นับแม่บ้าน) ส่วนพนักงานคนอื่นเจ้านายให้อยู่บ้านอีกหลังหนึ่งค่ะ

ปัญหาคือ
(1.มาทำงานสาย)
รุ่นน้องพนักงานอีกคนที่ทำงานกับเรา เค้ามาทำงานสายทุกวันแต่ไม่เคยโดนเจ้านายตักเตือนทั้งๆที่บ้านน้องเค้าอยู่ใกล้ที่ทำงานกว่าเรา(อยู่หน้าปากซอยที่ทำงาน) แต่เวลาเราไปทำงานสายบ้างเรากลับโดนเตือน ปัญหาคือบ้านเราอยู่ไกลจากที่ทำงานหลาย 10 กิโล(แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการมาทำงานสาย)
แต่ทุกวันนี้เราก็ปรับปรุงตัวเองมาตลอดก็คือต้องตื่นเช้ากว่าเดิมเพื่อให้ไปถึงที่ทำงาน 8:30 แทบทุกวัน เพื่อไปกินข้าวและรอเข้างาน(เพื่อไม่ให้เข้างานสาย เวลาเข้างานคือ 09:00 น.) แต่จนปัจุบันนี้รุ่นน้องก็ยังไปทำงานสายเหมือนเดิม เข้างานเกิน 9:00 น.ทุกวัน แต่เจ้านายก็ไม่เคยว่าเค้าค่ะ

(2.เจ้านายให้ช่วยงานคนอื่น)
พอรุ่นน้องมาทำงานสาย งานของรุ่นน้องก็กระทบถึงงานเรา คืองานของรุ่นน้องเป็นงานแพคของค่ะพอรุ่นน้องมาสายจึงทำให้แพคของช้าและเจ้านายเลยเอางานของรุ่นน้องมาให้เราช่วยทำโดยเจ้านายอ้างว่ารุ่นน้องงานเยอะ(ทั้งๆที่เค้ามาทำงานสายเอง ถ้าเค้าไม่มาทำงานสายเค้าก็คงทำเสร็จทัน) เมื่อเจ้านายขอให้เราช่วยงานจึงทำให้งานที่เราต้องรับผิดชอบเลื่อนออกไป กลายเป็นว่าเราทำงานของเราเสร็จช้าไปด้วย พอทำงานเสร็จช้าหรือทำงานไม่เรียบร้อยก็จะโดนเจ้านายด่า

(3.เจ้านายให้ทำเกินหน้าที่)
เจ้านายให้เราทำงานแพคของช่วยรุ่นน้องคนที่มาสายทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ของเรา จริงๆแล้วหน้าที่ของเราเยอะมากเพราะเราทำหน้าที่สโตร์ของนับของ ถ่ายรูปสินค้า ประสานงานกับแอดมิน จัดของเวลาที่ลูกค้าจะมารับของหน้าร้าน แล้วเรื่องสโตร์ของเนี้ยที่ร้านมีหลายรายการมากอย่างเช่นเสื้อยืด ก็จะมีแยกลายออกไปประมาณ 40-50ลาย แล้วแยกไซส์อีก 3-4 ไซส์ นี้ยังไม่รวมอื่นๆอีกนะคะเพราะว่าที่ร้านขายทุกอย่างอย่างเช่น เสื้อยืด เสื้อกล้าม เสื้อแขนกุด เสื้อแขนยาว กกน. กางเกงยีนส์ขายาว/ ยีนส์ขาสั้น รองเท้า บลาๆๆและอื่นๆอีกมากมาย แล้วแต่ละอย่างก็แยกลายออกไปอีก 30-40ลายแล้วก็แยกไซส์ไปอีก คือเราต้องนับของให้ตรงตามความจริงให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ของมีปัญหาในแต่ละเดือน แล้วเราก็ต้องทำบิลให้ทางร้านอีก แต่สุดท้ายเราก็ทำหน้าที่ของตัวเองเกือบไม่ทันเพราะเจ้านายเพิ่มหน้าที่อื่นๆมาให้เราอีกซึ่งมันต่างจากที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่ตอนแรกที่มาสมัคงานค่ะ และคนในที่ทำงานกลับคิดว่าหน้าที่เราเป็นหน้าที่ที่สบาย มีเวลาว่างเยอะ ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วแทบไม่มีเวลานั้งพักเลยด้วยซ้ำ

(4. ลาหยุด )
รุ่นน้องคนที่มาสายของลาหยุดด้วยเหตุผลขอไปเข้าค่าย(นางเรียนอยู่) แต่เจ้านายไม่รู้ว่าเค้าโกหก แท้จริงแล้วเขาแอบแม่หนีไปเที่ยวกับเพื่อนจนไม่กลับบ้านจนแม่เขาเป็นห่วง ที่เรารู้เรื่องนี้เพราะญาติของเขาที่ทำงานด้วยกันในแผนกอื่นมาเล่าให้ฟัง แล้วจากนั้นไม่นานรุ่นน้องก็ขอลาหยุดอีกด้วยเหตุผลว่าป่วยหนักค่ะ วันนั้นที่เค้ามาทำงานเค้าก็ทำหน้าซี๊ดป่วย(คือไม่แต่งหน้าประมาณนั้นแหละ) แล้ววันนั้นน้องเค้าก็ขอไปนอนพักตรงโซฟาของพนักงาน พอเจ้านายเห็นก็เลยสงสารและอนุญาตให้น้องเค้าพัก แต่ว่ามันดันโป๊ะแตกตอนที่เรากำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วมันต้องเดินผ่านตรงนั้นพอดี ตอนแรกเราก็สงสารน้องเค้าที่ป่วยนะแต่พอเราบังเอิญไปเห็นตอนที่น้องเขานอนพัก เรากลับเห็นเค้านอนคุยโทรศัพท์ยิ้มหัวเราะคิ้กๆคั้กๆอย่างมีความสุขเหมือนไม่ได้ป่วยเลย พอเราเดินไปเจอน้องแล้วน้องเห็นว่าเราเดินมา ตอนนั้นน้องเค้าทำท่าตกใจมากแล้วก็หุบยิ้มทันทีแล้วหลังจากนั้นเค้าก็ทำท่าป่วยไม่ไหวต่อ ประเด็นคือหลังจากนั้นเราเริ่มรู้สึกว่าน้องคนนี้คงสตอเบอร์รี่ว่าป่วยแน่ๆ คืออาจจะป่วยจริงๆนั้นแหละแต่ก็แอคติ้งเอาว่าป่วยหนัก จากวันนั้นน้องเขาก็ขอลาหยุดติดกันอีก 4 วันสาเหตุที่ลาคือ...ป่วยหนักค่ะ แล้วประเด็นที่สำคัญที่สุดคือในช่วงที่น้องเขาลา เราก็ดันปวดท้อง ปจด.มากๆจนต้องกินยาพรสแตน 2 เม็ดในช่วงเช้า ใจจริงเราไม่อยากลาหยุดเพราะกลัวเคลียร์งานให้เจ้านายไม่ทัน  จนล่าสุดเราก็ขอลาหยุดเพราะเราไม่ไหวจริงๆคือปวดท้องจนปวดหัวอะคิดดู แล้วพอเราลาหยุดเจ้านายก็ส่งข้อความมาตามงานว่าทำไมงานนี้ไม่เสร็จ ทำไมงานนั้นไม่เสร็จ ลืมหรอ?... ทั้งๆที่เจ้านายก็ควรรู้แก่ใจว่าที่งานมันไม่เสร็จเป็นเพราะอะไร ก็เป็นเพราะที่เค้าโยนงานคนอื่นมาให้เราทำคนเดียวแทบจะทั้งหมดไง ส่วนงานน้องคนนั้นก็ทำงานแพคของก็ทำแค่ช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายนี้นั้งชิวเปิดซีรี่ดูทุกวัน ทุกวันจริงๆค่ะ!!

ที่ผ่านมาเรารู้สึกว่าเจ้านายไม่เคยเห็นความตั้งใจในการทำงานหรือการปรับปรุงตัวของเราเลย รู้ไหมว่าเราพยายามปรับปรุงตัวเองเพื่องานของเค้ามาตลอด เราพยายามทำงานออกมาให้ดีที่สุด แต่ทำไมเค้าไม่เคยเห็นในสิ่งที่เราทำและกลับให้ท้ายคนที่ทำผิด บางทีเราก็แอบเสียใจนะคะและรู้สึกเครียดที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ เราพยายามไม่คิดมากแล้วนะคะแต่ก็ต้องคิดจนได้ เราควรทำยังไงดีคะ? เราไปปรึกษาน้องสาว น้องสาวบอกว่าถ้าไม่ไหวก็ให้ลาออกไปเลยไม่ต้องแคร์ แต่เราก็พยายามถามตัวเองว่าควรทำแบบนั้นไหม? ช่วยให้คำแนะนำทีค่ะ ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่