บทเรียนจากคำว่า ทุ่มเทของผม (ช-ช)
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวก่อนเลยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง
เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ ผมจะขออนุญาตย้อนไปเมื่อประมาณช่วงปลายปี 2016 ที่ผ่านมา
ผมได้มีโอกาสได้เล่น FB และพบเข้ากับเพื่อนคนนึงที่เคยรู้จักกันมานานกว่าเกือบ 10ปี
ใช่ครับ เขาเป็นคนที่ผมชอบมาตลอด เพียงแต่ในตอนนั้น ด้วยผมที่อยู่กรุงเทพ เขาอยู่ สัตหีบ
ระยะทางมันไกลสำหรับเด็ก ในวัยมัธยมมาก ทำให้เราต้องห่างกัน และ ลืมความสัมพันธ์นั้นไป
แต่ในวันนี้ผมได้ลองทักไปหาเขา และพูดคุยกัน เรียกได้ว่า ต่างคนต่างหยอดแหละครับ เรารู้สึกดีที่เขายังรู้สึกดีกับเรา
และเราก็คิดว่า นี่คงเป็นโอกาสที่จะได้คบกับคนที่เราชอบมานานสักที เราตัดสินใจคบหาดูใจกัน ในช่วงปลายปี 2016 ครับ
ในวันแรกทีเราได้เจอกัน ต่างคนก็ต่างค่อย ๆ ให้ความรู้สึกของกันและกัน แลกเปลี่ยนอะไรใหม่ ๆ
จากคนสองคนที่ไม่เคยเจอกันเลย มาทำความรู้จักกัน ทำให้เรามีเรื่องหลายเรื่องที่จะพูดคุยกันมากครับ
ตัดเข้าช่วงปีใหม่ 2017 เราตัดสินใจคบกัน (มีอะไรกันไปแล้ว ในช่วงคบหาดูใจ)
อย่างที่ว่าชาย - ชาย ได้กันง่ายไม่ใช่เรื่องแปลก ผมกับเขาได้คบหากันเป็นแฟนสักที
ช่วงตลอดระยะเวลาปี2017 ด้วยความที่ผมอยู่กรุงเทพ เขาอยู่สัตหีบ
ตอนนั้นผมยังทำงานเป็นกะ วันหยุดและเวลาไม่แน่นอน แต่เมื่อไหร่ที่หยุด ผมจะนั่งรถไปหาเขา
นั่งรถตู้สายสัตหีบเพชรรุ่งเรือง ไปกลับ กรุงเทพ - สัตหีบตลอดช่วงที่เราคบหากัน แม้ผมหยุดวันเดียวผมก็จะไป
ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ชอบคนเทคแคร์ พาไปเที่ยว กินนั่น ทำนี่ ช่วงแรกผมก็กะจะมีอะไรก็หารกันแฟร์ ๆ นะคบกัน
แต่เขาน้อยใจครับ อยากมีคนที่ออกให้ ไม่ใช่จะต้องมานั่งหารเวลากินอะไร ผมก็เลยโอเค เป็นฝ่ายออกให้เสมอมา
มีบ้างที่ผมช็อต เพราะเป็นเพียง พนง.ฐานเงินเดือนขั้นต่ำ ในกรุงเทพ แค่ค่ารถไปกลับ ทุกอาทิตย์ผมก็แทบจะหมดตัวแล้ว
ช่วงหลังมานีเขาจึงเริ่มออกเองบ้าง ผมก็ดีใจนะ แต่เวลามีอะไรผมก็จะช่วยออกให้เขาเสมอ เพราะทุกคำพูดที่เขาต้องการ ผมจดและจำมาตลอด
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ผมมีความสุขมากเลยครับ การได้คบกับคนที่เราชอบมาตลอดหลายสิบปี
การได้ดูแล คิดถึงเป็นแรงผลักดันให้ผมมีกำลังใจในทุก ๆ วัน มีบ้างที่ทะเลาะกัน แต่ผมจะเป็นฝ่ายขอโทษเสมอ #คนกลัวเมีย2018
เราถ่ายรูปคู่กัน ถ่ายคลิปหอมแก้มในร้านไอศกรีมชื่อดังในห้าง เรามอบความรักให้กันหวาดหยดย้อย ไม่เว้นแต่ละสัปดาห์เลยครับ
แต่แล้วบริษัทที่ผมทำอยู่เกิดเลิกจ้างพนักงาน ทำให้ผมตกงานและไม่มีรายได้
เขายินดีที่จะให้ผมมาอยู่บ้านเขากับครอบครัว ซึ่งร่วมเวลา 24 วันจนผมหางานใหม่ได้ในกรุงเทพอีกครั้ง
เขาบอกว่า "แค่ได้เจอเราทุกวัน เขาก็มีความสุขแล้ว" เขาอยากให้เรา "อยู่ด้วยกันกับเขา"
ด้วยสายงานที่ผมเรียนมา มันไม่สามารถหางานในละแวกนั้นได้จริง ๆ (รอบ ๆ ก็มีแต่อุตสาหกรรม นิคมต่าง ๆ)
ทำให้ผมต้องกลับมาใช้ชีวิตที่กรุงเทพ อีกครั้ง เพราะผมเองก็ไม่อยากจะเกาะเขากิน (เขาทำงานเป็นวิศวะในโรงงาน)
เราทะเลาะกันหนักมาก เพราะเขาไม่อยากให้ผมกลับมากรุงเทพ กังวลสารพัดสาระเพว่าผมจะนอกใจเขา
ซึ่งผมกล้าพูดได้เต็มปากว่าผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยสักครั้งเดียว ผมได้มอบหัวใจ ทั้งความรู้สึกอารมณ์ ราคะให้เขาไปหมดแล้ว
ไม่ได้อยากมีอะไรกับใครอื่นอีก ความรักชาย-ชาย ในวันทำงาน มันยากที่จะหาใหม่แล้ว ผมอยากจะหยุดที่เขา ให้เราอยู่ด้วยกันตลอดไป
จนสุดท้ายผมก็ต้องจำใจกลับมาทำงานในกรุงเทพ คราวนี้โชคดีที่วันหยุดผม 2 วัน แต่ยังเป็นกะอยู่ ผมก็เดินทางเหมือนเดิม
ผมจะทักไปหาเขาตลอดทุกเช้า โทรปลุกเขาไปทำงานทุกวัน เขาออนเฟสเมื่อไหร่ผมจะทักไปหาเสมอ ผมไม่เคยรักเขาน้อยลงเลย
ยิ่งรักทางไกลผมยิ่งต้องพยายาม กลางคืนเลิกงานเราก็มีคอลหากันบ้าง นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผมรอคอยเลยล่ะ
ทว่ามีอยู่วันนึงเขาแปลกไป ประมาณปลายปี 2017 เขาเริ่มบ่นว่าเหนื่อยจากการทำงาน ไม่อยากคอลแล้ว
บ้างก็ว่าอยากพักผ่อน บางทีก็บอกเผลอหลับไปเพราะเพลีย ผมเห็นใจเขามาก จึงไม่อยากรบกวนเขา
แต่แล้ววันนึง เขาโทรมาบอกเลิกกับผม โดยที่ผมแทบยังไม่ทันได้ตั้งตัว ผมรู้สึกทำอะไรไม่ถูกอยากจะง้อเขา อยากจะขอคืนดี
จึงได้ Call Line ไป ปรากฏว่า
"มันขึ้นว่าติดการสนทนากับคนอื่นอยู่"
ผม Triggerd ทันทีที่เห็นประโยคนั้น มันเจ็บแปล๊บไปถึงข้างใน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอกับตัวเองในวันนี้
ช่วงนึงที่ผมไปหาเขา ผมก็แอบชำเลืองเห็นเขาส่งสติกเกอร์หัวใจให้ใครใน Line นะ แต่พอผมขอดู ก็ไม่มีแล้ว (ลบไปแล้ว)
ผมเลยพยายามไม่คิดมาก แต่ในวันนี้มันกลับเป็นอย่างที่ผมคิดไว้
วันที่ เสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2017
ผมติดต่อเขาไม่ได้ตั้งแต่เช้า จนถึงเที่ยงกว่า ๆ เขาอ้างว่าเขาโกรธผมอยู่ ยังไม่อยากคุย
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมมารู้เรื่องนี้เข้าในวันที่ 31 ธันวาคม 2017
ภายหลังผมขอคืนดีและง้อกลับมาคบกันได้สำเร็จ ผมดีใจมากเลยครับ
รุ่นน้องที่เขาแอบคบหากัน ส่งข้อความผ่านทางไลน์ มาสวัสดีปีใหม่ คิดถึงนะ (ตอนเที่ยงคืน)
ผมถามเขาที่อยู่ด้วยกันว่าใคร เขาก็บอกปัด ๆ ว่ารุ่นน้องฝึกงานที่ทำงาน่ะ ไม่มีไรหรอก แล้วขอตัวนอน
ผมกลับนอนไม่หลับ ลองสืบค้นหาดู ปรากฏว่า รูปภาพใน Album ของเขานั้นมีวันที่เขาได้อยู่ด้วยกัน
เป็นรูปที่น้องคนนั้นมาหาเขาถึงที่บ้าน บนเตียง และมีความสันพันธ์กันในเชิง ชาย - ชาย
ผมหน้าชา ใจสั่นทำอะไรไม่ถูก แฟนผมที่เขาหลับไปแล้ว ผมไม่อาจจะปลุกเขามาเค้นความจริงได้ เพราะเกรงใจเขา
ผมจึงทักส่วนตัวกลับไปหาน้องคนนั้น และเราได้คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
สรุปแล้ว น้องคนนั้นไม่ใช่รุ่นน้องฝึกงาน แต่เป็นคนที่รู้จักผ่านแอพผึ้งส้ม "Hornet" นั่นเอง
น้องเล่าว่า เรารู้จักกันผ่านทางนั้น คุยกันและพยายามจะคบหาดูใจกัน น้องส่งประวัติสนทนา กับรูปต่าง ๆ
มีทั้ง Video call , แชทหยอดเชิง 18+ (ซึ่งคนที่พูดเป็นฝ่าย แฟนของผมเอง)
มันทำให้ความเชื่อใจในตัวเขาพังทลายไปจนหมด ผมโทรคุยกับน้องเขา น้องเขาก็เล่าความจริงทั้งหมดให้กับผม
ในเช้าวันที่ 23 ธันวาคมนั้น น้องเขามาหาถึงบ้านจริงและทำอะไรกันแบบคนรัก
ฝ่ายแฟนผมเป็นฝ่ายเริ่มถอดก่อนด้วยนะ (น้องเล่า) จนเกือบจะสอดใส่กัน แบบไม่ใส่ถุงยาง
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถึงขั้นนั้น แค่ภายนอกและ Oral กันไปตามกามอารมณ์
วันต่อมาผมได้ถามความจริงกับแฟนของผม แฟนผมยังคงโกหกและปฏิเสธ จนกระทั่งผมบอกเขาว่า
ผมได้คุยกับน้องเขา และรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว แฟนผมจึงโกรธผมมาก และจะไล่ผมกลับไป
ไม่ว่าเขาจะทุบตี พูดเสียงดัง ผลักผมกระเด็นไปไกลแค่ไหนผมก็ไม่เคยตอบโต้เขาเลย
เพียงแค่ผมยืนขวางประตูไม่ให้เขาเดินออกไป จนสุดท้ายเขาจึงยอมนั่งลงร้องไห้
ผมเข้าไปโอบกอดเขาทันที ผมพร้อมจะให้อภัยเสมอ ผมรู้ว่าบางทีมันเป็นสิ่งที่ทำไปโดยไม่คิด
ผมรักเขามาก ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอย่างนั้นก็ตาม ผมยินดีที่จะคบกับเขาต่อไป
จนสุดท้ายเราจึงได้คบกันต่อเข้าปีที่ 2 ครับ (มกราคม 2018)
ช่วงนี้ผมก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้น มีวันหยุดประจำและเริ่มไปหาเขาได้สะดวกขึ้น
ทว่า แฟนของผมเขาเครียดจากการทำงานที่เก่า ผมจึงแนะนำให้เขาลาออกมาและหางานใหม่
ในช่วงนั้นผมไปหาเขาบ่อยมาก ๆ เพราะเป็นห่วง แฟนของผมตั้งใจที่จะสอบโทอิคเพื่อหางานใหม่ดี ๆ
ผมจึงคอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนมาตลอด เวลาที่เครียดจากที่บ้าน โดนกดดันต่าง ๆ ผมพร้อมจะเคียงข้างเขาเสมอ
แฟนผมตั้งใจมาก ๆ ด้วยความที่เป็นคนพยายาม ผมเห็นว่าเขาทำได้แน่ ๆ ติวมาประมาณเกือบ 3 4 เดือน
จนในที่สุด ผมก็ได้งานใหม่ที่ใหม่ ที่มีวันหยุดประจำ เสาร์อาทิตย์ เลิกงานเวลาปกติ Office Time
ผมพยายามมาตลอดเพื่อที่ผมจะได้มีเวลาให้กับเขามากที่สุด ตรงกันมากที่สุด วันนี้ผมทำได้แล้วนะ
ผ่านเลยมาจนถึงช่วงเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงวันเกิดผมพอดี
แฟนของผมตัดสินใจที่จะขึ้นมาสอบ Toeic ที่กรุงเทพ และอยู่กับผมที่คอนโดในกรุงเทพ
ผมคอยสนับสนุน แนะนำการเดินทาง พาไปส่งยังที่สอบ ตลอดจนรอรับกลับบ้านหลังผมเลิกงาน
ช่วงเวลานั้นทำให้ผมรู้สึกได้ดูแลเขามากขึ้นอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้ตลอดการเตรียมสอบ
ในที่สุดฝันของแฟนผมก็เป็นจริง เขาสอบโทอิคได้ 750 ในครั้งแรกโดยที่ติวด้วยตัวเอง
ผมรู้สึกยินดีที่เขาประสบความสำเร็จมาก เราพากันไปกินเลี้ยงฉลองกันที่ดี ๆ ก่อนที่เราจะเดินทางกลับบ้านสัตหีบด้วยกัน
เขาไม่รอช้ารีบส่งใบสมัครงานไปยัง อุตสาหกรรม นิคมต่าง ๆ ละแวกใกล้เคียงในทันที
ไม่นานนักก็มีบริษัทหลายที่ให้ความสนใจเข้ามามากมายต่อเนื่อง ผมรู้สึกดีใจมากจริง ๆ
และแล้วเขาก็ได้งานทีใหม่ ที่ฐานเงินเดือนสูง สวัสดี มั่นคง และมีชื่อเสียงมากในตำแหน่งQA
ผมโคตรดีใจ และภูมิใจในตัวเขามาก ๆ ที่เขาประสบความสำเร็จขนาดนี้ ชีวิตของเขาหลัง 25 กำลังจะผ่านพ้นไปด้วยดี
ชีวิตของเรากำลังจะดีขึ้น ทั้งผมมีงานที่มั่นคง ไปกลับเสารอาทิตย์ตลอด แฟนของผมมีงานที่ดี มีรถรถส่งถึงบ้านไม่เหนื่อยแล้ว
เข้าสู่เดือน สิงหาคม 2018
Samsung Galaxy Note 9 กำลังมาแรง แฟนของผมเขาอยากได้มาก ๆ
แต่ทว่ามันจะต้องสั่งผ่าน Shoppee เท่านั้น ซึ่งตัวแฟนของผมเขาไม่ชอบสั่งของผ่านเน็ต
จึงได้ให้ผมเป็นธุระให้ จนกระทั่งสั่งของเสร็จ ผมก็บอกให้เขาตั้งตารอได้เลย
ผมเจอเขาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 12 สิงหาคม และในเสาร์หน้า แฟนของผมเขาจะติดงานวันเสาร์
เขาบอกผมว่า ไม่ต้องมาก็ได้ พักช่วงไปก่อน แต่วันที่ 25 26 ผมก็มีทริปบริษัท ไปหาเขาไม่ได้
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผมไม่ได้ไปหาเขา ผมคิดถึงเขามาก และอยากไปหาเขาจะตาย (แม้ว่า ทริปที่ผมไปจะอยู่แค่พัทยา)
แต่เขาก็อยากให้เรากลับกรุงเทพไปก่อนค่อยมาหาใหม่ วันเสาร์หน้า (ดีใจจัง เป็นห่วงเราด้วย)
กันยายน 2018
ในที่สุดก็มาถึงวันเสาร์ที่ 1 ผมรีบไปหาเขา แต่เขาติดทำงานที่บริษัท และSamsung Note9 ก็มาส่งพอดี
เขาจึงนัดเจอผมที่ พัทยาเพื่อไปติดฟิล์มกันรอยกับเขา ผมจึงซักผ้าให้เขาเสร็จก็ออกไปหาเขาตามที่นัดกันไว้หลังเขาเลิกงาน
ระหว่างนั้น เขากล่าวว่า แบตโทรศัพท์เก่าเขาหมด ซึ่งปกติไม่น่าเป็นไปได้ เขาไม่ค่อยได้เล่นโทรศัพท์ที่ทำงานอยู่แล้ว
มันไม่มีทางที่จะหมดได้เลย ซึ่งมันไม่เคยหมด แปลกจริง ๆ แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร เดี๋ยวเขาก็เปลี่ยนไปใช้เครื่องใหม่แล้ว
ในที่สุดเขาก็ได้ใช้โทรศัพท์ใหม่ เรากลับบ้านไปพักผ่อนกันหลังทานอะไรกันที่พัทยาแล้ว
ช่วงนั้นผมไม่ได้เอะใจที่จะขอดู Line เขาเลย เพราะผมไว้ใจเขามากขึ้นแล้วจริง ๆ
ผมได้คิด่า มันถึงจุดที่อิ่มแล้วล่ะมั้ง สำหรับรักชายชาย ไม่ได้ตื่นเต้น ไม่ได้หวานหยดย้อยแบบทีแรก ๆ
แต่ว่า ถ้าหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เปลี่ยนคำว่าเดิม ๆ ให้กลายเป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันของสองเราได้
ผมก็คงจะได้มีคู่ชีวิตจริง ๆ เสียที กับเขาคนนี้ คนที่ผมรักมาตลอด ไม่เคยลดลงเลย...
วันอาทิตย์ที่ 2 น้ามาหาที่บ้าน แฟนของผมจึงขอกุญแจบ้านของน้าไปปั๊มไว้
เพราะเราเคยบ่นกันไว้นานแล้วว่า อยากจะไปค้างคืนที่ศรีราชา เที่ยวบางแสนกลางคืนกันบ้าง
ผมจึงไปปั๊มกุญแจบ้านน้ากับเขาไว้ และตั้งใจไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน..
หลังจากนั้น เรายังคุยกันดีอยู่ปกติมาก ปกติจริง ๆ...
ผมมีกลุ่มเพื่อนใน Discord วันพุธที่ 5 ผมติดฝนกลับคอนโดไม่ได้
เพื่อนผมบอกว่า แฟนผมยังเข้ามาคุย จะชวนอะไรเล่นด้วยกันปกติอยู่เลย ผมดีใจมากนะ
เพราะแฟนของผม ตั้งแต่จบมหาลัยมา เขาไม่มีเพื่อนเลย จะได้มีเพื่อนของผมนี่แหละเป็นเพื่อนสักที
ผมกลับมาถึงก็ดึกมากแล้ว พิมพ์ข้อความส่งเขาเข้านอน แต่เขาก็ไม่ตอบข้อความผม...
เดี๋ยวมาต่อครับ
บทเรียนจากคำว่า ทุ่มเทของผม (ช-ช)
บทเรียนจากคำว่า ทุ่มเทของผม (ช-ช)
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวก่อนเลยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง
เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ ผมจะขออนุญาตย้อนไปเมื่อประมาณช่วงปลายปี 2016 ที่ผ่านมา
ผมได้มีโอกาสได้เล่น FB และพบเข้ากับเพื่อนคนนึงที่เคยรู้จักกันมานานกว่าเกือบ 10ปี
ใช่ครับ เขาเป็นคนที่ผมชอบมาตลอด เพียงแต่ในตอนนั้น ด้วยผมที่อยู่กรุงเทพ เขาอยู่ สัตหีบ
ระยะทางมันไกลสำหรับเด็ก ในวัยมัธยมมาก ทำให้เราต้องห่างกัน และ ลืมความสัมพันธ์นั้นไป
แต่ในวันนี้ผมได้ลองทักไปหาเขา และพูดคุยกัน เรียกได้ว่า ต่างคนต่างหยอดแหละครับ เรารู้สึกดีที่เขายังรู้สึกดีกับเรา
และเราก็คิดว่า นี่คงเป็นโอกาสที่จะได้คบกับคนที่เราชอบมานานสักที เราตัดสินใจคบหาดูใจกัน ในช่วงปลายปี 2016 ครับ
ในวันแรกทีเราได้เจอกัน ต่างคนก็ต่างค่อย ๆ ให้ความรู้สึกของกันและกัน แลกเปลี่ยนอะไรใหม่ ๆ
จากคนสองคนที่ไม่เคยเจอกันเลย มาทำความรู้จักกัน ทำให้เรามีเรื่องหลายเรื่องที่จะพูดคุยกันมากครับ
ตัดเข้าช่วงปีใหม่ 2017 เราตัดสินใจคบกัน (มีอะไรกันไปแล้ว ในช่วงคบหาดูใจ)
อย่างที่ว่าชาย - ชาย ได้กันง่ายไม่ใช่เรื่องแปลก ผมกับเขาได้คบหากันเป็นแฟนสักที
ช่วงตลอดระยะเวลาปี2017 ด้วยความที่ผมอยู่กรุงเทพ เขาอยู่สัตหีบ
ตอนนั้นผมยังทำงานเป็นกะ วันหยุดและเวลาไม่แน่นอน แต่เมื่อไหร่ที่หยุด ผมจะนั่งรถไปหาเขา
นั่งรถตู้สายสัตหีบเพชรรุ่งเรือง ไปกลับ กรุงเทพ - สัตหีบตลอดช่วงที่เราคบหากัน แม้ผมหยุดวันเดียวผมก็จะไป
ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ชอบคนเทคแคร์ พาไปเที่ยว กินนั่น ทำนี่ ช่วงแรกผมก็กะจะมีอะไรก็หารกันแฟร์ ๆ นะคบกัน
แต่เขาน้อยใจครับ อยากมีคนที่ออกให้ ไม่ใช่จะต้องมานั่งหารเวลากินอะไร ผมก็เลยโอเค เป็นฝ่ายออกให้เสมอมา
มีบ้างที่ผมช็อต เพราะเป็นเพียง พนง.ฐานเงินเดือนขั้นต่ำ ในกรุงเทพ แค่ค่ารถไปกลับ ทุกอาทิตย์ผมก็แทบจะหมดตัวแล้ว
ช่วงหลังมานีเขาจึงเริ่มออกเองบ้าง ผมก็ดีใจนะ แต่เวลามีอะไรผมก็จะช่วยออกให้เขาเสมอ เพราะทุกคำพูดที่เขาต้องการ ผมจดและจำมาตลอด
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ผมมีความสุขมากเลยครับ การได้คบกับคนที่เราชอบมาตลอดหลายสิบปี
การได้ดูแล คิดถึงเป็นแรงผลักดันให้ผมมีกำลังใจในทุก ๆ วัน มีบ้างที่ทะเลาะกัน แต่ผมจะเป็นฝ่ายขอโทษเสมอ #คนกลัวเมีย2018
เราถ่ายรูปคู่กัน ถ่ายคลิปหอมแก้มในร้านไอศกรีมชื่อดังในห้าง เรามอบความรักให้กันหวาดหยดย้อย ไม่เว้นแต่ละสัปดาห์เลยครับ
แต่แล้วบริษัทที่ผมทำอยู่เกิดเลิกจ้างพนักงาน ทำให้ผมตกงานและไม่มีรายได้
เขายินดีที่จะให้ผมมาอยู่บ้านเขากับครอบครัว ซึ่งร่วมเวลา 24 วันจนผมหางานใหม่ได้ในกรุงเทพอีกครั้ง
เขาบอกว่า "แค่ได้เจอเราทุกวัน เขาก็มีความสุขแล้ว" เขาอยากให้เรา "อยู่ด้วยกันกับเขา"
ด้วยสายงานที่ผมเรียนมา มันไม่สามารถหางานในละแวกนั้นได้จริง ๆ (รอบ ๆ ก็มีแต่อุตสาหกรรม นิคมต่าง ๆ)
ทำให้ผมต้องกลับมาใช้ชีวิตที่กรุงเทพ อีกครั้ง เพราะผมเองก็ไม่อยากจะเกาะเขากิน (เขาทำงานเป็นวิศวะในโรงงาน)
เราทะเลาะกันหนักมาก เพราะเขาไม่อยากให้ผมกลับมากรุงเทพ กังวลสารพัดสาระเพว่าผมจะนอกใจเขา
ซึ่งผมกล้าพูดได้เต็มปากว่าผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยสักครั้งเดียว ผมได้มอบหัวใจ ทั้งความรู้สึกอารมณ์ ราคะให้เขาไปหมดแล้ว
ไม่ได้อยากมีอะไรกับใครอื่นอีก ความรักชาย-ชาย ในวันทำงาน มันยากที่จะหาใหม่แล้ว ผมอยากจะหยุดที่เขา ให้เราอยู่ด้วยกันตลอดไป
จนสุดท้ายผมก็ต้องจำใจกลับมาทำงานในกรุงเทพ คราวนี้โชคดีที่วันหยุดผม 2 วัน แต่ยังเป็นกะอยู่ ผมก็เดินทางเหมือนเดิม
ผมจะทักไปหาเขาตลอดทุกเช้า โทรปลุกเขาไปทำงานทุกวัน เขาออนเฟสเมื่อไหร่ผมจะทักไปหาเสมอ ผมไม่เคยรักเขาน้อยลงเลย
ยิ่งรักทางไกลผมยิ่งต้องพยายาม กลางคืนเลิกงานเราก็มีคอลหากันบ้าง นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผมรอคอยเลยล่ะ
ทว่ามีอยู่วันนึงเขาแปลกไป ประมาณปลายปี 2017 เขาเริ่มบ่นว่าเหนื่อยจากการทำงาน ไม่อยากคอลแล้ว
บ้างก็ว่าอยากพักผ่อน บางทีก็บอกเผลอหลับไปเพราะเพลีย ผมเห็นใจเขามาก จึงไม่อยากรบกวนเขา
แต่แล้ววันนึง เขาโทรมาบอกเลิกกับผม โดยที่ผมแทบยังไม่ทันได้ตั้งตัว ผมรู้สึกทำอะไรไม่ถูกอยากจะง้อเขา อยากจะขอคืนดี
จึงได้ Call Line ไป ปรากฏว่า "มันขึ้นว่าติดการสนทนากับคนอื่นอยู่"
ผม Triggerd ทันทีที่เห็นประโยคนั้น มันเจ็บแปล๊บไปถึงข้างใน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอกับตัวเองในวันนี้
ช่วงนึงที่ผมไปหาเขา ผมก็แอบชำเลืองเห็นเขาส่งสติกเกอร์หัวใจให้ใครใน Line นะ แต่พอผมขอดู ก็ไม่มีแล้ว (ลบไปแล้ว)
ผมเลยพยายามไม่คิดมาก แต่ในวันนี้มันกลับเป็นอย่างที่ผมคิดไว้
วันที่ เสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2017
ผมติดต่อเขาไม่ได้ตั้งแต่เช้า จนถึงเที่ยงกว่า ๆ เขาอ้างว่าเขาโกรธผมอยู่ ยังไม่อยากคุย
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมมารู้เรื่องนี้เข้าในวันที่ 31 ธันวาคม 2017
ภายหลังผมขอคืนดีและง้อกลับมาคบกันได้สำเร็จ ผมดีใจมากเลยครับ
รุ่นน้องที่เขาแอบคบหากัน ส่งข้อความผ่านทางไลน์ มาสวัสดีปีใหม่ คิดถึงนะ (ตอนเที่ยงคืน)
ผมถามเขาที่อยู่ด้วยกันว่าใคร เขาก็บอกปัด ๆ ว่ารุ่นน้องฝึกงานที่ทำงาน่ะ ไม่มีไรหรอก แล้วขอตัวนอน
ผมกลับนอนไม่หลับ ลองสืบค้นหาดู ปรากฏว่า รูปภาพใน Album ของเขานั้นมีวันที่เขาได้อยู่ด้วยกัน
เป็นรูปที่น้องคนนั้นมาหาเขาถึงที่บ้าน บนเตียง และมีความสันพันธ์กันในเชิง ชาย - ชาย
ผมหน้าชา ใจสั่นทำอะไรไม่ถูก แฟนผมที่เขาหลับไปแล้ว ผมไม่อาจจะปลุกเขามาเค้นความจริงได้ เพราะเกรงใจเขา
ผมจึงทักส่วนตัวกลับไปหาน้องคนนั้น และเราได้คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
สรุปแล้ว น้องคนนั้นไม่ใช่รุ่นน้องฝึกงาน แต่เป็นคนที่รู้จักผ่านแอพผึ้งส้ม "Hornet" นั่นเอง
น้องเล่าว่า เรารู้จักกันผ่านทางนั้น คุยกันและพยายามจะคบหาดูใจกัน น้องส่งประวัติสนทนา กับรูปต่าง ๆ
มีทั้ง Video call , แชทหยอดเชิง 18+ (ซึ่งคนที่พูดเป็นฝ่าย แฟนของผมเอง)
มันทำให้ความเชื่อใจในตัวเขาพังทลายไปจนหมด ผมโทรคุยกับน้องเขา น้องเขาก็เล่าความจริงทั้งหมดให้กับผม
ในเช้าวันที่ 23 ธันวาคมนั้น น้องเขามาหาถึงบ้านจริงและทำอะไรกันแบบคนรัก
ฝ่ายแฟนผมเป็นฝ่ายเริ่มถอดก่อนด้วยนะ (น้องเล่า) จนเกือบจะสอดใส่กัน แบบไม่ใส่ถุงยาง
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถึงขั้นนั้น แค่ภายนอกและ Oral กันไปตามกามอารมณ์
วันต่อมาผมได้ถามความจริงกับแฟนของผม แฟนผมยังคงโกหกและปฏิเสธ จนกระทั่งผมบอกเขาว่า
ผมได้คุยกับน้องเขา และรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว แฟนผมจึงโกรธผมมาก และจะไล่ผมกลับไป
ไม่ว่าเขาจะทุบตี พูดเสียงดัง ผลักผมกระเด็นไปไกลแค่ไหนผมก็ไม่เคยตอบโต้เขาเลย
เพียงแค่ผมยืนขวางประตูไม่ให้เขาเดินออกไป จนสุดท้ายเขาจึงยอมนั่งลงร้องไห้
ผมเข้าไปโอบกอดเขาทันที ผมพร้อมจะให้อภัยเสมอ ผมรู้ว่าบางทีมันเป็นสิ่งที่ทำไปโดยไม่คิด
ผมรักเขามาก ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอย่างนั้นก็ตาม ผมยินดีที่จะคบกับเขาต่อไป
จนสุดท้ายเราจึงได้คบกันต่อเข้าปีที่ 2 ครับ (มกราคม 2018)
ช่วงนี้ผมก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้น มีวันหยุดประจำและเริ่มไปหาเขาได้สะดวกขึ้น
ทว่า แฟนของผมเขาเครียดจากการทำงานที่เก่า ผมจึงแนะนำให้เขาลาออกมาและหางานใหม่
ในช่วงนั้นผมไปหาเขาบ่อยมาก ๆ เพราะเป็นห่วง แฟนของผมตั้งใจที่จะสอบโทอิคเพื่อหางานใหม่ดี ๆ
ผมจึงคอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนมาตลอด เวลาที่เครียดจากที่บ้าน โดนกดดันต่าง ๆ ผมพร้อมจะเคียงข้างเขาเสมอ
แฟนผมตั้งใจมาก ๆ ด้วยความที่เป็นคนพยายาม ผมเห็นว่าเขาทำได้แน่ ๆ ติวมาประมาณเกือบ 3 4 เดือน
จนในที่สุด ผมก็ได้งานใหม่ที่ใหม่ ที่มีวันหยุดประจำ เสาร์อาทิตย์ เลิกงานเวลาปกติ Office Time
ผมพยายามมาตลอดเพื่อที่ผมจะได้มีเวลาให้กับเขามากที่สุด ตรงกันมากที่สุด วันนี้ผมทำได้แล้วนะ
ผ่านเลยมาจนถึงช่วงเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงวันเกิดผมพอดี
แฟนของผมตัดสินใจที่จะขึ้นมาสอบ Toeic ที่กรุงเทพ และอยู่กับผมที่คอนโดในกรุงเทพ
ผมคอยสนับสนุน แนะนำการเดินทาง พาไปส่งยังที่สอบ ตลอดจนรอรับกลับบ้านหลังผมเลิกงาน
ช่วงเวลานั้นทำให้ผมรู้สึกได้ดูแลเขามากขึ้นอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้ตลอดการเตรียมสอบ
ในที่สุดฝันของแฟนผมก็เป็นจริง เขาสอบโทอิคได้ 750 ในครั้งแรกโดยที่ติวด้วยตัวเอง
ผมรู้สึกยินดีที่เขาประสบความสำเร็จมาก เราพากันไปกินเลี้ยงฉลองกันที่ดี ๆ ก่อนที่เราจะเดินทางกลับบ้านสัตหีบด้วยกัน
เขาไม่รอช้ารีบส่งใบสมัครงานไปยัง อุตสาหกรรม นิคมต่าง ๆ ละแวกใกล้เคียงในทันที
ไม่นานนักก็มีบริษัทหลายที่ให้ความสนใจเข้ามามากมายต่อเนื่อง ผมรู้สึกดีใจมากจริง ๆ
และแล้วเขาก็ได้งานทีใหม่ ที่ฐานเงินเดือนสูง สวัสดี มั่นคง และมีชื่อเสียงมากในตำแหน่งQA
ผมโคตรดีใจ และภูมิใจในตัวเขามาก ๆ ที่เขาประสบความสำเร็จขนาดนี้ ชีวิตของเขาหลัง 25 กำลังจะผ่านพ้นไปด้วยดี
ชีวิตของเรากำลังจะดีขึ้น ทั้งผมมีงานที่มั่นคง ไปกลับเสารอาทิตย์ตลอด แฟนของผมมีงานที่ดี มีรถรถส่งถึงบ้านไม่เหนื่อยแล้ว
เข้าสู่เดือน สิงหาคม 2018
Samsung Galaxy Note 9 กำลังมาแรง แฟนของผมเขาอยากได้มาก ๆ
แต่ทว่ามันจะต้องสั่งผ่าน Shoppee เท่านั้น ซึ่งตัวแฟนของผมเขาไม่ชอบสั่งของผ่านเน็ต
จึงได้ให้ผมเป็นธุระให้ จนกระทั่งสั่งของเสร็จ ผมก็บอกให้เขาตั้งตารอได้เลย
ผมเจอเขาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 12 สิงหาคม และในเสาร์หน้า แฟนของผมเขาจะติดงานวันเสาร์
เขาบอกผมว่า ไม่ต้องมาก็ได้ พักช่วงไปก่อน แต่วันที่ 25 26 ผมก็มีทริปบริษัท ไปหาเขาไม่ได้
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผมไม่ได้ไปหาเขา ผมคิดถึงเขามาก และอยากไปหาเขาจะตาย (แม้ว่า ทริปที่ผมไปจะอยู่แค่พัทยา)
แต่เขาก็อยากให้เรากลับกรุงเทพไปก่อนค่อยมาหาใหม่ วันเสาร์หน้า (ดีใจจัง เป็นห่วงเราด้วย)
กันยายน 2018
ในที่สุดก็มาถึงวันเสาร์ที่ 1 ผมรีบไปหาเขา แต่เขาติดทำงานที่บริษัท และSamsung Note9 ก็มาส่งพอดี
เขาจึงนัดเจอผมที่ พัทยาเพื่อไปติดฟิล์มกันรอยกับเขา ผมจึงซักผ้าให้เขาเสร็จก็ออกไปหาเขาตามที่นัดกันไว้หลังเขาเลิกงาน
ระหว่างนั้น เขากล่าวว่า แบตโทรศัพท์เก่าเขาหมด ซึ่งปกติไม่น่าเป็นไปได้ เขาไม่ค่อยได้เล่นโทรศัพท์ที่ทำงานอยู่แล้ว
มันไม่มีทางที่จะหมดได้เลย ซึ่งมันไม่เคยหมด แปลกจริง ๆ แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร เดี๋ยวเขาก็เปลี่ยนไปใช้เครื่องใหม่แล้ว
ในที่สุดเขาก็ได้ใช้โทรศัพท์ใหม่ เรากลับบ้านไปพักผ่อนกันหลังทานอะไรกันที่พัทยาแล้ว
ช่วงนั้นผมไม่ได้เอะใจที่จะขอดู Line เขาเลย เพราะผมไว้ใจเขามากขึ้นแล้วจริง ๆ
ผมได้คิด่า มันถึงจุดที่อิ่มแล้วล่ะมั้ง สำหรับรักชายชาย ไม่ได้ตื่นเต้น ไม่ได้หวานหยดย้อยแบบทีแรก ๆ
แต่ว่า ถ้าหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เปลี่ยนคำว่าเดิม ๆ ให้กลายเป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันของสองเราได้
ผมก็คงจะได้มีคู่ชีวิตจริง ๆ เสียที กับเขาคนนี้ คนที่ผมรักมาตลอด ไม่เคยลดลงเลย...
วันอาทิตย์ที่ 2 น้ามาหาที่บ้าน แฟนของผมจึงขอกุญแจบ้านของน้าไปปั๊มไว้
เพราะเราเคยบ่นกันไว้นานแล้วว่า อยากจะไปค้างคืนที่ศรีราชา เที่ยวบางแสนกลางคืนกันบ้าง
ผมจึงไปปั๊มกุญแจบ้านน้ากับเขาไว้ และตั้งใจไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน..
หลังจากนั้น เรายังคุยกันดีอยู่ปกติมาก ปกติจริง ๆ...
ผมมีกลุ่มเพื่อนใน Discord วันพุธที่ 5 ผมติดฝนกลับคอนโดไม่ได้
เพื่อนผมบอกว่า แฟนผมยังเข้ามาคุย จะชวนอะไรเล่นด้วยกันปกติอยู่เลย ผมดีใจมากนะ
เพราะแฟนของผม ตั้งแต่จบมหาลัยมา เขาไม่มีเพื่อนเลย จะได้มีเพื่อนของผมนี่แหละเป็นเพื่อนสักที
ผมกลับมาถึงก็ดึกมากแล้ว พิมพ์ข้อความส่งเขาเข้านอน แต่เขาก็ไม่ตอบข้อความผม...
เดี๋ยวมาต่อครับ