-เห็นมีคนแชร์ร้านคาเฟ่โลงศพกันเยอะมาก เราเลยไปเยี่ยมชมมาละ มันเป็นคาเฟ่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากคาเฟ่อื่นๆมากอะสำหรับ Kid-Mai Death Cafe หรือ คิดใหม่ มรณานุสติคาเฟ่ ภายใต้ธีมคาเฟ่แห่งความตาย คือมันเป็นคาเฟ่ที่ไม่ได้ทำให้เรากลัวนะ แต่จะทำให้เราเข้าใจในความตายและใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทมากกว่า



📍พิกัดอารีย์ซอย1
การเดินทางที่สะดวกที่สุด : BTS ลงสถานีอารีย์ ทางออก1 เดินไปทางโชว์รูมเบนซ์ ร้านอยู่ข้างๆธนาคารตึกเอ็กซิม (ตึกที่สวยๆเด่นที่สุดในแถวนั้นเลย)
-ทางเข้าร้านให้สังเกตป้ายสีดำๆ ทางเข้าจะมืดๆหน่อยและมีป้ายเตือนใจทั้งไทยและอังกฤษไปตลอดทางเข้า ถ้าคนที่สังเกตดีๆทางเข้ามันเท่มากเลยนะ เวลาเดินผ่านหรือใกล้จะถึงตรงป้ายข้อความไฟมันจะติดขึ้นมา เราชอบมุมนี้มากๆอะ วันนั้นถ่ายรูปมาเยอะแยะเลย
-พอเดินเข้าไปถึงภายในร้าน อย่างแรกที่เจอคือคุณผีโครงกระดูกที่มานั่งต้อนรับอยู่หน้าร้านเลย บรรยากาศในร้านจะเน้นสีโทนมืดๆ ดาร์คๆหน่อย ก็เกร๋ไปอีกแบบนะ รู้สึกว่ามันแปลกดีอะ

-สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือโลงศพ ที่ร้านยกโลงศพมาตั้งไว้ที่ร้านเลย จัดบรรยากาศเหมือนงานศพน่าขนหัวลุกมากอะ แถมมีพวงหรีดมาตั้ง แล้วยังมีกรอบรูปชาตะ มรณะอีก เหมือนอยู่ในงานศพจริงๆอะ


-ไฮไลท์ของที่ร้านคือการให้ลูกค้าได้ร่วมกิจกรรมนอนโลงศพเป็นเวลา3นาที ซึ่งจะได้รับส่วนลด20฿ ในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มในร้าน จุดประสงค์เพื่ออยากให้เราใช้เวลานี้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆในอดีตที่เราได้ทำไปและอนาคตที่จะเกิดขึ้น หลังจากออกจากโลงก็มีให้เราเขียนความรู้สึกว่าแบบ ในเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ หลังจากนี้เราอยากทำอะไร





-เครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านหลักๆจะมี4อย่าง คือ Born,Elder,Painful,Death (เกิด แก่ เจ็บ ตาย) แต่ละเมนูจะมีความหมายของมัน แต่เราสั่งเมนู “Death” 85฿ เป็นโกโก้ปั่นเย็นท็อปวิปครีม ที่ฮิตที่สุดในร้านมา เมนูนี้คือความว่างเปล่าบ่งบอกถึงจุดสุดท้ายของชีวิตว่าสุดท้ายแล้วชีวิตจะมีเพียงงานศพ ร่างกายที่ทิ้งไว้ แล้วทุกอย่างจะกลับคืนสู่ธรรมชาติ คือเราอ่านความหมายแล้วก็ยืนนิ่งไปแปบนึงเลยอะ ร้านนี้เค้ายูนีคจริงๆอะ พูดถึงรสชาติก็โอเคนะอร่อยดี




-หรือใครอยากสั่งกาแฟธรรมดาก็มีนะเฉลี่ยอยู่ที่ 55-75 ฿ ถ้าเล่นกิจกรรมเล็กๆน้อยๆของร้านก็จะมีส่วนลดให้ อย่างเช่น ทดลองตายลด5บาท , เขียนพินัยกรรมลด 5 บาท งี้ อย่างเราสั่งคาปูชิโน่มา 65฿ รสชาติก็ปกติทั่วไป แต่ความเกร๋คือข้อความตรงแก้วเนี่ยแหละ “Nobody knows tomorrow or next life will come first”

-สำหรับเพื่อนๆที่อยากจะลองสัมผัสบรรยากาศชวนขนหัวลุกแบบนี้ก็ไปกันได้นะ แต่ถ้าเสาร์-อาทิตย์คนก็อาจจะเยอะหน่อยเพราะค่อนข้างได้รับความนิยมมากอะตอนนี้ ใครอยากได้รูปแบบ without people ก็แนะนำให้มาวันธรรมดานะ ได้รูปสวยๆกลับบ้านแน่นอน