สวัสดีครับ รู้สึกแปลกๆนิดหนึ่งเพราะเป็นครั้งแรกกับการรีวิวอะไรแบบนี้ในห้องเครื่องแป้ง ฮ่าๆ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยประสบปัญหาเรื่องสิวสักครั้งในชีวิตบ้างแหละ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม ผมเองก็มีปัญหาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็นสิวบนใบหน้าครับ มันดั๊นนนนนไปขึ้นที่หลังซะงั้น แล้วปัญหาก็คือมันคันยุบยิบๆแสบๆเจ็บๆตรงหลังทุกทีครับ
นับ 1-3 แล้วค่อยเลื่อนมาดูรูปก่อนรักษาสิวที่หลังของผมเลยครับ
v
v
v
น่าตลกตรงที่ตัวผมเนี่ยหน้าใสมากไม่มีสิวสักกะเม็ด แต่สิวดันไปโผล่ที่หลังพรึบพรั่บไปหมด แน่นอนว่าถึงมันจะไม่ได้ขึ้นบนหน้าแต่ก็ทำให้ใช้ชีวิตลำบากนะครับ หลายคนที่เป็นสิวที่หลังน่าจะเก็ตฟีลเหมือนกันว่ามันเป็นยังไง แถมไอ้สิวที่หลังยังทำให้รู้สึกอายไม่แพ้บนหน้าเลยด้วยนะครับ อย่างผมเนี่ยชอบเตะบอลมากๆ แทบทุกวันจะต้องไปนัดรวมตัวเล่นบอลกับเพื่อนๆอยู่บ่อยๆ แล้วมันจะมีกฏว่าทีมหนึ่งให้ถอดเสื้อ ส่วนอีกทีมให้ใส่เสื้อ แล้วแต่ว่าวันนั้นจะจับฉลากได้อยู่ทีมไหน แล้วผมก็ต้องมาคอยลุ้นอยู่ตลอดว่าขอให้จับได้ทีมใส่เสื้อทีเถอะ เพราะผมอายที่จะถอดเสื้อมากๆเนื่องจากสิวบนหลังเนี่ยแหละ ไม่อยากให้ใครเห็นเลยจริงๆ
ด้วยความเซ็งมากกับปัญหาเรื่องนี้จนรู้สึกว่ามันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว แฟนก็เลยแนะนำว่าให้ลองไปหาหมอดูไหม แต่ด้วยความงกของผมเองที่ไม่อยากเสียเงินแพงๆ เลยคิดว่าหาวิธีรักษาเองดีกว่า ไปเซิตหาข้อมูลมาก็เจอคำแนะนำและวิธีการเยอะแยะไปหมด ทั้งการใช้นั่น พอกโน่น ผสมนี่ ทาปาดแปะจุ่มสารพัดเหลือเกิน แต่ด้วยความเป็นคนขี้เกียจและขี้งก จะให้ตามทำทุกวิธีซื้อมันทุกอันก็คงจะไม่ไหว ผมเลยพยายามหาพวกของและวิธีที่ใช้ง่าย ราคาไม่แพง และไม่ลำบากจนเกินไป จนได้วิธีการที่ลงตัวและได้ผลดีมากสำหรับผม จนทุกวันนี้หลังผมก็ดีขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะหายเกลี้ยงแล้วครับ
ผมจึงตั้งกระทู้รีวิวพลีหลังตัวเองครั้งแรกในชีวิตเพื่อที่บอกต่อวิธีที่ผมใช้ในการรักษาสิวที่หลังให้กับทุกๆคนที่มีปัญหาแนวเดียวกันกับผมนะครับ เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้างก็ยังดี
ก่อนจะแก้ปัญหาเราก็มาดูสาเหตุหลักๆของสิวที่หลังกันก่อนครับ
1.การใส่เสื้อผ้า,เครื่องนอนไม่สะอาด เช่นใส่เสื้อซ้ำๆ(เช่นชุดนอน)
อ่านเจอข้อนี้แล้วผมตกใจมากเพราะผมเนี่ยเป็นพวกใส่ชุดนอนซ้ำตลอด เอาจริงใครไม่เคยใส่ชุดนอนซ้ำกันบ้างล่ะ พอเข้าใจมั้ยว่าชุดนอนมันก็ใส่แค่ตอนกลางคืนอ่ะครับ ผมเลยไม่ค่อยสนใจเท่าไร อารมณ์ว่ามีไรก็ใส่ๆเถอะ ใครจะคิดว่ามันจะทำให้เกิดสิวที่หลังได้เนี่ย
2.การสระผมแล้วปล่อยให้ฟองแชมพูไหลโดนหลังแล้วล้างไม่สะอาด ทำให้เกิดสารเคมีสะสมและเป็นสิว
ซึ่งนี่ก็เป็นอีกข้อที่ผมทำเป็นประจำ เพราะเวลาผมสระผมก็สระๆล้างๆไปให้เสร็จๆก็พอ ไม่ได้มาระมัดระวังเรื่องฟองแชมพูอะไรเลย ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าเวลาสระผมแล้วต้องห้ามให้แชมพูโดนหลังด้วยล่ะเนี่ย? ผมคนหนึ่งแหละที่พึ่งจะรู้ตอนนี้แหละ
3.เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีฤทธิ์แรงเกินไป เช่นสบู่ แชมพู หรือผงซักฟอก
อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นส่วนที่ช่วยให้หลังผมเป็นสิวด้วยหรือเปล่า เพราะคนที่คอยซื้อของพวกนี้เข้าบ้านเป็นหน้าที่ของแฟนผมอย่างเดียวเลย
4.กินของมันๆทอดๆบ่อยๆ ส่งผลให้สภาพผิวเกิดความมันแล้วอุดตัน จึงทำให้เกิดสิวได้
โห้ ไอ้ของมันๆทอดๆนี่ตัวโปรดผมเลยนะ ต้องมีติดโต๊ะตลอดเวลาไปกินเบียร์กับเพื่อน ทั้งมันฝรั่งทอด ไส้กรอกลูกชิ้นทอด เฟรนฟรายต่างๆ จะต้องงดจริงๆเหรอเนี่ย เวรกรรมแท้ๆ
5.ความเปียกชื้นจากเหงื่อ หรือการเช็ดตัวที่ไม่สะอาด ก่อให้เกิดแบคทีเรียสะสมกลายเป็นสิว
ก็ตามนั้นเลยครับ ผมมันก็พวกบ้าเตะบอลอยู่แล้ว เล่นจนเหงื่อซ่กทุกวัน ไม่นึกเลยว่าการออกกำลังกายของตัวเองจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นสิวที่หลังได้ซะงั้น
ทั้งหมดทำให้ผมได้ค้นพบว่าหลายๆสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังมันช่างตรงกับชีวิตผมเสียเหลือเกิน เท่านั้นแหละครับตาสว่างเลย สรุปก็คือที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตแบบไม่ได้สนใจร่างกายตัวเองเท่าที่ควร ไม่รักษาความสะอาดร่างกายให้ดีจนทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้นมาจนได้ ซึ่งถ้าหากว่ายังใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปยังไงสิวก็คงไม่หายแน่ๆ ฉะนั้นแล้วสิ่งที่ผมทำเลยก็คือการเปลี่ยนแปลงตัวเองขนานใหญ่ครับ!!! ตั้งแต่วิถีชีวิตแบบเดิมๆรวมไปถึงการหาวิธิการรักษาสิวที่หลังตัวเองด้วย ฉะนั้นวันนี้ผมเลยจะมานำเสนอทั้งวิธีการและผลิตภัณฑ์ที่ผมได้ใช้ในการรักษาสิวที่หลังของตัวเองครับ ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1.ใช้สบู่รักษาสิว
เมื่อก่อนผมเคยใช้สบู่เหลวในการอาบน้ำ จนกระทั่งพบว่าการใช้สบู่เหลวเนี่ยอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวที่หลังด้วยเหมือนกัน ผมก็เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนการใช้สบู่เป็นการด่วน จากการเซิตในเน็ตทำให้ผมรู้ว่ามันมีสบู่ที่สามารถใช้รักษาสิวได้ด้วย ซึ่งมันก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกสรรเหลือเกิน แต่ที่คนพูดถึงเยอะที่สุดคือสบู่มาดามเฮงนี่แหละ ซึ่งราคาก็ไม่แพงด้วย(ที่ผมซื้อมา40บาทเอง) ผมก็เลยเลือกซื้อสบู่ตัวนี้มาใช้ครับ
พูดถึงตัวแพกเกตก่อน คือโบราณม๊าากกกกกกกก ดูก็รู้แล้วว่าอยู่มานานจริงๆ เห็นแล้วรู้เลยว่าขลังแน่ครับ สาธุเลย ณ จุดนี้ ส่วนคุณสมบัติก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะสามารถรักษาสิวได้ทุกชนิด ใช้ทั้งล้างหน้าและล้างตัวก็ได้ แต่ผมใช้ล้างตัวอย่างเดียวพอแล้วครับ
ทางตัวเนื้อสบู่ก็เป็นสีส้มอ่อนกลมๆครับ มีกลิ่นสมุนไพรหอมเย็นๆอ่อนๆโบราณๆสมกับแพกแกตดี ที่ชอบเป็นพิเศษคือเวลาโดนน้ำแล้วฟองเยอะมากๆ เวลาอาบน้ำทีรู้สึกสะอาดแบบสะใจอย่างบอกไม่ถูก แถมถูง่ายมากลื่นปรื้ดๆไม่ติดขัด ความรู้สึกแรกที่สบู่ตัวนี้ได้สัมผัสกับผิวบนแผ่นหลังของผมคือแสบเลยครับ แต่เป็นความแสบที่พอทนได้ ใช้ทีก็รู้สึกซี๊ดๆอยู่เล็กๆ แต่ใช้ไปนานๆก็ชินแล้วครับ
ความรู้สึกหลังใช้: ใช้แล้วตัวแห้งมากครับ แล้วมันก็ทำให้สิวแห้งไปด้วย สิวเลยยุบลงไปอยู่พอสมควร ยังคงมีสิวอยู่บ้างไม่มีสิวเพิ่มขึ้นอีก แต่เรื่องรอยสิวรอยดำไม่ค่อยช่วยเท่าไรนัก ส่วนตัวชอบกับผลที่ได้นะครับ แต่ไม่ชอบตรงที่มันทำให้ผิวแห้งเกินไปหน่อย&สบู่ละลายโคตรเร็ว ใช้แปปเดียวก็หมดแล้ว ผมว่าสบู่ตัวนี้ใช้ถูตัวดีครับ แต่ผมว่าไม่เหมาะกับล้างหน้าเท่าไร
2.ทาบำรุงหลังด้วยเจลว่านหางจระเข้
หลังจากทำความสะอาดก็ต้องบำรุงกันหน่อยเพื่อผลลัพธ์สูงสุด(ฮ่า) เนื่องจากการใช้สบู่มาดามเฮงเนี่ยทำให้ตัวแห้งมากๆๆ ผมจึงอยากได้อะไรที่รักษาสิวได้แล้วยังช่วยให้ตัวมันชุ่มชื้นไม่แห้งสักหน่อย แล้วก็ได้มาเจอกับเจลว่านหางจระเข้กระปุกนี้แหละครับที่ตอบโจทย์กับสิ่งที่ผมต้องการพอดี
เป็นอีกตัวที่ผมได้เอาของแฟนมาใช้(อีกแล้ว 555) มันคือเจลว่านหางจระเข้กระปุกเขียวของ nature republic นั่นเอง หลายคนคงจะรู้จักยี่ห้อนี้ดีอยู่แล้วเพราะดังมากไปที่ไหนก็มีแต่คนพูดถึง 5555 ที่ผมเลือกใช้เจลว่านหางจระเข้มาทาสิวที่หลังเพราะอ่านเจอมาว่ามันมีคุณสมบัติลดการอักเสบของสิว ลดจุดด่างดำได้ แล้วยังทำให้สิวยุบด้วย แล้วตัวเจลเนี่ยมันช่วยเรื่องผิวชุ่มชื้นด้วย ดีขนาดนี้ไม่ใช้ก็คงไม่ได้แล้วครับ
ขออภัยที่มีเหลือน้อย พอดีผมกับแฟนใช้เยอะไปหน่อย 555
ตัวเจลว่านหางจระเข้เป็นเนื้อเจลใสแจ๋วไม่ข้น ในเจลมีเนื้อว่านหางจระเข้อยู่มากถึง92% กลิ่นไม่เหม็นเขียวเลยครับ เป็นเจลแบบกลิ่มหอมนิดๆ ทาแล้วเย็นๆดีครับ ซึมง่ายมากไม่เหนียวเหนอะหนะ
ความรู้สึกหลังใช้: เจลตัวนี้ใช้แล้วผิวชุ่มชื่นมากๆ แต่ซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะเลยครับ เหมาะกับการใช้ทาหลังจากใช้สบู่มาดามเฮงมาก นอกจากนี้ช่วยลดสิวอักเสบลงได้จริง พวกรอยแดงรอยดำจากสิวอะไรต่างๆที่เคยมีบนหลังก็เลือนๆลงไปพอสมควร เป็นตัวที่ช่วยทั้งบำรุงและรักษาไปด้วยในตัว ทาแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวบริเวณที่ทามันดีขึ้นเยอะ ใครที่เป็นสิวอักเสบแนะนำให้ลองทาตัวนี้ดูครับดีจริงๆ
3.ทาแป้งน้ำรักษาสิว
จากที่อ่านในเน็ตหลายๆเว็บบอกเหมือนกันว่าถ้าเป็นสิวที่หลังให้ใช้พวกยาแป้งน้ำทารักษาดู แต่ผมไม่ค่อยรู้จักแป้งน้ำเท่าไร ไม่รู้ว่าควรจะซื้อยี่ห้อไหนดี จนกระทั่งไปเจอแป้งน้ำรักษาสิวตัวนี้ที่วัตสันเข้าพอดี ก็คือแป้งน้ำ ziiit p-lotion นี่แหละ
เหตุผลที่ซื้อไม่ใช่แค่เพราะแค่มันรักษาสิวได้หรอก แต่เพราะตอนนั้นมันมีโปรซื้อ1แถม1ครับ 55555555 (ความงกเข้าเส้นจริงๆ) ราคาก็ไม่ได้แพงมากเท่าไรแค่115บาทเอง ประกอบกับเห็นรีวิวหลายคนบอกว่าใช้ดีจริงๆ เป็นแป้งน้ำที่ช่วยรักษาสิวบนหลัง ก็เลยขอลองซักหน่อยแล้วกัน ยังไงก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว
เท่าที่อ่านดูแล้วก็พบว่าแป้งน้ำตัวนี้ช่วยเรื่องสิวผดสิวผื่นทั้งหน้าและหลัง ด้วยการทำให้สิวค่อยๆแห้งแล้วหลุดออก ลดรอยสิว ลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว ช่วยควบคุมความมันปรับสมดุลผิวด้วย แล้วยังอ่อนโยนต่อผิวอีก ก็ถือว่าค่อนข้างมีคุณสมบัติครบเลยทีเดียว
พูดถึงตัวเนื้อก็เป็นแป้งน้ำเหลวๆสีขาวขุ่นปกตินี่แหละครับ กลิ่นก็หอมๆให้ฟีลเหมือนแป้งเย็นหรือน้ำอบที่คุณป้าคุณยายชอบใช้กัน (ก็คือหอมแหละครับแค่รู้สึกว่ากลิ่นแรงไปนิดหนึ่ง 5555)
วิธีใช้ก็ง่ายๆแหละครับ เขย่าขวดแรงๆ(ด้วยอินเนอร์ส่วนตัว 5555) เทใส่มือแล้วทาให้ทั่วๆตรงบริเวณที่เป็นสิว(ไม่ได้ให้แต้มนะแต่ทาปะๆไปทั่วๆเลย) วันละ2ครั้งทั้งเช้าและเย็น ความรู้สึกหลังทาก็รู้สึกเย็นๆเล็กน้อยสบายดีครับ แล้วแป้งน้ำตัวนี้ก็แห้งเร็วมากๆ ทาแค่แปบเดียวก็แห้งสนิทแล้ว ไม่เหนอะหนะ เสร็จแล้วก็ใส่เสื้อผ้าได้เลยตามปกติ ไม่ทิ้งคราบบนเสื้อให้ปวดหัวต้องมาซักอีก
ความรู้สึกหลังใช้: หลังจากที่ใช้มาสักพักสิวที่เคยมีค่อยๆแห้งและหลุดออกไปเลยครับ ไม่มีอาการแสบหรือระคายเคืองหรือแพ้อะไรเลย รู้สึกโล่งๆสบายหลังไม่มีอาการแสบคันมากวนใจเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ส่วนตัวผมชอบตัวนี้มากเป็นพิเศษ รู้สึกว่ามันตอบโจทย์ที่เราต้องการที่สุดแล้ว ใช้แล้วสิวหายจริงไม่คันแล้วด้วย
4.ใช้เกลือขัดผิวหลัง
หลังจากที่ใช้หลายๆตัวจากข้างบนมาสักพัก สิวที่มีบนหลังก็หายไปเยอะแล้วครับ มันก็ค่อยๆแห้งแล้วตกสะเก็ดไป แต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยสิวรอยแผลรอยดำอยู่บ้าง ถ้าอยากให้ผิวเรากลับมาเนียนเป็นปกติก็ต้องหันมาพึ่งการขัดผิวเลยครับ แต่ต้องบอกก่อนว่าการขัดผิวเนี่ย ต้องขัดตอนที่หลังไม่ค่อยมีสิวแล้วนะครับ แล้วต้องถูเบาๆด้วยนะครับ อย่าไปขยี้เยอะมาก มันจะทำให้ผิวบางและระคายเคืองง่ายกว่าเดิม กลายเป็นสิวเพิ่มมากกว่าเดิมอีก
ตัวขัดผิวผมใช้ a bonne spa milk salt ครับ ที่ซื้อมาเพราะเห็นมันมีวางขายในเซเว่นพอดี ราคาก็ถูกมากๆ 38 บาทเอง เห็นแล้วความงกกำเริบครับมันอดไม่ได้จริงๆ ที่ขัดผิวตัวนี้เป็นเกลือสปาขัดกลิ่นน้ำนม ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพตามร่างกาย และก็ช่วยบำรุงผิวด้วย
[CR] แค่หลังพังไม่ถึงกับตาย! รวมสารพัดปฏิบัติการกู้แผ่นหลังพังจากสิว
v
v
น่าตลกตรงที่ตัวผมเนี่ยหน้าใสมากไม่มีสิวสักกะเม็ด แต่สิวดันไปโผล่ที่หลังพรึบพรั่บไปหมด แน่นอนว่าถึงมันจะไม่ได้ขึ้นบนหน้าแต่ก็ทำให้ใช้ชีวิตลำบากนะครับ หลายคนที่เป็นสิวที่หลังน่าจะเก็ตฟีลเหมือนกันว่ามันเป็นยังไง แถมไอ้สิวที่หลังยังทำให้รู้สึกอายไม่แพ้บนหน้าเลยด้วยนะครับ อย่างผมเนี่ยชอบเตะบอลมากๆ แทบทุกวันจะต้องไปนัดรวมตัวเล่นบอลกับเพื่อนๆอยู่บ่อยๆ แล้วมันจะมีกฏว่าทีมหนึ่งให้ถอดเสื้อ ส่วนอีกทีมให้ใส่เสื้อ แล้วแต่ว่าวันนั้นจะจับฉลากได้อยู่ทีมไหน แล้วผมก็ต้องมาคอยลุ้นอยู่ตลอดว่าขอให้จับได้ทีมใส่เสื้อทีเถอะ เพราะผมอายที่จะถอดเสื้อมากๆเนื่องจากสิวบนหลังเนี่ยแหละ ไม่อยากให้ใครเห็นเลยจริงๆ
ด้วยความเซ็งมากกับปัญหาเรื่องนี้จนรู้สึกว่ามันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว แฟนก็เลยแนะนำว่าให้ลองไปหาหมอดูไหม แต่ด้วยความงกของผมเองที่ไม่อยากเสียเงินแพงๆ เลยคิดว่าหาวิธีรักษาเองดีกว่า ไปเซิตหาข้อมูลมาก็เจอคำแนะนำและวิธีการเยอะแยะไปหมด ทั้งการใช้นั่น พอกโน่น ผสมนี่ ทาปาดแปะจุ่มสารพัดเหลือเกิน แต่ด้วยความเป็นคนขี้เกียจและขี้งก จะให้ตามทำทุกวิธีซื้อมันทุกอันก็คงจะไม่ไหว ผมเลยพยายามหาพวกของและวิธีที่ใช้ง่าย ราคาไม่แพง และไม่ลำบากจนเกินไป จนได้วิธีการที่ลงตัวและได้ผลดีมากสำหรับผม จนทุกวันนี้หลังผมก็ดีขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะหายเกลี้ยงแล้วครับ
ผมจึงตั้งกระทู้รีวิวพลีหลังตัวเองครั้งแรกในชีวิตเพื่อที่บอกต่อวิธีที่ผมใช้ในการรักษาสิวที่หลังให้กับทุกๆคนที่มีปัญหาแนวเดียวกันกับผมนะครับ เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้างก็ยังดี
ก่อนจะแก้ปัญหาเราก็มาดูสาเหตุหลักๆของสิวที่หลังกันก่อนครับ
1.การใส่เสื้อผ้า,เครื่องนอนไม่สะอาด เช่นใส่เสื้อซ้ำๆ(เช่นชุดนอน)
อ่านเจอข้อนี้แล้วผมตกใจมากเพราะผมเนี่ยเป็นพวกใส่ชุดนอนซ้ำตลอด เอาจริงใครไม่เคยใส่ชุดนอนซ้ำกันบ้างล่ะ พอเข้าใจมั้ยว่าชุดนอนมันก็ใส่แค่ตอนกลางคืนอ่ะครับ ผมเลยไม่ค่อยสนใจเท่าไร อารมณ์ว่ามีไรก็ใส่ๆเถอะ ใครจะคิดว่ามันจะทำให้เกิดสิวที่หลังได้เนี่ย
2.การสระผมแล้วปล่อยให้ฟองแชมพูไหลโดนหลังแล้วล้างไม่สะอาด ทำให้เกิดสารเคมีสะสมและเป็นสิว
ซึ่งนี่ก็เป็นอีกข้อที่ผมทำเป็นประจำ เพราะเวลาผมสระผมก็สระๆล้างๆไปให้เสร็จๆก็พอ ไม่ได้มาระมัดระวังเรื่องฟองแชมพูอะไรเลย ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าเวลาสระผมแล้วต้องห้ามให้แชมพูโดนหลังด้วยล่ะเนี่ย? ผมคนหนึ่งแหละที่พึ่งจะรู้ตอนนี้แหละ
3.เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีฤทธิ์แรงเกินไป เช่นสบู่ แชมพู หรือผงซักฟอก
อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นส่วนที่ช่วยให้หลังผมเป็นสิวด้วยหรือเปล่า เพราะคนที่คอยซื้อของพวกนี้เข้าบ้านเป็นหน้าที่ของแฟนผมอย่างเดียวเลย
4.กินของมันๆทอดๆบ่อยๆ ส่งผลให้สภาพผิวเกิดความมันแล้วอุดตัน จึงทำให้เกิดสิวได้
โห้ ไอ้ของมันๆทอดๆนี่ตัวโปรดผมเลยนะ ต้องมีติดโต๊ะตลอดเวลาไปกินเบียร์กับเพื่อน ทั้งมันฝรั่งทอด ไส้กรอกลูกชิ้นทอด เฟรนฟรายต่างๆ จะต้องงดจริงๆเหรอเนี่ย เวรกรรมแท้ๆ
5.ความเปียกชื้นจากเหงื่อ หรือการเช็ดตัวที่ไม่สะอาด ก่อให้เกิดแบคทีเรียสะสมกลายเป็นสิว
ก็ตามนั้นเลยครับ ผมมันก็พวกบ้าเตะบอลอยู่แล้ว เล่นจนเหงื่อซ่กทุกวัน ไม่นึกเลยว่าการออกกำลังกายของตัวเองจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นสิวที่หลังได้ซะงั้น
ทั้งหมดทำให้ผมได้ค้นพบว่าหลายๆสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังมันช่างตรงกับชีวิตผมเสียเหลือเกิน เท่านั้นแหละครับตาสว่างเลย สรุปก็คือที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตแบบไม่ได้สนใจร่างกายตัวเองเท่าที่ควร ไม่รักษาความสะอาดร่างกายให้ดีจนทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้นมาจนได้ ซึ่งถ้าหากว่ายังใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปยังไงสิวก็คงไม่หายแน่ๆ ฉะนั้นแล้วสิ่งที่ผมทำเลยก็คือการเปลี่ยนแปลงตัวเองขนานใหญ่ครับ!!! ตั้งแต่วิถีชีวิตแบบเดิมๆรวมไปถึงการหาวิธิการรักษาสิวที่หลังตัวเองด้วย ฉะนั้นวันนี้ผมเลยจะมานำเสนอทั้งวิธีการและผลิตภัณฑ์ที่ผมได้ใช้ในการรักษาสิวที่หลังของตัวเองครับ ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1.ใช้สบู่รักษาสิว
เมื่อก่อนผมเคยใช้สบู่เหลวในการอาบน้ำ จนกระทั่งพบว่าการใช้สบู่เหลวเนี่ยอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวที่หลังด้วยเหมือนกัน ผมก็เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนการใช้สบู่เป็นการด่วน จากการเซิตในเน็ตทำให้ผมรู้ว่ามันมีสบู่ที่สามารถใช้รักษาสิวได้ด้วย ซึ่งมันก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกสรรเหลือเกิน แต่ที่คนพูดถึงเยอะที่สุดคือสบู่มาดามเฮงนี่แหละ ซึ่งราคาก็ไม่แพงด้วย(ที่ผมซื้อมา40บาทเอง) ผมก็เลยเลือกซื้อสบู่ตัวนี้มาใช้ครับ
พูดถึงตัวแพกเกตก่อน คือโบราณม๊าากกกกกกกก ดูก็รู้แล้วว่าอยู่มานานจริงๆ เห็นแล้วรู้เลยว่าขลังแน่ครับ สาธุเลย ณ จุดนี้ ส่วนคุณสมบัติก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะสามารถรักษาสิวได้ทุกชนิด ใช้ทั้งล้างหน้าและล้างตัวก็ได้ แต่ผมใช้ล้างตัวอย่างเดียวพอแล้วครับ
ทางตัวเนื้อสบู่ก็เป็นสีส้มอ่อนกลมๆครับ มีกลิ่นสมุนไพรหอมเย็นๆอ่อนๆโบราณๆสมกับแพกแกตดี ที่ชอบเป็นพิเศษคือเวลาโดนน้ำแล้วฟองเยอะมากๆ เวลาอาบน้ำทีรู้สึกสะอาดแบบสะใจอย่างบอกไม่ถูก แถมถูง่ายมากลื่นปรื้ดๆไม่ติดขัด ความรู้สึกแรกที่สบู่ตัวนี้ได้สัมผัสกับผิวบนแผ่นหลังของผมคือแสบเลยครับ แต่เป็นความแสบที่พอทนได้ ใช้ทีก็รู้สึกซี๊ดๆอยู่เล็กๆ แต่ใช้ไปนานๆก็ชินแล้วครับ
ความรู้สึกหลังใช้: ใช้แล้วตัวแห้งมากครับ แล้วมันก็ทำให้สิวแห้งไปด้วย สิวเลยยุบลงไปอยู่พอสมควร ยังคงมีสิวอยู่บ้างไม่มีสิวเพิ่มขึ้นอีก แต่เรื่องรอยสิวรอยดำไม่ค่อยช่วยเท่าไรนัก ส่วนตัวชอบกับผลที่ได้นะครับ แต่ไม่ชอบตรงที่มันทำให้ผิวแห้งเกินไปหน่อย&สบู่ละลายโคตรเร็ว ใช้แปปเดียวก็หมดแล้ว ผมว่าสบู่ตัวนี้ใช้ถูตัวดีครับ แต่ผมว่าไม่เหมาะกับล้างหน้าเท่าไร
2.ทาบำรุงหลังด้วยเจลว่านหางจระเข้
หลังจากทำความสะอาดก็ต้องบำรุงกันหน่อยเพื่อผลลัพธ์สูงสุด(ฮ่า) เนื่องจากการใช้สบู่มาดามเฮงเนี่ยทำให้ตัวแห้งมากๆๆ ผมจึงอยากได้อะไรที่รักษาสิวได้แล้วยังช่วยให้ตัวมันชุ่มชื้นไม่แห้งสักหน่อย แล้วก็ได้มาเจอกับเจลว่านหางจระเข้กระปุกนี้แหละครับที่ตอบโจทย์กับสิ่งที่ผมต้องการพอดี
เป็นอีกตัวที่ผมได้เอาของแฟนมาใช้(อีกแล้ว 555) มันคือเจลว่านหางจระเข้กระปุกเขียวของ nature republic นั่นเอง หลายคนคงจะรู้จักยี่ห้อนี้ดีอยู่แล้วเพราะดังมากไปที่ไหนก็มีแต่คนพูดถึง 5555 ที่ผมเลือกใช้เจลว่านหางจระเข้มาทาสิวที่หลังเพราะอ่านเจอมาว่ามันมีคุณสมบัติลดการอักเสบของสิว ลดจุดด่างดำได้ แล้วยังทำให้สิวยุบด้วย แล้วตัวเจลเนี่ยมันช่วยเรื่องผิวชุ่มชื้นด้วย ดีขนาดนี้ไม่ใช้ก็คงไม่ได้แล้วครับ
ตัวเจลว่านหางจระเข้เป็นเนื้อเจลใสแจ๋วไม่ข้น ในเจลมีเนื้อว่านหางจระเข้อยู่มากถึง92% กลิ่นไม่เหม็นเขียวเลยครับ เป็นเจลแบบกลิ่มหอมนิดๆ ทาแล้วเย็นๆดีครับ ซึมง่ายมากไม่เหนียวเหนอะหนะ
ความรู้สึกหลังใช้: เจลตัวนี้ใช้แล้วผิวชุ่มชื่นมากๆ แต่ซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะเลยครับ เหมาะกับการใช้ทาหลังจากใช้สบู่มาดามเฮงมาก นอกจากนี้ช่วยลดสิวอักเสบลงได้จริง พวกรอยแดงรอยดำจากสิวอะไรต่างๆที่เคยมีบนหลังก็เลือนๆลงไปพอสมควร เป็นตัวที่ช่วยทั้งบำรุงและรักษาไปด้วยในตัว ทาแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวบริเวณที่ทามันดีขึ้นเยอะ ใครที่เป็นสิวอักเสบแนะนำให้ลองทาตัวนี้ดูครับดีจริงๆ
3.ทาแป้งน้ำรักษาสิว
จากที่อ่านในเน็ตหลายๆเว็บบอกเหมือนกันว่าถ้าเป็นสิวที่หลังให้ใช้พวกยาแป้งน้ำทารักษาดู แต่ผมไม่ค่อยรู้จักแป้งน้ำเท่าไร ไม่รู้ว่าควรจะซื้อยี่ห้อไหนดี จนกระทั่งไปเจอแป้งน้ำรักษาสิวตัวนี้ที่วัตสันเข้าพอดี ก็คือแป้งน้ำ ziiit p-lotion นี่แหละ
เหตุผลที่ซื้อไม่ใช่แค่เพราะแค่มันรักษาสิวได้หรอก แต่เพราะตอนนั้นมันมีโปรซื้อ1แถม1ครับ 55555555 (ความงกเข้าเส้นจริงๆ) ราคาก็ไม่ได้แพงมากเท่าไรแค่115บาทเอง ประกอบกับเห็นรีวิวหลายคนบอกว่าใช้ดีจริงๆ เป็นแป้งน้ำที่ช่วยรักษาสิวบนหลัง ก็เลยขอลองซักหน่อยแล้วกัน ยังไงก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว
เท่าที่อ่านดูแล้วก็พบว่าแป้งน้ำตัวนี้ช่วยเรื่องสิวผดสิวผื่นทั้งหน้าและหลัง ด้วยการทำให้สิวค่อยๆแห้งแล้วหลุดออก ลดรอยสิว ลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว ช่วยควบคุมความมันปรับสมดุลผิวด้วย แล้วยังอ่อนโยนต่อผิวอีก ก็ถือว่าค่อนข้างมีคุณสมบัติครบเลยทีเดียว
พูดถึงตัวเนื้อก็เป็นแป้งน้ำเหลวๆสีขาวขุ่นปกตินี่แหละครับ กลิ่นก็หอมๆให้ฟีลเหมือนแป้งเย็นหรือน้ำอบที่คุณป้าคุณยายชอบใช้กัน (ก็คือหอมแหละครับแค่รู้สึกว่ากลิ่นแรงไปนิดหนึ่ง 5555)
วิธีใช้ก็ง่ายๆแหละครับ เขย่าขวดแรงๆ(ด้วยอินเนอร์ส่วนตัว 5555) เทใส่มือแล้วทาให้ทั่วๆตรงบริเวณที่เป็นสิว(ไม่ได้ให้แต้มนะแต่ทาปะๆไปทั่วๆเลย) วันละ2ครั้งทั้งเช้าและเย็น ความรู้สึกหลังทาก็รู้สึกเย็นๆเล็กน้อยสบายดีครับ แล้วแป้งน้ำตัวนี้ก็แห้งเร็วมากๆ ทาแค่แปบเดียวก็แห้งสนิทแล้ว ไม่เหนอะหนะ เสร็จแล้วก็ใส่เสื้อผ้าได้เลยตามปกติ ไม่ทิ้งคราบบนเสื้อให้ปวดหัวต้องมาซักอีก
ความรู้สึกหลังใช้: หลังจากที่ใช้มาสักพักสิวที่เคยมีค่อยๆแห้งและหลุดออกไปเลยครับ ไม่มีอาการแสบหรือระคายเคืองหรือแพ้อะไรเลย รู้สึกโล่งๆสบายหลังไม่มีอาการแสบคันมากวนใจเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ส่วนตัวผมชอบตัวนี้มากเป็นพิเศษ รู้สึกว่ามันตอบโจทย์ที่เราต้องการที่สุดแล้ว ใช้แล้วสิวหายจริงไม่คันแล้วด้วย
4.ใช้เกลือขัดผิวหลัง
หลังจากที่ใช้หลายๆตัวจากข้างบนมาสักพัก สิวที่มีบนหลังก็หายไปเยอะแล้วครับ มันก็ค่อยๆแห้งแล้วตกสะเก็ดไป แต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยสิวรอยแผลรอยดำอยู่บ้าง ถ้าอยากให้ผิวเรากลับมาเนียนเป็นปกติก็ต้องหันมาพึ่งการขัดผิวเลยครับ แต่ต้องบอกก่อนว่าการขัดผิวเนี่ย ต้องขัดตอนที่หลังไม่ค่อยมีสิวแล้วนะครับ แล้วต้องถูเบาๆด้วยนะครับ อย่าไปขยี้เยอะมาก มันจะทำให้ผิวบางและระคายเคืองง่ายกว่าเดิม กลายเป็นสิวเพิ่มมากกว่าเดิมอีก
ตัวขัดผิวผมใช้ a bonne spa milk salt ครับ ที่ซื้อมาเพราะเห็นมันมีวางขายในเซเว่นพอดี ราคาก็ถูกมากๆ 38 บาทเอง เห็นแล้วความงกกำเริบครับมันอดไม่ได้จริงๆ ที่ขัดผิวตัวนี้เป็นเกลือสปาขัดกลิ่นน้ำนม ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพตามร่างกาย และก็ช่วยบำรุงผิวด้วย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้