ช่วง 2-3 วันนี้มีเรื่องน่ายินดีสำหรับน้องมิวสิค ซึ่งแฟนคลับน้องเค้าก็หวีดกันพอสมควร เพราะบังเอิญว่าเหตุการณ์มันประจวบเหมาะพอดี
เรื่องแรก MV ของ Upcoming Girl "Hitonatsu no Dekigoto" ที่น้องมิวสิคร่วมแสดง MV นั้น มียอดวิวถึง 400K แล้ว
(อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงนี้ได้ที่ลิงค์นี้
https://ppantip.com/topic/37997301)
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งน้องมิวสิคและโกโต้ โมเอะ เซนเตอร์เพลงต่างก็ดีใจแสดงความเห็นในไอจีและทวิตเตอร์ดังนี้ครับ
(ข้อความพูดถึง MV และขอบคุณที่ติดตามรับชมกันถึง 4 แสนวิว)
ส่วนอีกเรื่อง คือ ยอดคนติดตามในอินสตาแกรมน้องตอนนี้ถึง 400K เช่นกัน
ซึ่งน้องมิวสิคก็ได้แสดงความขอบคุณมายังผู้ติดตามตามนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานน้องก็ได้อัพไอจีสตอรี่ไว้ตามภาพข้างล่าง ซึ่งผมจะกล่าวถึงในกระทู้นี้นะครับ
ซึ่งภาพนี้มีที่มาจากภาพเต็มๆ ของเหล่าคุณซุมิโกะ จากหนังสือเล่มนี้ครับ
(เรื่องราวของคุณซุมิโกะ อ่านกระทู้เก่าผมได้ที่ลิงค์นี้
https://ppantip.com/topic/37934269)
หนังสือเล่มนี้รวบรวมคำคมของคนดังหลายๆคนเอาไว้ ซึ่ง คำคมในภาพนั้น มาจาก Coco Chanel ครับ
Coco Chanel เป็นใครนั้น คนในแวดวงแฟชั่นจะรู้จักกันดี ลองมาติดตามประวัติกันสักหน่อย
Coco Chanel หรือชื่อเต็มคือ Gabrielle Bonheur Chanel ผู้ให้กำเนิดแบรนด์แฟชั่นแถวหน้าของโลก
หลังจากแม่ของเธอตายตั้งแต่เธออายุ 12 ปี พ่อของเธอที่เป็นพ่อค้าเร่ให้เธออยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า...และไม่เคยกลับมาอีกเลย
พออายุ 18 เธอได้เรียนการเย็บปักถักร้อยที่หอพักหญิงนิกายคาทอลิคที่เป็นคอนแวนต์ในเมืองมูแลง พร้อมกับร้องเพลงเพื่อหารายได้พิเศษ
ด้วยเพราะเพลงที่เธอชอบร้อง “Ko Ko Ri Ko” กับ “Qui qu’a vu Coco” ผู้คนจึงได้เรียกเธอว่า Coco Chanel
ตอนอายุ 23 ปี เธอได้เป็นภรรยาลับๆของอดีตทหารม้าทายาทเศรษฐีอุตสาหกรรมสิ่งทอ “Etienne Balsan”
ชาแนล เริ่มออกแบบหมวก และได้รับใบอนุญาตเป็นช่างทำหมวกและเปิดร้านของตัวเองครั้งแรกเมื่อ ปี 1910
ที่ถนน Cambon กรุงปารีส โดยใช้ชื่อร้านว่า “Chanel Modes”
ปรากฎว่าชื่อเสียงของชาแนลโด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อนักแสดงสาว กาเบรียล ดอร์เซียต สวมหมวกของชาแนลในภาพยนตร์เรื่อง Bel Ami เมื่อปี 1912 ตามมาด้วยเรื่อง Les Modes จากนักแสดงสาวคนเดิม
ในปี 1913 ชาแนล เปิด boutique ของตัวเองขึ้นแห่งแรกที่ Deauville โดยใช้ชื่อว่า CHANEL เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
ในสมัยนั้นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมของผู้หญิงคือชุดรัดเอวคลอเซ็ท และกระโปรงบานสุ่ม แต่การสวมใส่ชุดแบบนั้นค่อนข้างทรมานไม่น้อยเลยทีเดียว
ดังนั้นเธอจึงได้เปลี่ยนทัศนคติของผู้หญิงในยุคนั้น ดีไซน์เสื้อผ้าที่สวมใส่สบายดูเท่ เก๋ และมีสไตล์ และเน้นไปที่สีขาวดำเทา
จนในปี 1926 ชาแนลแนะนำผู้หญิงให้ได้รู้จักกับ “Little Black Dress” ที่ดีไซน์มาเพื่อเปลี่ยนผ่านยุคแฟชั่นของผู้หญิงไปตลอดกาล ซึ่งนิตยสาร Vogue อเมริกันยกย่องให้ Little Black Dress ของชาแนลด้วยประโยคที่ว่า “the CHANEL ‘Ford’ dress, the frock that all the world will wear.”
นอกจากเสื้อผ้าแฟชั่นแล้ว ชาแนลยังได้เปิดตัวน้ำหอม Chanel No.5 ในปี 1921 น้ำหอมของเธอได้รับความนิยมอย่างมากในแวดวงไฮโซและคนสูงศักดิ์ทั้งในปารีสและลอนดอน และเป็นหนึ่งในผลงานที่ทำให้แบรนด์ Chanel ติดหูและเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างไปทั่วทั้งยุโรปและอเมริกา
**No. 5 มีที่มาจากการที่หมอดูพยากรณ์บอกเธอว่า หมายเลข 5 คือเลขนำโชคของเธอ**
ชาแนลเป็นผู้ริเริ่มให้ผู้หญิงใส่กางเกงเป็นคนแรก และเธอก็คิดค้นสูทของผู้หญิงมีชื่อเรียกว่า ชาแนลสูท สัญลักษณ์ของชาแนลคือรูปดอกคามีเลีย สีขาว เพราะเป็นดอกไม้ที่ชาแนลชอบนำติดตัวไปในงานแสดงเสื้อของเธอโดยเธอมักจะนำมาทัดไว้ที่ผม
ในช่วงปี 1960 ถือเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของ Chanel เพราะผลงานของเธอไม่ได้จำกัดอยู่กับเหล่าเศรษฐินีเท่านั้น
แต่เหล่าดาราฮอลิวู้ดต่างก็ตกหลุมรักสไตล์สุดคลาสสิก ทั้ง Elizabeth Taylor, Jane Fonda เป็นต้น
ในช่วงชีวิตของ Coco Chanel เธอมีคำคม มุมมอง ทัศนคติ ทั้งกับแฟชั่น ชีวิตและการงานมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
Coco Chanel เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 10 มกราคม 1971 ในวัย 87 ปี แต่สไตล์ของความคลาสสิก ชื่อเสียงของเธอยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้
ส่วนคำคมที่ "ซุมิกโกะกับคำคมติดมุม" อ้างถึงนี้ ผมหาต้นทางไม่เจอครับ ถ้าได้ลองไปค้นหาคำคมของชาแนล จะเยอะมาก
ทีนี้ย้อนกลับถึงสิ่งที่น้องมิวสิคโพสต์เอาไว้นั้น หลายๆครั้งที่น้องจะบอกแฟนคลับในทำนองนี้ เช่น "ไม่อยากให้มีด้อม อยากให้เชียร์ทุกคน" "ไม่ต้องมีเพิ่มก็ได้ แต่ขอให้คนที่อยู่อย่าไปไหน"
พอมาคราวนี้ก็มีคนในกรุ๊ปไลน์บางที่บอกว่า น้องคงปลงแล้ว แต่ผมว่าเขาตีความหมายผิดไปมาก
สิ่งที่น้องอยากสื่อคือ เป็นห่วงและเกรงใจต่อแฟนคลับ ไม่อยากให้แฟนคลับต้องกดดันมาก
ซึ่งถ้าใครเคยไปจับมือน้อง จะรู้ว่าน้องเป็นห่วงแฟนคลับและกล่าวในทำนองนี้เสมอ
ถ้าถามจากใจผมเลยนะ คำว่าที่อยู่ของน้องก็คือช่องทางสื่อต่างๆที่น้องจะมีได้
ผมจึงได้มาทำกระทู้นานาสาระตรงนี้เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าที่พันทิพนี้ก็มีที่อยู่ของน้องเช่นกัน
และถึงจะมีคนที่ไม่โอชิน้องมาอ่าน ผมก็หวังว่าทุกคนจะได้สาระจากเรื่องราวต่างๆของน้องไปบ้าง
ผมดีใจที่พวกเราแฟนคลับน้องมิวสิคได้รวมตัวกันทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ ช่วยกันสร้างบันไดทีละขั้นส่งน้องไปถึงตำแหน่งใน World Senbatsu
ผมรู้สึกขอบคุณที่พวกเรายังทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ไปเชียร์น้องตามโรดโชว์ต่างๆ รวมถึงตั้งแถวรับ-ส่งเป็นระเบียบเวลาน้องเดินทางไปไหน
ขอบคุณที่ไม่นิ่งเฉย และคอยสนับสนุนน้องมิวสิคเสมอ
แม้บ้านเราจะไม่ใหญ่ เพราะไม่ได้รวมเป็นด้อมใหญ่ แต่บ้านแต่ละหลังของพวกเราก็อยู่รวมกันจนเป็นหมู่บ้านได้
ขอให้เราอยู่รวมกัน เพื่อร่วมกันสร้างที่อยู่ให้กับน้องมิวสิคกันนะครับ
ขอบคุณครับ
ข้อมูลอ้างอิง
1) หน้าทดลองอ่านของ Booktime ซุมิกโกะกับคำคมติดมุม
https://goo.gl/87GBqy
2) ประวัติ Coco Chanel
http://issue247.com/people/coco-chanel/
https://www.marketingoops.com/zfeature/chanel-facts/
https://www.jeab.com/style-beauty/style/chanel-timeline
3) ตัวอย่างคำคมสุดชิค ของ Coco chanel
https://www.jeab.com/life/trendy-life/coco-chanel-quotes
นานาสาระไปกับไอจีสตอรี่คุณแพรวา: COCO CHANEL
เรื่องแรก MV ของ Upcoming Girl "Hitonatsu no Dekigoto" ที่น้องมิวสิคร่วมแสดง MV นั้น มียอดวิวถึง 400K แล้ว
(อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงนี้ได้ที่ลิงค์นี้ https://ppantip.com/topic/37997301)
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งน้องมิวสิคและโกโต้ โมเอะ เซนเตอร์เพลงต่างก็ดีใจแสดงความเห็นในไอจีและทวิตเตอร์ดังนี้ครับ
(ข้อความพูดถึง MV และขอบคุณที่ติดตามรับชมกันถึง 4 แสนวิว)
ส่วนอีกเรื่อง คือ ยอดคนติดตามในอินสตาแกรมน้องตอนนี้ถึง 400K เช่นกัน
ซึ่งน้องมิวสิคก็ได้แสดงความขอบคุณมายังผู้ติดตามตามนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานน้องก็ได้อัพไอจีสตอรี่ไว้ตามภาพข้างล่าง ซึ่งผมจะกล่าวถึงในกระทู้นี้นะครับ
ซึ่งภาพนี้มีที่มาจากภาพเต็มๆ ของเหล่าคุณซุมิโกะ จากหนังสือเล่มนี้ครับ
(เรื่องราวของคุณซุมิโกะ อ่านกระทู้เก่าผมได้ที่ลิงค์นี้ https://ppantip.com/topic/37934269)
หนังสือเล่มนี้รวบรวมคำคมของคนดังหลายๆคนเอาไว้ ซึ่ง คำคมในภาพนั้น มาจาก Coco Chanel ครับ
Coco Chanel เป็นใครนั้น คนในแวดวงแฟชั่นจะรู้จักกันดี ลองมาติดตามประวัติกันสักหน่อย
Coco Chanel หรือชื่อเต็มคือ Gabrielle Bonheur Chanel ผู้ให้กำเนิดแบรนด์แฟชั่นแถวหน้าของโลก
หลังจากแม่ของเธอตายตั้งแต่เธออายุ 12 ปี พ่อของเธอที่เป็นพ่อค้าเร่ให้เธออยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า...และไม่เคยกลับมาอีกเลย
พออายุ 18 เธอได้เรียนการเย็บปักถักร้อยที่หอพักหญิงนิกายคาทอลิคที่เป็นคอนแวนต์ในเมืองมูแลง พร้อมกับร้องเพลงเพื่อหารายได้พิเศษ
ด้วยเพราะเพลงที่เธอชอบร้อง “Ko Ko Ri Ko” กับ “Qui qu’a vu Coco” ผู้คนจึงได้เรียกเธอว่า Coco Chanel
ตอนอายุ 23 ปี เธอได้เป็นภรรยาลับๆของอดีตทหารม้าทายาทเศรษฐีอุตสาหกรรมสิ่งทอ “Etienne Balsan”
ชาแนล เริ่มออกแบบหมวก และได้รับใบอนุญาตเป็นช่างทำหมวกและเปิดร้านของตัวเองครั้งแรกเมื่อ ปี 1910
ที่ถนน Cambon กรุงปารีส โดยใช้ชื่อร้านว่า “Chanel Modes”
ปรากฎว่าชื่อเสียงของชาแนลโด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อนักแสดงสาว กาเบรียล ดอร์เซียต สวมหมวกของชาแนลในภาพยนตร์เรื่อง Bel Ami เมื่อปี 1912 ตามมาด้วยเรื่อง Les Modes จากนักแสดงสาวคนเดิม
ในปี 1913 ชาแนล เปิด boutique ของตัวเองขึ้นแห่งแรกที่ Deauville โดยใช้ชื่อว่า CHANEL เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
ในสมัยนั้นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมของผู้หญิงคือชุดรัดเอวคลอเซ็ท และกระโปรงบานสุ่ม แต่การสวมใส่ชุดแบบนั้นค่อนข้างทรมานไม่น้อยเลยทีเดียว
ดังนั้นเธอจึงได้เปลี่ยนทัศนคติของผู้หญิงในยุคนั้น ดีไซน์เสื้อผ้าที่สวมใส่สบายดูเท่ เก๋ และมีสไตล์ และเน้นไปที่สีขาวดำเทา
จนในปี 1926 ชาแนลแนะนำผู้หญิงให้ได้รู้จักกับ “Little Black Dress” ที่ดีไซน์มาเพื่อเปลี่ยนผ่านยุคแฟชั่นของผู้หญิงไปตลอดกาล ซึ่งนิตยสาร Vogue อเมริกันยกย่องให้ Little Black Dress ของชาแนลด้วยประโยคที่ว่า “the CHANEL ‘Ford’ dress, the frock that all the world will wear.”
นอกจากเสื้อผ้าแฟชั่นแล้ว ชาแนลยังได้เปิดตัวน้ำหอม Chanel No.5 ในปี 1921 น้ำหอมของเธอได้รับความนิยมอย่างมากในแวดวงไฮโซและคนสูงศักดิ์ทั้งในปารีสและลอนดอน และเป็นหนึ่งในผลงานที่ทำให้แบรนด์ Chanel ติดหูและเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างไปทั่วทั้งยุโรปและอเมริกา
**No. 5 มีที่มาจากการที่หมอดูพยากรณ์บอกเธอว่า หมายเลข 5 คือเลขนำโชคของเธอ**
ชาแนลเป็นผู้ริเริ่มให้ผู้หญิงใส่กางเกงเป็นคนแรก และเธอก็คิดค้นสูทของผู้หญิงมีชื่อเรียกว่า ชาแนลสูท สัญลักษณ์ของชาแนลคือรูปดอกคามีเลีย สีขาว เพราะเป็นดอกไม้ที่ชาแนลชอบนำติดตัวไปในงานแสดงเสื้อของเธอโดยเธอมักจะนำมาทัดไว้ที่ผม
ในช่วงปี 1960 ถือเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของ Chanel เพราะผลงานของเธอไม่ได้จำกัดอยู่กับเหล่าเศรษฐินีเท่านั้น
แต่เหล่าดาราฮอลิวู้ดต่างก็ตกหลุมรักสไตล์สุดคลาสสิก ทั้ง Elizabeth Taylor, Jane Fonda เป็นต้น
ในช่วงชีวิตของ Coco Chanel เธอมีคำคม มุมมอง ทัศนคติ ทั้งกับแฟชั่น ชีวิตและการงานมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
Coco Chanel เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 10 มกราคม 1971 ในวัย 87 ปี แต่สไตล์ของความคลาสสิก ชื่อเสียงของเธอยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้
ส่วนคำคมที่ "ซุมิกโกะกับคำคมติดมุม" อ้างถึงนี้ ผมหาต้นทางไม่เจอครับ ถ้าได้ลองไปค้นหาคำคมของชาแนล จะเยอะมาก
ทีนี้ย้อนกลับถึงสิ่งที่น้องมิวสิคโพสต์เอาไว้นั้น หลายๆครั้งที่น้องจะบอกแฟนคลับในทำนองนี้ เช่น "ไม่อยากให้มีด้อม อยากให้เชียร์ทุกคน" "ไม่ต้องมีเพิ่มก็ได้ แต่ขอให้คนที่อยู่อย่าไปไหน"
พอมาคราวนี้ก็มีคนในกรุ๊ปไลน์บางที่บอกว่า น้องคงปลงแล้ว แต่ผมว่าเขาตีความหมายผิดไปมาก
สิ่งที่น้องอยากสื่อคือ เป็นห่วงและเกรงใจต่อแฟนคลับ ไม่อยากให้แฟนคลับต้องกดดันมาก
ซึ่งถ้าใครเคยไปจับมือน้อง จะรู้ว่าน้องเป็นห่วงแฟนคลับและกล่าวในทำนองนี้เสมอ
ถ้าถามจากใจผมเลยนะ คำว่าที่อยู่ของน้องก็คือช่องทางสื่อต่างๆที่น้องจะมีได้
ผมจึงได้มาทำกระทู้นานาสาระตรงนี้เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าที่พันทิพนี้ก็มีที่อยู่ของน้องเช่นกัน
และถึงจะมีคนที่ไม่โอชิน้องมาอ่าน ผมก็หวังว่าทุกคนจะได้สาระจากเรื่องราวต่างๆของน้องไปบ้าง
ผมดีใจที่พวกเราแฟนคลับน้องมิวสิคได้รวมตัวกันทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ ช่วยกันสร้างบันไดทีละขั้นส่งน้องไปถึงตำแหน่งใน World Senbatsu
ผมรู้สึกขอบคุณที่พวกเรายังทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ไปเชียร์น้องตามโรดโชว์ต่างๆ รวมถึงตั้งแถวรับ-ส่งเป็นระเบียบเวลาน้องเดินทางไปไหน
ขอบคุณที่ไม่นิ่งเฉย และคอยสนับสนุนน้องมิวสิคเสมอ
แม้บ้านเราจะไม่ใหญ่ เพราะไม่ได้รวมเป็นด้อมใหญ่ แต่บ้านแต่ละหลังของพวกเราก็อยู่รวมกันจนเป็นหมู่บ้านได้
ขอให้เราอยู่รวมกัน เพื่อร่วมกันสร้างที่อยู่ให้กับน้องมิวสิคกันนะครับ
ขอบคุณครับ
ข้อมูลอ้างอิง
1) หน้าทดลองอ่านของ Booktime ซุมิกโกะกับคำคมติดมุม
https://goo.gl/87GBqy
2) ประวัติ Coco Chanel
http://issue247.com/people/coco-chanel/
https://www.marketingoops.com/zfeature/chanel-facts/
https://www.jeab.com/style-beauty/style/chanel-timeline
3) ตัวอย่างคำคมสุดชิค ของ Coco chanel
https://www.jeab.com/life/trendy-life/coco-chanel-quotes