ก่อนอื่นเลย นี่เป็นกระทู้พันทิปแรกของผม คือพึ่งสมัครและยืนยันตัวตนเพื่อให้โพสรูปได้ และที่กำลังจะรีวิวก็เพราะว่า เห็นไม่ค่อยจะมีรีวิวเกี่ยวกับการมาเวิคที่นี่สักเท่าไหร่ ไม่มีข้อมูลอะไรมากมาย เพราะผมเองนั้นก็รู้เพียงคร่าวๆจาก job offer ที่ว่า ทำงานที่นี่ได้เรท9.5 ค่าบ้าน 100 ดอลต่อเดือน ทำงานเป็นเฮ้าส์ ซึ่งก็มีแค่นั้นจริงๆ!!!
เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีใครรีวิว(หรืออาจจะมีรีวิวในกลุ่มเวิค)ในพันทิป ผมจะขออาสาเอง 555555
แต่จะขอข้ามในส่วนของขั้นตอนการสมัครโครงการ สัมงาน สัมวีซ่าไปก่อนนะครับ ถ้าอยากรู้เดี๋ยวจะมารีวิวอีกรอบ ถ้ามีคนสนใจจริงๆ
รายได้รวมๆแค่งานแรก ที่ KOA นะ
4500 $
ค่าบ้าน
100$ ต่อเดือน
เอาล่ะไปกันเล้ยยย!!!!!!!
เริ่มตั้งแต่แรกเลยคือ ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปทรานเฟอร์เครื่องบินที่ญี่ปุ่น แล้วก็ถึงแผ่นดินอเมริกาครั้งแรกที่ dallas fort worth จากนั้นก็ต่อเครื่องไปลงสนามบินท้องถิ่นหรือ Rapid City นั่นเองง แต่ๆๆ!! นั่นก็ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของเรา ปลายทางหรือที่ทำงานของเราคือเมือง Hill City เมืองแห่งภูเขาครับ อากาศก็จะเย็นๆหน่อย ดึกๆก็ 5-6 องศาครับ หนาวสาดเลยครับผม ก็ต้องต่อรถไปอีกประมาณ 40-50 นาที ซึ่งพอมาถึงสนามบิน Rapid ก็มีนายจ้างมารับ ก็อุ่นใจขึ้นมาบ้าง ซึ่งนายจ้างคนนั้นเค้าเป็นถึง general maneger !ที่ยอมลดตัวมารับส่งเด็กๆเวิคที่มาจากทั่วโลกก
โอมายก้อด..น่ารักไปอีกและที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผองเพื่อนคนไทยที่พึ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรกก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจมากๆเพราะว่าพากันมาทั้งประเทศเลยทีเดียว(5คน ญ ล้วน) เพื่อนๆดูมีความสุขยิ้มแย้มมากๆครับ ตอนที่ได้เจอกันที่สนามบิน เพราะว่าเค้ายินดีต้อนรับผมหรอ? เปล่า เพราะเค้ามีความสุขที่ได้มาเล่นเนต 55555 อ่านไม่ผิดหรอกครับ...ก่อนอื่นจะบอกว่า สัญญาณในแคมป์กราวหรือที่ทำงานเนี่ย ห่วยบรมเลยครับ ใครจะซื้อซิม
T-mobile,Horizon หรือเครื่อข่ายอื่นๆเนี่ย ตายหมดครับ ยกเว้น At&t แล้วอีกอย่างหนึ่งคือไวไฟในที่ทำงานก็เอาแน่ไม่ได้ด้วยสิครับT T แต่ก็ไม่ได้แคร์อะไร เพราะไม่ได้สายโซเชียลอยู่แล้ว
กลับมาเข้าเรื่องต่อ ความหายนะไม่ได้มีแค่นี้ ความซวยอันดับแรกหลังจากลงเครื่องคือ กระเป๋าหายยยยยยย ครับ!! มันส่งมาไม่ถึง น่าจะตกหล่นอยุ่ที่ไหนสักแห่ง ทีนี้ก็ยุ่งเลยครับ ของจำเป็นอยุ่ในนั้นทั้งหมด!!!!!!!!!!!!!!! T T
นายจ้างเค้าก็พาเราไปคุยกับทางสายการบิน สายการบินเค้าก็บอกจะดูให้ ผมก็สบายใจขึ้นมาเยอะเลยครับ ได้ของปลอบใจเป็นชุดแปรงสีฟันยาสีฟันหนึ่งถุง
หลังจากนั้นนายจ้างท่านนั้นก็พาผมไปซื้อของวอลมาทประทังชีวิตไปก่อน ทั้งเสื้อ กางเกง กางเกงใน อาหาร บลาๆ
ผมก็สามารถมีชีวิตรอดไปได้อีกเกือบๆอาทิตย์
.
.เอาล่ะลงเครื่องแล้ว ถึงหอนอนแล้วในสภาพที่เหี่ยวแห้งไปหมด ทั้งร่างกายและจิตใจ เนตก็ไม่มี
กระเป๋าก็หาย เพื่อนก็ไม่มี อากาศก็หนาวแบบเขาใหญ่หน้าหนาวคือเลขตัวเดียว แต่เราก็ต้องสตรองครับ 55555
ทีนี้ ก็มาดูกันว่าหอเดือนละ 100 ดอล มันจะโอมั้ย แต่โดยรวมก็โอนะ ห้องหนึ่งนอนได้ 3 คน ชั้นหนึ่งมี 4 ห้อง มีห้องน้ำรวม 2 ห้องน้ำ มีทั้งหมด 2 ชั้น
สภาพห้องก็จะประมาณนี้ เหมือนกันทั้งหอชาย หอหญิง
.
.
ในส่วนของรายละเอียดการทำงานเฮ้าส์ ที่ไม่เหมือนงานเฮ้าของการมาเวิคทั่วๆไป เดี๋ยวมาต่อนะครับ
รีวิว work & travel ที่มีมากกว่าการรีวิว ที่ KOA mt rushmore เมือง Hill City 2018
เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีใครรีวิว(หรืออาจจะมีรีวิวในกลุ่มเวิค)ในพันทิป ผมจะขออาสาเอง 555555
แต่จะขอข้ามในส่วนของขั้นตอนการสมัครโครงการ สัมงาน สัมวีซ่าไปก่อนนะครับ ถ้าอยากรู้เดี๋ยวจะมารีวิวอีกรอบ ถ้ามีคนสนใจจริงๆ
รายได้รวมๆแค่งานแรก ที่ KOA นะ
4500 $
ค่าบ้าน
100$ ต่อเดือน
เอาล่ะไปกันเล้ยยย!!!!!!!
เริ่มตั้งแต่แรกเลยคือ ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปทรานเฟอร์เครื่องบินที่ญี่ปุ่น แล้วก็ถึงแผ่นดินอเมริกาครั้งแรกที่ dallas fort worth จากนั้นก็ต่อเครื่องไปลงสนามบินท้องถิ่นหรือ Rapid City นั่นเองง แต่ๆๆ!! นั่นก็ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของเรา ปลายทางหรือที่ทำงานของเราคือเมือง Hill City เมืองแห่งภูเขาครับ อากาศก็จะเย็นๆหน่อย ดึกๆก็ 5-6 องศาครับ หนาวสาดเลยครับผม ก็ต้องต่อรถไปอีกประมาณ 40-50 นาที ซึ่งพอมาถึงสนามบิน Rapid ก็มีนายจ้างมารับ ก็อุ่นใจขึ้นมาบ้าง ซึ่งนายจ้างคนนั้นเค้าเป็นถึง general maneger !ที่ยอมลดตัวมารับส่งเด็กๆเวิคที่มาจากทั่วโลกก
โอมายก้อด..น่ารักไปอีกและที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผองเพื่อนคนไทยที่พึ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรกก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจมากๆเพราะว่าพากันมาทั้งประเทศเลยทีเดียว(5คน ญ ล้วน) เพื่อนๆดูมีความสุขยิ้มแย้มมากๆครับ ตอนที่ได้เจอกันที่สนามบิน เพราะว่าเค้ายินดีต้อนรับผมหรอ? เปล่า เพราะเค้ามีความสุขที่ได้มาเล่นเนต 55555 อ่านไม่ผิดหรอกครับ...ก่อนอื่นจะบอกว่า สัญญาณในแคมป์กราวหรือที่ทำงานเนี่ย ห่วยบรมเลยครับ ใครจะซื้อซิม
T-mobile,Horizon หรือเครื่อข่ายอื่นๆเนี่ย ตายหมดครับ ยกเว้น At&t แล้วอีกอย่างหนึ่งคือไวไฟในที่ทำงานก็เอาแน่ไม่ได้ด้วยสิครับT T แต่ก็ไม่ได้แคร์อะไร เพราะไม่ได้สายโซเชียลอยู่แล้ว
กลับมาเข้าเรื่องต่อ ความหายนะไม่ได้มีแค่นี้ ความซวยอันดับแรกหลังจากลงเครื่องคือ กระเป๋าหายยยยยยย ครับ!! มันส่งมาไม่ถึง น่าจะตกหล่นอยุ่ที่ไหนสักแห่ง ทีนี้ก็ยุ่งเลยครับ ของจำเป็นอยุ่ในนั้นทั้งหมด!!!!!!!!!!!!!!! T T
นายจ้างเค้าก็พาเราไปคุยกับทางสายการบิน สายการบินเค้าก็บอกจะดูให้ ผมก็สบายใจขึ้นมาเยอะเลยครับ ได้ของปลอบใจเป็นชุดแปรงสีฟันยาสีฟันหนึ่งถุง หลังจากนั้นนายจ้างท่านนั้นก็พาผมไปซื้อของวอลมาทประทังชีวิตไปก่อน ทั้งเสื้อ กางเกง กางเกงใน อาหาร บลาๆ
ผมก็สามารถมีชีวิตรอดไปได้อีกเกือบๆอาทิตย์
.
.เอาล่ะลงเครื่องแล้ว ถึงหอนอนแล้วในสภาพที่เหี่ยวแห้งไปหมด ทั้งร่างกายและจิตใจ เนตก็ไม่มี
กระเป๋าก็หาย เพื่อนก็ไม่มี อากาศก็หนาวแบบเขาใหญ่หน้าหนาวคือเลขตัวเดียว แต่เราก็ต้องสตรองครับ 55555
ทีนี้ ก็มาดูกันว่าหอเดือนละ 100 ดอล มันจะโอมั้ย แต่โดยรวมก็โอนะ ห้องหนึ่งนอนได้ 3 คน ชั้นหนึ่งมี 4 ห้อง มีห้องน้ำรวม 2 ห้องน้ำ มีทั้งหมด 2 ชั้น
สภาพห้องก็จะประมาณนี้ เหมือนกันทั้งหอชาย หอหญิง
.
.
ในส่วนของรายละเอียดการทำงานเฮ้าส์ ที่ไม่เหมือนงานเฮ้าของการมาเวิคทั่วๆไป เดี๋ยวมาต่อนะครับ