ผู้หญิงเราไม่ว่าจะวัยไหน จะสวยได้ก็ต้องเริ่มที่การดูแลตัวเอง แน่นอนว่าในวัย 20 ปลายๆ (โอ้ย555) นอนน้อยหรือละเลยตัวเองนิดเดียว ความโทรมก็จะย่างกรายเข้ามาในชีวิตทันที วันนี้เราเลยจะมาแชร์ไอเท็มฟื้นผิวพังในดวงใจของเรา ที่ซื้อแล้วซื้ออีก แถมชวนเพื่อนใช้อีกด้วย
ก่อนอื่นมาดูสภาพผิวก่อนบำรุงกันก่อน(หน้าสดก็มา อย่าตกใจ) ผิวเราเป็นผิวผสม มันบริเวณ T-zone ช่วง U-Zone ค่อนข้างแห้ง
มีสิวบ้าง โดยเฉพาะช่วงเป็นประจำเดือน แล้วมือก็ชอบซนไปแกะด้วย ทำให้เกิดรอยดำไปอีกหลายเดือน นอกจากนั้นยังเป็นสาวผิวแพ้ง่ายสุดๆ
เพราะฉะนั้นเราค่อนข้างจะพิถีพิถันในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้ามาก โดยจะเน้นเรื่องความอ่อนโยนของผลิตภัณฑ์ ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการแพ้ เช่น น้ำหอม พาราเบน หรือแอลกอฮอล์ เป็นต้น
1.KIEHL’S Hydro-Plumping Re-Texturizing Serum Concentrate
เซรั่มที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว ขวดเป็นแบบหัวปั๊ม เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเจลสีขาวขุ่น ไม่มีน้ำหอม ทาลงผิวแล้วซึมไว ไม่หนักหน้า (เราทาทุกวันเช้า เย็น) ใช้ทีละ 1 ปั๊ม ก็ทั่วหน้าแล้วจ้า
ส่วนประกอบหลักของเค้า คือ Glycerin สารให้ความชุ่มชื้น ฟังดูแล้วหลายคนอาจจะคิดว่าส่วนประกอบดูธรรมดาจัง แต่กลีเซอรีนนี่แหละที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าของเราให้นุ่ม ผิวฟูดูอิ่มน้ำ ซึ่งทางแบรนด์เคลมไว้ว่ารู้สึกถึงผลลัพธ์ภายใน 7 วัน อันนี้ขอคอนเฟิร์มว่าของเค้าดีจริง ตั้งแต่ใช้มาผิวหน้าเราไม่เคยเป็นขุยอีกเลยและมันน้อยลงด้วย เอาใจเราไปเลย เงินในกระเป๋าเราก็เช่นกัน
2.Clearly Corrective™ Dark spot Solution
เซรั่มตัวนี้เราได้เทสเตอร์มาลองตอนซื้อเซรั่มตัวบนนี่แหละค่ะ เริ่มใช้หลังจากมือบอนแกะสิวจนทิ้งรอยดำไว้มากมาย เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นสีใส ไม่มีซิลิโคน สารกันเสีย และปราศจากน้ำหอม
ทาต่อจากตัว Hydro Plumping ทุกวัน เช้าเย็น ซึมง่าย สบายผิวดี
คุณสมบัติของเค้า คือ ช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ๆ และป้องกันการเปลี่ยนสีของเม็ดสีผิว
ตอนแรกที่ลอง รู้สึกเหมือนทาน้ำเปล่าเลยอะ ก็นางเป็นน้ำใสใส ไร้สีไร้กลิ่นใดๆ ทาปุ๊บหายแว้บไป จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ เริ่มมีเพื่อนทักว่ารอยดำจางลงนะ ใช้อะไร มานั่งนึกดูแล้วใช้เซรั่มลดรอยดำตัวนี้อยู่ตัวเดียว แต่ยังไม่แน่ใจ อะ ลองไปขอเทสเตอร์จาก BA มาลองใช้ต่อ จนครบเดือนเรามั่นใจแล้วเลยไปซื้อไซส์จริงมาใช้ ทาทั้งหน้าบ้าง ทาเฉพาะบริเวณที่มีรอยดำบ้าง ราคามันสูงนิดนึงอะเนาะ กลัวหมดไว5555 สรุปใช้แล้วชอบ เห็นผล ขวดนี้หมดแล้วซื้อต่อแน่นอนค่ะ
3.THREE Ultimate Diaphanous Loose Powder (Translucent) 02
เราเริ่มรู้จักแบรนด์ THREE ตั้งแต่เข้ามาเปิดตัวที่ไทยเมื่อหลายปีก่อน เลยเข้าไปศึกษาในเว็บไซต์ของนางก็ได้ทราบว่าเป็นแบรนด์มาจากญี่ปุ่น แนวคิดแบรนด์จะเน้นส่วนผสมที่ได้จากรรมชาติและยังเป็นออร์แกนิคอีกด้วย หูยยยย น่าสนใจเลยทีเดียว เราเข้าไปทดลองที่เคาท์เตอร์ แล้วถูกใจเลยสอยแป้งฝุ่นมาลองเป็นอย่างแรก แน่นอนว่าแป้งฝุ่นลูกรักของเรา ตรงตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์เป๊ะ เพราะส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติถึง 80 เปอร์เซ็นต์
อ่านถึงตรงนี้อาจจะงงว่า แป้งฝุ่นมันบำรุงฟื้นฟูผิวยังไง ส่วนตัวเราคิดว่าแป้งฝุ่น THREE แตกต่าง ไม่ใช่แค่เป็น Make up ด้วยส่วนผสมธรรมชาติต่างๆ ของนางนี่ล่ะ ทำให้อ่อนโยน และปลอบประโลมผิวหน้าระหว่างที่ใช้ไปตลอดวัน.
เนื้อแป้งของนางเนียนละเอียด สีโทนเหลืองทาแล้วเข้ากับผิว ไม่ดรอประหว่างวัน ควบคุมความมันได้ดีโดยที่ไม่ทำให้ผิวแห้งจนเกินไป โนพาราเบน, น้ำหอมเคมี, ส่วนผสมจากสัตว์ และมิเนอรัลออยล์ อะไรก็ดีไปหมดอะ 5555 ชอบ และอีกสิ่งที่ไม่พูดถึง ไม่ได้ ! พัฟของนางนุ่มมมมมมมมมม ม๊ากกกกกกกก ใช้ทีไรก็เคลิ้ม ช่วงแป้งฝุ่น THREE หมด ก็ยังแอบเอาไปใช้กับแป้งฝุ่นแบรนด์โน้นที แบรนด์นั้นทีแทนอ่านะ 5555555
4.THREE Balancing Cleansing Oil
ออยล์ทำความสะอาดผิวจาก THREE โดดเด่นด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 88 เปอร์เซ็นต์ ปกติเราใช้พวกเครื่องสำอางที่กันน้ำก็ล้างออกได้สะอาดดี
ออยล์เป็นสีเหลืองอ่อน เนื้อไม่หนืด กดแค่ 1 ปั๊มแล้วนวดวนบนใบหน้า ก็จะได้กลิ่นหอมจากน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติของนางนี่แหละที่จะช่วยทำความสะอาด พร้อมซึมเข้าบำรุงผิวไปในตัว ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สดชื่นจนไม่อยากล้างหน้าเลยค่ะ บางวันไม่แต่งหน้า ยังแอบเอามานวดหน้าเลย ฟินจริงอะไรจริง แนะนำเลยค่า
5.ALLIE Extra UV Protector Gel SPF50+ PA++++
ไอเท็มตัวสุดท้ายที่สำคัญมาก บำรุงผิวมาอย่างดี แต่ไม่ทากันแดด ตายตอนจบนะจ๊ะ ถึงแม้เราจะเป็นสาวออฟฟิศที่ใช้เวลาส่วนมากในห้องแอร์ แต่ก็ไม่ละเลยที่จะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันค่ะ เพราะรังสียูวีไม่ว่าจะเป็นแสงแดดที่โดนตอนพักเที่ยง รังสียูวีจากจอคอม หลอดไฟต่างๆ ทำร้ายผิวเราได้ทั้งนั้น
กันแดดเครือ Kanebo เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นกึ่งเจลสีขาวขุ่น ทาแล้วไม่เป็นคราบ กันน้ำกันเหงื่อ ปราศจากสีและน้ำหอม เรียกได้ว่าคุณสมบัติครบถ้วนในราคาจับต้องได้ ทาตอนเช้าหรือเติมระหว่างวันได้สบาย
ครบแล้วจ้า 5 ไอเท็มฟื้นผิวพังให้กลับมาปังของเรา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ปล.สภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป สิ่งที่ดีสำหรับเราอาจไม่ใช่สำหรับคนอื่น
อย่าลืมทดสอบผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจว่าไม่แพ้และเหมาะกับตัวเองนะคะ ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าจ้า
5 ไอเท็มฟื้นผิวพังให้กลับมาปัง (บำรุงน้อยชิ้นแต่ผลลัพธ์ดีเว่อร์)
ผู้หญิงเราไม่ว่าจะวัยไหน จะสวยได้ก็ต้องเริ่มที่การดูแลตัวเอง แน่นอนว่าในวัย 20 ปลายๆ (โอ้ย555) นอนน้อยหรือละเลยตัวเองนิดเดียว ความโทรมก็จะย่างกรายเข้ามาในชีวิตทันที วันนี้เราเลยจะมาแชร์ไอเท็มฟื้นผิวพังในดวงใจของเรา ที่ซื้อแล้วซื้ออีก แถมชวนเพื่อนใช้อีกด้วย
ก่อนอื่นมาดูสภาพผิวก่อนบำรุงกันก่อน(หน้าสดก็มา อย่าตกใจ) ผิวเราเป็นผิวผสม มันบริเวณ T-zone ช่วง U-Zone ค่อนข้างแห้ง
มีสิวบ้าง โดยเฉพาะช่วงเป็นประจำเดือน แล้วมือก็ชอบซนไปแกะด้วย ทำให้เกิดรอยดำไปอีกหลายเดือน นอกจากนั้นยังเป็นสาวผิวแพ้ง่ายสุดๆ
เพราะฉะนั้นเราค่อนข้างจะพิถีพิถันในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้ามาก โดยจะเน้นเรื่องความอ่อนโยนของผลิตภัณฑ์ ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการแพ้ เช่น น้ำหอม พาราเบน หรือแอลกอฮอล์ เป็นต้น
1.KIEHL’S Hydro-Plumping Re-Texturizing Serum Concentrate
เซรั่มที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว ขวดเป็นแบบหัวปั๊ม เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเจลสีขาวขุ่น ไม่มีน้ำหอม ทาลงผิวแล้วซึมไว ไม่หนักหน้า (เราทาทุกวันเช้า เย็น) ใช้ทีละ 1 ปั๊ม ก็ทั่วหน้าแล้วจ้า
ส่วนประกอบหลักของเค้า คือ Glycerin สารให้ความชุ่มชื้น ฟังดูแล้วหลายคนอาจจะคิดว่าส่วนประกอบดูธรรมดาจัง แต่กลีเซอรีนนี่แหละที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าของเราให้นุ่ม ผิวฟูดูอิ่มน้ำ ซึ่งทางแบรนด์เคลมไว้ว่ารู้สึกถึงผลลัพธ์ภายใน 7 วัน อันนี้ขอคอนเฟิร์มว่าของเค้าดีจริง ตั้งแต่ใช้มาผิวหน้าเราไม่เคยเป็นขุยอีกเลยและมันน้อยลงด้วย เอาใจเราไปเลย เงินในกระเป๋าเราก็เช่นกัน
2.Clearly Corrective™ Dark spot Solution
เซรั่มตัวนี้เราได้เทสเตอร์มาลองตอนซื้อเซรั่มตัวบนนี่แหละค่ะ เริ่มใช้หลังจากมือบอนแกะสิวจนทิ้งรอยดำไว้มากมาย เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นสีใส ไม่มีซิลิโคน สารกันเสีย และปราศจากน้ำหอม
ทาต่อจากตัว Hydro Plumping ทุกวัน เช้าเย็น ซึมง่าย สบายผิวดี
คุณสมบัติของเค้า คือ ช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ๆ และป้องกันการเปลี่ยนสีของเม็ดสีผิว
ตอนแรกที่ลอง รู้สึกเหมือนทาน้ำเปล่าเลยอะ ก็นางเป็นน้ำใสใส ไร้สีไร้กลิ่นใดๆ ทาปุ๊บหายแว้บไป จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ เริ่มมีเพื่อนทักว่ารอยดำจางลงนะ ใช้อะไร มานั่งนึกดูแล้วใช้เซรั่มลดรอยดำตัวนี้อยู่ตัวเดียว แต่ยังไม่แน่ใจ อะ ลองไปขอเทสเตอร์จาก BA มาลองใช้ต่อ จนครบเดือนเรามั่นใจแล้วเลยไปซื้อไซส์จริงมาใช้ ทาทั้งหน้าบ้าง ทาเฉพาะบริเวณที่มีรอยดำบ้าง ราคามันสูงนิดนึงอะเนาะ กลัวหมดไว5555 สรุปใช้แล้วชอบ เห็นผล ขวดนี้หมดแล้วซื้อต่อแน่นอนค่ะ
3.THREE Ultimate Diaphanous Loose Powder (Translucent) 02
เราเริ่มรู้จักแบรนด์ THREE ตั้งแต่เข้ามาเปิดตัวที่ไทยเมื่อหลายปีก่อน เลยเข้าไปศึกษาในเว็บไซต์ของนางก็ได้ทราบว่าเป็นแบรนด์มาจากญี่ปุ่น แนวคิดแบรนด์จะเน้นส่วนผสมที่ได้จากรรมชาติและยังเป็นออร์แกนิคอีกด้วย หูยยยย น่าสนใจเลยทีเดียว เราเข้าไปทดลองที่เคาท์เตอร์ แล้วถูกใจเลยสอยแป้งฝุ่นมาลองเป็นอย่างแรก แน่นอนว่าแป้งฝุ่นลูกรักของเรา ตรงตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์เป๊ะ เพราะส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติถึง 80 เปอร์เซ็นต์
อ่านถึงตรงนี้อาจจะงงว่า แป้งฝุ่นมันบำรุงฟื้นฟูผิวยังไง ส่วนตัวเราคิดว่าแป้งฝุ่น THREE แตกต่าง ไม่ใช่แค่เป็น Make up ด้วยส่วนผสมธรรมชาติต่างๆ ของนางนี่ล่ะ ทำให้อ่อนโยน และปลอบประโลมผิวหน้าระหว่างที่ใช้ไปตลอดวัน.
เนื้อแป้งของนางเนียนละเอียด สีโทนเหลืองทาแล้วเข้ากับผิว ไม่ดรอประหว่างวัน ควบคุมความมันได้ดีโดยที่ไม่ทำให้ผิวแห้งจนเกินไป โนพาราเบน, น้ำหอมเคมี, ส่วนผสมจากสัตว์ และมิเนอรัลออยล์ อะไรก็ดีไปหมดอะ 5555 ชอบ และอีกสิ่งที่ไม่พูดถึง ไม่ได้ ! พัฟของนางนุ่มมมมมมมมมม ม๊ากกกกกกกก ใช้ทีไรก็เคลิ้ม ช่วงแป้งฝุ่น THREE หมด ก็ยังแอบเอาไปใช้กับแป้งฝุ่นแบรนด์โน้นที แบรนด์นั้นทีแทนอ่านะ 5555555
4.THREE Balancing Cleansing Oil
ออยล์ทำความสะอาดผิวจาก THREE โดดเด่นด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 88 เปอร์เซ็นต์ ปกติเราใช้พวกเครื่องสำอางที่กันน้ำก็ล้างออกได้สะอาดดี
ออยล์เป็นสีเหลืองอ่อน เนื้อไม่หนืด กดแค่ 1 ปั๊มแล้วนวดวนบนใบหน้า ก็จะได้กลิ่นหอมจากน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติของนางนี่แหละที่จะช่วยทำความสะอาด พร้อมซึมเข้าบำรุงผิวไปในตัว ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สดชื่นจนไม่อยากล้างหน้าเลยค่ะ บางวันไม่แต่งหน้า ยังแอบเอามานวดหน้าเลย ฟินจริงอะไรจริง แนะนำเลยค่า
5.ALLIE Extra UV Protector Gel SPF50+ PA++++
ไอเท็มตัวสุดท้ายที่สำคัญมาก บำรุงผิวมาอย่างดี แต่ไม่ทากันแดด ตายตอนจบนะจ๊ะ ถึงแม้เราจะเป็นสาวออฟฟิศที่ใช้เวลาส่วนมากในห้องแอร์ แต่ก็ไม่ละเลยที่จะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันค่ะ เพราะรังสียูวีไม่ว่าจะเป็นแสงแดดที่โดนตอนพักเที่ยง รังสียูวีจากจอคอม หลอดไฟต่างๆ ทำร้ายผิวเราได้ทั้งนั้น
กันแดดเครือ Kanebo เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นกึ่งเจลสีขาวขุ่น ทาแล้วไม่เป็นคราบ กันน้ำกันเหงื่อ ปราศจากสีและน้ำหอม เรียกได้ว่าคุณสมบัติครบถ้วนในราคาจับต้องได้ ทาตอนเช้าหรือเติมระหว่างวันได้สบาย
ครบแล้วจ้า 5 ไอเท็มฟื้นผิวพังให้กลับมาปังของเรา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ปล.สภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป สิ่งที่ดีสำหรับเราอาจไม่ใช่สำหรับคนอื่น
อย่าลืมทดสอบผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจว่าไม่แพ้และเหมาะกับตัวเองนะคะ ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าจ้า