“นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว Land of the long white cloud”

สวัสดีครับ อันนี้เป็นกระทู้แรกที่ผมจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เคยไปมานะครับ ขอเรียกว่าแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยว ไม่ขอเรียกว่ารีวิวละกันนะครับ เพราะไม่ใช่มือโปรขนาดนั้น 555+
ว่าแล้วก็เริ่มกันเล๊ยยยย......

จริงๆทริปนี้ได้มีโอกาสไปตั้งแต่กลางปี 60 แล้ว แต่เพิ่งได้มาแชร์ในนี้ครับ ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า ผมได้มีโอกาสไปทำวิจัยระยะสั้นที่ เมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ 4 เดือน พอดีช่วงนั้นเป็นวันหยุดยาวของช่วง Queen’s Birthday ของนิวซีแลนด์ ก็เลยถือโอกาสจองตั๋วไปเที่ยวเมืองโรโตรัว (เมืองเล็กๆ อยู่ทางตอนกลางของเกาะเหนือ)

ทริปนี้เป็นทริปที่ผมไปเที่ยวคนเดียว ครั้งแรก ต้องตื่นเต้นแค่ไหนกันเชียว บอกเลยว่ามากกกกที่สุด 555 จริงๆแล้วทริปนี้มีโฮสมัมคอยช่วยจัดการวางแผน พาไปจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก ช่วยวางแผนเที่ยวให้ ก็พออุ่นใจขึ้นมาหน่อย

ปล. ทริปนี้ถ่ายรูปด้วย iphone ธรรมดา รูปอาจจะไม่ได้สวยมากนะคร้าบบ

เริ่มต้นทริป บินไปกับแอร์นิวซีแลนด์ เครื่องบินลำเล็กๆ รุ่นอะไรแล้วไม่รู้ จำไม่ได้ครับ 555

วิวจากเครื่องบินครับ

ทริปนี้เริ่มต้นด้วยการจองตั๋วเครื่องบินจากเวลลิงตันไปลงที่โรโตรัวด้วยสายการบิน Air New Zealand ก็คือสายการบินแห่งชาติของนิวซีแลนด์นั้นเองครับ นั่งเครื่องแค่แปบเดียว หนึ่งชั่วโมงโดยประมาณก็ถึงสนามบินโรโตรัวแล้วครับ แต่เอ๊ะ ทำไมพอเครื่อง landing แล้วทำไมมีกลิ่นเหม็นตุๆ เหมือนตด ตลอดเวลา....? ไว้ค่อยมาเฉลยนะครับ ว่ามันคือกลิ่นอะไร?

เริ่มต้นทริป ตั้งใจจะไปเช็คอินที่โรงแรมก่อน โรงแรมที่ไปพักคือ Sudima hotel แต่ยังเช็คอินไม่ได้เพราะไปถึง รร. ตอน 10 โมงกว่า ๆ ก็เลยตัดสินใจไปเดินแถวๆนี้ก่อน

โรงแรมที่ไปพักนั้นอยู่ติดกับทะเลสาบซัลเฟอร์ ไอกลิ่นซัลเฟอร์นี้เองแหละ ที่เหม็นเอามาก ๆ เหม็นเหมือนกลิ่นคนผายลมจริงๆ แต่มันก็คือเสน่ห์ของเมืองนี้แหละ มีกลิ่นอยู่ทุกมุมเมือง อยู่ไปสักแปบก็จะชินเอง พอเดินไปรอบ ๆ โรงแรมบรรยากาศแถวนั้นดีมากๆ (ถึงแม้จะมีกลิ่น 555+) เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนถึง Lake Rotorua ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ตั้งอยู่กลางเมือง (เมืองนี้มีทะเลสาบหลายแห่งเลย เดี่ยวจะเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ) บรรยากาศโคตรดี วิวสวยมาก



อันนี้แหละครับ บริเวณรอบๆโรงแรม ทะเลสาบซัลเฟอร์ ต้นเหตุของกลิ่นตุๆนั้น

เดินไปอีกแปบ ก็เจอตลาดนัดอะไรสักอย่าง อันนี้ไม่อยู่ในเพลนเที่ยวเลย มาเจอโดยบังเอิญเพราะเช็คอินโรงแรมไม่ได้ 555 ที่ตลาดนี้เจอคนไทยด้วย ก็ได้ทักทายกันบ้าง เค้าก็มาเป็นคู่บ้าง คนเดียวบ้าง แต่เรานั้นมาคนเดียว เหงาไปดิ 555

จากนั้นไปเดินเล่นตรงหน้า Rotorua Museum แต่มิวเซียมนั้นเข้าไปได้เพราะอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุง เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อปลายปี 2559 (เสียดายไปอี๊กกก) แต่ข้างนอกมิวเซียมก็สวยมาก มีสวนดอกไม้ สวนกุหลาบ เต็มเลยย




โรโตรัวมิวเซียม

จุดพีคของวันนี้คือ ไปเจอทัวร์จีนจ้าาาาาา 555 ไม่ต้องนึกเลย ว่าสภาพเป็นยังไง 555 แต่ก็ยังมีเรื่องที่ดีๆเกิดขึ้นอยู่ครับ คือไปเจอลุงจีนสองคน มาขอให้ช่วยถ่ายรูปให้ ตอนแรกก็ฟังลุงพูดไม่รู้เรื่องเลย แต่พอลุงยกมือถือมา ก็ถึงบ้างอ้อ 555 ก็เลยได้ทีวานให้ลุงช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย และก็แยกย้ายกัน

ภาพโดยคุณลุงชาวจีน ขอบคุณคร้าบบบ

แต่!!!!!! อีกครึ่งชั่วโมงถัดมาก็บังเอิญ เดินมาเจอกันอีก เรื่องฮาๆก็เกิดขึ้น ทีนี้ลุงแกเห็นเด็กฝรั่ง 3 คนนั่งเล่นกันอยู่ แกเลยกวักมือเราให้ไปถ่ายรูปแกคู่กับเด็กฝรั่ง เด็กพวกนั้นงง แล้วเด็ก ผช.(ตัวเล็กสุดในรูป) พูดขึ้นว่า "for what?" 555 ลุงฟังไม่รู้เรื่อง แต่เราฟังออก 555 สุดท้ายก็ได้รูปนี้มา ลุงเสื้อแดงคือคนจีนที่พอพูดภาษาอังกฤษได้บางคำ กับเด็กๆฝรั่ง 3 คนที่กำลังมึนๆงงๆอยู่
เด็กน้อย ช่างน่าสงสารจริงๆ 555

ปล.ทริปนี้ไม่เน้นแชร์เรื่องอาหารการกิน เพราะผมเข้าแต่ร้านอาหารไทย เพราะอยู่นิวซีแลนด์มาเกือบ 3 เดือน อยากกินอาหารไทยแบบลงแดง 555

จากนั้นก็ไปเดินเล่นรอบๆ Lake Rotorua



รูปนี้ ยังเห็นร่องรอยที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของนิวซีแลนด์อยู่บ้าง

หลังจากเดินเล่นรอบๆทะเลสาบเสร็จ ก็ไปเช็คอินที่โรงแรมประมาณบ่าย 2 แล้วก็ของีบสักแปบ เพราะคืนนี้มีทริปไปหมู่บ้านชาวเมารี โรงแรมที่จองไว้ห้องใหญ่มากก นอนได้ตั้ง 4 คน แต่เรานอนคนเดียว เหงาไปอี๊กกกกก 555 อ่ะๆ เอารูปห้องนอนมาให้ดูกันด้วย


หลังจากงีบไปพักใหญ่ๆ ก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินทางไปหมู่บ้านเมารี ซึ่งได้จองทริปไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเราสามารถให้ทริปมารับเราได้ถึงหน้าโรงแรมเลย หมู่บ้านที่ไปนั้นชื่อว่า Tamaki Maori Village ขอเล่นก่อนว่า ชาวเมารีเป็นชนพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ ซึ่งอยู่มาก่อนที่ชาวยุโรปจะอพยบเข้ามาตั้งถิ่นฐาน และกลายเป็นพลเมืองหลักของนิวซีแลนด์เสียอีก









ในทริปนี้ก็มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก มีเล่นเกมส์ มีการโชว์การแสดงของชาวเมารี ซึ่งเค้าดูเป็นมิตรมาก ๆ ในทริปนี้มีอาหารเลี้ยงด้วย นั้นคือ “Hangi” ซึ่งเป็นอาหารที่ถูกปรุงให้สุกใต้ดิน คล้ายๆอบดินมั้งนะครับ จะบอกว่าอร่อยมากกก (หรือหิวก็ไม่รู้ 555)

สุดท้ายก่อนกลับ ได้ไปถ่ายรูปกับชาวเมารี เค้าก็ถามว่าเรามาจากไหน ก็บอกไปว่า ไทยแลนด์!!! เข้าก็อู้ว พูด “ขอบคุณครับ” ออกมา แหม่ๆ!!! ทำการบ้านมาดีนะพี่ 5555 เอาใจนักท่องเที่ยวเก่งจริง 555

จบทริปคืนนี้แล้ว ต้องรีบกลับไปนอนน เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไป Hobbiton Movie Set กันนนน