สวัสดีทุกคน และแล้วเราก็ได้เดินทางมาถึง mv เปิดตัวเดบิวท์วง Loona กันแล้ว *จุดพลุ*
ซึ่งบอกเลยว่า mv ของ BBC น้านนนน ไม่ธรรมดาเช่นเคย
ครั้งนี้แปลบทวิเคราะห์มาจากคุณ cΔsker @caskerbox ใน twitter
Source :
https://twitter.com/caskerbox/status/1031772654343270401
(ถ้าชอบก็ไปรีทวิต หรือกดถูกใจกันได้)
เนื่องจากอ่านแล้วเข้ากับพล็อตเนื้อเรื่องของ BBC กว่าเจ้าไหนๆ อย่างไรก็ตาม จะเชื่อหรือคิดต่าง แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคลเลย เพราะเจ้าของทวิตก็บอกว่าเค้าไม่ใช่ digipedi ที่มาเฉลยเอง แต่มาจากการดู mv และอ่านทฤษฎีคนอื่นประกอบ ทำให้เรื่องราวที่เขียนอาจมีผิดมีถูก เราก็ไม่สามารถรู้ได้ ดังนั้นเรื่องราวของ Loona จึงเปิดกว้างสำหรับทุกคนให้จินตนาการ
(โดยการแปลมีทั้งเรียบเรียงเนื้อหาใหม่+ตัดเติมเสริมแต่งบางส่วนเข้าไป แต่ยังคงยึดโครงเรื่องเจ้าของทวิตอยู่)
** สำหรับใครที่หลงเข้ามาอ่านกระทู้วิเคราะห์ mv Loona เป็นครั้งแรก บอกเลยว่า ครั้งนี้งงแน่ๆ +__+’’
แนะนำให้ไปดู mv ซับยูนิต หรือหาอ่านกระทู้วิเคราะห์อันเก่าก่อนนะ เพราะนี่ขนาดแปลเอง ยังแปลไปมึนไปเลย 5555
นอกจากความมึนแล้ว ยังอึ้ง ทึ่งกับบทวิเคราะห์ด้วย ซึ่ง mv มันซับซ้อนกว่าที่เราคิดมว๊าก แต่ก็พยายามเรียบเรียงเป็นภาษาบ้านๆ ให้อ่านแล้วได้เข้าใจกัน และบางคำจะขอทับศัพท์ไปด้วย
จากที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่เปิดตัวเดบิวท์รายคน สุดท้ายก็มาถึงการเดบิวท์วง Loona เต็มวงแล้ว ด้วยเพลง title ที่ชื่อว่า “Hi High” และแน่นอนว่าใน mv นี้ก็มีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวก่อนๆ เช่นเคย
ซึ่งในเนื้อเรื่อง mv Hi High เหมือนเป็นบทสรุปที่ผ่านมาทั้งหมด ของโซโล่ทั้ง 12 คน รวมถึงซับยูนิต 3 ทีมเลยก็ว่าได้ แล้วตามด้วยการรวมตัวทั้ง 12 คน
โดยแบ่งเนื้อหาในกระทู้นี้ออกเป็น
v
v
v
คห.0 - Yearning
คห.1 - Mobius
คห.2 - Gravity
คห.3 - D-Day
คห.4 - Hi & High [ + + ]
(เนื้อหาในคห.ถัดไป ขอซ่อนใน spoil เพื่อป้องกันไม่ให้กระทู้โหลดนาน)
เรามาเริ่มต้นดูจาก LOONAverse เลยดีกว่า
เริ่มจากวง LOOΠΔ (หรือ LOONA) อยู่ในจักรวาลที่ชื่อว่า “LOONAverse” ประกอบไปด้วย 3 ยูนิต โดยทั้ง 3 ยูนิตมีเรื่องราวที่เป็นเอกเทศของแต่ละกลุ่ม ซึ่งสุดท้ายแล้วเรื่องราวจะนำพาให้ทั้ง 3 ยูนิตรวมเป็นหนึ่งเดียว
โดยเจ้าของทวิตได้วาดรูปแบ่งเป็น 3 ทีม ตามซับยูนิตที่ BBC เขียนไว้ใน description ของ mv Hi High คือ
🏃 LOOΠΔ 1/3 – โลกมนุษย์
“The most special begins with the most ordinary”
ได้แก่สมาชิก 5 คนแรก คือ ฮีจิน, ฮยอนจิน, ฮาซึล, ยอจิน และ วีวี่
(รวมยอจินด้วย เพราะ 1 คือ วีวี่, / คือ ยอจิน, 3 คือ ฮีจิน ฮยอนจิน ฮาซึล)
👁️ LOOΠΔ ODD EYE CIRCLE – อยู่ระหว่างทั้ง 2 โลก
“No more passive waiting, taking control of what’s to come”
ได่แก่สมาชิก 3 คนถัดมา คือ คิมลิป, จินโซล และ ชเวรี่
🌲 LOOΠΔ yyxy – โลก Eden
“utopia denied; faith, hope, love, and anger, now together as one”
ได้แก่สมาชิก 4 คนสุดท้าย คือ อีฟ, ชยู, โกวอน และโอลิเวีย ฮเย
แต่ก่อนอื่นอยากจะกล่าวถึงประเด็นสำคัญที่อยู่ “เบื้องหลัง” ของจักรวาล LOONAverse ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อหา mv ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่ายไม่ได้บอกมาตรงๆ แต่ถ่ายทอดออกมาเป็นการกระทำต่างๆ
จากตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ค่ายได้เปิดตัวเมมเบอร์ทีละคน ซึ่งแต่ละคนก็มีเรื่องราว สไตล์เพลง คาแรกเตอร์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และบ่อยครั้งที่เราได้แต่สงสัยว่าจะมีอะไรนะ ที่ทำให้ทุกคนเชื่อมโยงถึงกัน
ซึ่งเจ้าของทวิต อธิบายไอเดียนี้ว่าเป็น "สายสัมพันธ์ที่มองไม่เห็น"
ซึ่งเป็นเบื้องหลังสำคัญ เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้เองเป็นโชคชะตาที่นำพาให้ทั้ง 12 โคจรมาเจอกันได้
หมายถึง ไม่ว่าแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันขนาดไหนก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ มีความปรารถนา (yearning) ในเรื่องเดียวกัน และมีสัญชาตญาณที่รู้ด้วยว่าเมื่ออยู่ร่วมกันแล้ว จะทำให้มันยิ่งใหญ่กว่าการอยู่ตัวคนเดียว
(อธิบายคือ มี passion ในเรื่องเดียวกัน จะทำอะไร มันก็ยิ่งส่งเสริมกัน เพราะมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน)
เพียงแต่ yearning แต่ละคน แสดงออกมาไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ลึกๆแล้วทั้งหมดมุ่งไปสู่เป้าหมายสุดท้ายอันเดียวกัน
โดยรูปแบบการแสดงออก แบ่งได้ 3 ประเภท ได้แก่
1.to go
2.to find
3.to ascend
Yearning อย่างแรก คือ “to go”
บางคนมีความรู้สึกว่า มีบางสถานที่ที่ดูเหมือนจะถูกกำหนดไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ เธอรู้แค่ว่าต้องไปที่นั่นให้ได้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าไปเพื่ออะไร ไปแล้วจะเป็นยังไง
โดยเชื่อว่าสัญลักษณ์ yearning ที่ digipedi นำเสนอออกมาคือ “การวิ่ง”
ตั้งแต่ยูนิต 1/3, oec มาถึง yyxy มีสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ตลอด คือ สาวๆจะ “วิ่ง” ไปหาบางสิ่งบางอย่าง
แต่มันมากกว่าแค่การวิ่ง เพราะบางทีมันหมายถึง “to go”, “to start”, “to escape” หรือ “to find” ขึ้นกับว่าแต่ละคนมี yearning อะไร
บางคนวิ่งไปด้วยความกลัว เพื่อต้องการจะหาทางออก หรือเพื่อที่จะหนีบางสิ่งบางอย่าง
Yearning อย่างที่สอง คือ “to find”
คือมี sense สัมผัสได้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ดังนั้นเราจึงเห็นบางคนออกตามหาคนอื่นที่หายไป ในขณะที่บางคนไม่กล้าที่จะออกตามหา ได้แต่รอใครซักคนจะหาเธอเจอ
Yearning อย่างที่สาม คือ “to ascend”
Yearning อันนี้เป็นสิ่งที่อยู่ลึกภายในจิตใจ ที่ต้องการแสดงออกว่าเธอไม่ได้มีความต้องการจะหยุดอยู่กับที่ตรงนี้
แต่เป็นที่ที่อยู่สูงขึ้นไป อยู่เหนือฟากฟ้า อาจจะเป็นพระจันทร์ หรืออาจจะเป็นที่ที่เราไม่รู้จักเลยก็ได้
ซึ่งตัวเค้าตีความคำว่า Ascending คือการทะยานขึ้นไปสู่อิสรภาพ
และ yearning อันนี้ เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุดใน mv Hi High อีกด้วย
ถ้ายังมองไม่เห็นภาพ เรามาลองดูสมาชิกในยูนิต oec ทั้ง 3 คนกันดีกว่า ซึ่งเรื่องราวในโซโล่ mv ทั้ง 3 ได้แทนลักษณะ yearning ทั้ง 3 แบบ ได้แก่
คิมลิป เป็นตัวแทน yearning “to go”
ชเวรี่ เป็นตัวแทน yearning “to find”
จินโซล เป็นตัวแทน yearning “to ascend”
เริ่มที่คิมลิป “to go”
ถ้าดูจาก timeline ของเธอ (Sweet Crazy Love => Eclipse => Girl Front) โดยตั้งแต่เริ่ม mv Sweet Crazy Love เธอมาถึง ณ สถานที่แห่งหนึ่ง แล้วมองสำรวจรอบตัว ซึ่งดูเหมือนมีจุดประสงค์ “to go” ที่จะมาทำอะไรซักอย่าง แล้วพอชเวรี่ผ่านเข้าใกล้ เธอก็มี sense สัมผัสได้ แล้วความสามารถของเธอก็ถูกกระตุ้นขึ้นมา หลังจากนั้นเธอเริ่มรู้สึกตัวอีกรอบในตอนจบ ที่ต้องไปยังอีกสถานที่นึง คือ mv Eclipse ที่เป็นสถานที่สำหรับเธอ ซึ่งสอดคล้องกับ “to go” ที่เราพูดถึง
ต่อด้วยเรื่องราวของชเวรี่ คือ “to find”
โดยเธอเริ่มรู้ yearning “to find” ของตัวเองเมื่อตอน mv Love Cherry Motion ที่กินเชอร์รี่เข้าไปแล้ว ไปอยู่อีกมิตินึง แล้วได้พบกับกระจก 12 บาน ทำให้เธอรู้ว่าเธอมี mission “to find” ที่ต้องตามหาเพื่อนคนอื่น
สุดท้ายคือ จินโซล เธอแทนสัญลักษณ์ “to ascend” เป็นปลาที่ถูกกักขัง ต้องการเป็นอิสระ
ทั้ง mv Sweet Crazy Love และ Singing in the Rain จะสังเกตได้ว่าเธอมักจะอยู่ในสถานที่ที่มืด และอยู่แนวระนาบเดียวกับพื้นดินหรือต่ำกว่าพื้นลงไป ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดิน ตู้ปลา และใต้ผิวน้ำ รวมไปถึงฉากแท่งไฟล้อมรอบเหมือนลูกกรง และท่าเต้นที่มีคนถือแท่งไฟเดินล้อมรอบ ซึ่งแสดงถึงการถูกกักขัง ดังนั้นเธอจึงต้องการเป็นอิสระ มุ่งขึ้นสู่เบื้องบน
(ในเนื้อเพลงของจินโซล Singing in the Rain จะมีท่อนที่ว่า "Swalling the sun in the afternoon" และใน mv Egoist การกินเชอร์รี่กระป๋อง the sun in the afternoon ก็สื่อถึงการโดนกลืนดวงอาทิตย์ไป ดังนั้นซีนของจินโซล จึงมีแต่ความมืดมิด เนื่องจากไม่มีแสงอาทิตย์นั่นเอง)
ซึ่งเรื่องของทั้งสามคน ก็ดำเนินต่อไปใน mv Hi High
นอกจากสมาชิกใน oec แล้ว ยังมีเมมเบอร์คนหนึ่งที่เข้าข่าย “to find” ด้วย นั่นคือ ลีดเดอร์ฮาซึล
โดยเชื่อว่าฮาซึลน่าจะมีพลังจิตหรือ sense พิเศษอะไรบางอย่าง เพราะในตอนต้นของ mv Let Me In เธอนั่งรถไปยังซากเครื่องบินได้โดยไม่มีคนขับ
และโดยปกติแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์เครื่องบินตก จะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการตามหา และการช่วยเหลือ ดังนั้นแล้วเธอจึงมี mission “to find” ในการตามหาเมมเบอร์คนอื่นด้วยความสามารถทั้งหมดของเธอเช่นกัน
ส่วนเมมเบอร์ที่เข้าข่าย “to ascend” อย่างเห็นได้ชัดอีกคน คือ อีฟ
ซึ่งเธอลุกขึ้นสู้กับโชคชะตา เพื่อที่จะไปยัง “โลกใหม่” พร้อมทั้งชักชวนให้เพื่อนออกจาก Eden ด้วยกัน
ว่าแต่ที่ที่เธอตั้งใจจะไป จะเป็นที่ที่ดีกว่า Eden จริงหรือ?
(มีต่อ...)
ใครอ่านเสร็จแล้ว รบกวนฝาก +กระทู้ให้ด้วยนะ จะได้มีคนรู้จัก Loona มากยิ่งขึ้น ^ ^
[ชวนดู] บทสรุปเรื่องราว mv “Hi High” (Loona)
ซึ่งบอกเลยว่า mv ของ BBC น้านนนน ไม่ธรรมดาเช่นเคย
ครั้งนี้แปลบทวิเคราะห์มาจากคุณ cΔsker @caskerbox ใน twitter
Source : https://twitter.com/caskerbox/status/1031772654343270401
(ถ้าชอบก็ไปรีทวิต หรือกดถูกใจกันได้)
เนื่องจากอ่านแล้วเข้ากับพล็อตเนื้อเรื่องของ BBC กว่าเจ้าไหนๆ อย่างไรก็ตาม จะเชื่อหรือคิดต่าง แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคลเลย เพราะเจ้าของทวิตก็บอกว่าเค้าไม่ใช่ digipedi ที่มาเฉลยเอง แต่มาจากการดู mv และอ่านทฤษฎีคนอื่นประกอบ ทำให้เรื่องราวที่เขียนอาจมีผิดมีถูก เราก็ไม่สามารถรู้ได้ ดังนั้นเรื่องราวของ Loona จึงเปิดกว้างสำหรับทุกคนให้จินตนาการ
(โดยการแปลมีทั้งเรียบเรียงเนื้อหาใหม่+ตัดเติมเสริมแต่งบางส่วนเข้าไป แต่ยังคงยึดโครงเรื่องเจ้าของทวิตอยู่)
** สำหรับใครที่หลงเข้ามาอ่านกระทู้วิเคราะห์ mv Loona เป็นครั้งแรก บอกเลยว่า ครั้งนี้งงแน่ๆ +__+’’
แนะนำให้ไปดู mv ซับยูนิต หรือหาอ่านกระทู้วิเคราะห์อันเก่าก่อนนะ เพราะนี่ขนาดแปลเอง ยังแปลไปมึนไปเลย 5555
นอกจากความมึนแล้ว ยังอึ้ง ทึ่งกับบทวิเคราะห์ด้วย ซึ่ง mv มันซับซ้อนกว่าที่เราคิดมว๊าก แต่ก็พยายามเรียบเรียงเป็นภาษาบ้านๆ ให้อ่านแล้วได้เข้าใจกัน และบางคำจะขอทับศัพท์ไปด้วย
จากที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่เปิดตัวเดบิวท์รายคน สุดท้ายก็มาถึงการเดบิวท์วง Loona เต็มวงแล้ว ด้วยเพลง title ที่ชื่อว่า “Hi High” และแน่นอนว่าใน mv นี้ก็มีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวก่อนๆ เช่นเคย
ซึ่งในเนื้อเรื่อง mv Hi High เหมือนเป็นบทสรุปที่ผ่านมาทั้งหมด ของโซโล่ทั้ง 12 คน รวมถึงซับยูนิต 3 ทีมเลยก็ว่าได้ แล้วตามด้วยการรวมตัวทั้ง 12 คน
โดยแบ่งเนื้อหาในกระทู้นี้ออกเป็น
v
v
v
คห.0 - Yearning
คห.1 - Mobius
คห.2 - Gravity
คห.3 - D-Day
คห.4 - Hi & High [ + + ]
(เนื้อหาในคห.ถัดไป ขอซ่อนใน spoil เพื่อป้องกันไม่ให้กระทู้โหลดนาน)
เรามาเริ่มต้นดูจาก LOONAverse เลยดีกว่า
เริ่มจากวง LOOΠΔ (หรือ LOONA) อยู่ในจักรวาลที่ชื่อว่า “LOONAverse” ประกอบไปด้วย 3 ยูนิต โดยทั้ง 3 ยูนิตมีเรื่องราวที่เป็นเอกเทศของแต่ละกลุ่ม ซึ่งสุดท้ายแล้วเรื่องราวจะนำพาให้ทั้ง 3 ยูนิตรวมเป็นหนึ่งเดียว
โดยเจ้าของทวิตได้วาดรูปแบ่งเป็น 3 ทีม ตามซับยูนิตที่ BBC เขียนไว้ใน description ของ mv Hi High คือ
🏃 LOOΠΔ 1/3 – โลกมนุษย์
“The most special begins with the most ordinary”
ได้แก่สมาชิก 5 คนแรก คือ ฮีจิน, ฮยอนจิน, ฮาซึล, ยอจิน และ วีวี่
(รวมยอจินด้วย เพราะ 1 คือ วีวี่, / คือ ยอจิน, 3 คือ ฮีจิน ฮยอนจิน ฮาซึล)
👁️ LOOΠΔ ODD EYE CIRCLE – อยู่ระหว่างทั้ง 2 โลก
“No more passive waiting, taking control of what’s to come”
ได่แก่สมาชิก 3 คนถัดมา คือ คิมลิป, จินโซล และ ชเวรี่
🌲 LOOΠΔ yyxy – โลก Eden
“utopia denied; faith, hope, love, and anger, now together as one”
ได้แก่สมาชิก 4 คนสุดท้าย คือ อีฟ, ชยู, โกวอน และโอลิเวีย ฮเย
แต่ก่อนอื่นอยากจะกล่าวถึงประเด็นสำคัญที่อยู่ “เบื้องหลัง” ของจักรวาล LOONAverse ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อหา mv ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่ายไม่ได้บอกมาตรงๆ แต่ถ่ายทอดออกมาเป็นการกระทำต่างๆ
จากตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ค่ายได้เปิดตัวเมมเบอร์ทีละคน ซึ่งแต่ละคนก็มีเรื่องราว สไตล์เพลง คาแรกเตอร์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และบ่อยครั้งที่เราได้แต่สงสัยว่าจะมีอะไรนะ ที่ทำให้ทุกคนเชื่อมโยงถึงกัน
ซึ่งเจ้าของทวิต อธิบายไอเดียนี้ว่าเป็น "สายสัมพันธ์ที่มองไม่เห็น"
ซึ่งเป็นเบื้องหลังสำคัญ เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้เองเป็นโชคชะตาที่นำพาให้ทั้ง 12 โคจรมาเจอกันได้
หมายถึง ไม่ว่าแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันขนาดไหนก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ มีความปรารถนา (yearning) ในเรื่องเดียวกัน และมีสัญชาตญาณที่รู้ด้วยว่าเมื่ออยู่ร่วมกันแล้ว จะทำให้มันยิ่งใหญ่กว่าการอยู่ตัวคนเดียว
(อธิบายคือ มี passion ในเรื่องเดียวกัน จะทำอะไร มันก็ยิ่งส่งเสริมกัน เพราะมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน)
เพียงแต่ yearning แต่ละคน แสดงออกมาไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ลึกๆแล้วทั้งหมดมุ่งไปสู่เป้าหมายสุดท้ายอันเดียวกัน
โดยรูปแบบการแสดงออก แบ่งได้ 3 ประเภท ได้แก่
1.to go
2.to find
3.to ascend
Yearning อย่างแรก คือ “to go”
บางคนมีความรู้สึกว่า มีบางสถานที่ที่ดูเหมือนจะถูกกำหนดไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ เธอรู้แค่ว่าต้องไปที่นั่นให้ได้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าไปเพื่ออะไร ไปแล้วจะเป็นยังไง
โดยเชื่อว่าสัญลักษณ์ yearning ที่ digipedi นำเสนอออกมาคือ “การวิ่ง”
ตั้งแต่ยูนิต 1/3, oec มาถึง yyxy มีสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ตลอด คือ สาวๆจะ “วิ่ง” ไปหาบางสิ่งบางอย่าง
แต่มันมากกว่าแค่การวิ่ง เพราะบางทีมันหมายถึง “to go”, “to start”, “to escape” หรือ “to find” ขึ้นกับว่าแต่ละคนมี yearning อะไร
บางคนวิ่งไปด้วยความกลัว เพื่อต้องการจะหาทางออก หรือเพื่อที่จะหนีบางสิ่งบางอย่าง
Yearning อย่างที่สอง คือ “to find”
คือมี sense สัมผัสได้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ดังนั้นเราจึงเห็นบางคนออกตามหาคนอื่นที่หายไป ในขณะที่บางคนไม่กล้าที่จะออกตามหา ได้แต่รอใครซักคนจะหาเธอเจอ
Yearning อย่างที่สาม คือ “to ascend”
Yearning อันนี้เป็นสิ่งที่อยู่ลึกภายในจิตใจ ที่ต้องการแสดงออกว่าเธอไม่ได้มีความต้องการจะหยุดอยู่กับที่ตรงนี้
แต่เป็นที่ที่อยู่สูงขึ้นไป อยู่เหนือฟากฟ้า อาจจะเป็นพระจันทร์ หรืออาจจะเป็นที่ที่เราไม่รู้จักเลยก็ได้
ซึ่งตัวเค้าตีความคำว่า Ascending คือการทะยานขึ้นไปสู่อิสรภาพ
และ yearning อันนี้ เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุดใน mv Hi High อีกด้วย
ถ้ายังมองไม่เห็นภาพ เรามาลองดูสมาชิกในยูนิต oec ทั้ง 3 คนกันดีกว่า ซึ่งเรื่องราวในโซโล่ mv ทั้ง 3 ได้แทนลักษณะ yearning ทั้ง 3 แบบ ได้แก่
คิมลิป เป็นตัวแทน yearning “to go”
ชเวรี่ เป็นตัวแทน yearning “to find”
จินโซล เป็นตัวแทน yearning “to ascend”
เริ่มที่คิมลิป “to go”
ถ้าดูจาก timeline ของเธอ (Sweet Crazy Love => Eclipse => Girl Front) โดยตั้งแต่เริ่ม mv Sweet Crazy Love เธอมาถึง ณ สถานที่แห่งหนึ่ง แล้วมองสำรวจรอบตัว ซึ่งดูเหมือนมีจุดประสงค์ “to go” ที่จะมาทำอะไรซักอย่าง แล้วพอชเวรี่ผ่านเข้าใกล้ เธอก็มี sense สัมผัสได้ แล้วความสามารถของเธอก็ถูกกระตุ้นขึ้นมา หลังจากนั้นเธอเริ่มรู้สึกตัวอีกรอบในตอนจบ ที่ต้องไปยังอีกสถานที่นึง คือ mv Eclipse ที่เป็นสถานที่สำหรับเธอ ซึ่งสอดคล้องกับ “to go” ที่เราพูดถึง
ต่อด้วยเรื่องราวของชเวรี่ คือ “to find”
โดยเธอเริ่มรู้ yearning “to find” ของตัวเองเมื่อตอน mv Love Cherry Motion ที่กินเชอร์รี่เข้าไปแล้ว ไปอยู่อีกมิตินึง แล้วได้พบกับกระจก 12 บาน ทำให้เธอรู้ว่าเธอมี mission “to find” ที่ต้องตามหาเพื่อนคนอื่น
สุดท้ายคือ จินโซล เธอแทนสัญลักษณ์ “to ascend” เป็นปลาที่ถูกกักขัง ต้องการเป็นอิสระ
ทั้ง mv Sweet Crazy Love และ Singing in the Rain จะสังเกตได้ว่าเธอมักจะอยู่ในสถานที่ที่มืด และอยู่แนวระนาบเดียวกับพื้นดินหรือต่ำกว่าพื้นลงไป ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดิน ตู้ปลา และใต้ผิวน้ำ รวมไปถึงฉากแท่งไฟล้อมรอบเหมือนลูกกรง และท่าเต้นที่มีคนถือแท่งไฟเดินล้อมรอบ ซึ่งแสดงถึงการถูกกักขัง ดังนั้นเธอจึงต้องการเป็นอิสระ มุ่งขึ้นสู่เบื้องบน
(ในเนื้อเพลงของจินโซล Singing in the Rain จะมีท่อนที่ว่า "Swalling the sun in the afternoon" และใน mv Egoist การกินเชอร์รี่กระป๋อง the sun in the afternoon ก็สื่อถึงการโดนกลืนดวงอาทิตย์ไป ดังนั้นซีนของจินโซล จึงมีแต่ความมืดมิด เนื่องจากไม่มีแสงอาทิตย์นั่นเอง)
ซึ่งเรื่องของทั้งสามคน ก็ดำเนินต่อไปใน mv Hi High
นอกจากสมาชิกใน oec แล้ว ยังมีเมมเบอร์คนหนึ่งที่เข้าข่าย “to find” ด้วย นั่นคือ ลีดเดอร์ฮาซึล
โดยเชื่อว่าฮาซึลน่าจะมีพลังจิตหรือ sense พิเศษอะไรบางอย่าง เพราะในตอนต้นของ mv Let Me In เธอนั่งรถไปยังซากเครื่องบินได้โดยไม่มีคนขับ
และโดยปกติแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์เครื่องบินตก จะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการตามหา และการช่วยเหลือ ดังนั้นแล้วเธอจึงมี mission “to find” ในการตามหาเมมเบอร์คนอื่นด้วยความสามารถทั้งหมดของเธอเช่นกัน
ส่วนเมมเบอร์ที่เข้าข่าย “to ascend” อย่างเห็นได้ชัดอีกคน คือ อีฟ
ซึ่งเธอลุกขึ้นสู้กับโชคชะตา เพื่อที่จะไปยัง “โลกใหม่” พร้อมทั้งชักชวนให้เพื่อนออกจาก Eden ด้วยกัน
ว่าแต่ที่ที่เธอตั้งใจจะไป จะเป็นที่ที่ดีกว่า Eden จริงหรือ?
(มีต่อ...)
ใครอ่านเสร็จแล้ว รบกวนฝาก +กระทู้ให้ด้วยนะ จะได้มีคนรู้จัก Loona มากยิ่งขึ้น ^ ^