ลิเวอร์พูล กับ 7 ความน่ารำคาญที่จำเป็น หากหวังเล่นเพื่อประสบความสำเร็จ


.

        หากถามว่าคาแรคเตอร์ของลิเวอร์พูลในยุคของ เจอร์เก้น คล้อป คืออะไรในสายตาของแฟนบอลทั่วไป ที่ไม่ใช่แฟนหงส์ เชื่อว่าคงมีคำตอบที่สะเทือนใจอย่าง ไม่เคยได้แชมป์ ปะปนมากับคำตอบอื่นด้วยแน่ ที่หากเนื้อหาของกะทู้นี้จบตรงที่ข้อความขีดเส้นใต้นี้รับรองว่า เรียกโหวตได้สบาย เผลอๆขึ้นกะทู้แนะนำอีกต่างหาก

        แม้ใครหลายคนรวมถึงตัว จขกท.ไม่อยากยอมรับ แต่มันก็คือความจริง ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เช่นกัน ดังนั้น มันจึงกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ และจะน่ารำคาญมาก หากลิเวอร์พูลในยุคนี้ยังไม่สามารถจากรึกชื่อตนเองในประวัติศาสตร์สโมสร ว่าทีมในยุคนี้ก็เป็นชุดหนึ่งที่เคยคว้าความสำเร็จมาสู่สโมสรได้ ดังนั้นมันคงดีกว่า หากว่าสามารถเอาเรื่องที่น่ารำคาญนี้ มาเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน ใช้มันเป็นแรงขับเคลื่อน มุ่งไปข้างหน้า เพื่อคว้าความสำเร็จ

        แต่หากย้อนไปที่คำถามแรก เอาคำตอบดีๆแบบไม่ต้องขยี้ปม ให้เด็กหงส์ไม่สบอารมณ์แล้วล่ะก็ คำตอบที่ได้ก็น่าจะเป็น ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีเอกลักษณ์การเล่นของตัวเอง จะด้วยคำจำกัดความว่า เกเก้น เพลสซิ่ง หรือคลั่งเกมส์รุกก็ตามที มันก็มีความหมายในทางปฏิบัติแบบเดียวกัน คือพยายามเอาบอลมาเล่นให้ไวที่สุด เพื่อหวังทำประตูคู่ต่อสู้

        และการจะเป็นอย่างนั้นได้ นอกจะอาศัยความเข้าใจในแผนการเล่น และสภาพร่างกายนักเตะที่ต้องฟิตสมบูรณ์ เพราะต้องเคลื่อนที่แทบจะตลอดเวลาแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญ คือความมุ่งมั่นในตัวนักเตะแต่ละราย ที่พร้อมจะทำให้การเล่นของตัวเองกลายเป็นความน่ารำคาญ ทำลายจังหวะการเล่นของฝ่ายตรงข้าม และฉกฉวยโอกาสให้กับทีมของตนเอง

        
ซึ่งนักเตะที่น่ารำคาญในแบบที่ว่านี้ มีอยู่หลายรายในทีมลิเวอร์พูลชุดนี้
(สารภาพตามตรง ที่พล่ามเรื่องความน่ารำคาญมา 4 ย่อหน้า ก็เพื่อจะมาเข้าเนื้อหาท่อนนี้แหละ)


        นักเตะที่น่ารำคาญคนแรก ก็เป็นคนที่ หากจะมีใครสักคนเป็นตัวแทนนิยามความต้องการผู้เล่นของ เจอร์เก้น คล้อป เขาคนนี้คือคนที่เหมาะสมที่สุด เขาคือ โรเบโต้ เฟอร์มิโน่ ซึ่งแฟนบอลทั่วไป ที่ไม่ใช่แฟนหงส์ก็คงรู้ ว่าจะหวังประสิทธิภาพการทำประตูด้วยตัวเอง(ความคม) หรือสกิลทักษะการเล่น เมื่อเทียบกับกองหน้าคนอื่นๆแล้วล่ะก็ มีรายชื่อกองหน้าอีกมากมายที่เหนือกว่า เฟอร์มิโน่ แต่สิ่งหนึ่งที่เจอร์เก้น คล้อป และแฟนลิเวอร์พูลรู้ คือ เฟอร์มิโน่อาจไม่ค่อยมีจำนวนประตู แต่โคตรมีประโยชน์ต่อทีมเลย ด้วยรูปแบบการเล่น ที่โคตรน่ารำคาญกับกองหลังฝ่ายตรงข้าม การวิ่งไล่กดดันหรือเพลสสูงของเขา หากเอามาจัดอันดับโลก ก็เชื่อว่าชายคนนี้คือคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด หรือว่าวัดกันที่ความใจกว้าง ยังไงก็ต้องมีชื่อเขาติดอยู่แถวหน้า เพราะเขาคือคนที่เลือกแล้วว่า จะเล่นเพื่อทีม..มิใช่เล่นเพื่อตัวเอง (แหม..ท่อนนี้ เขียนอวยกันใจขาดเลยนะ ไอ้รอง) และหากให้ชี้ว่าใครสำคัญที่สุดในบรรดา 3 แนวรุกอันตรายในปีที่แล้วของลิเวอร์พูล ก็คงดูน่าเกลียดเกินไปหากยกให้เฟอร์มิโน่ โดยยังไม่วิเคราะห์วิจารณ์แนวรุกคนอื่น ที่ก็จัดว่าเป็นผู้เล่นที่น่ารำคาญสำหรับแนวรับฝ่ายตรงข้ามเช่นเดียวกัน ว่าแล้วก็ยกมาวิจารณ์ต่อเลย

        โม ซาล่าห์ ประตูที่ลิเวอร์พูลทำได้มากมายในปีก่อน 1 ใน 3 มาจากปลายเกือกของแข้งอียิปต์รายนี้ ซึ่งผลงานดังกล่าว ทำให้วันนี้เขา กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกขนานนามว่าคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก และความเก่งกาจของเขานั้นแหละ ทำให้เขากลายเป็นที่น่ารำคาญของกองหลังฝ่ายตรงข้าม จุดที่น่ารำคาญที่สุด คือ ซาล่าห์เหมือนรู้เสมอว่าเขาต้องอยู่ตรงจุดไหนในสนามเพื่อทำประโยชน์ให้กับทีม ไม่ว่าจะต้องแหวกฝ่าดงผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้าไป หรือแอบไปยืนในกลางดงเพื่อทำสกอร์ ชายคนนี้ก็มีประสิทธิภาพที่หวังผลได้เสมอ อีกทั้งยังมีความเร็วจัดจ้านอีกด้วย

        ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งอาจเป็นคนที่ถูกมองว่าอยู่รั้งท้ายในสามคน จากผลงานที่ทำได้ในปีก่อน เพราะมาเน่ไม่ได้ร้อนแรงจนโดดเด่น เหมือนซาล่าห์ หรือไม่ได้หาคนทดแทนไม๋ได้อย่าง เฟอร์มิโน่ แต่หากมองในรูปแบบการเล่นแล้ว เขาก็มีประโยชน์ต่อทีมไม่น้อยกว่าอีกสองคนในแดนหน้า ในส่วนของการปิดพื้นที่วิ่งไล่เพลส มาเน่ก็ทำได้กว้างขวางยาวไกล วิ่งไล่ตั้งแต่บนสุดด้านซ้าย ไปจนถึงสุดเส้นด้านซ้ายในฝั่งตัวเอง ด่านแรกที่ฝ่ายตรงข้ามต้องเจอหากคิดจะบุกทางซ้ายของลิเวอร์พูล ไม่ใช่มิลเนอร์ หรือโรเบริร์ตสัน แต่มันคือมาเน่ ที่พร้อมที่จะเริ่มวิ่งไล่ตั้งแต่แดนของฝ่ายตรงข้าม และนั้นเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้รู้สึกว่าโรเบริร์ตสัน ในตำแหน่งแบ๊คซ้ายเล่นดีจัง ก็เพราะเขาเล่นอยู่ฝั่งเดียวกันกับมาเน่ ที่คอยสนับสนุนเขาทั้งรับและรุก

        ซึ่งก็ขอต่อเลยกับนักเตะที่น่ารำคาญคนต่อไปของ ลิเวอร์พูล ก็คือ แบ๊คซ้ายอย่างโรเบิร์ตสันนี้แหละ หากวัดความน่ารำคาญกันที่ความพึงพอใจของแฟนที่ให้ความสนใจกับนักเตะที่มีส่วนทำประตู ก็อาจเป็นลูกครอสจากด้านข้าง ที่มีส่วนช่วยสร้างประตูให้กับหงส์แดงมานักต่อนัก แต่สำหรับทีมฝ่ายตรงข้ามที่มาเล่นกับหงส์แล้ว การวิ่งไล่แบบเอาตายของเขา คือความน่ารำคาญเป็นอย่างมาก ยิ่งจะมาเล่นแล้วคิดจะอุดด้วยแล้ว โรเบริ์ตสันยิ่งเป็นตัวน่ารำคาญมากขึ้น เพราะชอบเติมขึ้นมารอรับบอลยาวเปลี่ยนฝากขยับโซนแนวรับให้โยก เปิดจังหวะให้เพื่อนในแนวรุกคนอื่นหาช่องจากจากการที่โซนแตก เพราะการขึ้นมาเติมของตัวเขาเอง ดังนั้น ที่ลิเวอร์พูลน่ากลัวในแนวรุกปีก่อน จึงนับแค่ 3 คนแดนหน้าไม่ได้ต้องนับ โรเบิร์ตสันไปด้วยอีกคน

        นักเตะที่น่ารำคาญคนที่ 5 คือชายที่ได้ฉายานี้ มาตั้งแต่ก่อนจะมาอยู่กับลิเวอร์พูลแล้ว เจมส์ มิลเนอร์ คือนักเตะที่ฝ่ายตรงข้ามรำคาญมากที่สุดคนหนึ่ง เพราะเป็นคนที่ “กัดไม่เคยปล่อย” แม้ต้องสอยให้ร่วง..แล้วแลกมาซึ่งใบเหลืองเขาก็ทำอย่างไม่เคยลังเล อีกทั้งมีความสามารถเล่นได้เกือบทุกตำแหน่ง โดดเด่นทั้งรุกและรับ เป็นตัวอันตรายที่จับทางได้ยากของฝ่ายตรงข้าม และเป็นผู้เล่นอเนกประสงค์ที่พร้อมรับทุกบทบาท ขอเพียงให้ผู้จัดการทีมสั่งมา

        นักเตะที่น่ารำคาญคนที่ 6 คือคนที่เข้ามาอุดรอยรั่วบนภาคพื้นเวหาให้กับลิเวอร์พูล จากจุดอ่อนเรื่องการถูกโจมตีด้วยลูกลางอากาศของทีมหงส์แดงที่เป็นปัญหา”เรื้อรัง” แต่พอได้ เวอร์จิล ฟาน ไดร์ มา ทุกอย่างก็กลายเป็นแค่ความหลังที่ไม่มีผลอีกแล้ว แต่แค่นั้นยังไม่พอด้วยการสวมบทบาท “ผู้บัญชาการแนวรับชั้นยอด” จนประเด็นเรื่องค่าตัวมหาศาลไม่มีใครกล้าหยิบขึ้นมาใช้วิพากษ์วิจารณ์เขาอีกเลย หากถามว่าใครที่คล้อปซื้อเข้ามาเองแล้วช่วย “ยกระดับ” ทีมได้มากที่สุด ต้องมีชื่อชายคนนี้ติดอยู่ในลิสต์ตัวเลือกของทุกคนแน่ๆ และแน่นอนเขาก็ยังเป็นแบบอย่างของผู้เล่นที่น่ารำคาญคนต่อไปอีกด้วย จะเรียกว่าฟานไดร์เป็นอาจารย์ก็ว่าได้

        นักเตะที่น่ารำคาญคนที่ 7 คือนักเตะเยาวชนที่อัพเกรดตนเองขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ โจ โกเมช คือปรากฏการณ์พิเศษของลิเวอร์พูลในปีนี้ ถามว่ามีความคาดหวังไหมกับผู้เล่น”ดาวรุ่ง”ที่ได้โอกาสลงเล่นในชุดใหญ่ แน่นอนคำตอบที่ได้ก็คงเป็น “มี” แต่คงหาคนที่คาดคิดว่าไอ้หนุ่มรายนี้ จะทำได้ดีขนาดนี้หรือเปล่า ก็คงหาได้ยาก แต่ด้วยความพิเศษในเรื่องของความเร็ว ทำให้เขากลายเป็นเซ็นเตอร์ที่แตกต่างจากคนอื่นๆ และมันทำให้เขาเป็นเซ้นเตอร์”ตัวชน”ที่น่ารำคาญมากๆสำหรับกองหน้าฝ่ายตรงข้าม เพราะบอลยังไม่ทันถึงเท้า โกเมช ก็เอาหน้าอกมาชิดหลังเสียแล้ว ความมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวจริงของไอ้หนุ่มรายนี้ ทำให้กองหลังดีกรีรองแชมป์โลกอย่างลอฟเร่น ดูจะเป็นเรื่องยากที่จะกลับมายึดตัวจริงได้ซะแล้ว

        นักเตะที่น่ารำคาญคนที่ 8 คือคนที่ผมลังเลว่าจะเขียนชื่อมารวมกับคนอื่นดีหรือเปล่า เพราะเจ้าตัวเพิ่งก่อ ความน่ารำคาญให้กับแฟนบอลทีมตัวเองมาหมาดๆ แต่เมื่อชั่งน้ำหนักและความจำเป็นที่เขามีต่อทีมลิเวอร์พูลชุดนี้แล้ว ก็คิดว่าต้องเขียนถึง เขาคือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ซึ่งความน่ารำคาญที่เขามีต่อฝ่ายตรงข้าม นอกจาก”เหนียว”แล้วก็คือ เขาเป็น”ผู้รักษาประตูตัวรุก” ที่คุกคามแนวรับฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่ทีมคู่แข่งกำลังบุก ด้วยการเปิดลูกบอลที่แม่นยำของเขามันเป็นที่น่ารำคาญ ทำให้แนวรับคู่แข่งไม่กล้าขึ้นเติมเกมส์บุก เพราะต้องคอยระวังบอลยาวจากเขาไปให้ผู้เล่นความเร็วสูง อย่างซาล่าห์หรือมาเน่ และนั้นคือเขี้ยวเล็บอีกอย่างของลิเวอร์พูลชุดนี้ ที่คู่แข่งประมาทไม่ได้

        สำหรับผม 8 คนนี้ คือคนที่จะต้องเป็นตัวหลักที่ลิเวอร์พูลต้องใช้ หากคิดจะประสบความสำเร็จในปีนี้ ส่วนนักเตะอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึง ก็เพราะยังไม่เห็นความแตกต่างหรือผลงานที่ต่อเนื่องกับปีก่อน จึงขอล่ะไว้ แม้ใจจะอยากเขียนถึงอีกหลายๆคนก็ตาม อย่าง เกอิต้า ที่ยังไม่เอ่ยถึงทั้งที่ผลงานเขาก็ใช้ได้ ก็บอกตรงๆครับ ว่าเพิ่งเห็นเขาเล่นแบบจริงจังแค่ 3 นัด ซึ่งจริงๆก็พอๆ อลิสซอน แต่ที่เลือกเขียนถึงอลิสซอน ก็เพราะเขาคือประตูมือระดับแนวหน้าที่ลิเวอร์พูลไม่มีมาตั้งนานแล้ว ในขณะที่กองกลางหลังยุคเจอร์ราด ก็ยังมีอยู่ตลอดแม้จะไม่เปรี้ยงปร้างสุดขีดก็เถอะ ดังนั้นขอเวลาพิสูจน์ เกอิต้าอีกสักพักแล้วกันนะครับ หากดีจริง จะแยกเขียนวิเคราะห์เดี่ยวๆคนเดียวให้เลยครับ

- แก้ไขคำผิด
- และแก้หัวกะทู้เป็น ลิเวอร์พูล กับ 8 ความน่ารำคาญที่จำเป็น หากหวังเล่นเพื่อประสบความสำเร็จนะครับ
  ผมนับผิดเอง เพราะตอนแรกก็ไม่ได้เขียน อลิสซอน รวมด้วย ขอบคุณ ท่าน konkhonkaen ครับ ที่ทักท้วง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่