▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวน้ำตก
เดินป่า
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
[CR] ภูสมุย อุบลราชธานี เล่นน้ำ นอนภู ดูภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ (หน้าแล้ง)
ทริปนี้ผมมีมีแผนไปหัดถ่ายทางช้างเผือก 3 ที คือ อช.ผาแต้มตรงเสาเฉลียง ภูสมุย(ภูสะมุย) และวัดภูพร้าว หลังจากไปค้างที่ อช.ผาแต้มแล้ว เปิ้ลและหลานข้าวปั้น ก็แวะมารับ เพื่อจะไปภูสมุยกัน
ทริปภูสมุย 17-18 มีนาคม 2561
จากอุทยานแห่งชาติผาแต้ม วิ่งไปทางอำเภอโพธิ์ไทรแล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2112 จุดหมายคือที่พักสงฆ์ ภูน้อย ภูสมุย-ที่พักสงฆ์ ภูน้อย N15.708808 E105.504845 ระยะทางประมาณ 50 กม วิ่งขึ้นเขา ลงเขา แต่ไม่ชันมาก
พิกัดใน googlemap
https://goo.gl/maps/87Jnid5LkwR2
*** การเที่ยวภูสมุย ทำได้สองแบบ
1.เดินขึ้นไปเที่ยวเอง ถ้ามีคนรู้ทางและแหล่งท่องเที่ยว แบบที่ผมไป
2.ติดต่อ อบต.สำโรง ตามรายละเอียดด้านบน
มาถึงที่พักสงฆ์ ภูน้อย ซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่ ก็บ่ายสายกว่าๆ เกือบสี่โมงเย็น ก็สามารถจอดรถไว้ที่นี่ได้ เตรียมของจัดของ ที่นี่มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ สะดวกดี
เริ่มเดินขึ้นภูสมุย ก็เกือบ 4 โมงเย็น ช่วงนี้เป็นหน้าแล้ง ป่าก็จะแห้งๆ หน่อย
เดินมานิดหน่อยก็ข้ามลำห้วยเล็กๆ
สองข้างทางขาขึ้น เป็นไผ่เล็กๆ อากาศจะร้อนๆหน่อย ยุงก็เยอะ
เส้นทางเดิน มีแยกเยอะ เพราะเป็นเส้นทางชาวบ้าน แต่ก็ยังมีจุดสังเกตุ เป็นต้นไม้ที่ทำสัญญาลักษณ์ลูกศรสีแดง หรือถ้าใครพอรู้ทาง ก็จัดขึ้นหลังแปให้ได้แล้วค่อยหาทางก็ยังได้
เดินค่อยไต่ระดับเรื่อยๆ ร้อนหน่อย
อาจต้องใช้ตัวช่วย เช่นพัดลมมือถือ
ระว่างทางขึ้นพอมีแอ่งน้ำให้ล้างหน้า คลายร้อนบ้าง เพราะช่วงก่อนมา 2-3 วันมีฝนตก
ค่อยๆ เดินขึ้น
เดินขึ้นเขามาประมาณ ครึ่งชั่วโมง ระยะทางประมาณ 7 ร้อยกว่าเมตร ก็มาถึงส่วนของหลับแป
*** เส้นทางเดินผมวาดเอาไม่ได้จากการจัด gps เส้นทางอาจไม่ตรง แต่ก็เป็นเส้นทางที่เดินผ่านตามจุดโดยประมาณ
ภูสมุย ลักษณ์คล้ายๆ ภูกระดึง เดินขึ้นหน้าผาสูง จากนั้นก็จะเป็นหลังแป เดินสบาย แต่ที่นี่จะไม่มีต้นสน แบบภูกระดึง และเป็นลานหินซะส่วนใหญ่ ต้นไม้ใหญ่น้อยมาก เมื่อขึ้นถึงหลังแปร ถ้าไปทางขวามือก็จะขึ้นยอดภูสมุย แต่ดูแล้วมีแต่ต้นไม้ เลยไม่ไป ตัดสินในไปพักที่แถวๆ ถ้ำผามือแดง เพราะมีแอ่งน้ำ และภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์
เมื่อเดินขึ้นหลังแปร พวกผมก็เดินเรียบหน้าผา กินลมชมวิว ผ่านผานางคอย แล้วก็เดินตัดไปทางขาวมือ มีแนวหินสูง เหมือนกำแพงขนาดใหญ่ หาทางไปแอ่งน้ำแถวถ้ำผามือแดง ระยะทางโดยรวมประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยประมาณ
ใช้เวลาเดินขึ้นทางชันระยะทางประมาณ 700 กว่าเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็มาถึงหลังแปร ต่อจากนี้ก็เดินสบาย ขึ้นมาถึงหลังแปรบ่ายสี่โมงกว่าๆ เลยต้องหาที่พักแรม
ด้านบนเป็นลานหิน มีก้อนหินรูปร่างแปลกตา มากมาย แวะถ่ายรูปและหาทางไปด้วยในตัว
บางช่วงเป็นเหมือนหลุม มีแนวกำแพงหินสูง จะเรียกว่ากำแพงเมืองจีนก็ได้
แวะถ่ายรูป ปีนตรงนั้น ลงตรงนี้
ก็มาถึงจุดหมายแค้มป์ เป็นแอ่งน้ำ ซึ่งโชคดีที่ก่อนมาฝนตก ทำให้มีน้ำใช้และเล่น ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง
แอ่งน้ำนี่เรียกว่า วังกินรีอยู่ห่างจากผานางคอยประมาณ 300 เมตร บริเวณนี้มีลักษณะเป็นลานหินกว้างมาก ตรงกลางลานหินนี้มีลำธารไหลผ่านก่อนจะไหลลงสู่บริเวณแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ในแอ่งน้ำนี้จะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝนและน้ำน้อยในฤดูแล้ง วังกินรีอยู่ไม่ไกลจากจุดพักแรมมากนัก ตรงข้ามกับแอ่งน้ำนี้ คือ กลุ่มเสาหินที่มองดูคล้ายกับเศียรพญานาค
*** ข้อมูลจาก
http://ctrl-sun.blogspot.com/2010/11/blog-post_29.html
แอ่งน้ำมีลักษณะลาดลงไปเรื่อยๆ มีโบก หรือหลุมที่มีน้ำขัง สามารถลงไปเล่นได้ บางโบกก็กว้างใหญ่ ไหลผ่านถ้ำฝ่ามือแดงทางด้านขวามือ แล้วตกลงไปด้านล่างเป็นน้ำตกสูงอีกชั้น แต่ลงไปดูไม่ได้
มีเวลาเลยเดินสำรวจพื้นที่ โดยไปดูถ้ำฝ่ามือแดงก่อน จากแค้มป์ เดินตามสายน้ำลงไประยะทางซัก 50-60 เมตร ทางด้านขวามือ หรือจะเดินขึ้นไปบนลานหินด้านบนจะอ้อมหน่อย เดินมาถึงถังเก็บน้ำแล้วเดินลงมาหน่อยก็ได้ จะมีเพิงถ้ำเล็กๆ น่าจะมีคนและพระมาอาศัยในบางช่วง เพราะมีถ้วยจาน เสื้อ เทียนและเครื่องใช้เล็กๆน้อยๆ วางไว้
ภายในถ้ำฝ่ามือแดง มีภาพเขียนสีโบราณก่อนประวัติศาสตร์ หลายภาพ
ถ้ำแต้มภูสะมุย 1
.
อนู่บนภูสะมุยแนวเทือกเขาภูพาน ห่างจากบ้านผาชัน ตำบลสำโรง กิ่งอำเภอโพธิ์ไทร จ.อุบล ไปทางทิศใต้ประมาณ 7 กิโลเมตร
.
เป็นเพิงถ้ำหินทรายที่เกิดจากก้อนหินใหญ่ซ้อนกันตั้งอยู่บนลานหิน ภาพปรากฎบนผนังและเพดานเพิงหินด้านทิศตะวันตก เป็นภาพคน ภาพมือ และภาพลายเส้น ถ้ำแต้ม 1 เป็นแหล่งปรากฏภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดบนภูนี้ และภาพส่วนใหญ่ใช้สีแดงคล้ำ
.
ภาพคน มี 4 ภาพ เขียนแบบ เงาทึบ (silhouette) เป็นรูปสามเหลี่ยมสองรูปต่อกันโดยให้ปลายแหลมชนกัน และเขียนแบบโครงร่างรอบนอก
.
ภาพลายเส้น กระจายไปทั่วผนังและเพดาน มีทั้งลายก้านขด ลายซิกแซก ลายกากบาท ลายก้างปลา ลายกิ่งไม้ ลายตาข่าย ลายเส้นทแยงมุมในกรอบสี่เหลี่ยม ลายเส้นคู่ขนาน เป็นต้น ภาพลายเส้นนี้คล้ายกันมากกับที่พบที่บ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
.
ส่วนภาพมือพบทั้งหมด 63 มือ กระจายอยู่ทั่วไปเช่นกัน ทำแบบทาบและแบบพ่น มีทั้งมือซ้าย และมือขวา มือเด็กและมือผู้ใหญ่ ในจำนวนมือทั้งหมดมีมือสีเหลืองอยู่ 3 มือ
ข้อมูลจากเพจ หนาน อ้น
อย่างแรกก็ฝ่ามือสีแดง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อถ้ำ แต่ลายเริ่มจางๆแล้ว เพราะอยู่ไม่สูง ผมถ่ายรูปผมไม่จ้าไปโดนเพราะกลัวจะเสียหาย แต่ผมว่าไม่นานก็คงหาย
ลวดลายแบบที่สองเป็นลายเลขาคณิตแบบต่างๆ
แบบสุดท้ายเป็นรูปผู้ชายและ(แค่คิดว่า)หญิง
จากนั้นก็เดินไปสำรวจ ลานหิน ซึ่งมีก้อนหินเป็นรูปต่างๆ แล้วแต่จะจินตนาการกัน ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นด้วย
แค่เดินสำรวจ เพราะเดี๋ยวต้องกลับไปกางเต็นท์ และหุงข้าวกินกัน เดี๋ยวมืดจะจัดการอะไรลำบาก
มาถึงก็หาที่กางเต็นท์ บริเวณที่กางเต็นท์ก็เป็นทุ่งดอกไม้ลานหิน ในช่วงปลายฝน ที่นี่ก็จะบานด้วยดอกไม้ต่างๆ ที่สวยงาม
น้องเปิ้ลและข้าวปั้นก็พักผ่อนชิวๆ
ผมรับหน้าที่หุงข้าว ซึ่งนานๆๆๆ หุงที่ ทำผิดทำถูก ข้าวพอกินได้ครับ โชคดีไป 555
ดึกแล้วก็มากินข้าวกัน กับข้าวก็ง่ายๆ กินพออิ่ม เน้นเที่ยวเป็นหลัก ขยะก็เก็บใส่ถุงไปทิ้งด้านล่างไม่ได้เผา เพราะเดินใกล้ๆ
[img]https://f.ptcdn.info/540/059/000/pegwwcd0wYQZf1OCWgg-o.jpg
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น