[CR] SHIMANAMI KAIDO เวอร์ชั่นขาอ่อน ปั่นน้อย กินหนัก พักนาน

นานาจักรยาน
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวบลูแพลนแนตค่ะ



หลายๆ คน คงเคยได้ยินเส้นทางจักรยานนี้มาบ้างแล้ว ในพันทิปก็มีกระทู้รีวิวการปั่นเส้นทางนี้อยู่เยอะเหมือนกัน พี่ตูน Body Slam ซุปตาร์สุดปลื้มของเรา ก็เคยมาปั่นในเส้นทางนี้  Shimanami Kaido ได้รับขนานนามว่าเป็นเส้นทางปั่นจักรยานที่สวยติดอันดับโลกเพราะมันเป็นทางจักรยานที่เชื่อมต่อระหว่าง จังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) และ ฮิโรชิมะ (Hiroshima) ด้วยถนนที่ตัดผ่าน 6 เกาะ ความยาวกว่า 70 กิโลเมตร คนส่วนใหญ่ก็มันจะเรียกว่า เป็นเส้นทาง 6 เกาะ 7 สะพาน ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการปั่นจักรยานเพราะทางจักรยานจะแยกกับทางรถยนต์อย่างชัดเจน ตลอดเส้นทางจะเป็นการปั่นจักรยานท่ามกลางท้องฟ้าและทะเล Setouchi สีคราม ทั้งยังทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม และยังได้ชมวิวเกาะน้อยใหญ่ที่ตั้งอยู่บนทะเลเซโตะอุจิอีกด้วย เราก็เคยได้ยินคำล่ำลือมานานแล้ว มาเยือนญี่ปุ่นหน้าร้อนคราวนี้ นี่จึงเป็นจุดมุ่งหมายหลักของเราสำหรับทริปนี้ค่ะ

นานาสงสัย
เรามาปั่นจักรยานอย่างเดียวหรา?



ตอบเลยว่า “โน้ววว” ฮาาาา คือเราสองคน ปกติออกกำลังกายน้อยถึงน้อยมาก หรือแทบจะไม่ออกเลย อยู่ดีๆ จะอยากมาปั่นจักรยาน 70 กิโลข้ามเกาะเฉยๆ เนี่ยะนะ?!? เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยคะท่านผู้ชม เส้นทาง Shimanami Kaido นอกจากจะเป็นสวรรค์นักปั่นแล้ว ยังเป็นสวรรค์นักกินด้วยค่ะ แต่ละเกาะที่เราปั่นผ่าน มันมีร้านอาหาร ร้านขนม และสถานที่เที่ยวเกร๋ๆ เต็มไปหมดเลย ดังนั้นสไลต์การปั่นของเรา จึงไม่ได้แบบปั่นรวดเดียวจบ 70 กิโลนะคะ แต่จะเป็นการปั่นไป กินไป พักไป ถ่าย(รูป)ไป ดังนั้นกระทู้นี้ จึงเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่มีแพลนจะมาปั่นแบบวันเดียวขำๆ เน้นกิน เน้นถ่ายรูป และเราจะไม่ได้ไปจนหมดทั้งเส้นนะคะ (เพราะไปไม่ไหว) แต่เราจะปั่นไปครึ่งเดียวแล้วนั่งเรือกลับค่ะ ใครที่มีแพลนจะไปปั่นยาวๆ 70 โลก็ skip ไปกระทู้อื่นที่เค้าปั่นกันเทพๆ เลยค่ะ

เพี้ยนแว๊น
ปั่นแบบไหนดี?



Shimanami Kaido เป็นเส้นทางที่เชื่อมจากเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า Onomichi จังหวัด Hiroshima กับเมือง Imabari จังหวัด Ehime ดังนั้นการจะเริ่มปั่น โดยปกติแล้วคุณก็มีให้เลือกสองทางคือ จะเริ่มจาก Onomichi ไปสิ้นสุดที่เมือง Imabari หรือกลับกัน แต่ไม่จำกัดแค่นี้เสมอไป เพราะอย่างที่บอกไป ทั้งเส้นทาง (ถ้านับระยะทางบนเส้นที่เค้า recommend สำหรับนักปั่น) จะมีความยาวถึง 70 กิโลเมตร ไม่รวมว่าแวะเที่ยวโน่นนี่ กินข้าว หรืออื่นๆ (ถ้าจะไปกลับวันเดียวก้อ 140 กิโล) ดังนั้นจึงมีหลายคนที่เลือกจะนอนบนเกาะระหว่างทางเพื่อชื่นชมความสวยงามของทะเลแถบ Setouchi พร้อมกับๆ สัมผัสธรรมชาติสวนส้ม และวัฒนธรรมอันสวยงามระหว่างทาง หรือจะเลือกปั่นแค่บางส่วน และนั่งเรือบางส่วนก็ได้ (เหมือนเรา)

เม่าบัลเล่ต์
เช่าจักรยานได้ที่ไหน?


สำหรับคนที่ไม่ได้แบกจักรยานไปอย่างเรา ที่นี่มีเจ้าใหญ่ๆ ให้เช่าจักรยานอยู่ 3 เจ้า โดยสรุปคือ

1. Shimanami Rental Bike [Lots of terminals | Cheap | Variety of Bikes]


เป็น publicly-managed rental bike service ซึ่งจักรยานที่ให้เช่าก็มีหลายแบบ ทั้งแบบ city bike, cross bike, electric bike, หรือแม้แต่แบบ tandem bike (จักรยานแบบปั่นสองคน ซึ่งแบบนี้ ห้ามปั่นข้ามสะพาน แปลว่าต้องใช้ปั่นอยู่ใน Setoda’s island เท่านั้น) ในราคาย่อมเยาว์ ตั้งแต่ราคา ¥1,000 – ¥1,500 ต่อวัน (ไม่รวมค่า deposit อีก ¥1,000 ซึ่งถ้าปั่นที่นึงคืนที่นึง จะไม่คืนค่า deposit ให้) มี 13 bike stations ตลอดทางระหว่างเมือง Onomichi และเมือง Imabari สามารถเช่าที่นึง ไปคืนอีกที่นึงได้ในกรณีที่ไปกลับที่เดิมไม่ไหว จากนั้นคุณก้อสามารถนั่งรถบัสหรือเรือ ferry ต่อสวยๆ คุณสามารถจองจักรยาน online ได้จากเวบไซต์ก่อนได้

2. GIANT stores [High quality | Good support | Road bike]


ถ้าใครต้องการจักรยานที่มีคุณภาพขึ้นมา ก้อมานี่เลยค่ะ ร้าน Giant ตั้งอยู่ในโรงแรมที่ชื่อว่า Onomichi U2 ซึ่งเป็นโรงแรมหน้าตาเหมือนโกดังสินค้าแบบนี้ ออกแบบมาเพื่อนักปั่นโดยเฉพาะ เพราะคุณสามารถนำจักรยานคู่ในของคุณ เข้าไปเก็บไปถึงห้องนอนเลยทีเดียว แน่นอนว่า ที่นี่ให้เช่าจักรยานยี่ห้อ Giant เท่านั้น สำหรับคนที่ต้องการจักรยานระดับพรีเมี่ยม ซึ่งราคาก้อพรีเมี่ยมตามยี่ห้อ ฮาาาา


ที่นี่ มีจักรยานให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ Cross Bike ธรรมดาไปจนถึงแบบ Premium Carbon คันละหลายแสนก้อมีนาจา ราคาเช่าก็ตั้งแต่คันละ ¥4,000 – ¥13,000 ต่อวัน โดยที่จะมี  Bike Station แค่ 2 ที่คือฝั่งด้านเมือง Onomichi และฝั่งด้านเมือง Imabari  – แนะนำสำหรับคนที่ปั่นจริงจังขึ้นมาหน่อย ต้องการจักรยานคุณภาพดี

*คุณสามารถจองจักรยาน online ได้แค่เฉพาะฝั่ง Imabari ส่วนฝั่ง  Onomichi คุณจะต้องโทรไปจองเท่านั้น

3. Red Bicycles Onomichi [Middle quality | Drop-off at Onomichi Only | Entry-level Road Bike]


เป็นร้านจักรยาน Local ของฝั่งเมือง Onomichi ดังนั้นเวลาเช่าแล้ว คุณจะต้องกลับมาคืนฝั่ง Onomichi เท่านั้น มีจักรยานแบบ road bike ให้เช่าแบบเดียว ราคาเดียวคือ ¥3,500 ต่อวัน ระดับความโปรของจักรยานปานกลางถึงไฮโซ สภาพใหม่มากและมีการบำรุงรักษาอย่างดี ร้านนี้ตั้งอยู่ใน Onomichi walking street ออกจากมาจากสถานี JR Onomichi ก็ใช้เวลาเดินไประมาณ 5 นาทีก็ถึงที่ร้าน สะดวกมากค่ะ คุณสามารถจองจักรยาน online ได้จากเวบไซต์ก่อนได้เช่นกัน


เนื่องจากช่วงที่เรามาเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ ตรงกับเทศาลโอ้บ้งพอดี คนเลยเยอะมว๊ากก (กอไก่ ล้านตัว) แม้แต่จักรยานยังจองกันเต็ม ตอนแรกว่าจะจอง Giant เพราะคุ้นเคย แต่เหลือแต่แบบ premium carbon ซึ่งเราว่าแพงไปสำหรับขาอ่อนอย่างเรา เราจึงเหลือ option ไม่มากนัก สุดท้ายก็ได้จักรยานจากร้าน Red Bicycle Onomichi นี่แหละ ซึ่งเป็นแบบ Road Bike ในราคาคันละ ¥3,500 ต่อวัน รวมหมวกและที่ล้อคจักรยานด้วย (คุณสามารถขอเบาะรองนั่งเพิ่มอีกชั้นได้ฟรีนะคะ เจ้าของร้านไม่คิดตังค์ และเราก้อแนะนำว่าควรขอ เพราะเวลาปั่นไปนานๆ คุณจะเริ่มเจ็บก้น ถ้าไม่รองให้ดี มีหวังได้ยืนปั่นตลอดทางแน่ค่ะ) จักรยานที่ได้ก็ใหม่กิ๊ก โอเคเลยค่ะที่นี่


ร้านเปิด 8 โมง ปิด 17:30 ดังนั้น สำหรับคนที่แพลนปั่นวันเดียว แนะนำให้แพลนดีๆ เพราะถ้าคุณตัดสินใจจะกลับเรือ ต้องมั่นใจว่า คุณกลับมาถึง Onomichi ก่อน 17:30 นะคะ

เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษคล่อง เคยไปเมืองไทยด้วย เลยพูดไทยได้นิดหน่อย อัธยาศัยดี ที่ร้านนี้จ่ายค่าเช่าเสร็จก็เอาจักรยานออกมาปั่นได้เลย ไม่ต้องมีค่า Deposit แต่อย่างใด

นานาเชิด
FERRY ROUTE & TIMETABLE


ปั่น 70 โลไปกลับไม่ไหว? คุณมีตัวช่วยค่ะเด้อ คุณสามารถเลือกปั่นบางส่วนของเส้นทางได้ พอหมดแรงก็นั่ง Ferry ต่อ โดยเส้นทางการเดินเรือระหว่างเกาะมีให้เลือกดังนี้


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.cyclonoie.com/

พาพันปั่นจักรยาน
แนะนำเส้นทางปั่น+กิน แบบขาอ่อน



แพลนเราคือ ปั่น 1 วันถ้วน (ฮาาาา) จุดเริ่มต้นของการปั่นของเราครั้งนี้คือเมือง Onomichi ​และเราจะปั่นแค่ครึ่งเดียวพอ รวมแล้วก็ 3 เกาะ 2 สะพานพอดี จากนั้นจะขึ้น Ferry ที่ท่า Setoda เพื่อกลับไปยังเมือง Onomichi ค่ะ ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร (ระยะทางนี้คือรวมการออกนอกเส้นทางไปกินตามร้านต่างๆ แล้วนะคะ) โดยเราเริ่มปั่นกันตั้งแต่ 8:30 น. อันนี้คือนับจากเวลาที่เช่นจักรยานเสร็จ ล้อเริ่มหมุนค่ะ


*จริงๆ ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะไปไกลกว่านี้ คือไปถึงเกาะที่ 4 โดยข้ามสะพานที่ 3 Omishima bridge ซึ่งจะมีเส้นแบ่งระหว่างสองจังหวัดเป็น Landmark แล้วย้อนกลับมาลงเรือ แต่เราปั่นช้า มัวแต่หยุดพัก จูงบ้าง กินตลอดทาง 555 และก้อยังมีข้อจำกัดอยู่ที่จักรยานที่เช่ามา คือจะต้องคืนภายใน 17:30 และเรือที่จะกลับ Onomichi รอบสุดท้ายที่กลับมาทัน จะต้องออก 15:10 น. จากท่า Setoda นั่นเอง ทำให้เราไปตามแพลนที่เราวางไว้ตอนแรกไม่ได้

พร้อมแล้ว ก็ไปกันเล้ยยยย!!!

เพี้ยนลุย
READY…SET…GO!



แม้ว่ามันจะขนานนามว่าเป็นเส้นทางที่ผ่าน 6 เกาะ 7 สะพาน แต่สะพานแรกหรือสะพาน Shin-Onomichi ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างเมือง Onomichi และเกาะ Mukaishima ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเส้นทางสำหรับคนเดินเท้าหรือปั่นจักรยาน ทางจะค่อนข้างแคบ ดังนั้นจากเมือง Onomichi ซึ่งเป็นจุดที่เราเช่าจักรยาน จะข้ามไปเกาะ Mukaishima จึงต้องลงเรือ Ferry ก่อน ราคาก้อประมาณ ¥70-110 ทั้งคนทั้งจักรยาน  ส่วนท่าเรือ Ferry มี 2 จุดค่ะ หาง่ายมาก และอยู่ไม่ไกลกัน


ทั้งจุด 1 หรือจุด 2 ลงได้หมด ก็แล้วแต่ว่าคุณสะดวกลงที่ไหน เราลงที่จุด 1 ค่ะ เพราะแม้ว่าเราจะเช่าจักรยานจาก Red Bicycle Onomichi แต่เราได้แวะไปถ่ายรูปที่ร้าน Giant ก่อน จึงลง Ferry ที่จุด 1


จะเห็นว่าสังเกตง่ายมาก คนที่ขึ้นพร้อมเราส่วนใหญ่ก้อเป็นนักปั่นทั้งสิ้นค่ะ ตื่นเต้นๆ


พี่คนนี้พร้อมมาก ระหว่างอยู่บนเรือ พี่แกนี่วอร์มเอาวอร์มเอา ท่าทางฟิตสุดๆ นั่งเรือมาประมาณ 10 นาที เราก้อถึงเกาะแรก Mukaishima
ชื่อสินค้า:   shimanami kaido
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่