ตำรวจ 4.0 จริงไหม?

ที่ต้องชื่อเรื่องว่า ตำรวจ 4.0 จริงไหมเพราะ
ประเทศนี้ จะเข้าสู่ยุด สี่จุดศูนย์ แต่ทำไมยังมีตำรวจแบบนี้

เป็นคำถามครับ

1.ทำไมร้อยเวรไม่ติดต่อบริษัทยกรถให้ปล่อยรถผมออกมาทั้งที่คดีทุกอย่างเคลียร์จบแล้ว

2.ทั้งที่คดีจบแล้ว ทำไมร้อยเวรบอกให้เจ้าของรถยกตรวจสภาพรถอีก ให้ผมเสียตั้ง 800 บาท ผมเลยบอกว่าไม่ต้องตรวจ เพราะคดีจบแล้ว

3.อ้างว่าผมเข้าไปติดต่อดึก 2ทุ่ม ร้อยเวรคงลืมว่า เรานัดกันที่ สน.บาง.... ตอน 6 โมงเย็น ให้ผมกับคู่กรณีรอ แล้วสุดท้ายไม่มาให้ผมกับคู่กรณี คุยกับประจำวันจ่ายเงินกัน

4.เช้าวันต่อมา ทำไมร้อยเวรโทรหาเจ้าของรถยกเองไม่ได้ ต้องคุยกับเขาผ่านโทรศัพย์ผม

5.ทำไมคืนวันเกิดเหตุ ถึงบอกแค่ว่า หายดีแล้วให้ไปติดต่อผู้กอง พ. ขอเบอร์ก็บอกว่า เบอร์ผู้กองอยู่ในโทรศัพท์ ผมไม่ได้เอาโทรศัพท์มา สุดท้ายไปขอเบอร์ผู้กองที่ สน.

6.ผู้กองพ. ไม่รู้หรอว่า ถ้าตำรวจเจ้าของคดี ไม่บอกบริษัทยกรถให้ปล่อยรถ เขาก็ไม่มีอำนาจปล่อย ทำไมผู้กอง พ.ถึงบอกว่า เอาใบบันทึกประจำวันไปเอาได้เลย

สุดท้าย ถ้าเราเป็นตาสี ตาสา ไม่มีญาติ เพื่อน พี่ น้อง ที่รู้กฎหมาย ตำรวจให้เสียค่าอะไรก็ต้องเสียใช่ไหมครับ

เรื่องมีอยู่ว่า (ขอแทนตัวว่าผมนะครับ ยืมไอดีเพื่อนมาเล่น)
ผมต้องออกทำงาน ต่างจังหวัดครับ แล้ววันนั้น เสร็จงานดึกมาก ห้าทุ่มเศษ ผมขับรถกลับมา ด้วยอาการอ่อนเพลียสะสม คือผมต้องทำเอกสารเพื่อจะไปเคลียร์งานต่างจังหวัดครั้งนี้ ผมนอน เที่ยงคืนถึงตีหนึ่งติดต่อกับสามวัน และวันนี้ ผมทำงานผ่าเที่ยง และทานข้ามเกือบบ่าย เลยไม่ได้นอนตอนเที่ยง เพราะปกติจะนอนตอนเที่ยงทุกวัน แล้ววันนี้ ก็เสร็จงานห้าทุ่มกว่า ผมก็ออกจากโครงการเลย แล้วก็พักรถที่ปั้มเนื่องจากรู้สึกร่างกายไม่ไหวเต็มที่แล้ว แต่พอเช็ค GPS ระยะท่างขับแค่ 20 นาทีห็ถึงห้องพัก ก็เลยตัดสินใจออกมาแล้วขับกลับ แล้วผมก็เพิ่งรู้ว่า "เป็นการตัดสินใจที่ผิดครั้งหนึ่งในชีวิต"

ผมขับออกจากปั้มมา แล้วซักพักก็เกิด "ภาพตัด" คือผมหลับไปเลย ภาพที่กลับมาอีกครั้งคือ อีก 100 เมตร ข้างเป็นท้ายกระบะ ที่จอดข้างฟุตบาท ที่เขาเปิดไปฉุกเฉินอยู่ ผมกะว่าเบรคก็ทัน(ซึ่งปกติทันอยู่แล้ว) แต่ผมเหยียบเบรคเท่านั้นแหละ จากรถที่อยู่แนวตั้งในแกน Y มันเอียงเข้าหา 0 องศา ในแกน X เลย (ข้อมูลเพิ่มเติมก่อนผมจะมาถึงตรงนี้ฝนตก แล้วถนนลื่นมาก) แล้วรถมอไซต์ผม พุ่งเข้าไปใต้ท้องรถกระบะ จากข้างหลังทันที แล้วเนื่องจาก รถมอไซมันเอียงลง เลยทำให้ผมกระเด็นไปทางขวา และตอนนั้นถนนโลงมาก เลยไม่มีรถตามมาเยอะ แล้วผมก็เกิดภาพตัดอีกครั้ง เมื่อสติผมกลับมาพบว่า ผมนอนตะแคงขวาอยู่กับพื้น หัวผมอยู่เลยหน้ารถยนคันนั้นมา ฝั่งขวาของรถ ขาผมงอชี้ไปทางเกาะกลางถนน ผมเห็นเศษกระจกจำนวนมากอยู่ตรงหน้า แขนสองข้างเหยียดตรงไปข้างหน้า ผมไม่รู้สึกถึงขาตัวเอง แล้วมีคนเดินมาถามผมน้องเป็นไงบ้าง ขยับได้ไหม รู้สึกอะไรไหม พูดได้ไหม ผมจำคำพูดพี่เขาได้เลย ถามด้วยความเป็นห่วง (มาทราบทีหลังว่าเป็นเจ้าของรถยนต์(ที่ใจดีมาก)) ปรากฎว่าผมไม่รู้สึกถึงขาตัวเองเลย ผมถามพี่เค้าว่า ขาผมยังอยู่ไหมพี่ พี่เค้าก็บอกว่า อยู่ครบนะไม่มีอะไร ผมก็พยายามขบัยขาแต่ขยับไม่ได้ แล้วพี่เค้าถามว่าขยับตรงไหนได้ไหมเพราะผม นอนอยู่กลางเลนที่สองนับจากขอบเข้ามาเกาะกลาง ซึ่งอันตรายมากถ้ารถมาเร็วแล้วไม่เห็น เค้าก็เลยช่วยกันยกผม ใช้คนห้าคนเพื่อยกผมเข้ามาข้างฟุตบาท แล้วปรากฎว่าขาผมแค่มึนแล้วก็ขยับได้ปกติ แต่ขามีบาดแผล ไม่รู้ว่ากระแทกกับอะไรแล้วผมก็เดินไม่ถนัด ซักพักแล้วผมก็ยืนได้ คุยได้แต่ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่เนื่องจากยังมึนอยู่ แล้วตำรวจก็มา มาจากไหนไม่รู้พาตัวผมไปที่รถตำรวจ ทั้งที่ผมก็เดินแทบไม่ได้ เค้าก็ใจดีช่วยพยุงผมให้ผนเดินกระเผกๆไปที่รถตำรวจ ปรากฎว่าเขาพาผมไปหาเครื่องเป่าแอลกอฮอล(ทำไมไม่ถือเครื่องเป่ามาหาผม) ถามว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง ให้เป่าผมก็เป่าครับ เพราะผมไม่กินเหล้ามาหลายปีแล้ว หลังจากเป่าเสร็จก็ปล่อยผมให้เดินไปขึ้นรถกู้ภัย เดินไปได้นิดนึง ขาผมทรุดลงตัวไปกระแทกกับ กระโปงหน้ารถตำรวจ แล้วมีกู้ภัยมาประคองต่อ เพื่อพาผมขึ้นรถกู้ภัยไปโรงพยาบาลเอกชนใกล้เคียงแถวนั้น ปล.ตำรวจบอกให้ ใช้พรบ.ประกันอุบัติเหตุ ปรากฎว่า ผมได้รับการดูแลจากโรงพยาบาลอย่างดีมากครับ

เมื่อถึงโรงพยาบาล แล้วผมก็รักษาตามนั้นตอนของโรงพยาบาลอย่างถูกต้อง ผมนอนโรงพยาบาลในคืนนั้น ไม่มีคู่กรณีหรือ ร้อยเวร ติดต่อมาเลย ผมไม่รู้ว่า มอไซต์ผมเป็นไงบ้าง ไม่รู้เลยว่า รถคู่กรณี(ผู้เสียหาย) เป็นไงบ้าง ได้แต่นอนรอข่าว ตอนเช้าก็ยังไม่มี จน10 โมงเช้าเพื่อนมาหา เพื่อนเลยอาสาไปที่ สภ.นั้นให้ ไปเอาใบแจ้งความประจำวันมา แล้วเพื่อนขอเบอร์ผู้เสียหายก็ไม่ได้ เพื่อนบอกตำรวจเค้ายุ่งอยู่ ไม่บอกซักที นานเลยออกมาเลย แล้วผมก็คุยกับเพื่อนสองคน ส่วนมากก็นอนกัน จนเย็น ญาติผมมาเยี่ยมตอน หกโมงเย็น พี่สะใภ้อาสา เดินเรื่องให้ ผมนอนอีกคืน ตอนเช้าพี่สะใภ้ไปที่ สภ.ที่รับเรื่อง ปรากฎว่าร้อยเวรคนนั้น หยุดครับ แล้วพี่สะใภ้ก็สอบถามข้อมูลทุกอย่างให้ สรุปพี่เจ้าของรถยนต์เค้าเอาแค่ 5,000 ครับ สรุปกันได้นัดกันกับร้อยเวรเจ้าของเรื่องประมาณ หกโมงเย็น ผมออกจากโรงพยาบาล บ่ายโมง ค่าใช้จ่ายทางโรงพยาบาล 23,000 บาทเศษ (พรบ.รถมอไซต์จ่ายทั้งหมด) เมื่อทุกคนมาครบก็รอร้อยเวร ร้อยเวรไม่มาครับ พี่สะใภ้เลยโทรตามร้อยเวร ปรากฎว่า ร้อยเวรบอกว่าเคลียร์กันกับประจำวันเลย แล้วเอาไปลงบันทึกไปเอารถ ทุกอย่างก็เหมือนจะจบด้วยดี ผมจ่ายตังค์คู้กรณี 5,000 บาท และค่าปรับขับรถโดยประมาท 400 บาท แล้วขับรถไปที่เก็บรถมอไซต์ ก็เกิดเรื่องขึ้นอีก

เมื่อผมไปถึงที่เก็บมอไซต์ ผมเจอรถมอไซต์ผม และได้เอาใบประจำวันที่เคลียร์กันกับคู่กรณีทุกอย่างจบแล้ว ไปให้ผู้ดูแลรถ ปรากฎว่า ผมไม่สามารถเอารถออกได้ เพราะเค้าบอกว่า ต้องได้รับคำสั่งจากร้อยเวรเจ้าของเรื่องเท่านั้น ถึงจะออกไปได้ ผมได้โทรสอบถามเพื่อนที่เป็นตำรวจยศ ร้อยเอก และพันโท แล้วเค้าบอกว่าจริง เพราะเป็นคดีของร้อยเวรคนนั้น (แล้วคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าผู้กองไม่รู้หรอ) แล้วผมก็ให้ทุกคนที่ผมรู้จักติดต่อร้อยเวรคนนั้นปรากฎว่า ไม่มีใครติดต่อได้ ผมต้องจ่ายค่าจ้างรถกระบะ 1,000 บาทโดยไม่ได้ขนรถ ผมต้องจ่ายค่ายกรถมอไซต์ผมมาเก็บ 1,000 บาท ผมต้องจ่ายค่าจอดรถ 300 บาท และเนื่องจากผมไม่สามารถเอารถกลับมาได้ในวันนั้นเลยคุยกับเจ้าของรถยก ให้พรุ่งนี้ถ้าติดต่อร้อยเวรนั้นได้แล้วช่วยยกมาส่งผมหน่อยตกลงราคากันที่ 1,300 บาท เฉพาะค่าขนรถมอไซต์อย่างเดียว 3,600 บาท แต่ยังไม่ได้รถเลย เช้าวันต่อมา ผมติดต่อร้อยเวรได้เค้าบอกไปเอารถเลย ผมก็บอกร้อยเวรว่า เค้าบอกว่าต้องให้ร้อยเวรบอกเค้าเท่านั้นครับ ร้อยเวรก็บอกว่า คุณก็ไปเอารถแล้วเอาโทรศัพท์คุณให้ผมคุยกับเค้า (คือท่านโทรไปบอกเองไม่ได้หรอ คิดในใจ) ผมก็บอกว่า เดี๋ยวผมโทรบอก เจ้าของรถยกให้โทรหาท่าน แล้วทีนี้เจ้าของรถยก ก็โทรมาบอกผม มีค่าตรวจสภาพรถด้วยนะพี่ ผมสวนไปเลย ตรวจอะไรอีกอ่าพี่ เพราะค่าตรวจสภาพรถมอไซต์ 800 บาท ทั้งๆที่เคลียร์เรื่องราวทุกอย่างจนจบหมดแล้ว เจ้าของรถยก ก็บอกว่ายังไม่มีคำสั่งให้ตรวจ แล้วเพิ่งมาสั่งอะไรตอนนี้ ตอนที่ทุกอย่างมันจบหมดแล้ว เค้าก็บอกให้ถามร้อยเวร แต่จนตอนนี้ยังติดต่อร้อยเวรนั้นไม่ได้เลย ถ้าได้เรื่องยังไงเดี๋ยวผมมาเล่าต่อครับ ไม่รู้ต้องทำยังไงถึงจะได้รถคือ ได้แต่ให้เพื่อนที่เป็นตำรวจช่วยเท่านั้นเอง และอีกทางคือยอมจ่ายเงินเพิ่มอีก 800 บาท ให้ตำรวจค่าเหนื่อย ค่าตรวจสภาพรถ ทั้งๆที่ จริงๆ ก็ไม่ได้ตรวจอะไรหรอก คือผมไม่อยากคุยกับตำรวจนายนี้โดยตรงเพราะปากผมค่อนข้างหมาและพูดขวานผ่าซากนะครับ เลยให้คนอื่นคุย

สรุป รถผม ได้คืนครับ โดยไม่ต้องเสียเงิน 800 บาทค่า ตรวจสภาพ และคนขนรถ ก็ขนมาส่งให้ถึงที่เพราะจ่ายเงินไปแล้ว(3,600)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่