#เปลี่ยนคำด่าทอให้เป็นดอกไม้
ก่อนออกเดินทางไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ของทัพวอลเลย์บอลสาวไทย มีเรื่องที่ถูกพูดถึงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายของการแข่งขัน ผลงานที่เกิดขึ้นก่อนหน้า รวมไปถึงการประกาศลามหกรรมกีฬาระดับเอเชียของนักกีฬารุ่นใหญ่ภายในทีม
ทุกเรื่องเป็นประเด็นที่ถูกโยงเข้าหากันไปได้ทั้งหมด เมื่อโค้ชหรือนักกีฬาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆว่าจะเอาเหรียญเอเชียนเกมส์มาครองให้ได้ แต่ก็ถูกกระแสโซเชียลนำผลงานที่เกิดขึ้นในรายการเนชั่นส์ลีกหลังจากทีมไทยแพ้ติดต่อกันถึง 9 นัดติดต่อกันมาตัดทอนความหวังลง
แน่นอน....สิ่งเดียวที่จะทำให้คนดูกลับมาเชื่อมั่นได้อีกครั้งนั้นคือ"ผลงาน"เท่านั้น
จะทำผลงานให้เกิดขึ้นได้อย่างไร...หากไม่มีผู้นำทัพไปออกศึก
หลังจากการแข่งขันเนชั่นส์ลีกสิ้นสุดลง มีเสียงร้องจำนวนมากที่ขอให้"โค้ชด่วน" รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าก่อนออกแข่งขันรายการนี้โค้ชด่วนจะบอกถึงเป้าหมายแล้วว่าจะขอใช้เกมต่างๆในเนชั่นส์ลีกทดสอบรูปแบบ และ ตัวนักกีฬา
แต่ถึงกระนั้นก็ต้องเข้าใจคนดูทั่วไปด้วยว่า ปีที่แล้วคุณพาทีมทุบบราซิล,อิตาลี,ตุรกีได้ ทำไมปีนี้ถึงต่างกันราวฟ้ากับเหว
หนังสือขอลาออกของโค้ชด่วนถูกส่งไปยังสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย แต่ก็ถูกตีกลับ เพราะตั้งแต่ผู้บริหารจนไปถึงนักกีฬา ทุกคนยังมั่นใจในการทำทีมของโค้ชด่วน และ ไม่มีอะไรแคลงใจในการทำหน้าที่
เรื่องนี้ยังไม่เคยถูกเผยแพร่ออกไป...แต่ทุกคนในทีมต่างรู้ดีว่าโค้ชกำลังทำอะไรอยู่ และ เพื่ออะไร
จากนั้นการซ้อมของทีมไทยกลับเข้าสู่ระบบอีกครั้ง และ ในระหว่างนั้นสัญญาที่เคยทำร่วมกับเมืองคาโนย่าก็ถึงเวลาเริ่มดำเนินการ
ทีมไทยเดินทางไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่น ทดสอบระบบด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเพิ่มตามที่เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยคาโนย่าได้วางแผนเอาไว้ อีกทั้งทีมโค้ชยังได้ทำข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับการเสิร์ฟไปพร้อมๆกัน
เมื่อการวัดร่างกายเสร็จสิ้น....เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าค่าสถิติข้อมูลของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยหลายคนมีคุณภาพร่างกายดีที่สุดที่เครื่องมือของทีมงานคาโนย่าเคยวัดผลได้!!! ( จะมาขยายความเพิ่มในโอกาสต่อไป )
ขณะที่ปัญหาการเสิร์ฟบอลของนักกีฬาหลายคนที่มีความเร็วต่ำเพียงแค่ 50กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ถูกโค้ชนำมาปรับปรุงทันทีหลังจากที่กลับถึงไทย
เมื่อทุกอย่างอยู่ในความพร้อมที่เหมาะสม การเดินทางของทีมวอลเลย์บอลสาวไทยในเอเชียนเกมส์ก็เริ่มขึ้นไปพร้อมๆกับเป้าหมายเดียวกันคือต้องคว้าเหรียญให้ได้!!!
ก้าวแรกของทีมวอลเลย์บอลชุดนี้ในเอเชียนเกมส์ก็ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับวงการ และ ประเทศตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม เมื่อ"นิ้งหน่อง"ปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันของทีมชาติไทย ได้เป็นผู้เชิญธงชาตินำเหล่านักกีฬาของไทยเดินเข้าเสนายันสเตเดี้ยมในพิธีเปิดการแข่งขัน และ เป็นการย้ำเข้าไปในความทรงจำที่ดีของเธอว่านี่คือครั้งสุดท้ายที่มีความสุขที่สุดในการเล่นเอเชียนเกมส์ร่วมกับกลุ่มนักกีฬายุคบุกเบิกอีก 4 คนอย่าง นุศรา ต้อมคำ,วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์,มลิกา กันทอง,อรอุมา สิทธิรักษ์ ที่ให้สัมภาษณ์ไปทางเดียวกันว่านี่คือเอเชียนเกมส์ครั้งสุดท้ายของพวกเธอ
มาถึงตรงนี้แล้ว...หลายคนคงจะบ่นว่าเมื่อไรจะเข้าเรื่องสักที (ฮ่าๆ)
ในแง่ของผลงานการแข่งขันนั้นทีมไทยรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี (ส่วนนี้ผมเอาเกมที่ชนะญี่ปุ่นเป็นเกณฑ์) ถึงจะมีหลุดแต่ก็กลับมาได้ไว ที่สำคัญคือส่วนผสมความเป็นทีมเดียวกันมีสูงมากๆ
การบาดเจ็บระหว่างเกมของ ชัชชุอร โมกศรี ที่เป็นปัญหาใหญ่ และ ร่างกายที่ไม่เต็มร้อยของ อัจฉราพร คงยศ เป็นโจทย์ที่ยากในการแก้ แต่แล้วการทดแทนตำแหน่งกันและกันของทีมนี้ก็ทำให้เห็นว่าทุกคนพร้อมจะลงสนามได้
โค้ชด่วนจับตรงนี้ไปใส่ เก็บคนนี้ไว้ให้พร้อม ขยับคนนั้นมาแทนตรงนี้ มันแสดงออกให้เห็นแล้วว่าโค้ชรู้จักศักยภาพของนักกีฬาแต่ละคนได้มากน้อยแค่ไหน
จนแล้วจนรอด....ไทยก็ชนะเกาหลีใต้ที่นำโดยสุดยอดนักกีฬาอย่าง คุณคิม ยอนคยอง ได้สำเร็จ
ณ เวลาในตอนนั้นหัวใจของทุกคนตั้งแต่กองเชียร์หน้าจอจนไปถึงนักกีฬาสต๊าฟฟ์โค้ชแทบจะระเบิดออกมาด้วยความสุขต่อผลสำเร็จที่เกิดขึ้น
เราเองไม่ใช่นักกีฬายังสุขขนาดนี้
แล้วพวกเขาล่ะจะทะลักออกมาขนาดไหน
อย่าลืมนะว่า...คนกลุ่มนี้ถูกด่าเสียๆหายๆในโซเชียล ตั้งแต่ให้ลาออก ยันไล่ให้ไปตาย แต่พวกเขาไม่เคยออกมาตอบโต้ แต่เลือกที่จะซ้อมซ้อมซ้อม ยืนอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว กอดกัน แปะมือกัน ส่งกำลังใจให้กันเอง โดยหวังเพียงว่าผลงานที่เกิดขึ้นจะสามารถทำให้คำต่อว่าด่าทอกลายเป็นดอกไม้ได้
มาถึงตรงนี้...ทีมไทยได้เหรียญเงิน ผมคงไม่เขียนถึงผลที่ไทยแพ้จีน เพราะถ้าใครดูก็จะรู้ว่าพี่จีนเขาโหดเหี้ยมดุดันแค่ไหน แต่สำหรับผมแล้วการที่ทีมไทยเดินทางมาถึงตรงนี้ได้ถือว่านี่คือกำไรของความทุ่มเทแล้วละ
จากนี้เส้นทางของทีมนี้ยังต้องเดินต่อไป ยังมีอะไรให้เราได้ติดตามมากมาย อีกทั้งพวกเราเองก็ยังมีอะไรให้ต้องทำอีกเยอะ ก่อนที่จะมาเจอกันอีกครั้งในรายการเอวีซีคัพที่โคราช (16-23 กันยายน) ใครยังไม่ซื้อบัตรก็รีบไปซื้อนะครับ ได้ข่าวว่ายังมีอยู่นะ
ด้วยรักที่เสมอมาและเสมอไปครับ
เอก ประวิตร
ภาพพี่เอ๊ดดี้
ที่มา:
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1674503695995381&id=308274545951643
#เปลี่ยนคำด่าทอเป็นดอกไม้
ก่อนออกเดินทางไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ของทัพวอลเลย์บอลสาวไทย มีเรื่องที่ถูกพูดถึงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายของการแข่งขัน ผลงานที่เกิดขึ้นก่อนหน้า รวมไปถึงการประกาศลามหกรรมกีฬาระดับเอเชียของนักกีฬารุ่นใหญ่ภายในทีม
ทุกเรื่องเป็นประเด็นที่ถูกโยงเข้าหากันไปได้ทั้งหมด เมื่อโค้ชหรือนักกีฬาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆว่าจะเอาเหรียญเอเชียนเกมส์มาครองให้ได้ แต่ก็ถูกกระแสโซเชียลนำผลงานที่เกิดขึ้นในรายการเนชั่นส์ลีกหลังจากทีมไทยแพ้ติดต่อกันถึง 9 นัดติดต่อกันมาตัดทอนความหวังลง
แน่นอน....สิ่งเดียวที่จะทำให้คนดูกลับมาเชื่อมั่นได้อีกครั้งนั้นคือ"ผลงาน"เท่านั้น
จะทำผลงานให้เกิดขึ้นได้อย่างไร...หากไม่มีผู้นำทัพไปออกศึก
หลังจากการแข่งขันเนชั่นส์ลีกสิ้นสุดลง มีเสียงร้องจำนวนมากที่ขอให้"โค้ชด่วน" รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าก่อนออกแข่งขันรายการนี้โค้ชด่วนจะบอกถึงเป้าหมายแล้วว่าจะขอใช้เกมต่างๆในเนชั่นส์ลีกทดสอบรูปแบบ และ ตัวนักกีฬา
แต่ถึงกระนั้นก็ต้องเข้าใจคนดูทั่วไปด้วยว่า ปีที่แล้วคุณพาทีมทุบบราซิล,อิตาลี,ตุรกีได้ ทำไมปีนี้ถึงต่างกันราวฟ้ากับเหว
หนังสือขอลาออกของโค้ชด่วนถูกส่งไปยังสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย แต่ก็ถูกตีกลับ เพราะตั้งแต่ผู้บริหารจนไปถึงนักกีฬา ทุกคนยังมั่นใจในการทำทีมของโค้ชด่วน และ ไม่มีอะไรแคลงใจในการทำหน้าที่
เรื่องนี้ยังไม่เคยถูกเผยแพร่ออกไป...แต่ทุกคนในทีมต่างรู้ดีว่าโค้ชกำลังทำอะไรอยู่ และ เพื่ออะไร
จากนั้นการซ้อมของทีมไทยกลับเข้าสู่ระบบอีกครั้ง และ ในระหว่างนั้นสัญญาที่เคยทำร่วมกับเมืองคาโนย่าก็ถึงเวลาเริ่มดำเนินการ
ทีมไทยเดินทางไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่น ทดสอบระบบด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเพิ่มตามที่เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยคาโนย่าได้วางแผนเอาไว้ อีกทั้งทีมโค้ชยังได้ทำข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับการเสิร์ฟไปพร้อมๆกัน
เมื่อการวัดร่างกายเสร็จสิ้น....เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าค่าสถิติข้อมูลของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยหลายคนมีคุณภาพร่างกายดีที่สุดที่เครื่องมือของทีมงานคาโนย่าเคยวัดผลได้!!! ( จะมาขยายความเพิ่มในโอกาสต่อไป )
ขณะที่ปัญหาการเสิร์ฟบอลของนักกีฬาหลายคนที่มีความเร็วต่ำเพียงแค่ 50กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ถูกโค้ชนำมาปรับปรุงทันทีหลังจากที่กลับถึงไทย
เมื่อทุกอย่างอยู่ในความพร้อมที่เหมาะสม การเดินทางของทีมวอลเลย์บอลสาวไทยในเอเชียนเกมส์ก็เริ่มขึ้นไปพร้อมๆกับเป้าหมายเดียวกันคือต้องคว้าเหรียญให้ได้!!!
ก้าวแรกของทีมวอลเลย์บอลชุดนี้ในเอเชียนเกมส์ก็ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับวงการ และ ประเทศตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม เมื่อ"นิ้งหน่อง"ปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันของทีมชาติไทย ได้เป็นผู้เชิญธงชาตินำเหล่านักกีฬาของไทยเดินเข้าเสนายันสเตเดี้ยมในพิธีเปิดการแข่งขัน และ เป็นการย้ำเข้าไปในความทรงจำที่ดีของเธอว่านี่คือครั้งสุดท้ายที่มีความสุขที่สุดในการเล่นเอเชียนเกมส์ร่วมกับกลุ่มนักกีฬายุคบุกเบิกอีก 4 คนอย่าง นุศรา ต้อมคำ,วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์,มลิกา กันทอง,อรอุมา สิทธิรักษ์ ที่ให้สัมภาษณ์ไปทางเดียวกันว่านี่คือเอเชียนเกมส์ครั้งสุดท้ายของพวกเธอ
มาถึงตรงนี้แล้ว...หลายคนคงจะบ่นว่าเมื่อไรจะเข้าเรื่องสักที (ฮ่าๆ)
ในแง่ของผลงานการแข่งขันนั้นทีมไทยรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี (ส่วนนี้ผมเอาเกมที่ชนะญี่ปุ่นเป็นเกณฑ์) ถึงจะมีหลุดแต่ก็กลับมาได้ไว ที่สำคัญคือส่วนผสมความเป็นทีมเดียวกันมีสูงมากๆ
การบาดเจ็บระหว่างเกมของ ชัชชุอร โมกศรี ที่เป็นปัญหาใหญ่ และ ร่างกายที่ไม่เต็มร้อยของ อัจฉราพร คงยศ เป็นโจทย์ที่ยากในการแก้ แต่แล้วการทดแทนตำแหน่งกันและกันของทีมนี้ก็ทำให้เห็นว่าทุกคนพร้อมจะลงสนามได้
โค้ชด่วนจับตรงนี้ไปใส่ เก็บคนนี้ไว้ให้พร้อม ขยับคนนั้นมาแทนตรงนี้ มันแสดงออกให้เห็นแล้วว่าโค้ชรู้จักศักยภาพของนักกีฬาแต่ละคนได้มากน้อยแค่ไหน
จนแล้วจนรอด....ไทยก็ชนะเกาหลีใต้ที่นำโดยสุดยอดนักกีฬาอย่าง คุณคิม ยอนคยอง ได้สำเร็จ
ณ เวลาในตอนนั้นหัวใจของทุกคนตั้งแต่กองเชียร์หน้าจอจนไปถึงนักกีฬาสต๊าฟฟ์โค้ชแทบจะระเบิดออกมาด้วยความสุขต่อผลสำเร็จที่เกิดขึ้น
เราเองไม่ใช่นักกีฬายังสุขขนาดนี้
แล้วพวกเขาล่ะจะทะลักออกมาขนาดไหน
อย่าลืมนะว่า...คนกลุ่มนี้ถูกด่าเสียๆหายๆในโซเชียล ตั้งแต่ให้ลาออก ยันไล่ให้ไปตาย แต่พวกเขาไม่เคยออกมาตอบโต้ แต่เลือกที่จะซ้อมซ้อมซ้อม ยืนอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว กอดกัน แปะมือกัน ส่งกำลังใจให้กันเอง โดยหวังเพียงว่าผลงานที่เกิดขึ้นจะสามารถทำให้คำต่อว่าด่าทอกลายเป็นดอกไม้ได้
มาถึงตรงนี้...ทีมไทยได้เหรียญเงิน ผมคงไม่เขียนถึงผลที่ไทยแพ้จีน เพราะถ้าใครดูก็จะรู้ว่าพี่จีนเขาโหดเหี้ยมดุดันแค่ไหน แต่สำหรับผมแล้วการที่ทีมไทยเดินทางมาถึงตรงนี้ได้ถือว่านี่คือกำไรของความทุ่มเทแล้วละ
จากนี้เส้นทางของทีมนี้ยังต้องเดินต่อไป ยังมีอะไรให้เราได้ติดตามมากมาย อีกทั้งพวกเราเองก็ยังมีอะไรให้ต้องทำอีกเยอะ ก่อนที่จะมาเจอกันอีกครั้งในรายการเอวีซีคัพที่โคราช (16-23 กันยายน) ใครยังไม่ซื้อบัตรก็รีบไปซื้อนะครับ ได้ข่าวว่ายังมีอยู่นะ
ด้วยรักที่เสมอมาและเสมอไปครับ
เอก ประวิตร
ภาพพี่เอ๊ดดี้
ที่มา:https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1674503695995381&id=308274545951643