ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่านมานะที่นี้..เอาซะเป็นทางการกันเลยทีเดียวเชียว 😄
จขกท.เชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่านคงจะเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการแอบรักใครสักคนกันมาบ้างแล้ว ทั้งที่เราไปแอบรักเขาหรือเขามาแอบรักเรา ส่วนตัวจขกท.คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันเป็นเรื่องธรรมดา
ปกติเวลาที่มีคนมาแอบชอบเราเนี่ย มันก็มีทั้งที่เรารู้และไม่รู้ตัว แต่ส่วนใหญ่จขกท.จะรู้นะ..(มโนว่าตัวเองสวยยย 5555555) เพราะเวลาที่เราแอบชอบใครเราจะพยายามทำตัวปกติซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ปกติเอาซะเลย(อย่างน้อยคือ ใจ เนี่ยแหละ..โดยเฉพาะอิฮั่นเอง 😄)
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน..
ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว หลังเรียนจบม.6 จขกท.ก็แอดติดที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก(แถวๆเขาสามมุข) ซึ่งต้องบอกตรงๆก่อนว่าจขกท.ไม่ได้อยากมาเรียนที่นี่สักเท่าไหร่ เพราะมันไกลจากจังหวัดบ้านเกิดมาก แต่ในเมื่อมันติดแล้วก็ต้องมา
ช่วงแรกที่ม.จะมีกิจกรรมรับน้องซึ่งน้องปี1ทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรม(แกมบังคับ)..บอกตรงๆว่าจขกท.ไม่ชอบเอาซะเลยเพราะมันไม่สร้างสรรค์ เหมือนมาให้รุ่นพี่ด่าๆๆ ว๊ากๆๆ แล้วก็ปล่อยกลับ เพื่อ!? ยิ่งเรามาไกลบ้านขนาดนี้ เหงาก็เหงา ต้องปรับตัวแล้วยังต้องมาเจอเรื่องอะไรพวกนี้อีก..อิฮั่นล่ะเพลียจิต..
ด้วยที่เราต้องมาประชุมกันทุกวันในตอนเย็นเป็นเดือนๆ ทำให้เราได้เจอเพื่อน(ซึ่งอาจเป็นข้อดี..แต่ก็เจอกันตอนเรียนอยู่แล้วป่าวว่ะ 😄) จขกท.เรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ซึ่งมีหลายสาขาและสาขาที่เรียนอยู่เนี่ยมันมีนิสิตอยู่เยอะมากกก ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ เลยต้องเป็นนิสิตออกเป็นsectionต่างๆ ปกติเวลาไปเรียนเราก็ได้เจอเพื่อนเฉพาะแค่secตัวเอง พอไปประชุมก็ได้เจอเพื่อนคนอื่นๆ
บุคลิกส่วนตัวของจขกท.คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นคนนิ่งๆ หน้าเฉยๆ เย็นชา ไม่ค่อยพูด คือเราจะเป็นแบบนี้กับคนที่ไม่รู้จักหรือไม่สนิทด้วยไง(เชื่อว่าหลายๆคนก็เป็นนะ..ก็มันไม่รู้จะพูดอะไรนี่ คิดไปเองทั้งนั้น..ปัดโธ่!!) แต่ถ้าเป็นเพื่อนที่รู้จักและสนิทกับเราล่ะก็นะ 😄พวกมันจะรู้ดีและบอกคนอื่นว่า ไอ้บุคลิกที่ดู keep cool พวกนั้นน่ะ มันก็แค่เก๊ก 5555555 แต่คนอื่นเขาก็ไม่เชื่อหรอก..
จขกท.มีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งเป็นผู้หญิง ขอเรียกแทนมันว่า พี แล้วกัน หน้าน่ารัก บุคลิกมันจะดูออกทอมๆหน่อย ทั้งท่าทาง คำพูดและการแต่งตัวยันทรงผม ก็เลยจะชอบมีผู้หญิงเข้ามาจีบมันอยู่บ่อยๆ แต่จริงๆแล้วมันชอบผู้ชายเว้ยยย.. แต่แค่บุคลิกมันเป็นแบบนั้นเฉยๆ มันเลยได้มาบ่นให้เราฟังอยู่บ่อยๆ บางครั้งเราก็ต้องช่วยมันแก้ปัญหาเพราะผู้หญิงบางคนก็รุกหนักมากกก.. บางทีมันต้องหนีมานอนที่หอเราเพราะมีผู้หญิงบางคนถึงขนาดไปหามันที่หอเลยก็มี
เราทั้งคู่เข้าขากันดี เลยทำให้เราสนิทกันมากเป็นพิเศษ แบบว่าไปไหนไปกัน เพราะว่าจขกท.ก็ไม่ใช่ผู้หญิงแบบหญิ๊งหญิงน่ะ เป็นประเภทลุยๆแบบแมนๆซะมากกว่า เราก็เลยชอบอะไรเหมือนๆกัน สนิทถึงขนาดกอด เดินจับมือหรือเล่นหอมแก้มกันได้(สำหรับพวกเรามองว่ามันไม่แปลก..ก็ไม่แปลกนะ ผู้ชายกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันยังแกล้งจุ๊ปกันเลย) และเพื่อช่วยมันจากผู้หญิง เราก็เลยมีคำที่ใช้เรียกแทนกัน มันเรียกเราว่า "ที่รัก" ซึ่งเราไม่เห็นด้วย แต่มันจะเรียกซะให้ได้ (ประเด็นคือตรูกลัวคนอื่นที่มาชอบแกมันดักตบ 5555555) ส่วนจขกท.จะเรียกมันว่า"ตัวเอง" ซึ่งก็เรียกมาตั้งแต่แรกเพราะมันบอกว่าชื่อเล่นของมันหวานเกินไปเลยไม่ให้เรียก..แต่ชื่อแกมันก็หวานจริงๆอ่ะแหละ 😄
แล้วก็มีอยู่วันนึง รุ่นพี่ก็นัดประชุมเหมือนอย่างทุกวันระหว่างที่เรากำลังรอเพื่อนคนอื่นมาให้ครบ จขกท.ก็นั่งเม้าท์มอยอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิทประมาณ 4-5 คน ไม่รู้คุยอะไรจำไม่ได้แต่หัวเราะกันทุก 2 นาที(ส่วนใหญ่เพ้อเจ้อ ไร้สาระ 55555) และในตอนที่เรากำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานมันก็มีเสียงหัวเราะเสียงนึงดังแทรกเข้ามา ซึ่งเรารู้ว่ามันไม่ใช่เสียงของเพื่อนในกลุ่มแน่ๆ(เพราะถ้าเป็นเสียงเพื่อนเราเราจะจำได้ดี) จขกท.กับเพื่อนก็หยุดหัวเราะและหันไปมองตามที่มาของเสียงพร้อมกันโดยอัตโนมัติ.. และพวกเราก็ได้รู้ว่าเสียงหัวเราะเสียงนั้นมันมาจากเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ขอเรียกแทนมันว่า ซี ก็แล้วกัน ซี คือเพื่อนในสาขาเดียวกันแต่อยู่กันคนละsec.. พอพวกเราหันไปมอง ซี ก็กลั้นขำเอามือปิดปาก ไอ้พีมันเลยพูดว่า "ขำพวกเราเหรอ?"
"ใช่..แอบฟังอยู่ สนุกดี"
"นั่นไง! ที่รัก" ไอ้พีมันว่า "คนอื่นเขามองเราเป็นตัวตลกเพราะที่รักเลยเห็นม่ะ"
เราเลยว่า "อ้าว..ช่วยไม่ได้ คนหน้าตาดีมักจะคารมดีเสมอ"
พูดจบได้ยินเสียงดัง โหยยยยย.. เลยได้ฮาอีกดอก
ซีพูดต่อว่า "เราแอบฟังมาหลายวันแล้ว พวกเธอฮาดี เราแอบหัวเราะด้วย.. ไม่คิดว่าจ.จะเป็นคนตลก เห็นนิ่งๆ"
(เอาเป็นว่า จ.คือแทนชื่อของ จขกท.ละกันนะคะคุณผู้ฟัง)..
"มันเก๊ก!" ไอ้พีว่า
"ใครเก๊ก? เค้าเรียก keep look เว้ย.. พูดมากเดี๋ยวจะโดน" เราพูดแล้วชี้หน้าไอ้พี
"ดุยังกะ.." ไอ้พีพูดยังไม่ทันจบแต่เราเอามือตบปากมัน
"เป็นแฟนกันเหรอ จ.กับพี น่ะ?" ซีถามต่อ
"ใช่..กะว่าจบแล้วจะแต่งเลย.. ใช่ไหม๊จ้ะที่รัก" ไอ้พีว่า
"เอาดีๆ" ซีถามต่อ
"เปล่า.. ทำไมคิดงั้น?" เราถามซี
"ก็ใครๆเขาก็ว่ามางั้น" ซีตอบ
"ถุ้ยยย..ทุเรศ" เราว่า
หลังจากวันนั้นพวกเราเลยชวนซีมาร่วมเม้าท์มอยด้วย ทุกครั้งที่เรามาประชุมนอกจากกลุ่มเราแล้วก็จะมีซีอยู่ด้วยเสมอ แต่ส่วนใหญ่ซีจะนั่งฟังและขำตามมากกว่า ไม่ค่อยจะพูดสักเท่าไหร่..
ฤดูกาลแห่งเวลารับน้องผ่านไปแล้ว พวกเราก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเต็มที่ เหรอ!? 55555555 ยังก่อน..
ที่ม.นิสิตปี 1 ต้องเลือกชมรมตามความสนใจ อิฮั่นก็ลงไปทั้งหมดถึง 6 ชมรม แค่ชมรมทางศาสนาเนี่ยก็ปาไป 3 ชมรมแล้ว ทั้ง พุทธ คริสต์(คอทอลิก,โปรเตสแตนต์) หาลงอิสลามแต่หาไม่เจอ 😄 ถามว่าทำไมต้องลงเยอะ.. คำตอบเดียวคือ แค่อยากรู้และเข้าใจผู้คนให้มากขึ้นผ่านความแตกต่างทางความเชื่อและศาสนา(แหม่..ช่างฟังดูดี 5555555)
นอกเรื่องไปเยอะ.. ต่อๆ
พอผ่านไปได้แล้ว 1 เทอมที่ม.แห่งนี้ เกรดก็ D สุดยอด.. ไอ้พีก็ยังคงมีผญ.มาจีบอยู่ขาดสาย และก็ยังคงมีเพื่อนที่เข้าใจผิดว่าเรากับซีเป็นแฟนกัน 555
วันนึงเราเลิกเรียนแล้วกำลังจะเดินไปหาอะไรกินต่อก็เจอกับซีพอดี(คือหลังจากที่ไม่มีประชุมรับน้องแล้ว เราก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะอยู่กันคนละsec)
"จะกลับแล้วเหรอจ.?"
"อ่าหะ..ว่าจะไปหาอะไรกินก่อน เรียนเสร็จยัง?" เราถาม
"เสร็จแล้ว.. ไปกินข้าวด้วยกันป่าว? มันมีร้านบะหมี่เป็ดอยู่ตรงนะ อร่อยมาก" ซีว่า
เราก็ตอบตกลงว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน ซึ่งเราเคยไปกินข้าวด้วยกันหลายครั้งแต่ไปเป็นกลุ่ม นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ไปกันสองคน..ระหว่างที่เรากำลังกินบะหมี่ เราก็กินไปคุยไปด้วยหลายเรื่อง ส่วนใหญ่ก็พูดเรื่องจังหวัดของตัวเองว่ามีอะไรบ้าง ซีเป็นคนเหนือส่วนจขกท.เป็นลูกอีสาน แล้วซีก็พูดขึ้นมาว่า
"ทีแรกเราคิดจริงๆนะว่า จ.กับพีเป็นแฟนกัน"
"แล้วตอนนี้ล่ะ ยังคิดอยู่ป่ะ?" เราถาม
"ไม่อ่ะ..รู้แล้วว่าไม่ใช่ สบายใจ แล้วสรุปจ.ชอบผญ.หรือผช.?"
"ชายดิ..เราเป็นผญ.นะ" เราตอบ
"โอเค.."
หลังจากนั้นเราก็ไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆเพราะหอเราอยู่ใกล้กัน มีไปดูหนังบ้างก็นานๆครั้ง.. มีอยู่ครั้งหนึ่งเราเคยถามซีว่า "เวลาอยู่กับเราทำไมพูดเก่งจัง..ทีต่อหน้าเพื่อนไม่เห็นพูดมีแต่หัวเราะ?" ซีตอบกลับมาแค่ว่า "ก็ไม่รู้จะพูดอะไร.."
มีวันนึงsecเราเลิกเร็วกลุ่มเราเลยชวนกันไปกินข้าว พอเดินไปก็เจอเข้ากับกลุ่มของซีพอดี.. เราก็ทักทายกันปกติ
"ไง.. มีเรียนบ่ายเหรอ?" เราถาม เพื่อนกลุ่มนั้นก็ตอบว่าใช่ "งั้นโชคดีนะ" พอเราพูดจบ.. ซีก็เดินเข้ามากอดเราแน่นๆทีนึงแล้วเดินจากไป.. (ตอนนั้นจขกท.ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ ก็เพื่อนกันกอดกันปกติ)
ระหว่างที่เราเดินไปร้านข้าวกันไอ้พีมันก็พูดขึ้นมาว่า
"กอดเลยเหรอว่ะ?"
"ทำไมล่ะ? ก็เพื่อนกันทำไมกอดไม่ได้" เราตอบ
"นอกใจเค้าเหรอที่รัก.."
"อะไร.. มันแปลกเหรอว่ะ สนิทกันก็ทักทายกันไง เค้ากับตัวเองยังกอดกันเลย"
"ป่าว.. มันไม่แปลกหรอก" ไอ้พีว่า "แต่มันแปลกตรงซีมันกอดแค่ที่รักคนเดียวนี่แหละ.." มันพูดทิ้งประโยคนี้ไว้แล้วเราก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้กันอีก
และในทุกครั้งหลังจากนั้น เวลาที่จขกท.และซีเจอกัน ซีก็จะมากอดจขกท.เสมอ และไอ้พีกับเพื่อนๆมันก็จะแซวทุกครั้ง
.. แล้ววันนึงซีก็โทรมาชวนไปสวนสาธารณะ ไปให้อาหารปลา เราก็ตกลงไปกับซี เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 5 โมงเย็นยันสองทุ่ม คุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งจขกท.พูดขึ้นมาว่า
"เพื่อนมันฝากมาถามว่าทำไมซีไม่กอดพวกมันบ้าง มันน้อยใจ 555"
"ไม่เอาเขิน.. รู้ป่ะว่าเกิดมาเราไปเคยกอดใครเลยนะ ยกเว้นแม่"
"เรานี่กอดไปทั่วแหละ ยิ่งผู้หญิงนี่ยิ่งกอดไปทั่วเลย 555"
"ถึงว่า.."
"แล้วจ.จะเรียนที่นี่จนจบปีสี่เลยป่ะ?" ซีถาม
"ไม่.. เรากะจะแอดใหม่ อยากกลับบ้าน ซีไม่อยากกลับมั่งเหรอ?"
"ก็อยากแต่กลัวไม่ติดอ่ะดิ" ซีว่า "ถ้าติดจ.จะกลับรึเปล่า?"
"กลับดิ.. แต่คงไม่ติดหรอก คณะที่อยากเข้าคะแนนมันสูง"
หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับหอ
เทอมที่สองผ่านไป.. เกรดก็ยังคงมี D บ้าง 5555555
จนกระทั่งวันที่จขกท.รู้ว่าเราแอดติดที่ม.บ้านเกิดจริงๆ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากรู้ว่าติดจขกท.มีเวลาไม่กี่วันในการทำเรื่องลาออกและเก็บของกลับบ้านเพราะต้องไปรายงานตัว ซึ่งตอนนั้นอยู่ในช่วงเรียนซัมเมอร์ เพื่อนๆก็อยู่กันไม่ครบ จขกท.เลยได้ลาเพื่อนๆทางเฟสบุ๊คแทน
หลังจากกลับมา ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี เพื่อนที่ม.เก่าก็มีทักมาว่าคิดถึงบ้าง อยากมาหาบ้าง โดยเฉพาะไอ้พีนี่ถึงขนาดfacetimeมาเกือบทุกวัน.. แต่มันก็มีอยู่คนนึงที่อ่านข้อความของเราแล้วเขาไม่ยอมตอบ จะทักไปกี่ครั้งก็ไม่ยอมตอบเลยคือซี โทรไปหาแล้วก็ไม่รับ จนเราคิดว่าเขาคงยุ่ง.. จนกระทั่งไอ้พีมันทักมาว่า "เห็นที่ซีโพสป่ะ? หมายถึงใครว่ะ?" จขกท.เลยเข้าไปดู ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อความประโยคสั้นๆ โพสต่อๆกันประมาณว่า "การจากที่ไม่มีการลาและเตรียมตัวมันโคตรเจ็บปวดเลยว่ะ" "ทำไมต้องเป็นแกว่ะ ยังไม่ทันได้เตรียมใจ"
เราก็เลยบอกไอ้พีว่าสงสัยญาติหรือไม่ก็หมามันตายมั้ง 555555 แต่ไอ้พีว่า"มันพูดถึงที่รักรึเปล่า.."
ผ่านไปหนึ่งเทอมกับม.แห่งใหม่ เกรดปีนี้ A ดีมาก 5555555 วันนึงในช่วงปิดเทอม จขกท.เลยทักไปหาเพื่อนที่ม.เก่าหลังจากห่างหายไปสักพักใหญ่.. ทุกคนก็ยังเหมือนเดิม 😄 ตอนนั้นก็เลยทักไปหาซีด้วย ซีอ่านทันทีนะแต่ก็ยังไม่ตอบ จนผ่านไปหลายชม. จำได้ว่าส่งตั้งแต่ 3 ทุ่ม แต่ซีมาตอบประมาณตี 1
"ว่าไงเฟรชชี่.." ซีตอบกลับมา
"สบายดี ซีล่ะเป็นไงมั่ง"
"สบายมั้ง 555"
"โอเค.. ทักไปหลายทีไม่ยอมตอบเราเลย"
ซีเงียบไปสักพัก.. ก่อนจะตอบกลับมาว่า
"ขอเวลาทำใจหน่อยดิว่ะ"
"ทำใจเรื่อง?"
เงียบ..
"เรื่องแกไง"
"เรื่องเราเรื่องอะไร?"
เงียบ..
"นี่ไม่รู้จริงๆเหรอ จ.ว่า.." ซีตอบกลับมา "ว่าเราชอบจ."
จขกท.อึ้งไปสักพักก่อนถามกลับไปว่า
"ชอบแบบไหน? เพื่อนกัน?"
"ไม่ใช่ มันมากกว่านั้นมาก".. "รักน่ะ รัก รู้ตัวบ้างรึเปล่า"
บอกเลยว่าโคตรอึ้งอ่ะ เพราะตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่นี่ไม่เคยเจอกับตัวเองเลยสักที จขกท.เลยถามซีว่า "ไปชอบเราตั้งแต่ตอนไหน?"
"สารภาพเลยก็แล้วกัน" ซีพูดต่อ "ก็ตั้งแต่ที่เราเห็นจ.วันแรก ท่าทางแบบนั้น นิ่งๆแต่ตลก พูดให้คนอื่นหัวเราะได้แบบหน้านิ่งๆ มันมีเสน์มากสำหรับเรานะ ยิ่งเราได้คุยกับจ.แล้วเรายิ่งชอบจ.มากเลย สุดท้ายก็คือ รักแหละ จนมารู้ว่าจ.จะซิ่ว แต่ไม่คิดว่าซิ่วจริงๆ ใจหายวาบ.. พอจ.ไปมันก็ทั้งโกรธและเสียใจมากนะ นอนร้องไห้เลย ยิ่งเห็นทักมาก็ยิ่งร้อง เลยไม่อยากตอบไง เข้าใจยัง?"
จขกท.อ่านจบ.. สักพักก็เลยตอบไปว่า
"แต่เราบอกแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราชอบผช.นะ"
"เรารู้" ซีตอบกลับมา "แต่มันห้ามได้เหรอว่ะความรู้สึก" "เรารู้เราเลยทำได้แค่นั้นไง ที่เรากอด เราคุยน่ะ ไม่รู้สึกบ้างเหรอ"
"เพื่อนก็คือเพื่อนนะซี เราไม่ได้คิดอะไรก็คือไม่คิดอะไร" จขกท.ตอบไแ "เป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว หายงอนเราเหอะนะ"
ซีจะตอบกลับมาว่า "เพราะเราหายโกรธแล้วเลยตอบ แต่เราจะไม่ลืมจ.นะ"
ก่อนที่จขกท.จะตอบกลับไปว่า "เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองแหละ เพื่อน.." ซีอ่านแต่ไม่ตอบอีกครั้งในคืนนั้น
พอจขกท.เล่าเรื่องนี้ให้ไอ้พีฟัง มันพูดมาว่า"นั่นไง..ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ปกติ"
..จบ..
ประสบการณ์ "เพื่อนแอบรัก"
จขกท.เชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่านคงจะเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการแอบรักใครสักคนกันมาบ้างแล้ว ทั้งที่เราไปแอบรักเขาหรือเขามาแอบรักเรา ส่วนตัวจขกท.คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันเป็นเรื่องธรรมดา
ปกติเวลาที่มีคนมาแอบชอบเราเนี่ย มันก็มีทั้งที่เรารู้และไม่รู้ตัว แต่ส่วนใหญ่จขกท.จะรู้นะ..(มโนว่าตัวเองสวยยย 5555555) เพราะเวลาที่เราแอบชอบใครเราจะพยายามทำตัวปกติซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ปกติเอาซะเลย(อย่างน้อยคือ ใจ เนี่ยแหละ..โดยเฉพาะอิฮั่นเอง 😄)
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน..
ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว หลังเรียนจบม.6 จขกท.ก็แอดติดที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก(แถวๆเขาสามมุข) ซึ่งต้องบอกตรงๆก่อนว่าจขกท.ไม่ได้อยากมาเรียนที่นี่สักเท่าไหร่ เพราะมันไกลจากจังหวัดบ้านเกิดมาก แต่ในเมื่อมันติดแล้วก็ต้องมา
ช่วงแรกที่ม.จะมีกิจกรรมรับน้องซึ่งน้องปี1ทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรม(แกมบังคับ)..บอกตรงๆว่าจขกท.ไม่ชอบเอาซะเลยเพราะมันไม่สร้างสรรค์ เหมือนมาให้รุ่นพี่ด่าๆๆ ว๊ากๆๆ แล้วก็ปล่อยกลับ เพื่อ!? ยิ่งเรามาไกลบ้านขนาดนี้ เหงาก็เหงา ต้องปรับตัวแล้วยังต้องมาเจอเรื่องอะไรพวกนี้อีก..อิฮั่นล่ะเพลียจิต..
ด้วยที่เราต้องมาประชุมกันทุกวันในตอนเย็นเป็นเดือนๆ ทำให้เราได้เจอเพื่อน(ซึ่งอาจเป็นข้อดี..แต่ก็เจอกันตอนเรียนอยู่แล้วป่าวว่ะ 😄) จขกท.เรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ซึ่งมีหลายสาขาและสาขาที่เรียนอยู่เนี่ยมันมีนิสิตอยู่เยอะมากกก ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ เลยต้องเป็นนิสิตออกเป็นsectionต่างๆ ปกติเวลาไปเรียนเราก็ได้เจอเพื่อนเฉพาะแค่secตัวเอง พอไปประชุมก็ได้เจอเพื่อนคนอื่นๆ
บุคลิกส่วนตัวของจขกท.คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นคนนิ่งๆ หน้าเฉยๆ เย็นชา ไม่ค่อยพูด คือเราจะเป็นแบบนี้กับคนที่ไม่รู้จักหรือไม่สนิทด้วยไง(เชื่อว่าหลายๆคนก็เป็นนะ..ก็มันไม่รู้จะพูดอะไรนี่ คิดไปเองทั้งนั้น..ปัดโธ่!!) แต่ถ้าเป็นเพื่อนที่รู้จักและสนิทกับเราล่ะก็นะ 😄พวกมันจะรู้ดีและบอกคนอื่นว่า ไอ้บุคลิกที่ดู keep cool พวกนั้นน่ะ มันก็แค่เก๊ก 5555555 แต่คนอื่นเขาก็ไม่เชื่อหรอก..
จขกท.มีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งเป็นผู้หญิง ขอเรียกแทนมันว่า พี แล้วกัน หน้าน่ารัก บุคลิกมันจะดูออกทอมๆหน่อย ทั้งท่าทาง คำพูดและการแต่งตัวยันทรงผม ก็เลยจะชอบมีผู้หญิงเข้ามาจีบมันอยู่บ่อยๆ แต่จริงๆแล้วมันชอบผู้ชายเว้ยยย.. แต่แค่บุคลิกมันเป็นแบบนั้นเฉยๆ มันเลยได้มาบ่นให้เราฟังอยู่บ่อยๆ บางครั้งเราก็ต้องช่วยมันแก้ปัญหาเพราะผู้หญิงบางคนก็รุกหนักมากกก.. บางทีมันต้องหนีมานอนที่หอเราเพราะมีผู้หญิงบางคนถึงขนาดไปหามันที่หอเลยก็มี
เราทั้งคู่เข้าขากันดี เลยทำให้เราสนิทกันมากเป็นพิเศษ แบบว่าไปไหนไปกัน เพราะว่าจขกท.ก็ไม่ใช่ผู้หญิงแบบหญิ๊งหญิงน่ะ เป็นประเภทลุยๆแบบแมนๆซะมากกว่า เราก็เลยชอบอะไรเหมือนๆกัน สนิทถึงขนาดกอด เดินจับมือหรือเล่นหอมแก้มกันได้(สำหรับพวกเรามองว่ามันไม่แปลก..ก็ไม่แปลกนะ ผู้ชายกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันยังแกล้งจุ๊ปกันเลย) และเพื่อช่วยมันจากผู้หญิง เราก็เลยมีคำที่ใช้เรียกแทนกัน มันเรียกเราว่า "ที่รัก" ซึ่งเราไม่เห็นด้วย แต่มันจะเรียกซะให้ได้ (ประเด็นคือตรูกลัวคนอื่นที่มาชอบแกมันดักตบ 5555555) ส่วนจขกท.จะเรียกมันว่า"ตัวเอง" ซึ่งก็เรียกมาตั้งแต่แรกเพราะมันบอกว่าชื่อเล่นของมันหวานเกินไปเลยไม่ให้เรียก..แต่ชื่อแกมันก็หวานจริงๆอ่ะแหละ 😄
แล้วก็มีอยู่วันนึง รุ่นพี่ก็นัดประชุมเหมือนอย่างทุกวันระหว่างที่เรากำลังรอเพื่อนคนอื่นมาให้ครบ จขกท.ก็นั่งเม้าท์มอยอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิทประมาณ 4-5 คน ไม่รู้คุยอะไรจำไม่ได้แต่หัวเราะกันทุก 2 นาที(ส่วนใหญ่เพ้อเจ้อ ไร้สาระ 55555) และในตอนที่เรากำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานมันก็มีเสียงหัวเราะเสียงนึงดังแทรกเข้ามา ซึ่งเรารู้ว่ามันไม่ใช่เสียงของเพื่อนในกลุ่มแน่ๆ(เพราะถ้าเป็นเสียงเพื่อนเราเราจะจำได้ดี) จขกท.กับเพื่อนก็หยุดหัวเราะและหันไปมองตามที่มาของเสียงพร้อมกันโดยอัตโนมัติ.. และพวกเราก็ได้รู้ว่าเสียงหัวเราะเสียงนั้นมันมาจากเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ขอเรียกแทนมันว่า ซี ก็แล้วกัน ซี คือเพื่อนในสาขาเดียวกันแต่อยู่กันคนละsec.. พอพวกเราหันไปมอง ซี ก็กลั้นขำเอามือปิดปาก ไอ้พีมันเลยพูดว่า "ขำพวกเราเหรอ?"
"ใช่..แอบฟังอยู่ สนุกดี"
"นั่นไง! ที่รัก" ไอ้พีมันว่า "คนอื่นเขามองเราเป็นตัวตลกเพราะที่รักเลยเห็นม่ะ"
เราเลยว่า "อ้าว..ช่วยไม่ได้ คนหน้าตาดีมักจะคารมดีเสมอ"
พูดจบได้ยินเสียงดัง โหยยยยย.. เลยได้ฮาอีกดอก
ซีพูดต่อว่า "เราแอบฟังมาหลายวันแล้ว พวกเธอฮาดี เราแอบหัวเราะด้วย.. ไม่คิดว่าจ.จะเป็นคนตลก เห็นนิ่งๆ"
(เอาเป็นว่า จ.คือแทนชื่อของ จขกท.ละกันนะคะคุณผู้ฟัง)..
"มันเก๊ก!" ไอ้พีว่า
"ใครเก๊ก? เค้าเรียก keep look เว้ย.. พูดมากเดี๋ยวจะโดน" เราพูดแล้วชี้หน้าไอ้พี
"ดุยังกะ.." ไอ้พีพูดยังไม่ทันจบแต่เราเอามือตบปากมัน
"เป็นแฟนกันเหรอ จ.กับพี น่ะ?" ซีถามต่อ
"ใช่..กะว่าจบแล้วจะแต่งเลย.. ใช่ไหม๊จ้ะที่รัก" ไอ้พีว่า
"เอาดีๆ" ซีถามต่อ
"เปล่า.. ทำไมคิดงั้น?" เราถามซี
"ก็ใครๆเขาก็ว่ามางั้น" ซีตอบ
"ถุ้ยยย..ทุเรศ" เราว่า
หลังจากวันนั้นพวกเราเลยชวนซีมาร่วมเม้าท์มอยด้วย ทุกครั้งที่เรามาประชุมนอกจากกลุ่มเราแล้วก็จะมีซีอยู่ด้วยเสมอ แต่ส่วนใหญ่ซีจะนั่งฟังและขำตามมากกว่า ไม่ค่อยจะพูดสักเท่าไหร่..
ฤดูกาลแห่งเวลารับน้องผ่านไปแล้ว พวกเราก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเต็มที่ เหรอ!? 55555555 ยังก่อน..
ที่ม.นิสิตปี 1 ต้องเลือกชมรมตามความสนใจ อิฮั่นก็ลงไปทั้งหมดถึง 6 ชมรม แค่ชมรมทางศาสนาเนี่ยก็ปาไป 3 ชมรมแล้ว ทั้ง พุทธ คริสต์(คอทอลิก,โปรเตสแตนต์) หาลงอิสลามแต่หาไม่เจอ 😄 ถามว่าทำไมต้องลงเยอะ.. คำตอบเดียวคือ แค่อยากรู้และเข้าใจผู้คนให้มากขึ้นผ่านความแตกต่างทางความเชื่อและศาสนา(แหม่..ช่างฟังดูดี 5555555)
นอกเรื่องไปเยอะ.. ต่อๆ
พอผ่านไปได้แล้ว 1 เทอมที่ม.แห่งนี้ เกรดก็ D สุดยอด.. ไอ้พีก็ยังคงมีผญ.มาจีบอยู่ขาดสาย และก็ยังคงมีเพื่อนที่เข้าใจผิดว่าเรากับซีเป็นแฟนกัน 555
วันนึงเราเลิกเรียนแล้วกำลังจะเดินไปหาอะไรกินต่อก็เจอกับซีพอดี(คือหลังจากที่ไม่มีประชุมรับน้องแล้ว เราก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะอยู่กันคนละsec)
"จะกลับแล้วเหรอจ.?"
"อ่าหะ..ว่าจะไปหาอะไรกินก่อน เรียนเสร็จยัง?" เราถาม
"เสร็จแล้ว.. ไปกินข้าวด้วยกันป่าว? มันมีร้านบะหมี่เป็ดอยู่ตรงนะ อร่อยมาก" ซีว่า
เราก็ตอบตกลงว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน ซึ่งเราเคยไปกินข้าวด้วยกันหลายครั้งแต่ไปเป็นกลุ่ม นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ไปกันสองคน..ระหว่างที่เรากำลังกินบะหมี่ เราก็กินไปคุยไปด้วยหลายเรื่อง ส่วนใหญ่ก็พูดเรื่องจังหวัดของตัวเองว่ามีอะไรบ้าง ซีเป็นคนเหนือส่วนจขกท.เป็นลูกอีสาน แล้วซีก็พูดขึ้นมาว่า
"ทีแรกเราคิดจริงๆนะว่า จ.กับพีเป็นแฟนกัน"
"แล้วตอนนี้ล่ะ ยังคิดอยู่ป่ะ?" เราถาม
"ไม่อ่ะ..รู้แล้วว่าไม่ใช่ สบายใจ แล้วสรุปจ.ชอบผญ.หรือผช.?"
"ชายดิ..เราเป็นผญ.นะ" เราตอบ
"โอเค.."
หลังจากนั้นเราก็ไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆเพราะหอเราอยู่ใกล้กัน มีไปดูหนังบ้างก็นานๆครั้ง.. มีอยู่ครั้งหนึ่งเราเคยถามซีว่า "เวลาอยู่กับเราทำไมพูดเก่งจัง..ทีต่อหน้าเพื่อนไม่เห็นพูดมีแต่หัวเราะ?" ซีตอบกลับมาแค่ว่า "ก็ไม่รู้จะพูดอะไร.."
มีวันนึงsecเราเลิกเร็วกลุ่มเราเลยชวนกันไปกินข้าว พอเดินไปก็เจอเข้ากับกลุ่มของซีพอดี.. เราก็ทักทายกันปกติ
"ไง.. มีเรียนบ่ายเหรอ?" เราถาม เพื่อนกลุ่มนั้นก็ตอบว่าใช่ "งั้นโชคดีนะ" พอเราพูดจบ.. ซีก็เดินเข้ามากอดเราแน่นๆทีนึงแล้วเดินจากไป.. (ตอนนั้นจขกท.ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ ก็เพื่อนกันกอดกันปกติ)
ระหว่างที่เราเดินไปร้านข้าวกันไอ้พีมันก็พูดขึ้นมาว่า
"กอดเลยเหรอว่ะ?"
"ทำไมล่ะ? ก็เพื่อนกันทำไมกอดไม่ได้" เราตอบ
"นอกใจเค้าเหรอที่รัก.."
"อะไร.. มันแปลกเหรอว่ะ สนิทกันก็ทักทายกันไง เค้ากับตัวเองยังกอดกันเลย"
"ป่าว.. มันไม่แปลกหรอก" ไอ้พีว่า "แต่มันแปลกตรงซีมันกอดแค่ที่รักคนเดียวนี่แหละ.." มันพูดทิ้งประโยคนี้ไว้แล้วเราก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้กันอีก
และในทุกครั้งหลังจากนั้น เวลาที่จขกท.และซีเจอกัน ซีก็จะมากอดจขกท.เสมอ และไอ้พีกับเพื่อนๆมันก็จะแซวทุกครั้ง
.. แล้ววันนึงซีก็โทรมาชวนไปสวนสาธารณะ ไปให้อาหารปลา เราก็ตกลงไปกับซี เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 5 โมงเย็นยันสองทุ่ม คุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งจขกท.พูดขึ้นมาว่า
"เพื่อนมันฝากมาถามว่าทำไมซีไม่กอดพวกมันบ้าง มันน้อยใจ 555"
"ไม่เอาเขิน.. รู้ป่ะว่าเกิดมาเราไปเคยกอดใครเลยนะ ยกเว้นแม่"
"เรานี่กอดไปทั่วแหละ ยิ่งผู้หญิงนี่ยิ่งกอดไปทั่วเลย 555"
"ถึงว่า.."
"แล้วจ.จะเรียนที่นี่จนจบปีสี่เลยป่ะ?" ซีถาม
"ไม่.. เรากะจะแอดใหม่ อยากกลับบ้าน ซีไม่อยากกลับมั่งเหรอ?"
"ก็อยากแต่กลัวไม่ติดอ่ะดิ" ซีว่า "ถ้าติดจ.จะกลับรึเปล่า?"
"กลับดิ.. แต่คงไม่ติดหรอก คณะที่อยากเข้าคะแนนมันสูง"
หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับหอ
เทอมที่สองผ่านไป.. เกรดก็ยังคงมี D บ้าง 5555555
จนกระทั่งวันที่จขกท.รู้ว่าเราแอดติดที่ม.บ้านเกิดจริงๆ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากรู้ว่าติดจขกท.มีเวลาไม่กี่วันในการทำเรื่องลาออกและเก็บของกลับบ้านเพราะต้องไปรายงานตัว ซึ่งตอนนั้นอยู่ในช่วงเรียนซัมเมอร์ เพื่อนๆก็อยู่กันไม่ครบ จขกท.เลยได้ลาเพื่อนๆทางเฟสบุ๊คแทน
หลังจากกลับมา ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี เพื่อนที่ม.เก่าก็มีทักมาว่าคิดถึงบ้าง อยากมาหาบ้าง โดยเฉพาะไอ้พีนี่ถึงขนาดfacetimeมาเกือบทุกวัน.. แต่มันก็มีอยู่คนนึงที่อ่านข้อความของเราแล้วเขาไม่ยอมตอบ จะทักไปกี่ครั้งก็ไม่ยอมตอบเลยคือซี โทรไปหาแล้วก็ไม่รับ จนเราคิดว่าเขาคงยุ่ง.. จนกระทั่งไอ้พีมันทักมาว่า "เห็นที่ซีโพสป่ะ? หมายถึงใครว่ะ?" จขกท.เลยเข้าไปดู ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อความประโยคสั้นๆ โพสต่อๆกันประมาณว่า "การจากที่ไม่มีการลาและเตรียมตัวมันโคตรเจ็บปวดเลยว่ะ" "ทำไมต้องเป็นแกว่ะ ยังไม่ทันได้เตรียมใจ"
เราก็เลยบอกไอ้พีว่าสงสัยญาติหรือไม่ก็หมามันตายมั้ง 555555 แต่ไอ้พีว่า"มันพูดถึงที่รักรึเปล่า.."
ผ่านไปหนึ่งเทอมกับม.แห่งใหม่ เกรดปีนี้ A ดีมาก 5555555 วันนึงในช่วงปิดเทอม จขกท.เลยทักไปหาเพื่อนที่ม.เก่าหลังจากห่างหายไปสักพักใหญ่.. ทุกคนก็ยังเหมือนเดิม 😄 ตอนนั้นก็เลยทักไปหาซีด้วย ซีอ่านทันทีนะแต่ก็ยังไม่ตอบ จนผ่านไปหลายชม. จำได้ว่าส่งตั้งแต่ 3 ทุ่ม แต่ซีมาตอบประมาณตี 1
"ว่าไงเฟรชชี่.." ซีตอบกลับมา
"สบายดี ซีล่ะเป็นไงมั่ง"
"สบายมั้ง 555"
"โอเค.. ทักไปหลายทีไม่ยอมตอบเราเลย"
ซีเงียบไปสักพัก.. ก่อนจะตอบกลับมาว่า
"ขอเวลาทำใจหน่อยดิว่ะ"
"ทำใจเรื่อง?"
เงียบ..
"เรื่องแกไง"
"เรื่องเราเรื่องอะไร?"
เงียบ..
"นี่ไม่รู้จริงๆเหรอ จ.ว่า.." ซีตอบกลับมา "ว่าเราชอบจ."
จขกท.อึ้งไปสักพักก่อนถามกลับไปว่า
"ชอบแบบไหน? เพื่อนกัน?"
"ไม่ใช่ มันมากกว่านั้นมาก".. "รักน่ะ รัก รู้ตัวบ้างรึเปล่า"
บอกเลยว่าโคตรอึ้งอ่ะ เพราะตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่นี่ไม่เคยเจอกับตัวเองเลยสักที จขกท.เลยถามซีว่า "ไปชอบเราตั้งแต่ตอนไหน?"
"สารภาพเลยก็แล้วกัน" ซีพูดต่อ "ก็ตั้งแต่ที่เราเห็นจ.วันแรก ท่าทางแบบนั้น นิ่งๆแต่ตลก พูดให้คนอื่นหัวเราะได้แบบหน้านิ่งๆ มันมีเสน์มากสำหรับเรานะ ยิ่งเราได้คุยกับจ.แล้วเรายิ่งชอบจ.มากเลย สุดท้ายก็คือ รักแหละ จนมารู้ว่าจ.จะซิ่ว แต่ไม่คิดว่าซิ่วจริงๆ ใจหายวาบ.. พอจ.ไปมันก็ทั้งโกรธและเสียใจมากนะ นอนร้องไห้เลย ยิ่งเห็นทักมาก็ยิ่งร้อง เลยไม่อยากตอบไง เข้าใจยัง?"
จขกท.อ่านจบ.. สักพักก็เลยตอบไปว่า
"แต่เราบอกแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราชอบผช.นะ"
"เรารู้" ซีตอบกลับมา "แต่มันห้ามได้เหรอว่ะความรู้สึก" "เรารู้เราเลยทำได้แค่นั้นไง ที่เรากอด เราคุยน่ะ ไม่รู้สึกบ้างเหรอ"
"เพื่อนก็คือเพื่อนนะซี เราไม่ได้คิดอะไรก็คือไม่คิดอะไร" จขกท.ตอบไแ "เป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว หายงอนเราเหอะนะ"
ซีจะตอบกลับมาว่า "เพราะเราหายโกรธแล้วเลยตอบ แต่เราจะไม่ลืมจ.นะ"
ก่อนที่จขกท.จะตอบกลับไปว่า "เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองแหละ เพื่อน.." ซีอ่านแต่ไม่ตอบอีกครั้งในคืนนั้น
พอจขกท.เล่าเรื่องนี้ให้ไอ้พีฟัง มันพูดมาว่า"นั่นไง..ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ปกติ"
..จบ..