สวัสดีค่ะ เราชื่อเล็กนะค่ะ วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีให้ทุกคนได้อ่านกันเพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจศัลยกรรมนะคะ่ หวังว่ากระทู้นี้จะทำให้คนอ่านเพลินเพลินและได้แง่คิดมุมมองก่อนทำศํลยกรรมนะค่ะ


การเขียนในครั้งนี้
- จะไม่ขอเอ่ยชื่อคุณหมอ หรือ ชื่อเอเจนท์ นะค่ะ
-จะไม่ขอเอ่ยชื่อสถานพยาบาลทุกแห่งหรือทุกสถานที่ ที่ เล็กทำศัลยกรรมมานะคะ่
และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเข้าข่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือสนับสนุนให้ผู้อ่านเลือกวิธีการศัลยกรรมเป็นทางออกสุดท้ายของชีวิต
จุดประสงค์ในการเขียนครั้งนี้ ชัดเจน เพื่อแชร์ประสบการณ์ของตัวเองและตั้งใจมอบประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านทุกท่านนะค่ะ
จึงขอเรียนเจ้าหน้าที่ pantip ที่เกี่ยวข้องทุกท่านด้วยความเคารพมา ณ โอกาสนี้
ประสบการณ์ตรงจากชีวิตจริง by iamsmallgirl นะค่ะ
ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะค่ะ ว่า การศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีเป็นเงินของเราเองทุกบาททุกสตางค์ไม่ได้โฆษณาให้ใครทั้งสิ้นนะค่ะ แต่ต้องการแชร์ประสบการณ์ที่พลาดและไม่พลาดเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจและคิดให้ดีก่อนทำศัลยกรรมนะค่ะ เพียงแค่อยากสวยเท่านั้นเอง คนนู้นก้อสวย คนนี้ก้อสวย เราก้อเป็นอีกคนที่อยากสวย แต่สวยไม่รู้จักคำว่าจบและบวกกับความอยากสวยแบบคนอื่นเขาเลยทำให้มีความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเลยล่ะค่ะ
ก่อนจะตามไปดูเรื่องราวของเรา เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าค่ะ
เราชื่อเล็กนะค่ะ ตอนนี้อายุ 37 ปีนะค่ะ เด๋วให้ contact ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เผื่อมีข้อสงสัยอะไรก้อเข้ามาถามได้ค่ะ fb: iamsmallgirl iamsmallgirl มาเป็นเพื่อนในเฟสกันค่ะ
รูปที่เห็นกันตอนนี้เป็นรูปสมัย ก่อนเลยที่ทำจมุกกับหมอไทย เมื่อตอนอายุ 18 ปี แบบสวยสะพรึงกันเลยใช่มั้ยล่า ฮ่าๆๆๆ ดูกี่ทีก้อขำ

แทบจะเป็นวัยแรกรุ่นที่เริ่มก้าวมาทำศัลยกรรม 5555 สมัยนั้นเราจบ มอ หก ก้อเริ่มอยากสวยล่ะ เหมือนตัวเองมีปมด้อยในชีวิต แบบ จมุกก้อไม่มี ตาก้อตี่ อาหมวยเต้าหู้เลยล่ะคะ่ เลยทำจมูกและตา ตอนสมัยเรียนมหาลัยกับคุณหมอไทย และหลังจากที่เรียนจบ ตอนนั้นอายุน่าจะประมาน 22 ปี ก้ออยากสวยแบบอั้มแบบนุ่นเลยล่ะ เจอหมอกระเป๋าจร้าาา มาหลอกฉีดหน้า มาหลอกว่าเป็นคอลลาเจน สมัยนั้นไม่มีการหาข้อมูลใดๆทั้งสิ้น ด้วยความอยากสวยบังตาสุดๆ แบบไม่รู้เลยชีวิตกำลังก้าวสู่ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่


ตำแหน่งที่ฉีดซิลิโคนเหลวเข้าไปก้อทั้งหน้าเลยค่ะ คาง แก้ม หน้าผาก ซึ่งตอนทำใหม่ๆ ก้อสวยดีนะค่ะ แบบมันเต็มไปหมด แต่เราจะมีจุดพลาดคือฉีดหน้าผากแต่มันตกมาตาซ้ายเรา ตอนแรกตาปูดเลย ไม่ได้เก็บรูปไว้ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ตาเราสองข้างไม่เท่ากัน ในรูปอาจจะดูเหมือนเท่าเพราะเนื่องจาก มีกลายแต่งภาพบ้างอะไรบ้าง แต่โดยรวมก้อถือว่าไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากกกก
แต่....แต่....... พอเวลาผ่านไป สักพัก มีข่าวเรื่องคนโดนหลอกสารเหลว กันโคร้มคร่าม เราก้อเริ่มรู้ตัวล่ะว่าเราเป็นหนึ่งในนั้น ต้องบอกก่อนเลยนะค่ะ สมัยนั้นคนโดนหลอกเยอะมากกก แต่ไม่อยากโทษใคร ต้องโทษตัวเองแหล่ะ ที่อยากสวยจนหน้ามืดตามัว
และพอเรารู้ตัวล่ะว่าเราเป็นเหยื่อสารซิลิโคนเหลว เราก้อเริ่มตระเวนหาหมอแก้ เราพยายามจะหาหมอแก้ขูดออกให้ แต่ที่น่าเส้าคือ ไม่มีหมอคนไหนทำให้เลยค่ะ ได้แต่เพียงบอกว่า อย่าไปทำให้แตนตื่น ยิ่งแก้ยิ่งแย่ เห้ออ เค้าบอกให้เราปล่อยไปแบบนี้ ตอนแก่ก้อเป็นหินงอกหินย้อนไปทำไรไม่ได้ แบบ นึกออกกันไหมคะ่ ว่าผิวเราเหี่ยวลง แต่ซิลิโคนข้างในมันเกาะตัวแข็ง พอเห็นภาพ หินงอกหินย้อยกันแล้วใช่ไหมค่ะ
สุดท้าย ปัญหาก้อเริ่มเกิด ตาเริ่มจะหนักๆ และหน้าแข็งมาก เหมือนคนฉีดอะไรเข้าไปแล้วหน้าเป็นก้อนๆ ยิ่งเวลาน่าหนาว ยิ่งเห็นชัดมากเลยค่ะ และที่สำคัญ แต่งหน้ายากมากค่ะ ยิ่งแต่งยิ่งเห็นตาปูดอย่างชัดเจน


แต่ก้อทำไรไม่ได้ หาหมอขูดหน้าขูดตาไม่ได้ก้อทิ้งมันไปแบบนี้เรื่อยๆค่ะ เป็นเวลาจะสิบปี และแล้วเวลาแห่งการเข้าวงการศัลยกรรมเกาหลีก้อเริ่มมาล่ะ 555 โอ๊ยยย มาลุ้นกันค่ะ
เมื่อปี2015 รายการ let me in ดังๆที่ศัลยกรรมพลิกชีวิตเริ่มเข้ามาบูมๆ นั่นแหล่ะ ความหวังของฉันล่ะ แต่จะไปเกาหลีไปไงเริ่มยังไงทำไง โอ๊ยย สารพัดสิ่ง สุดท้ายมีคนแนะนำให้ไปติดต่อที่นี่นะ แบบนี้นะ อ้ะ เราก้อไป แบบลองไปดูก้อไม่เสียหายอะไรล่ะ เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก้อไม่มีอะไรจะเสีย คิดแบบนั้นเลยนะ
ก้อไปติดต่อ เอเจนท์นึง แต่เราไม่ขอเอ่ยชื่อนะค่ะ ไม่อยากเป็นการพาดพิงใดๆทั้งสิ้น ต้องการแค่แชร์ประสบการณ์จริงๆค่ะ เราก้อไปติดต่อเอเจนท์นั้นและก้อเผ้ารอคุณหมอบินมาconsult ที่ไทย พอเจอคุณหมอก้อบอกทำได้ หมอก้อบอกเราก้อต้องขูดทั้งหน้าเลยค่ะแต่จะทำที่ทำได้ หมดเป็นล้านเลย ตอนนั้นเริ่มจากขูดซิลิโคนที่ตา และหน้า แก้ม คาง สรุป เราต้องทำรายการดังนี้
1. ขูดซิลิโคนที่ตา และก้อดึงตา โดยใส่เหล็กหรืออะไรสักอย่าง เข้าไปเพื่อให้ตาขึ้นหลังจากที่ขูดซิลิโคน เพราะคุณหมอบอกเราเป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไปแล้ว
2. ทำโหนก และ v line เพราะ เมื่อทำการขูดออกเราจะต้องทำการแต่งพื้นที่หน้าไม่เช่นนั้นหน้าจะห้อย
สรุป รายการที่เราทำหลักๆ ตามนี้ ค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปทั้งหมด 1,000,000 กว่าบาท ค่ะ
ก่อนทำเราก้อถามนะค่ะ ว่าหลังการผ่าตัดหน้าจะเป็นคลื่นๆไหม หน้าเราจะเสียโฉมไหม หน้าเราจะเรียบไหม เขาตอบมาว่าจะเหมือนรีวิวเลยล่ะ ที่เราเห็นในรูปศัลยกรรมที่เค้าทำการโฆษณา
โอ๊ยยยย ดีใจ สุดท้าย เราก้อหาคนแก้หน้าให้เราได้ ดีใจสิ วันๆทำไรล่ะค่ะ หาแต่รูปเกาหลี วาดฝันไปนู่นสิค่ะ 5555555




และสุดท้ายก้อมาถึงหกเดือน เจ็ดเดือน จนจะปี

เครียดมากกกกกกก รอหมอมาเมืองไทยเพื่อปรึกษา ว่าทำไมหน้าไม่หายสักที ทำไมมันยังชากระทุ้งแก้ม นู่นนี่นั่น ก้อถามไป หมอตอบสั้นๆว่า การขูดสารเหลวออกจากหน้า หน้าจะไม่เรียบแบบนี้ และหมอก้อปลอบใจเราด้วยคำพูดที่ว่า บางคนชอบหน้าแบบนี้มันสวยดี เห้อออ ก้อต้องทำใจไป เราเป็นเครสที่ยากเองไม่รุ้จะโทษใคร ต้องโทษตัวเองที่สมัยก่อนโง่ ไม่ศึกษาดีดีก่อนไปฉีดสารเหลว เพราะโทษอะไรใครไปก้อไม่มีประโยชน์ แค่ช่วงนั้นรู้สึกแย่เครียด และคิดผิดมหันต์ที่ตัดสินใจทำไป แล้วสุดท้ายออกมาเป็นแบบนี้ เสียเงิน เสียโฉม คือหน้ามันแปลกมากจริงๆ แบบเครียดจนอยากตายเลย แบบ แย่ เงินเก็บเราอีก โอ๊ย สารพัด เห่อออออ
สู้ต่อค่ะ หาที่ต่อไปค่ะ เพราะหน้าเรา ณ จุดนั้นมันไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ล่ะ ก้อบังเอิญเล่นเฟสบุ๊ค และไปเจอเอเจนท์อีกคนนึง ไม่ขอเอ่ยหรือพาดพิงนะค่ะ เลยติดต่อไปตอนกลางคืนเลยค่ะด้วยความใจร้อน เอเจนทืก้อตอบกลับมาคืนนั้นเลยค่ะ ก้อถามไปถามมา ก้อบอกแก้ได้อ้ะ เราก้อเหมือนมีความหวังในชีวิตอีกรอบ และก้อตัดสินใจไปทำกับเขาเลย และได้ตัดสินใจทำจมูกเพิ่มค่ะ โอนมัดจำอะไรไป เรียบร้อยเลยค่ะ
และแล้วก้อเดินทางไปเกาหลีอีกรอบค่ะ ในปี 2016 ไปแบบ ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ล่ะชีวิต ยังไงก้อต้องลองเสี่ยงแก้ดู สู้ๆๆๆๆ มาลุ้นกันต่อค่ะ ว่าจะออกมายังไง ขอต่อวันพรุ่งนี้นะค่ะ ง่วงจริงๆ มาลุ้นกันต่อนะคะ่
[CR] รีวิวจากประสบการ์ณจริงศัลยกรรมเกาหลี พัง! หรือ ปัง! อยู่ที่เลือกหมอนะค่ะ
การเขียนในครั้งนี้
- จะไม่ขอเอ่ยชื่อคุณหมอ หรือ ชื่อเอเจนท์ นะค่ะ
-จะไม่ขอเอ่ยชื่อสถานพยาบาลทุกแห่งหรือทุกสถานที่ ที่ เล็กทำศัลยกรรมมานะคะ่
และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเข้าข่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือสนับสนุนให้ผู้อ่านเลือกวิธีการศัลยกรรมเป็นทางออกสุดท้ายของชีวิต
จุดประสงค์ในการเขียนครั้งนี้ ชัดเจน เพื่อแชร์ประสบการณ์ของตัวเองและตั้งใจมอบประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านทุกท่านนะค่ะ
จึงขอเรียนเจ้าหน้าที่ pantip ที่เกี่ยวข้องทุกท่านด้วยความเคารพมา ณ โอกาสนี้
ประสบการณ์ตรงจากชีวิตจริง by iamsmallgirl นะค่ะ
ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะค่ะ ว่า การศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีเป็นเงินของเราเองทุกบาททุกสตางค์ไม่ได้โฆษณาให้ใครทั้งสิ้นนะค่ะ แต่ต้องการแชร์ประสบการณ์ที่พลาดและไม่พลาดเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจและคิดให้ดีก่อนทำศัลยกรรมนะค่ะ เพียงแค่อยากสวยเท่านั้นเอง คนนู้นก้อสวย คนนี้ก้อสวย เราก้อเป็นอีกคนที่อยากสวย แต่สวยไม่รู้จักคำว่าจบและบวกกับความอยากสวยแบบคนอื่นเขาเลยทำให้มีความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเลยล่ะค่ะ
ก่อนจะตามไปดูเรื่องราวของเรา เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าค่ะ
เราชื่อเล็กนะค่ะ ตอนนี้อายุ 37 ปีนะค่ะ เด๋วให้ contact ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เผื่อมีข้อสงสัยอะไรก้อเข้ามาถามได้ค่ะ fb: iamsmallgirl iamsmallgirl มาเป็นเพื่อนในเฟสกันค่ะ
รูปที่เห็นกันตอนนี้เป็นรูปสมัย ก่อนเลยที่ทำจมุกกับหมอไทย เมื่อตอนอายุ 18 ปี แบบสวยสะพรึงกันเลยใช่มั้ยล่า ฮ่าๆๆๆ ดูกี่ทีก้อขำ
แทบจะเป็นวัยแรกรุ่นที่เริ่มก้าวมาทำศัลยกรรม 5555 สมัยนั้นเราจบ มอ หก ก้อเริ่มอยากสวยล่ะ เหมือนตัวเองมีปมด้อยในชีวิต แบบ จมุกก้อไม่มี ตาก้อตี่ อาหมวยเต้าหู้เลยล่ะคะ่ เลยทำจมูกและตา ตอนสมัยเรียนมหาลัยกับคุณหมอไทย และหลังจากที่เรียนจบ ตอนนั้นอายุน่าจะประมาน 22 ปี ก้ออยากสวยแบบอั้มแบบนุ่นเลยล่ะ เจอหมอกระเป๋าจร้าาา มาหลอกฉีดหน้า มาหลอกว่าเป็นคอลลาเจน สมัยนั้นไม่มีการหาข้อมูลใดๆทั้งสิ้น ด้วยความอยากสวยบังตาสุดๆ แบบไม่รู้เลยชีวิตกำลังก้าวสู่ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่
ตำแหน่งที่ฉีดซิลิโคนเหลวเข้าไปก้อทั้งหน้าเลยค่ะ คาง แก้ม หน้าผาก ซึ่งตอนทำใหม่ๆ ก้อสวยดีนะค่ะ แบบมันเต็มไปหมด แต่เราจะมีจุดพลาดคือฉีดหน้าผากแต่มันตกมาตาซ้ายเรา ตอนแรกตาปูดเลย ไม่ได้เก็บรูปไว้ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ตาเราสองข้างไม่เท่ากัน ในรูปอาจจะดูเหมือนเท่าเพราะเนื่องจาก มีกลายแต่งภาพบ้างอะไรบ้าง แต่โดยรวมก้อถือว่าไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากกกก
แต่....แต่....... พอเวลาผ่านไป สักพัก มีข่าวเรื่องคนโดนหลอกสารเหลว กันโคร้มคร่าม เราก้อเริ่มรู้ตัวล่ะว่าเราเป็นหนึ่งในนั้น ต้องบอกก่อนเลยนะค่ะ สมัยนั้นคนโดนหลอกเยอะมากกก แต่ไม่อยากโทษใคร ต้องโทษตัวเองแหล่ะ ที่อยากสวยจนหน้ามืดตามัว
และพอเรารู้ตัวล่ะว่าเราเป็นเหยื่อสารซิลิโคนเหลว เราก้อเริ่มตระเวนหาหมอแก้ เราพยายามจะหาหมอแก้ขูดออกให้ แต่ที่น่าเส้าคือ ไม่มีหมอคนไหนทำให้เลยค่ะ ได้แต่เพียงบอกว่า อย่าไปทำให้แตนตื่น ยิ่งแก้ยิ่งแย่ เห้ออ เค้าบอกให้เราปล่อยไปแบบนี้ ตอนแก่ก้อเป็นหินงอกหินย้อนไปทำไรไม่ได้ แบบ นึกออกกันไหมคะ่ ว่าผิวเราเหี่ยวลง แต่ซิลิโคนข้างในมันเกาะตัวแข็ง พอเห็นภาพ หินงอกหินย้อยกันแล้วใช่ไหมค่ะ
สุดท้าย ปัญหาก้อเริ่มเกิด ตาเริ่มจะหนักๆ และหน้าแข็งมาก เหมือนคนฉีดอะไรเข้าไปแล้วหน้าเป็นก้อนๆ ยิ่งเวลาน่าหนาว ยิ่งเห็นชัดมากเลยค่ะ และที่สำคัญ แต่งหน้ายากมากค่ะ ยิ่งแต่งยิ่งเห็นตาปูดอย่างชัดเจน
แต่ก้อทำไรไม่ได้ หาหมอขูดหน้าขูดตาไม่ได้ก้อทิ้งมันไปแบบนี้เรื่อยๆค่ะ เป็นเวลาจะสิบปี และแล้วเวลาแห่งการเข้าวงการศัลยกรรมเกาหลีก้อเริ่มมาล่ะ 555 โอ๊ยยย มาลุ้นกันค่ะ
เมื่อปี2015 รายการ let me in ดังๆที่ศัลยกรรมพลิกชีวิตเริ่มเข้ามาบูมๆ นั่นแหล่ะ ความหวังของฉันล่ะ แต่จะไปเกาหลีไปไงเริ่มยังไงทำไง โอ๊ยย สารพัดสิ่ง สุดท้ายมีคนแนะนำให้ไปติดต่อที่นี่นะ แบบนี้นะ อ้ะ เราก้อไป แบบลองไปดูก้อไม่เสียหายอะไรล่ะ เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก้อไม่มีอะไรจะเสีย คิดแบบนั้นเลยนะ
ก้อไปติดต่อ เอเจนท์นึง แต่เราไม่ขอเอ่ยชื่อนะค่ะ ไม่อยากเป็นการพาดพิงใดๆทั้งสิ้น ต้องการแค่แชร์ประสบการณ์จริงๆค่ะ เราก้อไปติดต่อเอเจนท์นั้นและก้อเผ้ารอคุณหมอบินมาconsult ที่ไทย พอเจอคุณหมอก้อบอกทำได้ หมอก้อบอกเราก้อต้องขูดทั้งหน้าเลยค่ะแต่จะทำที่ทำได้ หมดเป็นล้านเลย ตอนนั้นเริ่มจากขูดซิลิโคนที่ตา และหน้า แก้ม คาง สรุป เราต้องทำรายการดังนี้
1. ขูดซิลิโคนที่ตา และก้อดึงตา โดยใส่เหล็กหรืออะไรสักอย่าง เข้าไปเพื่อให้ตาขึ้นหลังจากที่ขูดซิลิโคน เพราะคุณหมอบอกเราเป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไปแล้ว
2. ทำโหนก และ v line เพราะ เมื่อทำการขูดออกเราจะต้องทำการแต่งพื้นที่หน้าไม่เช่นนั้นหน้าจะห้อย
สรุป รายการที่เราทำหลักๆ ตามนี้ ค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปทั้งหมด 1,000,000 กว่าบาท ค่ะ
ก่อนทำเราก้อถามนะค่ะ ว่าหลังการผ่าตัดหน้าจะเป็นคลื่นๆไหม หน้าเราจะเสียโฉมไหม หน้าเราจะเรียบไหม เขาตอบมาว่าจะเหมือนรีวิวเลยล่ะ ที่เราเห็นในรูปศัลยกรรมที่เค้าทำการโฆษณา
โอ๊ยยยย ดีใจ สุดท้าย เราก้อหาคนแก้หน้าให้เราได้ ดีใจสิ วันๆทำไรล่ะค่ะ หาแต่รูปเกาหลี วาดฝันไปนู่นสิค่ะ 5555555
และสุดท้ายก้อมาถึงหกเดือน เจ็ดเดือน จนจะปี
สู้ต่อค่ะ หาที่ต่อไปค่ะ เพราะหน้าเรา ณ จุดนั้นมันไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ล่ะ ก้อบังเอิญเล่นเฟสบุ๊ค และไปเจอเอเจนท์อีกคนนึง ไม่ขอเอ่ยหรือพาดพิงนะค่ะ เลยติดต่อไปตอนกลางคืนเลยค่ะด้วยความใจร้อน เอเจนทืก้อตอบกลับมาคืนนั้นเลยค่ะ ก้อถามไปถามมา ก้อบอกแก้ได้อ้ะ เราก้อเหมือนมีความหวังในชีวิตอีกรอบ และก้อตัดสินใจไปทำกับเขาเลย และได้ตัดสินใจทำจมูกเพิ่มค่ะ โอนมัดจำอะไรไป เรียบร้อยเลยค่ะ
และแล้วก้อเดินทางไปเกาหลีอีกรอบค่ะ ในปี 2016 ไปแบบ ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ล่ะชีวิต ยังไงก้อต้องลองเสี่ยงแก้ดู สู้ๆๆๆๆ มาลุ้นกันต่อค่ะ ว่าจะออกมายังไง ขอต่อวันพรุ่งนี้นะค่ะ ง่วงจริงๆ มาลุ้นกันต่อนะคะ่
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้