สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวการทำใบขับขี่ที่ประเทศอังกฤษกัน (ยาวมากกกกกกกกกกก บอกเลย)
เรามีใบขับขี่รถยนต์ที่ไทยค่ะ แต่เนื่องจากว่าถ้าเรามาอยู่ที่ต่างประเทศแบบถาวรหรือระยะยาว ใบขับขี่สากลที่ทำมาจากไทยจะใช้ได้แค่หนึ่งปี หรือน้อยกว่านั้นตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ ซึ่งในอังกฤษเราสามารถใช้ใบขับขี่สากลได้เป็นเวลา 1 ปีนับจากวันที่เราเดินทางเข้ามาอาศัยที่อังกฤษค่ะ (ระบบขนส่งมวลชนของอังกฤษในเมืองใหญ่ๆดีมากค่ะ แต่ในเมืองเล็กๆ หรือรอบนอกเมือง การขับรถเป็นถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นค่ะ) เราตัดสินใจทำใบขับขี่เพราะว่าไม่สามาถใช้ใบขับขี่สากลได้แล้ว และอยากขับรถในประเทศนี้ได้แบบถูกกฎหมายค่ะ
ก่อนอื่น เราต้องทำการขอใบขับขี่ชั่วคราวเพื่อใช้ในการเรียนขับรถ หรือใช้ขับรถตัวเองแต่ต้องมีคนที่มีใบขับขี่แบบเต็ม (Full driving license) ที่มีอายุมากกว่า 21 ปี และมีใบขับขี่แบบเต็มมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี นั่งไปด้วย (ตัวรถที่ขับต้องติดป้ายอักษร L) ขั้นตอนนี้สามารถสมัครได้ทั้งออนไลน์ ตามเวบข้างล่างนี้ หรือไปซื้อใบสมัครได้ที่ไปรษณีย์ ราคาแบบออนไลน์จะถูกกว่า (เราสมัครออนไลน์ค่ะ)
https://www.gov.uk/apply-first-provisional-driving-licence#search
เมื่อกรอกใบสมัครออนไลน์แล้ว เราจะได้รับเอกสารมากรอกเพิ่ม ในขั้นนี้เราจะต้องส่งรูปและเอกสารยืนยันตัวตนไปให้ตามที่อยู่ที่แนบมากับเอกสารค่ะ จากนั้นรอประมาณ 1-3 อาทิตย์เราก็จะได้ใบขับขี่ชั่วคราวมานอนกอด ในระหว่างรอใบขับขี่ชั่วคราว เราก็หัดทำข้อสอบทฤษฎีในแอพที่ซื้อมาจาก appstore เป็นแอพของหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องใบขับขี่โดยตรง เข้าไปดูรายละเอียดได้จากเวบนี้ค่ะ
https://www.safedrivingforlife.info/take-official-free-practice-driving-theory-test/car-practice-theory-tests/car-practice-test-one
ข้อสอบทฤษฎีจะมีแบบอัตนัยให้เราเลือกข้อถูก และแบบที่เรียกว่า Hazard perception test อันนี้จะเป็นข้อสอบเพื่อทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองของเราต่อสิ่งอันตรายที่เราจะเจอตอนขับรถค่ะ ใช้วิธีการคลิ๊กเมาส์เมื่อเจอสิ่งที่เราคิดว่าเป็นอันตราย (ความช้า เร็ว ของการตอบสนองต่อสิ่งอันตารยมีผลต่อคะแนนค่ะ ถ้าตอบสนองเร็วก็จะได้คะแนน 5 ลดหลั่นไปเรื่อยๆ จนถึง 0)
พอเราได้ใบขับขี่ชั่วคราวมาแล้ว เราก็จองสอบทฤษฎีออนไลน์ ตามเว็บไซต์ข้างล่างนี้เลยค่ะ สะดวกสุดๆ
https://www.gov.uk/book-theory-test
ระหว่างรอให้ถึงวันสอบก็ทำข้อสอบวนไปค่ะ (บางคนอาจจะเริ่มเรียนขับรถทันทีหลังจากได้ใบขับขี่ชั่วคราวเลยก็มีค่ะ เรารอจนสอบทฤษฎีเสร็จถึงเริ่มเรียนค่ะ) พอถึงวันสอบเราก็เดินทางไปศูนย์สอบ เอาแค่ใบขับขี่ชั่วคราวไปแค่ใบเดียว พอไปถึงเจ้าหน้าที่จะให้เราเอากระเป๋าและสิ่งของที่ไม่เกี่ยวกับการสอบไปเก็บที่ locker แล้วค่อยเรียกเข้าไปในห้องสอบค่ะ
ห้องสอบจะเป็นห้องโล่ง มีโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ หูฟัง (ระหว่างโต๊ะจะกั้นออกจากกัน อารมณ์แบบโต๊ะอ่านหนังสือในห้องสมุดที่มหาวิทยาลัย) มีเวลา 57 นาทีในการทำข้อสอบ 50 ข้อ (ต้องทำถูก 43 ข้อถึงจะผ่าน) พอทำข้อสอบอัตนัยเสร็จ เราสามารถเริ่มทำข้อสอบ Hazard ต่อได้เลย ส่วนนี้จะมีทั้งหมด 14 clips คะแนนเต็ม 75 คะแนน (ต้องได้ 44 คะแนนขึ้นไปถึงจะผ่าน) ก็นั่งคลิ๊กกันไปจนถึงข้อสุดท้ายค่ะ ผลสอบเราจะรู้ทันทีหลังจากที่เราสอบเสร็จค่ะ (จขกท ผ่านรอบแรกค่ะ รู้ผลโทรกลับบ้านรายงานแม่เลยทันที 5555)
พอสอบผ่านแล้วก็มาเริ่มเรียนขับรถกันค่ะ ถึงจะมีประสบการณ์การขับรถที่ไทยมาแล้ว เราก็ควรเรียนเพิ่มค่ะ เพราะว่ากฎการขับขี่ที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรา การเรียนขับรถจะทำให้เราเข้าใจกฎและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง (ค่าปรับที่นี่โหดมาก ไหนจะปรับ ไหนจะตัดแต้ม ถ้าโดนยึดใบขับขี่ไป ทำใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยค่ะ)
จขกท เลือกเรียนขับรถเกียร์ธรรมดา สาเหตุมาจาก
1. ค่าเรียนถูกกว่าแบบเกียร์ออโต้ (เหตุผลหลักคือเงินนี่เอง)
2. ถ้าสอบแบบเกียร์ธรรมดาจะสามารถขับได้ทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ ถ้าสอบแบบเกียร์ออโต้จะขับได้แค่แบบเดียว
3. ราคารถเกียร์ออโต้ที่นี่แพงกว่ารถเกียร์ธรรมดา
จขกท มีประสบการณ์ขับรถเกียร์ออโต้ที่ไทยสามปี แต่ตอนหัดขับรถหัดด้วยเกียร์ธรรมดา จึงพอมีพื้นฐานในการขับรถเกียร์ธรรมดาอยู่บ้าง เลยใช้เวลาเรียนไม่นานค่ะ เรียนชั่วโมงแรกครูบอกว่าให้จองสอบเลย เรากดจองได้วันสอบขับสองเดือนหลังจากวันที่กดจอง ซึ่งการจองสอบขับรถนี่ก็ง่ายๆเลยค่ะ
https://www.gov.uk/book-driving-test
จองผ่านเวบข้างบน ตัดเงินผ่านบัตร ทีนี้ก็มาตั้งใจเรียนขับกันค่ะ จขกท เรียนขับไป 15 ชั่วโมง แล้วก็ถึงวันสอบครูสอนขับรถมารับที่บ้าน พาไปวนขับก่อนหนึ่งชั่วโมง แล้วจึงเข้าไปศูนย์สอบ เอกสารที่ต้องนำไปด้วยในอีเมล์ที่ได้รับตอนจองสอบบอกให้เอาผลสอบภาคทฤษฎี และใบขับขี่ชั่วคราวไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พอถึงเวลาจริงๆ เจ้าหน้าที่ดูแค่ใบขับขี่ชั่วคราวค่ะ
และแล้วนาทีระทึกใจก็มาถึง คนคุมสอบ เรียกนามสกุลเรา และถามว่าชื่อเราออกเสียงยังไง เราก็ทวนไป คนคุมสอบว่าขอชื่อเรียกง่ายๆ ได้ไหม เราเลยบอกเรียกเราว่า "พระจันทร์" ละกัน ที่เค้าต้องถามชื่อเรียกง่ายๆ เพราะระหว่างสอบเค้าจะคุยกับเรา และขอให้เราทำตามคำสั่งตลอดช่วงเวลาที่ขับรถค่ะ ใช้เวลาสอบทั้งหมด 45 นาที เป็น 45 นาทีที่เราลืมไปเลย เพราะมัวแต่จดจ่อกับคำสั่งและการดูป้ายต่างๆ รู้ตัวอีกทีคือขับรถถึงหน้าศูนย์สอบแล้ว คนคุมสอบบอกให้จอดแบบเอาหน้าเข้า พอเราจอดเสร็จเราถามว่าขอเราเช็คได้ไหมว่าจอดตรงรึเปล่า คนคุมสอบบอกว่าไม่ต้องอ่ะ จอดดีแล้ว แล้วก็บอกว่า "I am pleased to tell you that you've passed the test" พอเราได้ยินแบบนั้น หูดับไปเลย เค้าอธิบายจุดด้อยอะไร เราก็ ค่ะ ค่ะ (อ้อ ลืมไป ระหว่างเราสอบ เราขอให้ครูนั่งรถไปด้วย ซึ่งตรงนี้ดีมาก เพราะเราหูดับ แต่ครูฟังอยู่ แล้วมาสรุปให้เราฟังตอนขับรถมาส่งเราที่บ้าน) ได้ใบประกาศ และต้องรอบัตรแข็งอีก 1-3 อาทิตย์ ถ้า 3 อาทิตย์แล้วยังไม่ได้อีก ให้โทรไปตามที่ส่วนกลาง (จขกท ยังไม่ได้บัตรแข็งค่ะ เพิ่งสอบผ่านไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา)
เราหวังว่าข้อมูลที่เรานำมาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
รีวิวการทำใบขับขี่รถยนต์ที่ประเทศอังกฤษ
เรามีใบขับขี่รถยนต์ที่ไทยค่ะ แต่เนื่องจากว่าถ้าเรามาอยู่ที่ต่างประเทศแบบถาวรหรือระยะยาว ใบขับขี่สากลที่ทำมาจากไทยจะใช้ได้แค่หนึ่งปี หรือน้อยกว่านั้นตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ ซึ่งในอังกฤษเราสามารถใช้ใบขับขี่สากลได้เป็นเวลา 1 ปีนับจากวันที่เราเดินทางเข้ามาอาศัยที่อังกฤษค่ะ (ระบบขนส่งมวลชนของอังกฤษในเมืองใหญ่ๆดีมากค่ะ แต่ในเมืองเล็กๆ หรือรอบนอกเมือง การขับรถเป็นถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นค่ะ) เราตัดสินใจทำใบขับขี่เพราะว่าไม่สามาถใช้ใบขับขี่สากลได้แล้ว และอยากขับรถในประเทศนี้ได้แบบถูกกฎหมายค่ะ
ก่อนอื่น เราต้องทำการขอใบขับขี่ชั่วคราวเพื่อใช้ในการเรียนขับรถ หรือใช้ขับรถตัวเองแต่ต้องมีคนที่มีใบขับขี่แบบเต็ม (Full driving license) ที่มีอายุมากกว่า 21 ปี และมีใบขับขี่แบบเต็มมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี นั่งไปด้วย (ตัวรถที่ขับต้องติดป้ายอักษร L) ขั้นตอนนี้สามารถสมัครได้ทั้งออนไลน์ ตามเวบข้างล่างนี้ หรือไปซื้อใบสมัครได้ที่ไปรษณีย์ ราคาแบบออนไลน์จะถูกกว่า (เราสมัครออนไลน์ค่ะ)
https://www.gov.uk/apply-first-provisional-driving-licence#search
เมื่อกรอกใบสมัครออนไลน์แล้ว เราจะได้รับเอกสารมากรอกเพิ่ม ในขั้นนี้เราจะต้องส่งรูปและเอกสารยืนยันตัวตนไปให้ตามที่อยู่ที่แนบมากับเอกสารค่ะ จากนั้นรอประมาณ 1-3 อาทิตย์เราก็จะได้ใบขับขี่ชั่วคราวมานอนกอด ในระหว่างรอใบขับขี่ชั่วคราว เราก็หัดทำข้อสอบทฤษฎีในแอพที่ซื้อมาจาก appstore เป็นแอพของหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องใบขับขี่โดยตรง เข้าไปดูรายละเอียดได้จากเวบนี้ค่ะ
https://www.safedrivingforlife.info/take-official-free-practice-driving-theory-test/car-practice-theory-tests/car-practice-test-one
ข้อสอบทฤษฎีจะมีแบบอัตนัยให้เราเลือกข้อถูก และแบบที่เรียกว่า Hazard perception test อันนี้จะเป็นข้อสอบเพื่อทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองของเราต่อสิ่งอันตรายที่เราจะเจอตอนขับรถค่ะ ใช้วิธีการคลิ๊กเมาส์เมื่อเจอสิ่งที่เราคิดว่าเป็นอันตราย (ความช้า เร็ว ของการตอบสนองต่อสิ่งอันตารยมีผลต่อคะแนนค่ะ ถ้าตอบสนองเร็วก็จะได้คะแนน 5 ลดหลั่นไปเรื่อยๆ จนถึง 0)
พอเราได้ใบขับขี่ชั่วคราวมาแล้ว เราก็จองสอบทฤษฎีออนไลน์ ตามเว็บไซต์ข้างล่างนี้เลยค่ะ สะดวกสุดๆ
https://www.gov.uk/book-theory-test
ระหว่างรอให้ถึงวันสอบก็ทำข้อสอบวนไปค่ะ (บางคนอาจจะเริ่มเรียนขับรถทันทีหลังจากได้ใบขับขี่ชั่วคราวเลยก็มีค่ะ เรารอจนสอบทฤษฎีเสร็จถึงเริ่มเรียนค่ะ) พอถึงวันสอบเราก็เดินทางไปศูนย์สอบ เอาแค่ใบขับขี่ชั่วคราวไปแค่ใบเดียว พอไปถึงเจ้าหน้าที่จะให้เราเอากระเป๋าและสิ่งของที่ไม่เกี่ยวกับการสอบไปเก็บที่ locker แล้วค่อยเรียกเข้าไปในห้องสอบค่ะ
ห้องสอบจะเป็นห้องโล่ง มีโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ หูฟัง (ระหว่างโต๊ะจะกั้นออกจากกัน อารมณ์แบบโต๊ะอ่านหนังสือในห้องสมุดที่มหาวิทยาลัย) มีเวลา 57 นาทีในการทำข้อสอบ 50 ข้อ (ต้องทำถูก 43 ข้อถึงจะผ่าน) พอทำข้อสอบอัตนัยเสร็จ เราสามารถเริ่มทำข้อสอบ Hazard ต่อได้เลย ส่วนนี้จะมีทั้งหมด 14 clips คะแนนเต็ม 75 คะแนน (ต้องได้ 44 คะแนนขึ้นไปถึงจะผ่าน) ก็นั่งคลิ๊กกันไปจนถึงข้อสุดท้ายค่ะ ผลสอบเราจะรู้ทันทีหลังจากที่เราสอบเสร็จค่ะ (จขกท ผ่านรอบแรกค่ะ รู้ผลโทรกลับบ้านรายงานแม่เลยทันที 5555)
พอสอบผ่านแล้วก็มาเริ่มเรียนขับรถกันค่ะ ถึงจะมีประสบการณ์การขับรถที่ไทยมาแล้ว เราก็ควรเรียนเพิ่มค่ะ เพราะว่ากฎการขับขี่ที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรา การเรียนขับรถจะทำให้เราเข้าใจกฎและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง (ค่าปรับที่นี่โหดมาก ไหนจะปรับ ไหนจะตัดแต้ม ถ้าโดนยึดใบขับขี่ไป ทำใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยค่ะ)
จขกท เลือกเรียนขับรถเกียร์ธรรมดา สาเหตุมาจาก
1. ค่าเรียนถูกกว่าแบบเกียร์ออโต้ (เหตุผลหลักคือเงินนี่เอง)
2. ถ้าสอบแบบเกียร์ธรรมดาจะสามารถขับได้ทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ ถ้าสอบแบบเกียร์ออโต้จะขับได้แค่แบบเดียว
3. ราคารถเกียร์ออโต้ที่นี่แพงกว่ารถเกียร์ธรรมดา
จขกท มีประสบการณ์ขับรถเกียร์ออโต้ที่ไทยสามปี แต่ตอนหัดขับรถหัดด้วยเกียร์ธรรมดา จึงพอมีพื้นฐานในการขับรถเกียร์ธรรมดาอยู่บ้าง เลยใช้เวลาเรียนไม่นานค่ะ เรียนชั่วโมงแรกครูบอกว่าให้จองสอบเลย เรากดจองได้วันสอบขับสองเดือนหลังจากวันที่กดจอง ซึ่งการจองสอบขับรถนี่ก็ง่ายๆเลยค่ะ
https://www.gov.uk/book-driving-test
จองผ่านเวบข้างบน ตัดเงินผ่านบัตร ทีนี้ก็มาตั้งใจเรียนขับกันค่ะ จขกท เรียนขับไป 15 ชั่วโมง แล้วก็ถึงวันสอบครูสอนขับรถมารับที่บ้าน พาไปวนขับก่อนหนึ่งชั่วโมง แล้วจึงเข้าไปศูนย์สอบ เอกสารที่ต้องนำไปด้วยในอีเมล์ที่ได้รับตอนจองสอบบอกให้เอาผลสอบภาคทฤษฎี และใบขับขี่ชั่วคราวไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พอถึงเวลาจริงๆ เจ้าหน้าที่ดูแค่ใบขับขี่ชั่วคราวค่ะ
และแล้วนาทีระทึกใจก็มาถึง คนคุมสอบ เรียกนามสกุลเรา และถามว่าชื่อเราออกเสียงยังไง เราก็ทวนไป คนคุมสอบว่าขอชื่อเรียกง่ายๆ ได้ไหม เราเลยบอกเรียกเราว่า "พระจันทร์" ละกัน ที่เค้าต้องถามชื่อเรียกง่ายๆ เพราะระหว่างสอบเค้าจะคุยกับเรา และขอให้เราทำตามคำสั่งตลอดช่วงเวลาที่ขับรถค่ะ ใช้เวลาสอบทั้งหมด 45 นาที เป็น 45 นาทีที่เราลืมไปเลย เพราะมัวแต่จดจ่อกับคำสั่งและการดูป้ายต่างๆ รู้ตัวอีกทีคือขับรถถึงหน้าศูนย์สอบแล้ว คนคุมสอบบอกให้จอดแบบเอาหน้าเข้า พอเราจอดเสร็จเราถามว่าขอเราเช็คได้ไหมว่าจอดตรงรึเปล่า คนคุมสอบบอกว่าไม่ต้องอ่ะ จอดดีแล้ว แล้วก็บอกว่า "I am pleased to tell you that you've passed the test" พอเราได้ยินแบบนั้น หูดับไปเลย เค้าอธิบายจุดด้อยอะไร เราก็ ค่ะ ค่ะ (อ้อ ลืมไป ระหว่างเราสอบ เราขอให้ครูนั่งรถไปด้วย ซึ่งตรงนี้ดีมาก เพราะเราหูดับ แต่ครูฟังอยู่ แล้วมาสรุปให้เราฟังตอนขับรถมาส่งเราที่บ้าน) ได้ใบประกาศ และต้องรอบัตรแข็งอีก 1-3 อาทิตย์ ถ้า 3 อาทิตย์แล้วยังไม่ได้อีก ให้โทรไปตามที่ส่วนกลาง (จขกท ยังไม่ได้บัตรแข็งค่ะ เพิ่งสอบผ่านไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา)
เราหวังว่าข้อมูลที่เรานำมาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ