แนะนำตัวก่อนผมเป็นคนอยู่ในอำเภอนึงของจังหวัดสุโขทัย อายุ 40 มีสภาวะโรคซึมเศร้าเป็นผลข้างเคียงจากโรคประจำตัวคือ"สภาวะไทรอยด์ต่ำเนื่องจากไทรอยด์มีการเจริญเติบโตไม่เต็มที่" ซึ่งปกติจะกินฮอร์โมนไทรอยด์เสริมทุกวัน(แต่บางวันถ้ายุ่ง ๆ ก็อาจจะลืม) เป็นมานานแค่ไหนไม่รู้แต่พึ่งเริ่มรักษามาได้ปีกว่า ๆ ช่วงที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ก็เคยมีประวัติทำร้ายตัวเองมา 5 ครั้งอันเนื่องมาจากภาวะซึมเศร้า + ความผิดหวัง + การอยู่ตัวคนเดียว(ไม่มีครอบครัวครับ) การรักษาช่วงแรกทางหมอก็ให้ยาต้านซึมเศร้า + ยานอนหลับ มากิน แล้วไปพบแพทย์ตามนัด จนถึงนัดครั้งที่ 3 หมอสงสัยว่าจะเป็นไทรอยด์มากกว่าแต่ตรวจลูกกระเดือกแล้วไม่บวมเลยส่งไปเจาะลือดสรุปเป็นไทรอยด์ต่ำ เลยเปลี่ยนมารักษาไทรอยด์เพียงอย่างเดียว
เข้าเรื่องความซวย...ตอนเช้าหลังตื่นนอนทุกวันผมจะไปนั่งกินกาแฟอยู่ที่ร้านเพื่อนสนิทของผมทุกวัน ข้อหนึ่งคือไปนั่งพูดคุยหาความสำราญยามเช้า อีกประเด็นหนึ่งคือไปรายงานตัวให้เพื่อนมันรู้ว่าตัวผมยังสุขสบายดีไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย(วันไหนไม่ได้ไปเพื่อนมันจะโทรถามเพราะเห็นว่าเราอยู่คนเดียว) ทำกิจวัตรแบบนี้นั่งร้านนี้มา 7 ปีกว่า ๆ เคราะหามยามซวยอำเภอที่ผมอยู่จะมีหญิงสูงอายุคนนึงเป็นอดีตข้าราชการปัจจุบันมีอาชีพปล่อยเงินกู้ แต่มีพฤติกรรมจิตไม่สมประกอบมักมีอาการคิดว่าคนนั้นมาชอบคนนี้มาชอบ พอเจ้าตัวปฏิเสธหล่อนก็จะไปจ้างร้านไวนิลพิมพ์ป้ายคำด่าสารพัดสารเพมาแขวนไว้กับมอเตอร์ไซค์แล้วขี่ไปทุกที่รอบเมือง มีพฤติกรรมยั่วยุให้อีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย(หลายครั้งก็โดน) มักเอามือถือขึ้นมาถ่ายทุกอย่างที่ตัวเองไม่พอใจ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ซึ่งเราก็ไม่อยากจะยุ่งอยู่แล้ว ขับรถสวนกันก็เฉย ๆ ไม่ได้ใส่ใจชีวิตใครชีวิตมัน
จนวันหนึ่งความซวยก็มาเยือน ขณะกำลังยืนดูยูทูปอยู่ในร้านกาแฟกับเจ้าของร้านมัน เจ้าตัวเดินเข้ามาในร้านถือกล้องมือถือถ่ายเข้ามาพร้อมชี้หน้าด่าหาว่าผมไปตามเขา แล้วเจ้าตัวก็เดินออกจากร้านไป ด้วยความที่ไม่อยากยุ่งกับคนบ้าเลยเฉย ๆ แต่ไม่จบ ทุกครั้งที่ออกจากบ้านไปซื้อของ ไปหาข้าวกิน ไปเซเว่น ไปตลาด หรือแม้กระทั่งไปไปรษณีย์ ถ้าเจอกันเจ้าตัวจะส่งเสียงโห่ฮาพร้อมกับเอามือถือขึ้นมาถ่ายให้เราหงุดหงิด ผมก็พยายามจะเฉย ๆ นึกเสียว่าเป็นอากาศ มาช่วงหลังหนักข้อขึ้นด้วยการมานั่งสิงอยู่ร้านค้าแถวบ้านเป็นวัน ๆ(ที่รู้เพราะร้านเขาบอก) เพื่อที่จะถ่ายรูปผม(และด่า) เมื่อใดเราก้าวเดินออกจากบ้านเจ้าตัวจะคว้ารถพร้อมร่ายรำประกอบท่าทางเสร็จแล้วก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายแล้วก็ด่าผมว่าผมไปตามเขา(เฮ้ยนี่มันบ้านผม...ผมพึงเดินออกจากบ้านมานะเว้ย) บางทีก็มาขวางหน้ารถผมให้เบรคกันตัวโก่งก็มี เลยรู้สึกว่าชักหนักข้อขึ้น เหตุการณ์ที่ทำให้ตบะเริ่มหลุดคือ มีอยู่วันนึงผมเปิดประตูทึบของบ้าน(บ้านผมเป็นอาคารพาณิชย์)เพื่อระบายอากาศแล้วผมก็นั่งทำงานอยู่บนชั้นลอย อยู่ ๆ ก็มีมือของผู้ไม่ได้รับเชิญลอดผ่านประตูเหล็กมาพร้อมกับกล้องมือถือ เฮ้ย!!!นี่มันเข้าข่ายรุกล้ำกันแล้วนะ ชีวิตสงบสุขของผมเริ่มถูกรุกราน เลยโทรไปปรึกษาน้องชายที่เป็นตำรวจ ทีแรกน้องชายมันก็ไม่เชื่อจนมันกลับมาเยี่ยมบ้านแม่ยาย(บ้านแม่ยายอยู่ที่อ.เมือง) แล้วเลยมาหาพี่ชายมันเลยได้เจอพฤติกรรมแบบต่อหน้าต่อตา น้องชายเลยอาศัยความเป็นตำรวจว่ากล่าวตักเตือนเพราะตอนที่เจ้าตัวขับรถออกมาเพื่อจะเอามือถือมาถ่ายและด่าผม เจ้าตัวตัดหน้ารถคนอื่นแบบไม่แยแส ก่อนที่เจ้าตัวจะขับมอเตอร์ไซค์หนีไป ทางผมทีแรกก็สบายใจคิดว่าเจ้าตัวคงไม่มานั่งเฝ้าหรือมารบกวนมาถ่ายรูปแล้วด่าเราอีก แต่ปรากฏว่าคิดถูกครึ่งเดียว เจ้าตัวไม่มานั่งที่ร้านค้า แต่เริ่มไปดักรอที่ร้านกาแฟ พอเห็นผมก็เปิดฉากถ่ายรูปพร้อมคำด่าว่าเราเอาตำรวจมาจับ เราก็ไม่อยากเสียสุขภาพจิตเลยไม่ตอบโต้ แต่ก็ยังมีมาอยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดสด ๆร้อน ๆ เมื่อเช้า(30 สิงหา 61)ตอนสองโมงเช้าเอง ขณะกำลังนั่งกินกาแฟพร้อมกับเสวนากับเพื่อนสภากาแฟ เจ้าตัวก็มา พฤติกรรมเหมือนเดิมขับรถมือถือขึ้นถ่ายปากก็ด่า วนรอบที่หนึ่งเพื่อนในวงกาแฟยังเฉย ๆ ผ่านไปอีก 10 นาทีมีวนมารอบที่ 2 เพื่อนในวงกาแฟเริ่มมีอารมณ์เลยเลิกวงไปทำงานใครงานมัน แล้วความซวยก็มาเยือนเพราะออกทีหลังมัวจ่ายตังค์ค่ากาแฟ มันวนมาอีกเป็นรอบที่ 3 แล้วด่าผมแบบจัง ๆ เลยของขึ้นด่าสวนไปคำหนึ่ง ทีนี้มาอีกเป็นชุดผมเลยขับรถพร้อมบีบแตรยาวววววว ใจนึงอยากขับรถชนมาก แต่ก็ห้ามใจตัวเองก่อนขับเลยคนบ้าคนนี้ไป
กลับมาถึงบ้านด้วยความหงุดหงิดจากเหตุการณ์เมื่อตะกี้ ทีนี้เริ่มมีความคิดอะไรแปลก ๆ ทำไมเราต้องมาเจออะไรอย่างนี้ เริ่มมีอาการน้อยเนื้อต่ำใจ เริ่มมีคำถามขึ้นมา ทำไมกรูต้องมาผจญสิ่งนี้อยู่คนเดียว ทำไมคนที่รู้เรื่องนี้ถึงต้องหัวเราะเยาะเรา มันตลกนักใช่ไหมที่ต้องมาโดนคนบ้ามารังควานตามหาเรื่องมาเป็นปี ๆ ชักมีอาการท้อแท้ในการมีชีวิตอยู่ ทีนี้เรื่องในอดีตที่ผิดหวังที่เจ็บปวดก็เริ่มประเดประดังเข้ามาในหัว รู้ตัวอีกทีมือขวาผมก็ได้ถือมีดอีโต้ที่อยู่หลังบ้านซึ่งไม่รู้ผมถือมันมาทำไม ได้สติเลยวางมันลง แล้วมานั่งหน้าเครื่องคอมฯเสิร์ชหาสายด่วนสุขภาพจิต ก่อนจะโทรไป 1323 รอสายอยู่ประมาณ 5 นาที คุยกับเจ้าหน้าที่ไป 16 นาทีกว่า ๆ ได้รับคำแนะนำให้ไปพบแพทย์และแจ้งความ
ตัดภาพมาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอนั่งรอหมอตั้งแต่ 4 โมงครึ่งได้ตรวจบ่ายโมงครึ่ง ไม่เป็นไรถ้ามันเป็นการรักษาเรารอได้ คุยกับหมอ 5 นาที หมอสั่งจ่ายยาต้านซึมเศร้ามา 2 แผงกับยานอนหลับมาอีก 1 แผง พร้อมนัดรายงานตัวแผนกจิตเวชอีกที 2 อาทิตย์หน้า(10 กย.61) ไม่มีประเมินสภาพจิต ไม่มีจิตแพทย์แต่มีพยาบาลจิตเวชสำหรับให้คำปรึกษาแต่ต้องมาวันจันทร์ สรุปคือให้กินยาแล้วนอนซะ เพื่อให้ตื่นในเช้าอีกวันไปเผชิญกับคนบ้าตามรังควานอีกเหมือนเดิม
อยากสอบถามว่าใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้และหาทางออกกันยังไงครับ
ปล.พฤติกรรมที่เล่ามาทั้งหมดผมดดนมาตลอดปีกว่า ๆ แล้วครับ และไม่มีทีท่าว่าเจ้าตัวจะทุเลาลง ทางญาติเจ้าตัวก็รับรู้ว่าพี่เขาน้องเขามีพฤติกรรมเป็นอย่างไรแต่ก็ไม่เคยทำอะไรเลยเหมือนกัน
ปัญหาชีวิต...เป็นซึมเศร้าซวยซ้ำโดนคนบ้าตามรังควาน
เข้าเรื่องความซวย...ตอนเช้าหลังตื่นนอนทุกวันผมจะไปนั่งกินกาแฟอยู่ที่ร้านเพื่อนสนิทของผมทุกวัน ข้อหนึ่งคือไปนั่งพูดคุยหาความสำราญยามเช้า อีกประเด็นหนึ่งคือไปรายงานตัวให้เพื่อนมันรู้ว่าตัวผมยังสุขสบายดีไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย(วันไหนไม่ได้ไปเพื่อนมันจะโทรถามเพราะเห็นว่าเราอยู่คนเดียว) ทำกิจวัตรแบบนี้นั่งร้านนี้มา 7 ปีกว่า ๆ เคราะหามยามซวยอำเภอที่ผมอยู่จะมีหญิงสูงอายุคนนึงเป็นอดีตข้าราชการปัจจุบันมีอาชีพปล่อยเงินกู้ แต่มีพฤติกรรมจิตไม่สมประกอบมักมีอาการคิดว่าคนนั้นมาชอบคนนี้มาชอบ พอเจ้าตัวปฏิเสธหล่อนก็จะไปจ้างร้านไวนิลพิมพ์ป้ายคำด่าสารพัดสารเพมาแขวนไว้กับมอเตอร์ไซค์แล้วขี่ไปทุกที่รอบเมือง มีพฤติกรรมยั่วยุให้อีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย(หลายครั้งก็โดน) มักเอามือถือขึ้นมาถ่ายทุกอย่างที่ตัวเองไม่พอใจ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ซึ่งเราก็ไม่อยากจะยุ่งอยู่แล้ว ขับรถสวนกันก็เฉย ๆ ไม่ได้ใส่ใจชีวิตใครชีวิตมัน
จนวันหนึ่งความซวยก็มาเยือน ขณะกำลังยืนดูยูทูปอยู่ในร้านกาแฟกับเจ้าของร้านมัน เจ้าตัวเดินเข้ามาในร้านถือกล้องมือถือถ่ายเข้ามาพร้อมชี้หน้าด่าหาว่าผมไปตามเขา แล้วเจ้าตัวก็เดินออกจากร้านไป ด้วยความที่ไม่อยากยุ่งกับคนบ้าเลยเฉย ๆ แต่ไม่จบ ทุกครั้งที่ออกจากบ้านไปซื้อของ ไปหาข้าวกิน ไปเซเว่น ไปตลาด หรือแม้กระทั่งไปไปรษณีย์ ถ้าเจอกันเจ้าตัวจะส่งเสียงโห่ฮาพร้อมกับเอามือถือขึ้นมาถ่ายให้เราหงุดหงิด ผมก็พยายามจะเฉย ๆ นึกเสียว่าเป็นอากาศ มาช่วงหลังหนักข้อขึ้นด้วยการมานั่งสิงอยู่ร้านค้าแถวบ้านเป็นวัน ๆ(ที่รู้เพราะร้านเขาบอก) เพื่อที่จะถ่ายรูปผม(และด่า) เมื่อใดเราก้าวเดินออกจากบ้านเจ้าตัวจะคว้ารถพร้อมร่ายรำประกอบท่าทางเสร็จแล้วก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายแล้วก็ด่าผมว่าผมไปตามเขา(เฮ้ยนี่มันบ้านผม...ผมพึงเดินออกจากบ้านมานะเว้ย) บางทีก็มาขวางหน้ารถผมให้เบรคกันตัวโก่งก็มี เลยรู้สึกว่าชักหนักข้อขึ้น เหตุการณ์ที่ทำให้ตบะเริ่มหลุดคือ มีอยู่วันนึงผมเปิดประตูทึบของบ้าน(บ้านผมเป็นอาคารพาณิชย์)เพื่อระบายอากาศแล้วผมก็นั่งทำงานอยู่บนชั้นลอย อยู่ ๆ ก็มีมือของผู้ไม่ได้รับเชิญลอดผ่านประตูเหล็กมาพร้อมกับกล้องมือถือ เฮ้ย!!!นี่มันเข้าข่ายรุกล้ำกันแล้วนะ ชีวิตสงบสุขของผมเริ่มถูกรุกราน เลยโทรไปปรึกษาน้องชายที่เป็นตำรวจ ทีแรกน้องชายมันก็ไม่เชื่อจนมันกลับมาเยี่ยมบ้านแม่ยาย(บ้านแม่ยายอยู่ที่อ.เมือง) แล้วเลยมาหาพี่ชายมันเลยได้เจอพฤติกรรมแบบต่อหน้าต่อตา น้องชายเลยอาศัยความเป็นตำรวจว่ากล่าวตักเตือนเพราะตอนที่เจ้าตัวขับรถออกมาเพื่อจะเอามือถือมาถ่ายและด่าผม เจ้าตัวตัดหน้ารถคนอื่นแบบไม่แยแส ก่อนที่เจ้าตัวจะขับมอเตอร์ไซค์หนีไป ทางผมทีแรกก็สบายใจคิดว่าเจ้าตัวคงไม่มานั่งเฝ้าหรือมารบกวนมาถ่ายรูปแล้วด่าเราอีก แต่ปรากฏว่าคิดถูกครึ่งเดียว เจ้าตัวไม่มานั่งที่ร้านค้า แต่เริ่มไปดักรอที่ร้านกาแฟ พอเห็นผมก็เปิดฉากถ่ายรูปพร้อมคำด่าว่าเราเอาตำรวจมาจับ เราก็ไม่อยากเสียสุขภาพจิตเลยไม่ตอบโต้ แต่ก็ยังมีมาอยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดสด ๆร้อน ๆ เมื่อเช้า(30 สิงหา 61)ตอนสองโมงเช้าเอง ขณะกำลังนั่งกินกาแฟพร้อมกับเสวนากับเพื่อนสภากาแฟ เจ้าตัวก็มา พฤติกรรมเหมือนเดิมขับรถมือถือขึ้นถ่ายปากก็ด่า วนรอบที่หนึ่งเพื่อนในวงกาแฟยังเฉย ๆ ผ่านไปอีก 10 นาทีมีวนมารอบที่ 2 เพื่อนในวงกาแฟเริ่มมีอารมณ์เลยเลิกวงไปทำงานใครงานมัน แล้วความซวยก็มาเยือนเพราะออกทีหลังมัวจ่ายตังค์ค่ากาแฟ มันวนมาอีกเป็นรอบที่ 3 แล้วด่าผมแบบจัง ๆ เลยของขึ้นด่าสวนไปคำหนึ่ง ทีนี้มาอีกเป็นชุดผมเลยขับรถพร้อมบีบแตรยาวววววว ใจนึงอยากขับรถชนมาก แต่ก็ห้ามใจตัวเองก่อนขับเลยคนบ้าคนนี้ไป
กลับมาถึงบ้านด้วยความหงุดหงิดจากเหตุการณ์เมื่อตะกี้ ทีนี้เริ่มมีความคิดอะไรแปลก ๆ ทำไมเราต้องมาเจออะไรอย่างนี้ เริ่มมีอาการน้อยเนื้อต่ำใจ เริ่มมีคำถามขึ้นมา ทำไมกรูต้องมาผจญสิ่งนี้อยู่คนเดียว ทำไมคนที่รู้เรื่องนี้ถึงต้องหัวเราะเยาะเรา มันตลกนักใช่ไหมที่ต้องมาโดนคนบ้ามารังควานตามหาเรื่องมาเป็นปี ๆ ชักมีอาการท้อแท้ในการมีชีวิตอยู่ ทีนี้เรื่องในอดีตที่ผิดหวังที่เจ็บปวดก็เริ่มประเดประดังเข้ามาในหัว รู้ตัวอีกทีมือขวาผมก็ได้ถือมีดอีโต้ที่อยู่หลังบ้านซึ่งไม่รู้ผมถือมันมาทำไม ได้สติเลยวางมันลง แล้วมานั่งหน้าเครื่องคอมฯเสิร์ชหาสายด่วนสุขภาพจิต ก่อนจะโทรไป 1323 รอสายอยู่ประมาณ 5 นาที คุยกับเจ้าหน้าที่ไป 16 นาทีกว่า ๆ ได้รับคำแนะนำให้ไปพบแพทย์และแจ้งความ
ตัดภาพมาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอนั่งรอหมอตั้งแต่ 4 โมงครึ่งได้ตรวจบ่ายโมงครึ่ง ไม่เป็นไรถ้ามันเป็นการรักษาเรารอได้ คุยกับหมอ 5 นาที หมอสั่งจ่ายยาต้านซึมเศร้ามา 2 แผงกับยานอนหลับมาอีก 1 แผง พร้อมนัดรายงานตัวแผนกจิตเวชอีกที 2 อาทิตย์หน้า(10 กย.61) ไม่มีประเมินสภาพจิต ไม่มีจิตแพทย์แต่มีพยาบาลจิตเวชสำหรับให้คำปรึกษาแต่ต้องมาวันจันทร์ สรุปคือให้กินยาแล้วนอนซะ เพื่อให้ตื่นในเช้าอีกวันไปเผชิญกับคนบ้าตามรังควานอีกเหมือนเดิม
อยากสอบถามว่าใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้และหาทางออกกันยังไงครับ
ปล.พฤติกรรมที่เล่ามาทั้งหมดผมดดนมาตลอดปีกว่า ๆ แล้วครับ และไม่มีทีท่าว่าเจ้าตัวจะทุเลาลง ทางญาติเจ้าตัวก็รับรู้ว่าพี่เขาน้องเขามีพฤติกรรมเป็นอย่างไรแต่ก็ไม่เคยทำอะไรเลยเหมือนกัน