ขอมาเขียนเพิ่มอีกนิด คือหลังจากอ่านหนังสือ shoe dog จบ ทำให้ผมชอบแนวคิดของฟิล ไนท์มาก คือเขาไม่ได้มองแค่ว่าทำธุรกิจ แต่เขามองว่าอยากสร้างรองเท้าดีๆให้คนทั่วโลกได้ใช้ เขาไม่ได้มองแค่ตัวเงิน แต่เขามีความสุขที่ได้เห็นสิ่งของที่เขาสร้างขึ้น ส่งผลต่อคนทั่วโลก ทำให้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แล้วตัวไนท์เองเค้าก็เป็นนักวิ่งมาก่อน เขาจึงเข้าใจคนวิ่ง สมัยยุค 60 70 การออกไปวิ่งคือเรื่องแปลก แนวคิดเรื่องไปวิ่งจอกกิ้ง ยังไม่มี คืออ่านจบแล้วชอบมาก เลยไปซื้อรองเท้ามาวิ่งเลย เมื่อก่อนก็มีแต่เป็นคู่เก่าที่ไม่ได้ใช้นานแล้ว  พอซื้อคู่ใหม่มามันเหมือนอยากลองเปรียบเทียบ อยากเอาไปลองใช้ดู ทำให้ได้ออกไปวิ่งติดต่อกันหลายเดือนแล้ว

แล้วตอนวิ่งมันฝึกการบังคับตนเอง มันเหนื่อยอยากหยุด แต่เราจะตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราจะวิ่งถึงตรงนี้ๆ เราจะไม่ยอมหยุด วิ่งไปเรื่อยๆ เหนื่อยสุดๆก็ทน พอบังคับตัวเองวิ่งไปจนถึงเป้าหมาย มันจะรู้สึกดีกับตนเองมาก เคารพตัวเองมากขึ้น บังคับวิ่งให้ไปตามเป้าหมาย โดยจะไม่ยอมหยุดก่อน บังคับให้ตื่นนอนแต่เช้าออกไปวิ่ง แม้จะอยากนอนต่อ อยู่บนที่นอนมันสบาย หลายคนทำไม่ได้ เทคนิคคือง่วงแค่ไหนก็ไปอาบน้ำ พออาบน้ำ ตัวเปียกแล้วยังไงก็ต้องไป

การบังคับตัวได้แบบนี้มันไม่ใช่แค่วิ่งแล้วร่างกาย ปอด ความดัน ลดนน เข่า การนอน รูปร่าง ดีขึ้น ไม่เสียค่ายาโรงหมอ แต่มันยังทำให้จิตใจดีขึ้น บังคับตัวเอง ฝืน อดทนต่อปัญหา ความยากลำบากที่เจอจากงาน จากชีวิตได้ดีขึ้น ถือคติไม่หยุดวิ่งจนกว่าจะถึงเป้าหมายที่กำหนดตอนวิ่งก็คือการสู้ต่อไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาชีวิตจนกว่าจะสำเร็จตามเป้าหมาย วิ่งไปเรื่อยๆยังไงก็ต้องถึงเส้นชัย



ปล ตอนเลือกมันจะมีรองเท้าแฟชันสวยงาม,รองเท้าเทรนนิ่งที่เหมาะกับการวิ่งสั้นๆ วิ่งบนสายพาน เข้าฟิตเนส เล่นcrossfit, และรองเท้าวิ่งเพื่อการวิ่ง จริงๆรองเท้าเทรนนิงมาใส่วิ่งก็ได้ครับ แต่รองเท้าวิ่งเพื่อวิ่งจะดีกว่า พอวิ่งไกลเกิน 5k เริ่มเห็นผลชัด มันจะนุ่มกว่า วิ่งนานๆได้สบายกว่า และทนกว่าครับ


แล้วเจอกันที่สวนลุมนะครับ