สองชั่วโมงกัยการเดินทาง กับ 270 บาท(ค่ารถ ค่าตั้ว) เเละ เวลาอีกครึ่งค่อนวัน กับการไปดูหนังไทยที่สร้างจาก อัตชีวประวัติ ของ ปูชนีบุคคล อีกคน อีกคน ของบ้านเรา
   หนังจะมีความเป็นนิยาย เรื่องเล่าที่สร้างขึ้นเพื่อดูเเบบบันเทิงมากกว่าที่จะนำเสนอในเชิง สราคดี เเบบกลายๆ ในความเป็นตัวหนัง(นิยายขายบันเทิง) มันจะไ ม่ค่อยสุดไปสักทาง ดราม่าจัดๆ มีการปะทะคารมของตัวละครเเละความขัดเเบ้ง ของความคิดในเเต่ละตัวละคร  ก็ไม่ถึงขั้นเท่าที่ควร(หรือเเทบจะไม่มี)
  หรือ เเอ็คชั่นเเบบเลือดสาด ก็คงไม่ใช่เเนวทางของหนังเรื่องนี้ เสียดายครับ ไหนๆก็ทำทั้งที น่าจะเด่นไปทางไหนสักทาง เเบบสารคดี ก็ไปค้นคว้าหาข้อมูล ให้เเน่น เเล้วนำเสนอในรูปเเบบหนัง น่าจะดีหว่า หรือไม่ฏ้เน้นความเป็นดราม่า เหมือน หนังของท่านมุ้ย ที่เคยทำไว้หลายๆเรื่อง เช่น ทองพูน โคกโพธิ์ มือปืน
ยึดเเนวทางนั้นไปเลย สำหรับผม คงจะดีที่สุด
    ตอนจบมีทิ้งท้ายว่า คงมี"ภาคต่อ" สำหรับผม ถ้าหนังยังยึดเเนวทางนี้อยู่ คงไม่ไปดูเเนนอนครับ เพราะสิ่งที่ผมอยากเห็นจากหนังจริงๆ คือ "จิตวิญญาณ ความคิด อุดมคติ ของตำรวจไทย น้ำดีอีกคน"มากกว่าที่จะนำเสนอในเเนวทาง "นิยาย หรือ เรื่องเล่าอิงปาฏิหารย์" เเบบนั้นคนดูคงไม่สิมผัสถึงความเป็น"ขุนพันธ์"อะไรเลย นอกจากเรื่องเล่า อิงปาฏิหารย์อย่างเดียว