แชร์ประสบการณ์สู่การเป็นนักเรียน MBA ประเทศสหรัฐอเมริกา

สวัสดีครับ ผมขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ทั้งก่อน และระหว่างการศึกษาต่อต่างประเทศ ที่รัฐ West Virginia ณ สหรัฐอเมริกา หวังว่าพอจะเป็นแนวทาง และแรงบันดาลใจให้สำหรับคนที่วางแผนไว้เช่นเดียวกันนะครับ


CHAPTER 1: Greeting from the Author in Huntington, WV

ผู้เขียนเชื่อว่าในวัยเด็กของแต่ละคน คงมีบุคคลตัวอย่าง หรืออย่างที่เรียกกันว่า Idol กันทุกๆคน ผู้เขียนก็เช่นกัน ไม่ใช่ใครไกลตัวแต่อย่างใด แต่คือ คุณพ่อ นั่นเอง หนึ่งในนั้นคือการที่เห็นคุณพ่อเรียนจบจาก ประเทศสหรัฐอเมริกาทั้ง ปริญญาโท และเอก จนกลายเป็นความฝันในวัยเด็กไปว่า สักวันหนึ่งเราจะได้ไปเรียน ณ ประเทศที่ใครๆก็เรียกกันว่า ประเทศแห่งเสรีภาพ

ทำความรู้จักกันก่อน… เราชื่อว่ากิฟท์ เรียนจบปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์เกษตร และทรัพยากรณ์ เคยมีประสบการณ์เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนบ้างที่ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น รวมไปถึงโปรแกรม Work and Travel ที่ สหรัฐอเมริกาเช่นกัน พอกลับจาก โปรแกรม Work and Travel เราก็ได้ทำงานกับ Tesco Lotus เป็น Management Trainee อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ก็ออกมาหาตัวเองจนเจอว่า เราชอบเป็น Sales Representative จนได้เข้าไปทำงานกับบริษัท SCG Packaging อยู่อีกประมาณ 3 ปีครึ่ง ซึ่งเราบอกเลยว่าเป็นการทำงานที่เปลี่ยนชีวิตของเรา จากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย ทำให้เราได้พบสังคมที่ดี ได้เพื่อนพี่น้อง ที่สนิทกันมาก และได้รับประสบการณ์มากมาย แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันหนักพอสมควร เพราะเราไม่ใช่คนเก่ง เราจบเกรด ปริญญาตรีแค่ 2.89 สมัยเรียนมัธยมปลาย จนถึงประมาณปี 2 ก็ไม่รู้จุดหมายปลายทาง เที่ยวเล่นไปวันๆ คุณพ่อคุณแม่กลุ้มใจมาก จากเกรด ประมาณ 2.2 ตอนปี 2 เคยติด F พยายามดีดตัวเองเพื่ออนาคตของตัวเองในเวลาที่เกือบจนสายเกินไป แต่ไม่เคยคิดเสียใจกับอดีต เพราะมันหล่อหลอมให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ ทำให้เราตั้งเป้าหมายที่เราเคยเกือบลืมมันไปอีกครั้งในวัยเด็ก และหวังว่าจะประสบความสำเร็จให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำมันได้ เพื่อจะพิสูจน์ตัวเองให้คุณพ่อคุณแม่เห็น และหวังจะลบล้างความผิด ที่เคยทำให้ท่านต้องร้องไห้ เพราะผิดหวังในลูกคนเดียวคนนี้ ถึงแม้เราจะไม่เก่ง แต่เราจะกัดไม่ปล่อยในสิ่งที่เรามุ่งหวังไว้ จนกว่ามันจะเกิดขึ้น และแล้วความฝันในวัยเด็กที่จะเหยียบ สหรัฐอเมริกา ก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากทำงานได้ประมาณเกือบๆ 2 ปี ต้องขอขอบคุณบริษัท ที่ทำให้เราหาตัวเองเจอ และมั่นใจว่าจะเรียน MBA เพื่ออนาคตของเรา


CHAPTER 2: LONG WAY TO REACH THE ACHIEVEMENT…

หลายๆคนคงพอรู้ว่า SCG มีสวัสดิการที่ดี รวมไปถึงทุนส่งเด็กเพื่อศึกษาต่อ… แต่เราไม่สามารถสอบได้คะแนน เพื่อที่จะเข้าข่ายการขอทุนได้ แต่โชคดีที่ คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจจะส่งเราไปอยู่แล้ว เราจึงใช้ทุนของท่าน ถือเป็นหนี้ก่อนใหญ่ที่เราก่อไว้อีกครั้ง และตั้งใจว่า เราจะต้องทำให้ดีที่สุด และแล้วก็เตรียมปักธงเริ่มสู่ปริญญาใบต่อไป

ระหว่างทำงาน เราเตรียมตัวสอบ TOEFL ไปทั้งหมด 2 รอบ แต่คะแนนไม่ได้ตามหวัง จนคุณแม่ของเราพยายามเกลี้ยกล่องให้เราไปเรียนที่ อังกฤษ แทน เพราะเราเองก็เป็นลูกคนเดียว แล้วท่านอายุเยอะแล้ว เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่เรามีลูกยาก เราจึงมีอายุห่างกันเยอะ คุณแม่เรามองว่าเรียนที่ สหรัฐอเมริกามันใช้เวลาราวๆ 2 ปี นานเกิน เลยอยากให้ไปที่อังกฤษเพราะประหยัดเวลาไป 1 ปี เราเลยเข้าคอร์สเรียน IELTS ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน แล้วไปสอบ IELTS UKVI ซึ่งแพงมากถึงมากที่สุด ยังไม่รวมค่าเรียนที่ลงไปอีก 1 course แต่โชคดีที่เราสอบ 1 ครั้ง แล้วคะแนนอยู่ในเกณฑ์พึงพอใจ แล้วในปี 2558 เราก็ลองยื่นมหาวิทยาลัยใน อังกฤษไป 3-4 ที่ และได้ Offer มา แต่เราตัดสินใจขอเลื่อน Offer ไปก่อน เนื่องจาก ณ ตอนนั้นมันใกล้เวลาจะไปจนเกินไป ทำให้เรากลับมาคิดเรื่องไป สหรัฐอเมริกาอีกครั้ง

แต่แล้วเราก็ติดกับดักในการทำงานอีกครั้งเกือบ 1 ปี ที่ทิ้งการเตรียมตัวไป จนมารู้ตัวอีกครั้งก็กลางปี 2559 แล้ว จากนั้นเราก็เริ่มทำ Research เกี่ยวกับมหาลัยอีกครั้ง แล้วพบว่าหลายๆมหาวิทยาลัยใน สหรัฐอเมริกาสมัยนี้ใช้คะแนน IELTS เทียบได้แล้ว เราจึงใช้คะแนนที่มีอยู่ Apply มหาวิทยาลัยไปราวๆ 7-8 มหาลัย ช่วงนั้นราวๆเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งหลายๆมหาวิทยาลัยเริ่มเปิดรับนักศึกษาสำหรับปี Fall 2017 กันแล้ว ยังไม่จบแค่นั้น… การจะเรียนต่อประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจำเป็นต้องมีคะแนน GMAT ในสาขา Business ซึ่งเราตอนนี้ก็เหลือเวลาแค่ราวๆ 1 ปีในการเตรียมตัว ซึ่งมันน้อยมากๆ ประกอบกับทักษะด้านภาษาของเราก็อยู่ในเกณฑ์ปานกลางไม่ได้โดดเด่นอะไร ซ้ำร้ายยังอ่อนเลขอีกด้วยซ้ำ ทำให้ GMAT กับเราเหมือนเส้นคู่ขนานกันมากขึ้น เราพยายามเตรียมตัวด้วยตัวเอง ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วสอบไปได้ 2 ครั้ง คะแนนย่ำแย่มากในครั้งแรกรู้สึกใจเสีย และพยายามอีกครั้งในครั้งที่ 2 คะแนนก็ดีขึ้นแต่ก็ยังไม่เพียงพอ และแล้วก็กลับมาพยายามทำ Mock Test อีกจนเกือบจะถอดใจกับมันแล้วแต่ได้กำลังใจจากที่บ้านเสมอ ณ เวลานี้ตัวแปรจำกัดที่สำคัญที่สุดคือ “เวลา” จนเราคิดว่าต้องเรียนเพื่อหาเทคนิคการสอบแล้ว แล้วก็ฝึกทำแบบฝึกหัดหลังเลิกงานตลอดระยะเวลา 1 ปี เป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยมาก แต่เราจะถอยไม่ได้ เพราะค่าเรียนค่าสอบแพงมากๆ โดยเราออกค่าสอบ ค่าเรียน ค่า Apply เองทุกอย่าง เพราะไม่อยากรบกวนที่บ้านมากไปกว่านี้แล้ว และแล้วเราก็ได้เรียน course GMAT จนสอบได้คะแนนครั้งสุดท้ายสำหรับเรามา ไม่ได้สูงแต่มันเพียงพอกับการที่ทำให้เรามายืนอยู่ที่นี่ได้


CHAPTER 3: WE ARE MARSHALL !

ขออนุญาติบอกคร่าวๆเกี่ยวกับการ Apply มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ของ สหรัฐอเมริกา เอกสารที่เราต้องเตรียมประกอบไปด้วย Transcript, SOP (Statement of purpose), Resume, Letter of recommend (จากอาจารย์ และนายจ้าง), คะแนน TOEFL/IELTS, คะแนน GMAT/GRE, ประสบการณ์ในการทำงาน และอื่นๆอีกเล็กน้อยตาม requirement ของมหาวิทยาลัย

Criteria มหาวิทาลัยของเราไม่ได้สูงมากนัก เนื่องจากเกรดที่ไม่สูง คะแนนภาษาตามเกณฑ์ รวมถึง  GMAT ที่เฉียดเป็นเฉียดตาย เราเลยขีดเส้นว่า เราจะหามหาวิทยาลัยในที่มีหลักสูตร Full-time MBA ที่เป็นมหาลัย Public University และ School of Business ได้รับ AACSB Accreditation ซึ่งเป็นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญคือห่างออกจากตัวเมืองใหญ่ เพราะเราต้องควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งในเรื่อง Tuition หรือ ค่ากินอยู่

หลังจากที่โดน Reject มาอย่างมากล้น มันก็ใกล้เดือน พฤษภาคม 2560 เข้ามาทุกทีแล้ว โดยส่วนมาก Fall Semester ซึ่งถือเป็นเปิดเทอมใหญ่ของที่นี่ มักจะเริ่มกินช่วงเดือน สิงหาคม-กันยายน แล้วเราก็ได้รู้จักกับ “Marshall University” ผ่านทาง Agency รายหนึ่ง และพูดคุยถึงรายละเอียด และได้ทำ Apply ไป รอ Offer ถึง 2 เดือนกว่าจะทราบผลก็เดือน มิถุนายนแล้ว ซึ่งเราดีใจมาก เพราะก่อนหน้านี้หลายๆเดือนที่ผ่านมาแทบจะกินนอนไม่หลับ เครียดเรื่องมหาวิทยาลัยมากกว่าเรื่องงานเสียด้วยซ้ำ และแทบจะเตรียมตัวไม่ทันเพราะมันกระชั้นเหลือเกิน ทั้งนี้เราจะขอแนะนำมหาวิทยาลัยนี้ให้ทุกๆคนได้รู้จักกันคร่าวๆ

Marshall University ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆชื่อ Huntington ในรัฐ West Virginia เป็นมหาลัย Public ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1837 โดย College of Business นั้นมีชื่อว่า “Lewis College of Business” โดยตัวโปรแกรมได้รับ AACSB Accreditation และสาขา MBA เราสามารถเลือกที่จะ Specialize ในหลายๆด้านได้ อาทิ Finance, Marketing, Management, Healthcare Management และ Human Resource Management โดยมหาวิทยาลัยอาจจะไม่ได้ติด Rank หรือ อยู่ใน Tier สูงๆในด้าน Business แต่อย่างใด แต่ที่แห่งนี้ให้โอกาสแก่ตัวกิฟท์เองอย่างมาก โดยจะเล่าให้ฟังใน Chapter ต่อๆไป


อีกอย่างที่ทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงก็คือ กีฬา American Football เช่นกัน ซึ่งเคยถูกทำเป็นหนังเรื่อง We are Marshall อีกด้วย หากใครสนใจหาชมกันได้นะครับ

อีกทั้ง ทางมหาวิทยาลัยทำโครงการร่วมกับ Program INTO ซึ่งช่วยนักเรียนที่ขาดความพร้อมทางด้านภาษามาเรียน ณ ที่ Campus ของมหาวิทยาลัยก่อน เราทราบคร่าวๆเพราะเรา โชคดีที่สามารถเข้า  Direct Admission มาได้ ไม่งั้นคงโดนค่าใช้จ่ายที่แพงมากๆ แต่นักเรียนต่างชาติส่วนมากมาจาก Program INTO เกือบทั้งหมด ส่วนนักเรียน Graduate ที่เหลือแทบจะเป็นนักเรียน Native ทั้งหมด

พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่นี่ ถือว่าประหยัดไปได้มาก หากเทียบกับเมืองใหญ่ๆ เพราะเป็นมหาลัยของ Public และ เป็นเมืองชนบท มีศูนย์กลางคือมหาวิทยาลัย รายล้อมด้วยป่า และเขา โดยค่าหอพัก off campus นั้น เรทราคาอยู่ที่ $400-800 ต่อเดือน ทั้งแชร์อยู่และอยู่คนเดียว อีกทั้ง  Tax ของรัฐนี้อยู่ที่ราวๆ 6% และค่า Tuition ของ MBA Course ต่อเทอมอยู่ที่ราวๆ $10,000 / Semester รวมๆแล้วเรียนทั้งหมด 4 Semester ตลอด Course หรือราวๆ 2 ปี อีกทั้งยังสามารถทำงาน On Campus ได้ ไม่เกิน 20 ชม. ต่อ สัปดาห์ หรือโอกาสในการจะเป็น Graduate Assistant ก็เปิดกว้างสำหรับนักเรียนต่างชาติทุกคน ซึ่ง กิฟท์จะขอแชร์ประสบการณ์ในส่วนนี้ในตอนต่อๆไปนะครับ เพราะตอนนี้ก็ได้โอกาสช่วยงานกับทาง College of Business อยู่เช่นกัน


ทั้งนี้กิฟท์ขอหยุดเอาไว้ตรงก่อนแล้วกัน ไว้จะมาแชร์ประสบการณ์ในหัวข้ออื่นๆ รวมถึงความเป็นอยู่ ณ ที่แห่งนี้นะครับ หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ของกิฟท์ คงพอจะเป็นประโยชน์ หรือเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่มีความฝันเช่นเดียวกัน

เป็นกำลังใจ และขอให้ทุกคนโชคดีครับ !

ติดตามตอนที่ 2 ได้ตาม link นี้นะครับ https://ppantip.com/topic/38010959
ติดตามตอนที่ 3 ได้ตาม link นี้นะครับ https://ppantip.com/topic/38044864

หากสนใจ หรืออยากสอบถาม พูดคุยได้ตลอด หรือตาม Blog นี้มาได้นะครับ >> https://givgift.wordpress.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่