คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
สวัสดีค่ะคุณ Rumina
สำหรับค่าใช้จ่ายกองทุนแบ่งออกเป็น 3 ส่วน กองทุน K-FIT มีแนวทางจัดเก็บดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมการจัดการ: จะไม่จัดเก็บซ้ำซ้อน ดังนี้
- กองทุน K-FIT จะเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการเป็นอัตราต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ไม่รวมมูลค่าของกองทุนอื่นภายใต้การจัดการ (กองทุนปลายทาง)
- กองทุนอื่นที่กองทุน K-FIT ไปลงทุน จะเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการตามอัตราและมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนนั้นๆ
ตัวอย่าง
ถ้า K-FIT มีการลงทุนในกองทุน K-CHINA 30 ล้านบาท และสินทรัพย์สุทธิอื่นๆ 70 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ดังนั้น
- 70 ล้านบาท จะถูกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการโดยกองทุน K-FIT
- 30 ล้านบาท จะถูกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการโดยกองทุน K-CHINA
2. ค่าธรรมเนียมซื้อ/ขาย: ไม่จัดเก็บซ้ำซ้อน โดยกองทุนปลายทางที่เป็นกองทุนภายใต้การจัดการจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อ/ขายจากกอง K-FIT
3. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ผู้ดูแลผลประโยชน์และนายทะเบียน)
- K-FIT และกองทุนปลายทางจะเก็บเป็นอัตราต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของแต่ละกองทุน ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สำหรับค่าใช้จ่ายกองทุนแบ่งออกเป็น 3 ส่วน กองทุน K-FIT มีแนวทางจัดเก็บดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมการจัดการ: จะไม่จัดเก็บซ้ำซ้อน ดังนี้
- กองทุน K-FIT จะเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการเป็นอัตราต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ไม่รวมมูลค่าของกองทุนอื่นภายใต้การจัดการ (กองทุนปลายทาง)
- กองทุนอื่นที่กองทุน K-FIT ไปลงทุน จะเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการตามอัตราและมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนนั้นๆ
ตัวอย่าง
ถ้า K-FIT มีการลงทุนในกองทุน K-CHINA 30 ล้านบาท และสินทรัพย์สุทธิอื่นๆ 70 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ดังนั้น
- 70 ล้านบาท จะถูกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการโดยกองทุน K-FIT
- 30 ล้านบาท จะถูกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการโดยกองทุน K-CHINA
2. ค่าธรรมเนียมซื้อ/ขาย: ไม่จัดเก็บซ้ำซ้อน โดยกองทุนปลายทางที่เป็นกองทุนภายใต้การจัดการจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อ/ขายจากกอง K-FIT
3. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ผู้ดูแลผลประโยชน์และนายทะเบียน)
- K-FIT และกองทุนปลายทางจะเก็บเป็นอัตราต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของแต่ละกองทุน ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบวิธีการคิดค่าธรรมเนียม กองทุนตระกูล k-fit ของ กสิกรหน่อยครับ