Hongkong & Macau
เมื่อพูดถึงฮ่องกง ใครๆ ก็นึกถึง ติ่มซำ เป็ดย่าง หมูแดง ขนมจีบ เกี๊ยวกุ้ง ช้อปปิ้ง Disneyland ไหว้พระ ขอพร แต่ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเห็นอีกมุมหนึ่งของฮ่องกง ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ยังคงมีเสน่ห์อีกเมืองหนึ่งนั่นเอง ใครที่เคยไปฮ่องกงมาแล้ว ยังอยากจะสัมผัสอีกมุมของฮ่องกงปักมุดไว้ได้เลยย เราจะแจกลายแทงพร้อมบอกทางไปอย่างละเอียด ไม่มีหลงแน่นอน อิอิ #unseenhongkong
ทริปนี้เราเดินทางทั้งหมด 3 วัน 2 คืน ไปมาเก๊าด้วยนะจ่ะ บินดึกกลับดึก ใช้เวลาคุ้มค่าจริงๆ
Budget ต่อคน : ประมาณ 5,000 thb (รวมทุกอย่างกิน เที่ยว อยุ่ ค่าเรือข้ามไปมาเก๊า)
การเดินทางในฮ่องกงถือว่าสะดวกมาก เพียงแค่ใช้บัตรปลาหมึก (Octopus) ใบเดียวก็สามารถเดินทางได้ทั่วฮ่องกงเลย ไม่ว่าจะขึ้นบัส MTR ซื้อของในเซเว่น ก็สามารถใช้บัตรปลาหมึกนี้ได้ บัตรเดียวจบจริงๆ แต่สาย airport ไม่สามารถใช้ได้นะ ต้องซื้อบัตรแยก ซึ่งราคาค่อนข้างแพงหน่อย ประมาณ 250 เหรียญต่อเที่ยว ถ้าไม่รีบ พอจะมีเวลา แนะนำให้นั่งบัสไป-กลับ สนามบินดีกว่า เพียงแค่ คนละ 33 เหรียญ เท่านั้น และบัสก็วิ่งมาถึงใจกลางเมืองเลย สะดวกฝุดๆ
เริ่มการเดินทางสถานที่แรกด้วยการขอพรไหว้พระ วัดแชกงหมิง
สถานที่ที่ 2 เนื่องจากฝนมันตกหนัก เพราะมรสุมเข้ามา การเดินทางเลยลำบาก ถ่ายรูปอาจไม่สวยนัก แต่ถ้าไปตอนอากาศดีๆละก็บอกเลยว่า ที่นี่ ชิคๆมาก ที่นี่ก็คือ Choi Hung Estate ซึ่งเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง ดูคล้ายๆกับเป็นโรงเรียนที่มีสนามบาสด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานที่ Choi Hung ขึ้นมาก็จะเจอตึกสีสันนี้โดดเด่นเลย
สถานที่ 3 จากนั้นเราเดินทางต่อไปที่สถานที่ถ่ายรูปสุดแปลกใหม่ ที่ไม่คิดว่ามันคือฮ่องกง นั่นก็คือ Sai Wan Swimming Shed ซึ่งเป็นสะพานเล็กยื่นออกไปทะเลล หลายๆคู่จะมาถ่ายรูปสวยๆ แปลกใหม่
การเดินทาง : MTR ลงสถานี Kenedy ออกประตู 2 ครับ หลังจากนั้นก็ให้เดินมาถนน Belcher’s Street แล้วต่อรถเมล์สาย 1, 43M, 47P ที่ป้าย Luen Bong Apartment หน้าร้าน KFC และ 7-11 เลยครัช นั่งไปอีก3 ป้ายก็ถึงแล้ว หรือ สามารถเดินตรงยาวจาก Belcher's Street ก็ได้ ไม่ต้องกลัวหลงครับ Google Map ช่วยคุณได้
สถานที่ 4 แล้วก็ไปต่อที่สถานที่ hilight ของฮ่องกงเลยก็ว่าได้ ที่เดี๋ยวนี้มักจะเห็นถ่ายรูปลงกันมาก นั่นก็คือ Yick Fat Building ซึ่งเป็นตึกที่มีห้องอยู่รวมกันอย่างแออัด แต่ถ่ายภาพออกมากันได้อย่างสวยงาม ต้องชื่นชมผู้ค้นพบเห็นจริงๆ
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงที่สถานี Tai Koo ทางออก B จากนั้นให้เดินไปทางทิศตะวันตกของถนน King’s Road 2 บล็อก สังเกตุดีๆ จะเห็นชาวต่างชาติเดินเข้าไป
สถานที่ 5 จากนี้ต่อเราไปไหว้พระใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าจะทั่วไปของฮ่องกง ที่หลายคนมักจะไป นั่นก็คือ Ngong Ping 360 ที่มีพระใหญ่ ที่หลายคนมักจะมาสักการะ ไหว้พระกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้จะมีกระเช้าแก้วที่สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศาเลย กระเช้าแก้วนี้ต่างกับกระเช้าธรรมดาตรงที่ว่า ราคาแพงกว่า และ พื้นกระเช้าเป็นกระจกใสแค่นั้นเอง
การเดินทาง : MTR ลงที่สถานี Tung Chung และออก Exit B แล้วเดินต่อผ่านห้างไปเพื่อขึ้นกระเช้า
สถานที่ 6 และก็ไปต่อกันที่แสง สี ยามต่ำตืนที่พลาดไม่ได้เลย เมื่อมาฮ่องกง ก็จะมาดูทุกครั้ง นั่นคือ Symphony of Light ตรง Avenue of Stars ก็จะมีการเปิดไฟทุกวันเวลา 20.00
การเดินทาง : MTR สถานี East Tsim Sha Tsui
สถานที่ 7 สถานที่ต่อไปก็คือ แฟลทตำรวจหรือ PMQ ซึ่งอยู่ในย่านถ่ายรุปสุดชิก นั่นก็คือ ย่าน Hollywood ของฮ่องกง ย่านนี้จะเป็นย่านที่มีการเพ้นท์กำแพงมากมาย หลากหลายรูปแบบสวยงามมาก สำหรับคนอาตๆก็น่าจะชอบอยู่ ส่วนตัวไม่ค่อยอินเท่าไร 555 สงสัยจะไม่อาร์ตพอ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินลงสถานนี Sheung Wan ทางออก 2 เดินผ่าน Grand Millennium Plaza ไป Bonham Strand จากนั้นข้ามทางม้าลายแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปตามถนน Wellington แล้วเลี้ยวขวาที่ถนน Aberdeen
สถานที่ 8 ขอยกสถานที่นี้ให้เป็น ไฮไลท์และเป็นจุดประสงค์ที่กลับมาฮ่องกงอีกครั้ง นั่นก็คือการเดินเขาที่ Lion Rock โดยสถถานที่แห่งนี้จะทำให้เราเห็นเมืองฮ่องกงแทบจะทั้งเมือง ด้วยวิวตึกสูงๆมากมายอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง การเดินทางนั้นค่อนข้างลำบากหน่อย เนื่องจากต้องเดิน เดิน เดิน เยอะ และบวกด้วยอากาศที่ร้อน ก็จะเหงื่อเต็มตัว (แนะนำถ้ามาให้มาช่วงหน้าหนาวจะดีกว่า) แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว เราก็ต้องสู้ ต้องสู้ จึงจะไปถึง เพลงของเจินๆก็มา สำหรับ Lion Rock นี้ถ้าจะเดินถึงยอดเลยนั้นไปกลับจากสถานีรถไฟ จะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชม. ขึ้นอยู่กับการเดิน และการถ่ายรูปของเรา
วิวด้านบนนั้นสวยงามเสมอ ยิ่งสูงก็ยิ่งสวยย
การเดินทาง : MTR สถานี Wong Tai Sin ทางออก B2 เดินผ่านลานวัดไปยังที่มีรถบัสจอดเยอะๆ ไปตามถนน Shatin Pass เดินขึ้นไปเรื่อยๆผ่าน โรงพยาบาล วัด และคอนโดต่างๆ เดินตรงเรื่อยๆเลย หลังจากเดินขึ้นมาพักใหญ่นั้นจะเจอป้ายนี้ ให้เดินตามทางป้ายนะ ระวังหลง
สถานที่ 9 มาเก๊า สถานที่นี้คงไม่ขอพูดเยอะ เพราะหลายๆคนคงรู้จักดี สำหรับคนที่มาฮ่องกงแล้วอยากเก็บแต้ม ปักมุดอีกประเทศนึงหรือชอบการเสี่ยงโชคนั้น ก็อาจจะเลือกมามาเก๊าเพิ่ม แต่ว่ามาเก๊าก็ยังมีสถานที่เที่ยวนอกจากคาสิโนอีกนะเช่น วัดอาหม่า รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมริมทะเล เมืองจำลอง และ ซากโบสถ์โบราณ
ส่วนการเดินทางไปมาเก๊านั้นก็ไม่ยากเลย นั่งเรือจ้าง่ายสุดละ ซึ่งจะสามารถขึ้นเรือได้อยู่สองที่
1. ฝั่งเกาลูน คือท่าเรือ "China Ferry Terminal" อยู่ใกล้ๆ Harbour City
ความถี่เรือของท่านี้จะค่อนข้างห่าง(1 ชม.) และต้องเดิน หรือแทกซี่ ไม่มีรถไฟฟ้าถึง เหมาะกับคนที่พักพื้นที่ Tsim Sha Tsui
2. ฝั่งฮองกง คือท่าเรือ "Hongkong Macau Ferry Terminal" ลงรถไฟฟ้าสถานี Sheung Wan (ถัดจากสถานี Central)
ข้อดีคือรถไฟฟ้าถึง เรือเข้าออกค่อนข้างถี่ (ทุกๆ 15 - 30 นาที)
ฝั่งมาเก๊าก็มีท่าเรือ 2 ท่าเช่นกัน
ฝั่ง Taipa (ใกล้ๆสนามบิน ) คือท่าเรือ "Macau Taipa Ferry Terminal" ท่าเรือนี้จะเป็นถิ่นของ Cotai Jet (ฝั่งเรือสีน้ำเงิน) จะใกล้โรงแรม Venetian / Studio City / COD / Galaxy / Parisian/Holiday inn / Conrad / Sheraton /wynn Palace
ฝั่งมาเก๊า (ใกล้ๆ fisherman's wharf macau ) คือท่าเรือ "Macau Outer Harbour Ferry " ท่าเรือนี้จะเป็นถิ่นของ Turbo Jet (ฝั่งเรือสีแดง) จะใกล้โรงแรม Wynn / MGM / Grand Lisbau / Sintra/Sands
ส่วนเรือนั้นจะมี 2 บริษัท
นั่นก็คือ Turbo Jet กับ Cotai Jet
ฝั่ง Turbo Jet
ซึ่งข้อดี ความถี่ของเรือ เรียกว่าออกันทุกๆ 15 นาที กันเลยทีเดียว
ข้อเสียคือ ไม่มีโปรใดๆทั้งสิ้น / แลกตั๋วฟรีคะแนนคาสิโนไม่ได้
Hongkong Macau Ferry Terminal <----------> Macau Outer Harbour Ferry ออกค่อนข้างถี่ ทุก 15 นาทีเลยทีเดียว
Hongkong Macau Ferry Terminal <----------> Macau Taipa Ferry Terminal จะน้อยมาก เพราะว่าไปจอดที่ท่าของคู่แข่งที่มาเก๊า
ส่วนฝั่ง Cotai Jet
จะออกถี่น้อยกว่าเจ้าสีแดง เฉลี่ยอยู่ราวที่ 30 นาที
ข้อดีของฝั่งนี้คือ โปรเยอะมาก
Hongkong Macau Ferry Terminal <----------> Macau Taipa Ferry Terminal ออกเรือเฉลี่ยอยู่ราวที่ 30 นาที
Hongkong Macau Ferry Terminal <----------> Macau Outer Harbour Ferry แทบจะไม่มี เพราะจอดท่าของคู่แข่งที่มาเก๊า
ส่วนราคานั้นจะพอๆกันทั้งสองบริษัท
1. Economy ราคา 160 - 200 HKD ที่นั่งเป็นแบบ 2-4-4-2 ชั้นล่างของเรือ ที่นั่งจะแคบกว่า First ปรับเอนไม่ได้ แต่ก็นั่งสบายนะครับ เพราะผมตัวใหญ่
2. First Class ราคา 250 -300 HKD ที่นั่งแบบ 2-3-3-2 ชั้นบนของเรือ สิทธิพิเศษ มีที่นั่งหรือห้องรับรองที่ Terminal
ราคาขึ้นอยู่กับ วัน (Weekday / Weekend ) และ เวลา (Day / Night Sailing)
แต่เราก็มีวิธีที่หาตั๋วได้ถูก ถ้าไม่ได้โปร เนื่องจากว่าฝั่ง Cotai Jet จะมีออกโปรบ่อยและจะมีบางคนที่มักจะซื้อตั๋วเก็บไว้แล้วมาขายตั๋วผีหน้างานแล้วขายไม่หมด พอใกล้ๆเวลาเรือออก ก็จะเอาตั๋วมาลดราคา บางครั้งก็ได้ราคาเพียง 140 HKD ในวันเสาร์อาทิตย์ได้ รอจังหวะดีๆนะ แต่ระวังตกเรือละ เพราะต้องเผื่อเวลาผ่าน ตม. ด้วยนะ
ขอฝากรูปภาพที่เที่ยวในมาเก๊าให้สักนิด จบละไม่พูดมาก สาระนิดนึง ฮ่าๆ
สำหรับที่พักนั้น พักที่ฮ่องกงทั้งสองคืน ที่ย่านกลาง
โรงแรมในฮ่องกงราคาค่อนข้างสูง ถ้าไม่เน้นช้อปปิ้ง ไม่จำเป็นต้องเลือกโรงแรมใจกลางเมือง เพราะราคาจะสูง ถ้าเลือกโรงแรมใจกลางเมือง แต่ราคาไม่สูงก็มีให้เลือกหลายแห่ง แต่ห้องจะเล็กมากถึงที่สุด เล็กขนาดที่ว่า จะขยับตัวยังเหนื่อยเลย แต่อันนี้ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับสายช้อป ที่อยากประหยัดละกัน (ซื้อเยอะระวังไม่มีที่นอนละ เพราะของเต็มห้อง)
ส่วนเรานั้นแน่นอนสายประหยัดอยู่แล้ว จึงพักย่านกลางTsim Sha Tsui เลย ออกมาคือเจอห้างทันที คืนละ 1 พันบาท ใกล้รถไฟใต้ดินถือว่าสะดวก แต่ก็รอลิฟท์ขึ้นนาน
แถมด้วยภาพถ่ายอาหารนิดนึง ซึ่งเรามาฮ่องกงก็ต้องตามรอยรีวิวมาทานแน่นอน
** ฮ่องกงนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ รอให้คุณไปสัมผัสอยู่นะ **
[SR] Unseen in Hongkong ฮ่องกงในแบบฉบับคุณเอง แค่ 5พันบาท ถ่ายรูปชิคๆ ราคาบ้านๆ
เมื่อพูดถึงฮ่องกง ใครๆ ก็นึกถึง ติ่มซำ เป็ดย่าง หมูแดง ขนมจีบ เกี๊ยวกุ้ง ช้อปปิ้ง Disneyland ไหว้พระ ขอพร แต่ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเห็นอีกมุมหนึ่งของฮ่องกง ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ยังคงมีเสน่ห์อีกเมืองหนึ่งนั่นเอง ใครที่เคยไปฮ่องกงมาแล้ว ยังอยากจะสัมผัสอีกมุมของฮ่องกงปักมุดไว้ได้เลยย เราจะแจกลายแทงพร้อมบอกทางไปอย่างละเอียด ไม่มีหลงแน่นอน อิอิ #unseenhongkong
ทริปนี้เราเดินทางทั้งหมด 3 วัน 2 คืน ไปมาเก๊าด้วยนะจ่ะ บินดึกกลับดึก ใช้เวลาคุ้มค่าจริงๆ
Budget ต่อคน : ประมาณ 5,000 thb (รวมทุกอย่างกิน เที่ยว อยุ่ ค่าเรือข้ามไปมาเก๊า)
การเดินทางในฮ่องกงถือว่าสะดวกมาก เพียงแค่ใช้บัตรปลาหมึก (Octopus) ใบเดียวก็สามารถเดินทางได้ทั่วฮ่องกงเลย ไม่ว่าจะขึ้นบัส MTR ซื้อของในเซเว่น ก็สามารถใช้บัตรปลาหมึกนี้ได้ บัตรเดียวจบจริงๆ แต่สาย airport ไม่สามารถใช้ได้นะ ต้องซื้อบัตรแยก ซึ่งราคาค่อนข้างแพงหน่อย ประมาณ 250 เหรียญต่อเที่ยว ถ้าไม่รีบ พอจะมีเวลา แนะนำให้นั่งบัสไป-กลับ สนามบินดีกว่า เพียงแค่ คนละ 33 เหรียญ เท่านั้น และบัสก็วิ่งมาถึงใจกลางเมืองเลย สะดวกฝุดๆ
เริ่มการเดินทางสถานที่แรกด้วยการขอพรไหว้พระ วัดแชกงหมิง
สถานที่ที่ 2 เนื่องจากฝนมันตกหนัก เพราะมรสุมเข้ามา การเดินทางเลยลำบาก ถ่ายรูปอาจไม่สวยนัก แต่ถ้าไปตอนอากาศดีๆละก็บอกเลยว่า ที่นี่ ชิคๆมาก ที่นี่ก็คือ Choi Hung Estate ซึ่งเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง ดูคล้ายๆกับเป็นโรงเรียนที่มีสนามบาสด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานที่ Choi Hung ขึ้นมาก็จะเจอตึกสีสันนี้โดดเด่นเลย
สถานที่ 3 จากนั้นเราเดินทางต่อไปที่สถานที่ถ่ายรูปสุดแปลกใหม่ ที่ไม่คิดว่ามันคือฮ่องกง นั่นก็คือ Sai Wan Swimming Shed ซึ่งเป็นสะพานเล็กยื่นออกไปทะเลล หลายๆคู่จะมาถ่ายรูปสวยๆ แปลกใหม่
การเดินทาง : MTR ลงสถานี Kenedy ออกประตู 2 ครับ หลังจากนั้นก็ให้เดินมาถนน Belcher’s Street แล้วต่อรถเมล์สาย 1, 43M, 47P ที่ป้าย Luen Bong Apartment หน้าร้าน KFC และ 7-11 เลยครัช นั่งไปอีก3 ป้ายก็ถึงแล้ว หรือ สามารถเดินตรงยาวจาก Belcher's Street ก็ได้ ไม่ต้องกลัวหลงครับ Google Map ช่วยคุณได้
สถานที่ 4 แล้วก็ไปต่อที่สถานที่ hilight ของฮ่องกงเลยก็ว่าได้ ที่เดี๋ยวนี้มักจะเห็นถ่ายรูปลงกันมาก นั่นก็คือ Yick Fat Building ซึ่งเป็นตึกที่มีห้องอยู่รวมกันอย่างแออัด แต่ถ่ายภาพออกมากันได้อย่างสวยงาม ต้องชื่นชมผู้ค้นพบเห็นจริงๆ
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงที่สถานี Tai Koo ทางออก B จากนั้นให้เดินไปทางทิศตะวันตกของถนน King’s Road 2 บล็อก สังเกตุดีๆ จะเห็นชาวต่างชาติเดินเข้าไป
สถานที่ 5 จากนี้ต่อเราไปไหว้พระใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าจะทั่วไปของฮ่องกง ที่หลายคนมักจะไป นั่นก็คือ Ngong Ping 360 ที่มีพระใหญ่ ที่หลายคนมักจะมาสักการะ ไหว้พระกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้จะมีกระเช้าแก้วที่สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศาเลย กระเช้าแก้วนี้ต่างกับกระเช้าธรรมดาตรงที่ว่า ราคาแพงกว่า และ พื้นกระเช้าเป็นกระจกใสแค่นั้นเอง
การเดินทาง : MTR ลงที่สถานี Tung Chung และออก Exit B แล้วเดินต่อผ่านห้างไปเพื่อขึ้นกระเช้า
สถานที่ 6 และก็ไปต่อกันที่แสง สี ยามต่ำตืนที่พลาดไม่ได้เลย เมื่อมาฮ่องกง ก็จะมาดูทุกครั้ง นั่นคือ Symphony of Light ตรง Avenue of Stars ก็จะมีการเปิดไฟทุกวันเวลา 20.00
การเดินทาง : MTR สถานี East Tsim Sha Tsui
สถานที่ 7 สถานที่ต่อไปก็คือ แฟลทตำรวจหรือ PMQ ซึ่งอยู่ในย่านถ่ายรุปสุดชิก นั่นก็คือ ย่าน Hollywood ของฮ่องกง ย่านนี้จะเป็นย่านที่มีการเพ้นท์กำแพงมากมาย หลากหลายรูปแบบสวยงามมาก สำหรับคนอาตๆก็น่าจะชอบอยู่ ส่วนตัวไม่ค่อยอินเท่าไร 555 สงสัยจะไม่อาร์ตพอ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินลงสถานนี Sheung Wan ทางออก 2 เดินผ่าน Grand Millennium Plaza ไป Bonham Strand จากนั้นข้ามทางม้าลายแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปตามถนน Wellington แล้วเลี้ยวขวาที่ถนน Aberdeen
สถานที่ 8 ขอยกสถานที่นี้ให้เป็น ไฮไลท์และเป็นจุดประสงค์ที่กลับมาฮ่องกงอีกครั้ง นั่นก็คือการเดินเขาที่ Lion Rock โดยสถถานที่แห่งนี้จะทำให้เราเห็นเมืองฮ่องกงแทบจะทั้งเมือง ด้วยวิวตึกสูงๆมากมายอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง การเดินทางนั้นค่อนข้างลำบากหน่อย เนื่องจากต้องเดิน เดิน เดิน เยอะ และบวกด้วยอากาศที่ร้อน ก็จะเหงื่อเต็มตัว (แนะนำถ้ามาให้มาช่วงหน้าหนาวจะดีกว่า) แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว เราก็ต้องสู้ ต้องสู้ จึงจะไปถึง เพลงของเจินๆก็มา สำหรับ Lion Rock นี้ถ้าจะเดินถึงยอดเลยนั้นไปกลับจากสถานีรถไฟ จะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชม. ขึ้นอยู่กับการเดิน และการถ่ายรูปของเรา
การเดินทาง : MTR สถานี Wong Tai Sin ทางออก B2 เดินผ่านลานวัดไปยังที่มีรถบัสจอดเยอะๆ ไปตามถนน Shatin Pass เดินขึ้นไปเรื่อยๆผ่าน โรงพยาบาล วัด และคอนโดต่างๆ เดินตรงเรื่อยๆเลย หลังจากเดินขึ้นมาพักใหญ่นั้นจะเจอป้ายนี้ ให้เดินตามทางป้ายนะ ระวังหลง
สถานที่ 9 มาเก๊า สถานที่นี้คงไม่ขอพูดเยอะ เพราะหลายๆคนคงรู้จักดี สำหรับคนที่มาฮ่องกงแล้วอยากเก็บแต้ม ปักมุดอีกประเทศนึงหรือชอบการเสี่ยงโชคนั้น ก็อาจจะเลือกมามาเก๊าเพิ่ม แต่ว่ามาเก๊าก็ยังมีสถานที่เที่ยวนอกจากคาสิโนอีกนะเช่น วัดอาหม่า รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมริมทะเล เมืองจำลอง และ ซากโบสถ์โบราณ
ส่วนการเดินทางไปมาเก๊านั้นก็ไม่ยากเลย นั่งเรือจ้าง่ายสุดละ ซึ่งจะสามารถขึ้นเรือได้อยู่สองที่
1. ฝั่งเกาลูน คือท่าเรือ "China Ferry Terminal" อยู่ใกล้ๆ Harbour City
ความถี่เรือของท่านี้จะค่อนข้างห่าง(1 ชม.) และต้องเดิน หรือแทกซี่ ไม่มีรถไฟฟ้าถึง เหมาะกับคนที่พักพื้นที่ Tsim Sha Tsui
2. ฝั่งฮองกง คือท่าเรือ "Hongkong Macau Ferry Terminal" ลงรถไฟฟ้าสถานี Sheung Wan (ถัดจากสถานี Central)
ข้อดีคือรถไฟฟ้าถึง เรือเข้าออกค่อนข้างถี่ (ทุกๆ 15 - 30 นาที)
ฝั่งมาเก๊าก็มีท่าเรือ 2 ท่าเช่นกัน
ฝั่ง Taipa (ใกล้ๆสนามบิน ) คือท่าเรือ "Macau Taipa Ferry Terminal" ท่าเรือนี้จะเป็นถิ่นของ Cotai Jet (ฝั่งเรือสีน้ำเงิน) จะใกล้โรงแรม Venetian / Studio City / COD / Galaxy / Parisian/Holiday inn / Conrad / Sheraton /wynn Palace
ฝั่งมาเก๊า (ใกล้ๆ fisherman's wharf macau ) คือท่าเรือ "Macau Outer Harbour Ferry " ท่าเรือนี้จะเป็นถิ่นของ Turbo Jet (ฝั่งเรือสีแดง) จะใกล้โรงแรม Wynn / MGM / Grand Lisbau / Sintra/Sands
ส่วนเรือนั้นจะมี 2 บริษัท
นั่นก็คือ Turbo Jet กับ Cotai Jet
ฝั่ง Turbo Jet
ซึ่งข้อดี ความถี่ของเรือ เรียกว่าออกันทุกๆ 15 นาที กันเลยทีเดียว
ข้อเสียคือ ไม่มีโปรใดๆทั้งสิ้น / แลกตั๋วฟรีคะแนนคาสิโนไม่ได้
Hongkong Macau Ferry Terminal <----------> Macau Outer Harbour Ferry ออกค่อนข้างถี่ ทุก 15 นาทีเลยทีเดียว
Hongkong Macau Ferry Terminal <----------> Macau Taipa Ferry Terminal จะน้อยมาก เพราะว่าไปจอดที่ท่าของคู่แข่งที่มาเก๊า
ส่วนฝั่ง Cotai Jet
จะออกถี่น้อยกว่าเจ้าสีแดง เฉลี่ยอยู่ราวที่ 30 นาที
ข้อดีของฝั่งนี้คือ โปรเยอะมาก
Hongkong Macau Ferry Terminal <----------> Macau Taipa Ferry Terminal ออกเรือเฉลี่ยอยู่ราวที่ 30 นาที
Hongkong Macau Ferry Terminal <----------> Macau Outer Harbour Ferry แทบจะไม่มี เพราะจอดท่าของคู่แข่งที่มาเก๊า
ส่วนราคานั้นจะพอๆกันทั้งสองบริษัท
1. Economy ราคา 160 - 200 HKD ที่นั่งเป็นแบบ 2-4-4-2 ชั้นล่างของเรือ ที่นั่งจะแคบกว่า First ปรับเอนไม่ได้ แต่ก็นั่งสบายนะครับ เพราะผมตัวใหญ่
2. First Class ราคา 250 -300 HKD ที่นั่งแบบ 2-3-3-2 ชั้นบนของเรือ สิทธิพิเศษ มีที่นั่งหรือห้องรับรองที่ Terminal
ราคาขึ้นอยู่กับ วัน (Weekday / Weekend ) และ เวลา (Day / Night Sailing)
แต่เราก็มีวิธีที่หาตั๋วได้ถูก ถ้าไม่ได้โปร เนื่องจากว่าฝั่ง Cotai Jet จะมีออกโปรบ่อยและจะมีบางคนที่มักจะซื้อตั๋วเก็บไว้แล้วมาขายตั๋วผีหน้างานแล้วขายไม่หมด พอใกล้ๆเวลาเรือออก ก็จะเอาตั๋วมาลดราคา บางครั้งก็ได้ราคาเพียง 140 HKD ในวันเสาร์อาทิตย์ได้ รอจังหวะดีๆนะ แต่ระวังตกเรือละ เพราะต้องเผื่อเวลาผ่าน ตม. ด้วยนะ
สำหรับที่พักนั้น พักที่ฮ่องกงทั้งสองคืน ที่ย่านกลาง
โรงแรมในฮ่องกงราคาค่อนข้างสูง ถ้าไม่เน้นช้อปปิ้ง ไม่จำเป็นต้องเลือกโรงแรมใจกลางเมือง เพราะราคาจะสูง ถ้าเลือกโรงแรมใจกลางเมือง แต่ราคาไม่สูงก็มีให้เลือกหลายแห่ง แต่ห้องจะเล็กมากถึงที่สุด เล็กขนาดที่ว่า จะขยับตัวยังเหนื่อยเลย แต่อันนี้ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับสายช้อป ที่อยากประหยัดละกัน (ซื้อเยอะระวังไม่มีที่นอนละ เพราะของเต็มห้อง)
ส่วนเรานั้นแน่นอนสายประหยัดอยู่แล้ว จึงพักย่านกลางTsim Sha Tsui เลย ออกมาคือเจอห้างทันที คืนละ 1 พันบาท ใกล้รถไฟใต้ดินถือว่าสะดวก แต่ก็รอลิฟท์ขึ้นนาน
แถมด้วยภาพถ่ายอาหารนิดนึง ซึ่งเรามาฮ่องกงก็ต้องตามรอยรีวิวมาทานแน่นอน
** ฮ่องกงนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ รอให้คุณไปสัมผัสอยู่นะ **
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น