คดีแหม่มถูกข่มขืน ส่อกลิ่นตุ ๆ กุถูกข่มขืนที่เกาะเต่า หลังเมามีเซ็กส์กับหนุ่ม กลัวแฟนรู้
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ
ได้แจ้งกับ น.ส.ภัทรา แจ่มสกุล เจ้าของโฮสเทล ดิไฮฟ์ ว่า ตนกับเพื่อนได้ไปดื่มสุราที่บริเวณหน้าไอฟายแอนรีสอร์ท
จนเกิดอาการมึนเมา ต่อมามีชายชาวเอเชียเข้ามาพูดคุย จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่บริเวณลานหิน จปร.
ใกล้โรงแรมเดอะคลิฟ รู้สึกตัวว่าน่าจะโดนข่มขืนและทรัพย์สินได้สูญหายไป น.ส.ภัทรา ได้แนะนำให้ไปแจ้งความ
แต่เจ้าตัวไม่ประสงค์ที่จะแจ้ง เพราะต้องเดินทางไปงานฟูลมูนปาร์ตี้ ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน
ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พะงัน ว่าทรัพย์สินสูญหาย แต่ไม่ได้มีการระบุพูดถึงการข่มขืน
แต่เมื่อกลับบ้านเกิดกลับให้ข่าวกับสื่ออังกฤษว่าถูกข่มขืน
พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า น.ส.ภัทรา ระบุว่า วันเกิดเหตุแหม่มสาวชาวอังกฤษได้นั่งร้องไห้เสียใจหน้าโรงแรมจริง
และบอกว่า
ได้พลาดพลั้งไปมีความสัมพันธ์กับเพื่อนชายที่มาเที่ยวด้วยกัน
และกลัวแฟนหนุ่มที่กำลังจะเดินทางมาในอีกไม่กี่วันจะรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
จากนั้นเจ้าของโรงแรมได้แนะนำให้ไปร้องทุกข์ แต่สุดท้ายก็ไม่ไป พอวันล่วงเลยมาถึงรู่ว่าแหม่มสาวกลับไปแจ้งของหาย
ตอนนี้ยังไม่พบเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งการมอมยา ข่มขืน ขณะนี้ประสานไปยังสถานฑูตอังกฤษแล้ว
แต่ยังติดต่อผู้เสียหายไม่ได้
หากเรื่องนี้เกิดจากความพลาดพลั้งจะไม่ถือว่าเป็นการข่มขืน
นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า หนุ่มที่มีสัมพันธ์กับแหม่มสาวนั้น มีปากเสียงกับแฟนหนุ่มของแหม่มสาว
ถึงขั้นชกต่อยกัน มาจากปัญหาที่ระบุไว้ข้างต้น
สรุปได้ว่าไม่มีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นจริง
แต่หากครอบครัวสงสัยก็ขอให้กลับมาไทย เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ
ส่วนเว็บไซต์ที่ปล่อยข่าวบิดเบือนข้อมูล
มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเอาผิดคนที่วิจารณ์สร้างความเสียหายให้กับประเทศ
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://hilight.kapook.com/view/177106
โอ้ละพ่อ ? คดีแหม่มถูกข่มขืนที่เกาะเต่า ที่แท้ เมาแล้วมีเซ็กส์กับหนุ่มอื่น !?!?
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ
ได้แจ้งกับ น.ส.ภัทรา แจ่มสกุล เจ้าของโฮสเทล ดิไฮฟ์ ว่า ตนกับเพื่อนได้ไปดื่มสุราที่บริเวณหน้าไอฟายแอนรีสอร์ท
จนเกิดอาการมึนเมา ต่อมามีชายชาวเอเชียเข้ามาพูดคุย จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่บริเวณลานหิน จปร.
ใกล้โรงแรมเดอะคลิฟ รู้สึกตัวว่าน่าจะโดนข่มขืนและทรัพย์สินได้สูญหายไป น.ส.ภัทรา ได้แนะนำให้ไปแจ้งความ
แต่เจ้าตัวไม่ประสงค์ที่จะแจ้ง เพราะต้องเดินทางไปงานฟูลมูนปาร์ตี้ ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน
ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พะงัน ว่าทรัพย์สินสูญหาย แต่ไม่ได้มีการระบุพูดถึงการข่มขืน
แต่เมื่อกลับบ้านเกิดกลับให้ข่าวกับสื่ออังกฤษว่าถูกข่มขืน
พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า น.ส.ภัทรา ระบุว่า วันเกิดเหตุแหม่มสาวชาวอังกฤษได้นั่งร้องไห้เสียใจหน้าโรงแรมจริง
และบอกว่าได้พลาดพลั้งไปมีความสัมพันธ์กับเพื่อนชายที่มาเที่ยวด้วยกัน
และกลัวแฟนหนุ่มที่กำลังจะเดินทางมาในอีกไม่กี่วันจะรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
จากนั้นเจ้าของโรงแรมได้แนะนำให้ไปร้องทุกข์ แต่สุดท้ายก็ไม่ไป พอวันล่วงเลยมาถึงรู่ว่าแหม่มสาวกลับไปแจ้งของหาย
ตอนนี้ยังไม่พบเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งการมอมยา ข่มขืน ขณะนี้ประสานไปยังสถานฑูตอังกฤษแล้ว
แต่ยังติดต่อผู้เสียหายไม่ได้ หากเรื่องนี้เกิดจากความพลาดพลั้งจะไม่ถือว่าเป็นการข่มขืน
นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า หนุ่มที่มีสัมพันธ์กับแหม่มสาวนั้น มีปากเสียงกับแฟนหนุ่มของแหม่มสาว
ถึงขั้นชกต่อยกัน มาจากปัญหาที่ระบุไว้ข้างต้น สรุปได้ว่าไม่มีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นจริง
แต่หากครอบครัวสงสัยก็ขอให้กลับมาไทย เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ
ส่วนเว็บไซต์ที่ปล่อยข่าวบิดเบือนข้อมูล
มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเอาผิดคนที่วิจารณ์สร้างความเสียหายให้กับประเทศ
ที่มา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้