Ariana Grande doubles up in the top 10 as “No Tears Left to Cry” rebounds number 12 to number 7, after having previously reached No. 3. The single flies #16 on Streaming Songs (18.3 million, up 47 percent) and holds at No. 7 on Radio Songs (68 million, down 8 percent).
Directly below “Tears” on the Hot 100, Grande’s “God Is A Woman,” rockets 30-8 and secures her 10th top 10 hit. The song rallies 24-8 on Streaming Songs (22.8 million, up 68 percent) and 32-12 on Digital Song Sales (16,000, up 78 percent), helped by live televised performances of the song in the tracking week, including at the 2018 MTV Video Music Awards on Aug. 20 “God Is A Woman” also darts 46-39 on Radio Songs in its second week on the chart (29 million, up 22 percent).
As “God Is A Woman” roars, Grande becomes only the 12th artist to have logged at least 10 Hot 100 top 10s in the 2010s decade. Among women, she ties the tallies of Kesha and Lady Gaga for the fifth-best sum. Rihanna leads all women, with 19 top 10s in the decade, followed by Nicki Minaj and Taylor Swift (each with 17), and Katy Perry (11).
Both “No Tears Left To Cry" and “God Is A Woman” feature on Ariana Grande’s fourth studio LP, Sweetener, which blasts in at No. 1 on the Billboard 200.
News :
https://www.billboard.com/amp/articles/columns/chart-beat/8472538/ariana-grande-10th-top-10-hit-10-songs-billboard-hot-100-chart?__twitter_impression=true
ซิงเกิ้ล God Is A Woman โดย Ariana Grande พุ่งเข้าสู่ Top 10 ของ Billboard Hot 100 อยู่อันดับ 8 ในสัปดาห์นี้ เป็นเพลงแนวป๊อปอาร์แอนด์บีร่วมสมัยที่ผสมผสานเสียงกีตาร์ไฟฟ้าเข้ากับบีตเสียงสังเคราะห์ที่กำลังได้รับความนิยม โดย 20 วินาที
ช่วงสุดท้ายของเพลงที่อะรีอานาร้องแบบอะแคปเปลลาก็ถือว่าเป็นไฮไลต์ของเพลง และเป็นการตอกย้ำว่าเธอคือหนึ่งในศิลปินที่มีเสียงอันทรงพลังที่สุดในช่วงนี้ ส่วนด้านความหมายของเพลง God Is A Woman ก็ฉลาดในการสะท้อนว่าผู้หญิงควรเป็นผู้นำได้ตามชื่อเพลง แต่อยู่ในบริบทของเรื่องบนเตียงที่ผู้ชายหลายคนยังคิดว่าเป็นผู้นำอยู่
อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับผลงานใหม่ของอะรีอานาคือการเติบโตเชิงทัศนคติและมุมมองของเธอ รวมถึงการอยากใช้ฐานชื่อเสียงเพื่อขับเคลื่อนสังคมและเป็นแบบอย่างให้กับแฟนคลับ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่กำลังต้องเผชิญปัญหาต่างๆ เห็นได้ชัดกับเหตุกราดยิงในคอนเสิร์ตของอะรีอานาที่แมนเชสเตอร์เมื่อปีก่อน ซึ่งอะรีอานาเพิ่งให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Elle ฉบับอเมริกาที่เธอขึ้นปกว่า “ตอนฉันกลับบ้านเมื่อทัวร์ครั้งล่าสุดจบ ฉันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่ปั่นป่วนไปหมด และมีความรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก บางวันฉันก็จะรู้สึกโอเคและแฮปปี้ แต่อยู่ดีๆ ความกังวลก็จะตีกลับมา พูดได้ว่ามีหลายเดือนที่ฉันรู้สึกขึ้นลงตลอดเวลา”
ากไปกว่านั้นอะรีอานาก็มีความชัดเจนและกล้าออกมาพูดเรื่องปัญหาสังคมและการเมืองอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะการที่เธอไม่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะรัฐมนตรีของเขา ซึ่งศิลปินกระแสหลักหลายคนที่อายุไล่เลี่ยกันอาจเลือกไม่ออกมาพูดอะไรเยอะ เพราะกลัวจะเสียฐานแฟนคลับ โดยอะรีอานาให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันพูดถึงเรื่องอะไรมันก็เป็นกระแสอยู่แล้ว แต่ถ้าฉันเลือกที่จะไม่พูด ฉันจะมาอยู่จุดนี้เพื่ออะไร แน่นอนว่าต้องมีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับฉัน แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าฉันควรจะหุบปากและแค่ร้องเพลงต่อไป ฉันก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่แคร์ความรู้สึกของมนุษย์คนอื่นและอยากเป็นพันธมิตรของคนที่คิดเหมือนฉัน โดยใช้แพลตฟอร์มและชื่อเสียงของฉันเพื่อให้คนเข้าใจปัญหาที่เรากำลังเผชิญ… การเป็นศิลปินไม่ได้แปลว่าจะช่วยและทำให้คนอื่นรู้สึกดีอย่างเดียว แต่เป็นการผลักดันให้คนอื่นคิดต่าง สร้างคำถาม และขยายขอบเขตทางความคิด”
Ariana Grande พา God Is A Woman เข้าสู่ Top 10 ใน Billboard Hot 100 เรียบร้อย ชีวิตที่เติบโตหลังเหตุระเบิดในคอนเสิร์ต
Directly below “Tears” on the Hot 100, Grande’s “God Is A Woman,” rockets 30-8 and secures her 10th top 10 hit. The song rallies 24-8 on Streaming Songs (22.8 million, up 68 percent) and 32-12 on Digital Song Sales (16,000, up 78 percent), helped by live televised performances of the song in the tracking week, including at the 2018 MTV Video Music Awards on Aug. 20 “God Is A Woman” also darts 46-39 on Radio Songs in its second week on the chart (29 million, up 22 percent).
As “God Is A Woman” roars, Grande becomes only the 12th artist to have logged at least 10 Hot 100 top 10s in the 2010s decade. Among women, she ties the tallies of Kesha and Lady Gaga for the fifth-best sum. Rihanna leads all women, with 19 top 10s in the decade, followed by Nicki Minaj and Taylor Swift (each with 17), and Katy Perry (11).
Both “No Tears Left To Cry" and “God Is A Woman” feature on Ariana Grande’s fourth studio LP, Sweetener, which blasts in at No. 1 on the Billboard 200.
News : https://www.billboard.com/amp/articles/columns/chart-beat/8472538/ariana-grande-10th-top-10-hit-10-songs-billboard-hot-100-chart?__twitter_impression=true
ซิงเกิ้ล God Is A Woman โดย Ariana Grande พุ่งเข้าสู่ Top 10 ของ Billboard Hot 100 อยู่อันดับ 8 ในสัปดาห์นี้ เป็นเพลงแนวป๊อปอาร์แอนด์บีร่วมสมัยที่ผสมผสานเสียงกีตาร์ไฟฟ้าเข้ากับบีตเสียงสังเคราะห์ที่กำลังได้รับความนิยม โดย 20 วินาที
ช่วงสุดท้ายของเพลงที่อะรีอานาร้องแบบอะแคปเปลลาก็ถือว่าเป็นไฮไลต์ของเพลง และเป็นการตอกย้ำว่าเธอคือหนึ่งในศิลปินที่มีเสียงอันทรงพลังที่สุดในช่วงนี้ ส่วนด้านความหมายของเพลง God Is A Woman ก็ฉลาดในการสะท้อนว่าผู้หญิงควรเป็นผู้นำได้ตามชื่อเพลง แต่อยู่ในบริบทของเรื่องบนเตียงที่ผู้ชายหลายคนยังคิดว่าเป็นผู้นำอยู่
อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับผลงานใหม่ของอะรีอานาคือการเติบโตเชิงทัศนคติและมุมมองของเธอ รวมถึงการอยากใช้ฐานชื่อเสียงเพื่อขับเคลื่อนสังคมและเป็นแบบอย่างให้กับแฟนคลับ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่กำลังต้องเผชิญปัญหาต่างๆ เห็นได้ชัดกับเหตุกราดยิงในคอนเสิร์ตของอะรีอานาที่แมนเชสเตอร์เมื่อปีก่อน ซึ่งอะรีอานาเพิ่งให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Elle ฉบับอเมริกาที่เธอขึ้นปกว่า “ตอนฉันกลับบ้านเมื่อทัวร์ครั้งล่าสุดจบ ฉันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่ปั่นป่วนไปหมด และมีความรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก บางวันฉันก็จะรู้สึกโอเคและแฮปปี้ แต่อยู่ดีๆ ความกังวลก็จะตีกลับมา พูดได้ว่ามีหลายเดือนที่ฉันรู้สึกขึ้นลงตลอดเวลา”
ากไปกว่านั้นอะรีอานาก็มีความชัดเจนและกล้าออกมาพูดเรื่องปัญหาสังคมและการเมืองอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะการที่เธอไม่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะรัฐมนตรีของเขา ซึ่งศิลปินกระแสหลักหลายคนที่อายุไล่เลี่ยกันอาจเลือกไม่ออกมาพูดอะไรเยอะ เพราะกลัวจะเสียฐานแฟนคลับ โดยอะรีอานาให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันพูดถึงเรื่องอะไรมันก็เป็นกระแสอยู่แล้ว แต่ถ้าฉันเลือกที่จะไม่พูด ฉันจะมาอยู่จุดนี้เพื่ออะไร แน่นอนว่าต้องมีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับฉัน แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าฉันควรจะหุบปากและแค่ร้องเพลงต่อไป ฉันก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่แคร์ความรู้สึกของมนุษย์คนอื่นและอยากเป็นพันธมิตรของคนที่คิดเหมือนฉัน โดยใช้แพลตฟอร์มและชื่อเสียงของฉันเพื่อให้คนเข้าใจปัญหาที่เรากำลังเผชิญ… การเป็นศิลปินไม่ได้แปลว่าจะช่วยและทำให้คนอื่นรู้สึกดีอย่างเดียว แต่เป็นการผลักดันให้คนอื่นคิดต่าง สร้างคำถาม และขยายขอบเขตทางความคิด”