#Searching #พูดคุยหลังดูหนังจบ
1. เพราะว่าหนังจบฉลาด ที่ผ่านๆมาเลยถือว่าหนังน่าดู
2. หนังอยู่กับอุปกรณ์ iot ทั้งเรื่อง ไล่มาตั้งแต่สมัย win95 มาแม็คบุ๊ค ใช้โซเชี่ยลมีเดียสารพัด แน่นอนว่าเราต้องปรับตัวจากคนดูหนัง มาเป็นคนเฝ้าหน้าจอคอมแทน ถ้าใครใช้คอมบ่อยๆก็คงไม่ยากอะไร

3. รวมถึงต้องคุ้นชินการใช้คอม โซเชี่ยลมีเดีย ไลฟ์สด และธรรมชาติของโลกโซเชี่ยลระดับนึง จึงจะเก็ตกับหนังมากขึ้น

4. ช่วงครึ่งแรก ยอมรับว่าหนังน่าเบื่อเอาเรื่องเลย เพราะเหมือนเอาแค่ความโหดร้ายของโลกโซเชี่ยลและสังคมข่าวที่เราเห็นบ่อยๆ มาเล่าใหม่ให้เหมือนสอนใจนิดๆ เลยงั้นๆ

แต่พอมาถึงบททวิสต์ที่เกินคาด ทำให้มวลหนังทั้งหมดดูน่าสนใจ กับเหตุการณ์ที่โยงใยถึงกัน จึงช่วยฉุดเกรตหนังให้สอบผ่านติดใจอย่างสวยงาม

5. หนังเล่นกับโลกที่ต่างกันของคุณพ่อและลูกสาว ในขณะที่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลูกสาวเล่นสารพัดแอ็ป แต่คุณพ่อยังถนัดแค่แม็คบุ๊คอย่างเดียวเท่านั้น โลกของทั้งสองจึงเชื่อมกันแค่การเฟชไทม์้เท่านั้น

6. ดูเผินๆอาจเหมือนพ่อไม่ใส่ใจลูก จึงไม่รู้จักลูกอย่างที่คิด แต่น่าจะเป็นเรื่องการไว้วางใจลูกกับสังคมปัจจุบันมากเกินไปมากกว่า เพราะลูกดูๆไปก็ทำตัวอยู่ในโอวาทดี ในขณะที่คุณพ่อเองก็พยายามประคองใจตัวเองให้รอดจากความเศร้าไปวันๆ เลยอาจจะพลาดสัญญาณบางอย่าง

7. งานสร้าง เนื่องจากเป็นหนังทุนต่ำ หลายฉากจึงแอบมักง่ายแบบพอยอมรับได้ ประเภทนัดถ่ายวันเดียวเก็บรายละเอียดทั้งเรื่อง จนแอบรู้สึกได้นิดนึง แต่พอยอมรับได้ เพราะการที่จะแชทต่างวันต่างโอกาสแต่ใส่ชุดเดิม(มั้ง)ห้องเดิมมุมเดิมแสงเดิม ก็พอเป็นไปได้นี่นะ 555

8. แอบคิดในใจเล่นๆ ถ้าได้เล่นคอมบนจอใหญ่ขนาดโรงหนังที่บ้าน คงสะใจน่าดูแฮะ

9. โลกปัจจุบันอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ internet bully เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอๆ บางครั้งการมีตัวตนในสังคมอินเตอร์เน็ต มันก็ลวงตาเกินคาด (ในขณะเดียวกัน บางครั้งโลกโซเชี่ยลก็สามารถให้อะไรเกินคาดคิด)

10. สรุป เป็นหนังฟอร์มเล็กที่เพราะว่าตอนจบฉลาด เลยทำให้น่าจดจำ อยู่ในระดับว่างๆก็ดูเพลินๆ