“นี่รถไฟไทยจริงๆใช่มั้ย!?”
นี่คือความรู้สึกแรกที่เราได้ขึ้นมาบนขบวนรถไฟใหม่ของไทยเรา
จริงๆเราเห็นรีวิวแล้วอยากนั่งรถไฟใหม่มานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสซักที พอได้วันหยุดยาวก็เลย นี่แหละ ต้องนั่งไปซักจังหวัด ที่ไหนก็ได้!
แรกเริ่มเลยเราเปิดทั้ง 4 เส้นทางของรถไฟใหม่ อุตราวิถี (เหนือ), อีสานวัฒนา (อีสานเส้นอุบล), อีสานมรรคา (อีสานเส้นหนองคาย) และทักษณารัถย์ (ใต้) และดูว่าผ่านจังหวัดไหนบ้าง แล้วจิ้มเลย
ที่แรกที่เราจิ้มไว้คือ พัทลุง แต่หาข้อมูลไปหาข้อมูลมา อ้าว มีไปอุบลด้วยนี่นา เราก็เลยแบนเข็มและปักหมุดเป้าหมายใหม่ของเราที่อุบล จากนั้นก็เริ่มแพลนการจองกันเลยจ้า
สำหรับเรา เราจองออนไลน์ค่ะ ซึ่งการจองออนไลน์กับรถไฟไทย จะจองล่วงหน้าได้แค่ 60 วัน เราก็นับปฎิทินย้อนหลังเลยจ้า ว่าวันแรกที่เราสามารถจองล่วงหน้าได้คือวันไหน แล้วกาไว้โล้ด ยังไงต้องได้!
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าขบวนไหนคือรถไฟใหม่?
เป็นคำถามที่เราบ่อยมาก คำตอบคือดูที่แลขขบวนค่ะ ซึ่งแต่ละเส้นทางเลขขบวนจะไม่เหมือนกัน
• อุตราวิถี (เหนือ) ขบวนที่ 9 และ 10
• อีสานวัฒนา (อีสานเส้นอุบล) ขบวนที่ 23 และ 24
• อีสานมรรคา (อีกสานเส้นหนองคาย) ขบวนที่ 25 และ 26
• ทักษิณารัถย์ (ใต้) ขบวนที่ 31 และ 32
ตู้นอนจะมี 2 แบบนะคะ คือ
ตู้ปรับอากาศชั้น 1 อันนี้จะเป็นห้องส่วนตัวเลยค่ะ ห้องหนึ่งมี 2 เตียง คือเตียงล่าง และเตียงบน
ตู้ปรับอากาศชั้น 2 จะเป็นแบบรวมนะคะ มีเตียงล่างและเตียงบนเหมือนกัน ซึ่งเราเลือกซื้อแบบนี้ค่ะ
เตียงล่าง และ เตียงบน จะราคาไม่เท่ากันนะคะ เตียงล่างจะแพงกว่านิดนึง
เตียงล่าง ราคา 981 บาท
เตียงบน ราคา 881 บาท
เราจองขากลับจาก อุบลราชธานี – กรุงเทพฯ รถออกเวลา 19:00 น. นอนบนรถไฟไป ถึงกรุงเทพเช้า ไปทำงานพอดี 555
โถ...ชีวิตมนุษย์เงินเดือน
เราไปเตรียมพร้อมรอที่สถานีรถไฟอุบลราชธานี เผื่อทานข้าวอะไรให้เรียบร้อยตั้งแต่ประมาณ 5 โมงกว่าๆ พอเกือบๆ ทุ่มนึงรถไฟขบวนที่เรานั่งก็มาค่ะ
เมื่อรถไฟจอดเทียบท่า พนักงานบนรถไฟก็จะมาช่วยดูแลตอนผู้โดยสารขึ้น-ลง รถไฟค่ะ
“โอ้โห!”......นี่คือความรู้สึกแรกที่เราเห็นภายในตู้ขบวน ใหม่ ทันสมัย และสะอาดมาก
ลูกไผ่: “นี่มันรถไฟญี่ปุ่นรึเปล่าคะ!”
ตรงที่นั่งที่หันหน้าเข้าหากัน จะมีโต๊ะแบบพับที่ให้เราสามารถวางของ น้ำดื่ม ให้ด้วยค่ะ พอ 1 ทุ่มตรง รถไฟก็ออก ตรงเวลามากๆค่ะ
พี่ปุ่น: “เราจะเดินไปสำรวจตู้เสบียง”
ลูกไผ่: “อ๊ะ ไผ่ไปด้วยค่ะ”
ภายในตู้เสบียงน่ารักมากๆค่ะ เป็นเบาะนั่งสีเขียว มีชั้นขนมขบเคี้ยววางขายอยู่ตรงทางเข้า
เราสามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มทานที่ตู้เสบียงนี้ได้ด้วยนะคะ ราคากลางๆ ทานได้ ไม่ได้แพงมากค่ะ
เค้าเปิดบริการให้ถึง 4 ทุ่มเลยค่ะ
แต่วันนี้เรามาแค่สำรวจไว้ก่อน บวกกับทานข้าวจากด้านล่างสถานีมาแล้ว เลยยังไม่ได้สั่งทาน เอาไว้รอบหน้าๆ
อีกส่วนหนึ่งที่คิดว่าทุกคนต้องอยากเห็น
ห้องน้ำ!
ลืมห้องน้ำบนรถไฟในความคิดเดิมๆของเราไปได้เลยค่ะ เพราะที่นี่สะอาดมากกกกค่ะ
ก่อนอื่นเลย เราจะเจออ่างล้างหน้าหน้าห้องน้ำ มาล้างหน้าแปรงฟันก่อนนอนตรงนี้ได้เลย
ในห้องน้ำก็จะแคบๆ แต่สะอาดมากค่ะ
มุมเราก็จะถ่ายมาได้ประมาณนี้ แต่สบายใจเวลาได้เข้ามากๆค่ะ
ประตูทางเชื่อมระหว่างตู้ขบวนก็จะเป็นแบบกดเลื่อนไฟฟ้าค่ะ ทันสมัยมากๆ
พอกลับมาถึงที่นั่งของเรา ช่วงประมาณ 2 ทุ่ม พนักงานจะเริ่มมาปูที่นอนทั้งชั้นบน ชั้นล่างให้ เรายึดที่นอนด้านล่างค่ะ ส่วนพี่ปุ่นไปนอนด้านบน 555 ภายในที่นอนเค้าก็จะมีไฟตรงหัวเตียงเผื่อเราจะเปิดอ่านหนังสือ และความดีงามอีกอย่างของเตียงล่างคือ เราสามารถเปิดม่านดูวิวข้างทางได้ค่ะ แต่ตอนกลางคืนมันก็จะมืดๆหน่อย 555
แอร์บนรถไฟหนาวมากกกค่ะ ใครจะนอนไปก็เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมไว้หน่อยก็ดีนะคะ
พอเริ่มเข้าสู่กรุงเทพ ก็จะเริ่มมีเสียงประกาศชื่อแต่ละสถานี ให้ผู้โดยสารเตรียมลง อย่านอนเพลินกันนะคะ
ส่วนเราลงสถานีหัวลำโพง เป็นสถานีสุดท้ายพอดี รถไฟถึงค่อนข้างตรงเวลาค่ะ อาจจะเลทไปบ้างนิดหน่อยประมาณ 15 นาที แต่โดยรวมเราให้เต็ม 10 ค่ะ และอยากจะบอกว่า “ไปนั่งกันเถอะ มันดีจริงๆ”
[CR] :: รีวิวรถไฟใหม่ นี่รถไฟไทยจริงๆ ใช่มั้ย!?
:: ฝากติดตามเพจเราด้วยนะคะ ::
https://www.facebook.com/wherewegopage/
...................................................
“นี่รถไฟไทยจริงๆใช่มั้ย!?”
นี่คือความรู้สึกแรกที่เราได้ขึ้นมาบนขบวนรถไฟใหม่ของไทยเรา
จริงๆเราเห็นรีวิวแล้วอยากนั่งรถไฟใหม่มานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสซักที พอได้วันหยุดยาวก็เลย นี่แหละ ต้องนั่งไปซักจังหวัด ที่ไหนก็ได้!
แรกเริ่มเลยเราเปิดทั้ง 4 เส้นทางของรถไฟใหม่ อุตราวิถี (เหนือ), อีสานวัฒนา (อีสานเส้นอุบล), อีสานมรรคา (อีสานเส้นหนองคาย) และทักษณารัถย์ (ใต้) และดูว่าผ่านจังหวัดไหนบ้าง แล้วจิ้มเลย
ที่แรกที่เราจิ้มไว้คือ พัทลุง แต่หาข้อมูลไปหาข้อมูลมา อ้าว มีไปอุบลด้วยนี่นา เราก็เลยแบนเข็มและปักหมุดเป้าหมายใหม่ของเราที่อุบล จากนั้นก็เริ่มแพลนการจองกันเลยจ้า
สำหรับเรา เราจองออนไลน์ค่ะ ซึ่งการจองออนไลน์กับรถไฟไทย จะจองล่วงหน้าได้แค่ 60 วัน เราก็นับปฎิทินย้อนหลังเลยจ้า ว่าวันแรกที่เราสามารถจองล่วงหน้าได้คือวันไหน แล้วกาไว้โล้ด ยังไงต้องได้!
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าขบวนไหนคือรถไฟใหม่?
เป็นคำถามที่เราบ่อยมาก คำตอบคือดูที่แลขขบวนค่ะ ซึ่งแต่ละเส้นทางเลขขบวนจะไม่เหมือนกัน
• อุตราวิถี (เหนือ) ขบวนที่ 9 และ 10
• อีสานวัฒนา (อีสานเส้นอุบล) ขบวนที่ 23 และ 24
• อีสานมรรคา (อีกสานเส้นหนองคาย) ขบวนที่ 25 และ 26
• ทักษิณารัถย์ (ใต้) ขบวนที่ 31 และ 32
ตู้นอนจะมี 2 แบบนะคะ คือ
ตู้ปรับอากาศชั้น 1 อันนี้จะเป็นห้องส่วนตัวเลยค่ะ ห้องหนึ่งมี 2 เตียง คือเตียงล่าง และเตียงบน
ตู้ปรับอากาศชั้น 2 จะเป็นแบบรวมนะคะ มีเตียงล่างและเตียงบนเหมือนกัน ซึ่งเราเลือกซื้อแบบนี้ค่ะ
เตียงล่าง และ เตียงบน จะราคาไม่เท่ากันนะคะ เตียงล่างจะแพงกว่านิดนึง
เตียงล่าง ราคา 981 บาท
เตียงบน ราคา 881 บาท
เราจองขากลับจาก อุบลราชธานี – กรุงเทพฯ รถออกเวลา 19:00 น. นอนบนรถไฟไป ถึงกรุงเทพเช้า ไปทำงานพอดี 555
โถ...ชีวิตมนุษย์เงินเดือน
เราไปเตรียมพร้อมรอที่สถานีรถไฟอุบลราชธานี เผื่อทานข้าวอะไรให้เรียบร้อยตั้งแต่ประมาณ 5 โมงกว่าๆ พอเกือบๆ ทุ่มนึงรถไฟขบวนที่เรานั่งก็มาค่ะ
เมื่อรถไฟจอดเทียบท่า พนักงานบนรถไฟก็จะมาช่วยดูแลตอนผู้โดยสารขึ้น-ลง รถไฟค่ะ
“โอ้โห!”......นี่คือความรู้สึกแรกที่เราเห็นภายในตู้ขบวน ใหม่ ทันสมัย และสะอาดมาก
ลูกไผ่: “นี่มันรถไฟญี่ปุ่นรึเปล่าคะ!”
ตรงที่นั่งที่หันหน้าเข้าหากัน จะมีโต๊ะแบบพับที่ให้เราสามารถวางของ น้ำดื่ม ให้ด้วยค่ะ พอ 1 ทุ่มตรง รถไฟก็ออก ตรงเวลามากๆค่ะ
พี่ปุ่น: “เราจะเดินไปสำรวจตู้เสบียง”
ลูกไผ่: “อ๊ะ ไผ่ไปด้วยค่ะ”
ภายในตู้เสบียงน่ารักมากๆค่ะ เป็นเบาะนั่งสีเขียว มีชั้นขนมขบเคี้ยววางขายอยู่ตรงทางเข้า
เราสามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มทานที่ตู้เสบียงนี้ได้ด้วยนะคะ ราคากลางๆ ทานได้ ไม่ได้แพงมากค่ะ
เค้าเปิดบริการให้ถึง 4 ทุ่มเลยค่ะ
แต่วันนี้เรามาแค่สำรวจไว้ก่อน บวกกับทานข้าวจากด้านล่างสถานีมาแล้ว เลยยังไม่ได้สั่งทาน เอาไว้รอบหน้าๆ
อีกส่วนหนึ่งที่คิดว่าทุกคนต้องอยากเห็น
ห้องน้ำ!
ลืมห้องน้ำบนรถไฟในความคิดเดิมๆของเราไปได้เลยค่ะ เพราะที่นี่สะอาดมากกกกค่ะ
ก่อนอื่นเลย เราจะเจออ่างล้างหน้าหน้าห้องน้ำ มาล้างหน้าแปรงฟันก่อนนอนตรงนี้ได้เลย
ในห้องน้ำก็จะแคบๆ แต่สะอาดมากค่ะ
มุมเราก็จะถ่ายมาได้ประมาณนี้ แต่สบายใจเวลาได้เข้ามากๆค่ะ
ประตูทางเชื่อมระหว่างตู้ขบวนก็จะเป็นแบบกดเลื่อนไฟฟ้าค่ะ ทันสมัยมากๆ
พอกลับมาถึงที่นั่งของเรา ช่วงประมาณ 2 ทุ่ม พนักงานจะเริ่มมาปูที่นอนทั้งชั้นบน ชั้นล่างให้ เรายึดที่นอนด้านล่างค่ะ ส่วนพี่ปุ่นไปนอนด้านบน 555 ภายในที่นอนเค้าก็จะมีไฟตรงหัวเตียงเผื่อเราจะเปิดอ่านหนังสือ และความดีงามอีกอย่างของเตียงล่างคือ เราสามารถเปิดม่านดูวิวข้างทางได้ค่ะ แต่ตอนกลางคืนมันก็จะมืดๆหน่อย 555
แอร์บนรถไฟหนาวมากกกค่ะ ใครจะนอนไปก็เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมไว้หน่อยก็ดีนะคะ
พอเริ่มเข้าสู่กรุงเทพ ก็จะเริ่มมีเสียงประกาศชื่อแต่ละสถานี ให้ผู้โดยสารเตรียมลง อย่านอนเพลินกันนะคะ
ส่วนเราลงสถานีหัวลำโพง เป็นสถานีสุดท้ายพอดี รถไฟถึงค่อนข้างตรงเวลาค่ะ อาจจะเลทไปบ้างนิดหน่อยประมาณ 15 นาที แต่โดยรวมเราให้เต็ม 10 ค่ะ และอยากจะบอกว่า “ไปนั่งกันเถอะ มันดีจริงๆ”
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้