เรื่องมีอยู่ว่า ตอนแรกนัดกับเพื่อนไว้ 3 คน... พอถึงวันจริงเหลือผมคนเดียว วางแผนไว้แล้ว จองที่พักไว้แล้ว ทำเรื่องลาไปแล้ว ใจมันพร้อมแล้ว ก็เลยไปคนเดียวซะเลย การรอให้พร้อม ก็คือการเสียโอกาส สำหรับทริปนี่เดินทางวันที่ 13 - 15 สิงหาคม 2561 13 เป็นวันหยุด 14 - 15 เป็นวันทำงาน ผมวางแผนไว้ตามนี้
3 วัน 2 คืน 5 อุทยานแห่งชาติ
เริ่มกันเลย
วันแรก
7.00 - 12.00 น. กทม. - อุทยานแห่งชาติเขาค้อ
12.30 - 13.00 น. อุทยานแห่งชาติเขาค้อ - อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
14.00 - 14.30 น. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง - พิพิธภัณฑ์อาวุธ
15.00 - 15.10 น. พิพิธภัณฑ์อาวุธ - อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ
15.20 - 17.00 น. อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ - ทุ่งกังหัน เข้าค้อ
17.30 - 19.00 น. ทุ่งกังหัน เข้าค้อ - วนธารา รีสอร์ท
ออกเดินทาง ถนนจะโล่งๆ เพราะคนอื่นกลับ แต่เรากำลังไป แวะกินข้าวเช้าตามปั๊มน้ำมัน สบายๆตัวคนเดียว
ไอ้แดงพามาเที่ยวครับผม ถึงแล้วที่หมายแรก อากาศประมาณ 20 องศา
มาถึงก็มีพนักงานมาต้อนรับ "ตามป๋มมาเลยฮะ เดี๋ยวผมพาแนะนำสถานที่"
สถานที่กางเต๊นท์ของอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ติดลานจอดรถ
มีห้องน้ำแบ่งชาย - หญิง ชัดเจนครับ
ห้องน้ำสะอาด
ภาพนี้จากห้องน้ำถ่ายย้อนไปด้านหน้าตึกขวามือรูปคือลานจอดรถ
ถ่ายกับป้ายยืนยันว่ามาจริงๆ
หลายคนถามว่าไปคนเดียวแล้วใครถ่ายให้... ก็เจ้านี่แหละครับ
ที่แรกมาแล้ว สายล่าตราประทับ
ขับออกมาจากอุทยานเขาค้อ แล้วเลี้ยวขวาตรงยาวๆมาก็จะถึง อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สำหรับอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2 ที่ อีกที่นึงจะอยู่ที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 12 (เส้นที่จะไปพิษณุโลก) ในการตั้งนำทางใน google map ควรเช็คดูให้ดีเพราะอยู่ไกลกันพอสมควร
ไอ้แดงรายงานตัวครับ อากาศยังคง 20 องศาอยู่
ยืนยันด้วยภาพคู่ป้าย
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว น่าอยู่มากๆ
แผนที่เส้นทางท่องเที่ยว และพื้นที่ในศุนย์บริการนักท่องเที่ยว ถ่ายไม่ชัด
ในช่วงที่ไปพอดีว่าฝนตกมาหลายคืน เส้นทางไปดูทั่งต่างๆก็เลยเละ เจ้าหน้าที่จึงปิดเส้นทางทำให้ไม่ได้เข้าไปดู
ลานจอดแฮลิคอปเตอร์
บรรยากาศ
หลงรักได้แต่อย่าหลงทางนะครับ เสียเวลา
ตรงนี้เป็นที่กางเต๊นท์ มีพื้นที่เยอะมาก ห้องน้ำสะอาดครับ ผมไปลองมาแล้ว แต่ไม่ได้ถ่ายภาพ ร้านค้าสวัสดิการเห็นว่ามีนะ แต่ตอนไปร้านปิด
รูปนี่คือถ้าเราเปิดเต๊นท์มาก็จะเจอวิวแบบนี้ โคตรน่านอน.... แต่เราต้องไปต่อ
ที่ที่ 2 ห้ามลืม!!
ย้อนออกมาทางเดิมไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์อาวุธ การขึ้นไปที่นั้นจะเป็นการเดินรถทางเดียว เนื่องจากทางสูงชัน หมอกหนา ถนนลื่น ถ้าดูจากแผนที่คือเราต้องถึงพิพิธภัณฑ์อาวุธก่อน จากนั้นถึงจะไปอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ แต่ตอนนี้มีป้ายบอกแล้วว่า "ทางขึ้นเท่านั้น" "ห้ามลง"
เส้นทางก็ประมาณนี้ ไอ้แดงคันเดียวก็เต็มเลนส์ละ
ถึงปุ๊บก็มารับแขกกันเลย ให้ค่าตอบแทนไปเป็นลูกชิ้น 1 ไม้
ยืนยันว่ามาจริง
ก็จะมีอาวุธ ยานพาหนะต่างๆที่ใช้ในตอนนั้น และมีประวัติให้อ่าน
ขับรถมาอีกนิด ถึงอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ
แค่ลงไปยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆแล้วนึกภาพว่าตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ก็รู้สึกน่ากลัวแล้ว ขนาดไม่มีการสู้รบกันแล้ว
อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ หมอกหนักมาก อากาศตอนนี้ประมาณ17 องศา
แวะกินข้าวเที่ยงตอนเกือบๆ 5 โมงเย็น กระเพราธรรมดา แต่อร่อยดี ที่ร้าน บิ๊ก คอฟฟี่ รีสอร์ท แถวๆไปรษณีย์เขาค้อ
ยังไม่พอ เดินมาอีกหน่อยมากินโกโก้เย็นท้าลมหนาวที่ร้าน The pug coffee ตอนนี้หนาวจริง ประมาณ 15 องศาได้ กินไปสั่นไป ไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร
จากนั้นก็ก็ว่าจะลงเขายิงยาวไปรีสอร์ทที่จองไว้ พอดีเห็นป้ายชี้ไปทุ่งกังหันลม ก็เลยไปซะหน่อย
ไปถึงก็ 17.00 น. หยุดบริการรถรางละ ก็ได้มาแค่นี้
จากนั้นก็ยาวววมาเข้าที่พัก เนื่องจากพรุ่งนี้จะไปสุโขทัย ก็เลยมาหาที่นอนแถวพิษณุโลก ได้ที่พักชื่อว่า วนธารา รีสอร์ท
จองผ่าน agoda ได้มาในราคา 642/คืน รีสอร์ทพื้นที่ใหญ่มาก ห้องพักใช้ได้ มีบริการหลายๆอย่าง
แน่นอนว่าอีกวันเริ่มทำงานกันแล้ว โซนนี้ทั้งโซนมีผมคนเดียว
นอนหลับฝันดี เก็บแรงไว้พรุ่งนี้เตรียมลุยเขาหลวงสุโขทัย
วันที่ 2 ตื่นแต่เช้าออกจากรีสอร์ท 8โมงเช้า มุ่งหน้าสู่อุทยาแห่งชาติรามคำแหง
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงประมาณ 10 โมง
ด้านหลังนั้นไงที่เราต้องขึ้น
มุ่งสู่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง
ไอ้แดงรายงานตัวครับ
เส้นทางก็ประมาณนี้ เตี้ยกว่าภูกระดึงแค่ 88 เมตร แต่ระยะทางขึ้นสั้นกว่า แค่ 3.7 กิโลเอง ดังนั้นขึ้นที่สูง แต่ระยะทางสั้น แสดงว่ามันต้องชันมากกกกกก
เบอร์ 1669 เบอร์ฉุกเฉินครับ มีสัญญาณมือถือตลอดทางครับไม่ต้องห่วง
อันนี้ค่าเช่าอุปกรณ์
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย ไม่จ้างลูกหาบ ขับเอง แบกเอง เดินเอง 11 โมงตรงเริ่มได้
ป้ายบอกทาง เริ่มต้นจะดูห่างๆ แต่ปลายๆจะถี่ๆ
ตลอดทางจะมีที่พักไว้ให้นั่ง
สถาพ 1 กิโลแรก
ตลอดทางจะมีถังน้ำไว้ให้ สามารถดื่มได้เลยเพียงแค่พกขวดมา รสชาติปกตินะ เห็นบางคนบอกว่าขมๆ แต่ถังนี่หมด!!!!! แต่ถังบนๆจะมีเพราะน้ำมาจากยอดเขา
ลูกหาบ กิโลกรัมละ 25 บาท
เดินมาสักพักใหญ่ๆ พักแล้วพักอีก ระยะทางที่ 1,600 เมตร ก็ถึงจุดชมวิว แวะกินข้าวเที่ยงที่นี่พร้อมกับฝนที่ตกลงมาให้เละเล่นๆ
หลังจากจุดพักความสูงนี้จะโดนหมอกโดนฝนเกือบจะทั้งวัน ก็จะเปียกๆเละๆ ไปจนถึงยอดเขาเลย
มาจอดให้ถ่ายกันเลย
ระยะที่ 2,700 เมตร
ตะคริวเริ่มทักทาย
สัม ภาระจริงๆ
ถึงไทยงามแสดงว่าใกล้ถึง ระยะที่ 3,000 เมตร อีกแค่ 720 เมตรเอง
ปลองนางนาค ระยะที่ 3,320 เมตร อีกนิดเดียว ที่นี่มีอะไร ถ้าอยากรู้ ให้ขึ้นมาอ่านเองครับ
พระยาแล่นเรือ ..มาแล่นอะไรกันบนนี้ ระยะที่ 3,520
อีก 200 เมตร
ด่านสุดท้าย แต่ทางช่างโหดยิ่งนัก
กัดฟันสู้เฮือกสุดท้าย และถึงยอดในที่สุด ใช้เวลาขึ้นมาทั้งหมด 3 ชั่วโมงครึ่ง ไปพักเหนื่อยก่อนครับ เดี๋ยวมาต่อช่วง 2
part 2 ครับ
https://ppantip.com/topic/38001875
เขาหลวงสุโขทัย "ไอ้แดงพาเที่ยว" ลุยเดียว เที่ยวอุทยานแห่งชาติ ที่เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน (1/2)
3 วัน 2 คืน 5 อุทยานแห่งชาติ
เริ่มกันเลย
วันแรก
7.00 - 12.00 น. กทม. - อุทยานแห่งชาติเขาค้อ
12.30 - 13.00 น. อุทยานแห่งชาติเขาค้อ - อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
14.00 - 14.30 น. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง - พิพิธภัณฑ์อาวุธ
15.00 - 15.10 น. พิพิธภัณฑ์อาวุธ - อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ
15.20 - 17.00 น. อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ - ทุ่งกังหัน เข้าค้อ
17.30 - 19.00 น. ทุ่งกังหัน เข้าค้อ - วนธารา รีสอร์ท
ออกเดินทาง ถนนจะโล่งๆ เพราะคนอื่นกลับ แต่เรากำลังไป แวะกินข้าวเช้าตามปั๊มน้ำมัน สบายๆตัวคนเดียว
ไอ้แดงพามาเที่ยวครับผม ถึงแล้วที่หมายแรก อากาศประมาณ 20 องศา
มาถึงก็มีพนักงานมาต้อนรับ "ตามป๋มมาเลยฮะ เดี๋ยวผมพาแนะนำสถานที่"
สถานที่กางเต๊นท์ของอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ติดลานจอดรถ
มีห้องน้ำแบ่งชาย - หญิง ชัดเจนครับ
ห้องน้ำสะอาด
ภาพนี้จากห้องน้ำถ่ายย้อนไปด้านหน้าตึกขวามือรูปคือลานจอดรถ
ถ่ายกับป้ายยืนยันว่ามาจริงๆ
หลายคนถามว่าไปคนเดียวแล้วใครถ่ายให้... ก็เจ้านี่แหละครับ
ที่แรกมาแล้ว สายล่าตราประทับ
ขับออกมาจากอุทยานเขาค้อ แล้วเลี้ยวขวาตรงยาวๆมาก็จะถึง อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สำหรับอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2 ที่ อีกที่นึงจะอยู่ที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 12 (เส้นที่จะไปพิษณุโลก) ในการตั้งนำทางใน google map ควรเช็คดูให้ดีเพราะอยู่ไกลกันพอสมควร
ไอ้แดงรายงานตัวครับ อากาศยังคง 20 องศาอยู่
ยืนยันด้วยภาพคู่ป้าย
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว น่าอยู่มากๆ
แผนที่เส้นทางท่องเที่ยว และพื้นที่ในศุนย์บริการนักท่องเที่ยว ถ่ายไม่ชัด ในช่วงที่ไปพอดีว่าฝนตกมาหลายคืน เส้นทางไปดูทั่งต่างๆก็เลยเละ เจ้าหน้าที่จึงปิดเส้นทางทำให้ไม่ได้เข้าไปดู
ลานจอดแฮลิคอปเตอร์
บรรยากาศ
หลงรักได้แต่อย่าหลงทางนะครับ เสียเวลา
ตรงนี้เป็นที่กางเต๊นท์ มีพื้นที่เยอะมาก ห้องน้ำสะอาดครับ ผมไปลองมาแล้ว แต่ไม่ได้ถ่ายภาพ ร้านค้าสวัสดิการเห็นว่ามีนะ แต่ตอนไปร้านปิด
รูปนี่คือถ้าเราเปิดเต๊นท์มาก็จะเจอวิวแบบนี้ โคตรน่านอน.... แต่เราต้องไปต่อ
ที่ที่ 2 ห้ามลืม!!
ย้อนออกมาทางเดิมไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์อาวุธ การขึ้นไปที่นั้นจะเป็นการเดินรถทางเดียว เนื่องจากทางสูงชัน หมอกหนา ถนนลื่น ถ้าดูจากแผนที่คือเราต้องถึงพิพิธภัณฑ์อาวุธก่อน จากนั้นถึงจะไปอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ แต่ตอนนี้มีป้ายบอกแล้วว่า "ทางขึ้นเท่านั้น" "ห้ามลง"
เส้นทางก็ประมาณนี้ ไอ้แดงคันเดียวก็เต็มเลนส์ละ
ถึงปุ๊บก็มารับแขกกันเลย ให้ค่าตอบแทนไปเป็นลูกชิ้น 1 ไม้
ยืนยันว่ามาจริง
ก็จะมีอาวุธ ยานพาหนะต่างๆที่ใช้ในตอนนั้น และมีประวัติให้อ่าน
ขับรถมาอีกนิด ถึงอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ
แค่ลงไปยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆแล้วนึกภาพว่าตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ก็รู้สึกน่ากลัวแล้ว ขนาดไม่มีการสู้รบกันแล้ว
อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ หมอกหนักมาก อากาศตอนนี้ประมาณ17 องศา
แวะกินข้าวเที่ยงตอนเกือบๆ 5 โมงเย็น กระเพราธรรมดา แต่อร่อยดี ที่ร้าน บิ๊ก คอฟฟี่ รีสอร์ท แถวๆไปรษณีย์เขาค้อ
ยังไม่พอ เดินมาอีกหน่อยมากินโกโก้เย็นท้าลมหนาวที่ร้าน The pug coffee ตอนนี้หนาวจริง ประมาณ 15 องศาได้ กินไปสั่นไป ไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร
จากนั้นก็ก็ว่าจะลงเขายิงยาวไปรีสอร์ทที่จองไว้ พอดีเห็นป้ายชี้ไปทุ่งกังหันลม ก็เลยไปซะหน่อย
ไปถึงก็ 17.00 น. หยุดบริการรถรางละ ก็ได้มาแค่นี้
จากนั้นก็ยาวววมาเข้าที่พัก เนื่องจากพรุ่งนี้จะไปสุโขทัย ก็เลยมาหาที่นอนแถวพิษณุโลก ได้ที่พักชื่อว่า วนธารา รีสอร์ท
จองผ่าน agoda ได้มาในราคา 642/คืน รีสอร์ทพื้นที่ใหญ่มาก ห้องพักใช้ได้ มีบริการหลายๆอย่าง
แน่นอนว่าอีกวันเริ่มทำงานกันแล้ว โซนนี้ทั้งโซนมีผมคนเดียว
นอนหลับฝันดี เก็บแรงไว้พรุ่งนี้เตรียมลุยเขาหลวงสุโขทัย
วันที่ 2 ตื่นแต่เช้าออกจากรีสอร์ท 8โมงเช้า มุ่งหน้าสู่อุทยาแห่งชาติรามคำแหง
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงประมาณ 10 โมง
ด้านหลังนั้นไงที่เราต้องขึ้น
มุ่งสู่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง
ไอ้แดงรายงานตัวครับ
เส้นทางก็ประมาณนี้ เตี้ยกว่าภูกระดึงแค่ 88 เมตร แต่ระยะทางขึ้นสั้นกว่า แค่ 3.7 กิโลเอง ดังนั้นขึ้นที่สูง แต่ระยะทางสั้น แสดงว่ามันต้องชันมากกกกกก เบอร์ 1669 เบอร์ฉุกเฉินครับ มีสัญญาณมือถือตลอดทางครับไม่ต้องห่วง
อันนี้ค่าเช่าอุปกรณ์
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย ไม่จ้างลูกหาบ ขับเอง แบกเอง เดินเอง 11 โมงตรงเริ่มได้
ป้ายบอกทาง เริ่มต้นจะดูห่างๆ แต่ปลายๆจะถี่ๆ
ตลอดทางจะมีที่พักไว้ให้นั่ง
สถาพ 1 กิโลแรก
ตลอดทางจะมีถังน้ำไว้ให้ สามารถดื่มได้เลยเพียงแค่พกขวดมา รสชาติปกตินะ เห็นบางคนบอกว่าขมๆ แต่ถังนี่หมด!!!!! แต่ถังบนๆจะมีเพราะน้ำมาจากยอดเขา
ลูกหาบ กิโลกรัมละ 25 บาท
เดินมาสักพักใหญ่ๆ พักแล้วพักอีก ระยะทางที่ 1,600 เมตร ก็ถึงจุดชมวิว แวะกินข้าวเที่ยงที่นี่พร้อมกับฝนที่ตกลงมาให้เละเล่นๆ
หลังจากจุดพักความสูงนี้จะโดนหมอกโดนฝนเกือบจะทั้งวัน ก็จะเปียกๆเละๆ ไปจนถึงยอดเขาเลย
มาจอดให้ถ่ายกันเลย
ระยะที่ 2,700 เมตร
ตะคริวเริ่มทักทาย
สัม ภาระจริงๆ
ถึงไทยงามแสดงว่าใกล้ถึง ระยะที่ 3,000 เมตร อีกแค่ 720 เมตรเอง
ปลองนางนาค ระยะที่ 3,320 เมตร อีกนิดเดียว ที่นี่มีอะไร ถ้าอยากรู้ ให้ขึ้นมาอ่านเองครับ
พระยาแล่นเรือ ..มาแล่นอะไรกันบนนี้ ระยะที่ 3,520
อีก 200 เมตร
ด่านสุดท้าย แต่ทางช่างโหดยิ่งนัก
กัดฟันสู้เฮือกสุดท้าย และถึงยอดในที่สุด ใช้เวลาขึ้นมาทั้งหมด 3 ชั่วโมงครึ่ง ไปพักเหนื่อยก่อนครับ เดี๋ยวมาต่อช่วง 2
part 2 ครับ https://ppantip.com/topic/38001875