สวัสดีค่ะทุกคน เราขอเรียกแทนตัวเองว่า เรา แล้วกันะคะ
ตอนนี้เราอยู่ ม.ปลาย(ม.๔) ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
คือเราย้ายมาจากต่างจังหวัดค่ะ พึ่งมาเรียนที่นี่ได้หนึ่งเทอมพอดี แผนการเรียนที่เราเรียนคือSMEP หรือ Science Mathematics English Program
ซึ่งเราเป็นคนที่ถนัดภาษาอังกฤษมากกว่า หัวเราไม่ไปวิทย์คณิตเลยก็ว่าได้ ยิ่งคณิตเรายิ่งอ่อนมากเป็นพิเศษ เพราะที่โรงเรียนเดิมเราไม่ได้เรียน
วิชาคณิตเพิ่มเติมมาค่ะ แต่มาอยู่ที่นี่พ่อกับแม่ของเราก็ให้เราเรียนพิเศษวิชานี้ ก็ทำให้เราเข้าใจขึ้นอยู่บ้าง
เข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ ว่าทำไมเราถึงตั้งหัวข้อกระทู้แบบนี้
ตั้งแต่เราย้ายมาเรียนที่โรงเรียนนี้ เรารู้สึกไม่มีสมาธิมากๆเลยค่ะ ห้องเราเป็นห้องโครงการพิเศษที่...(ถ้าเทียบกับที่อื่นคือเด็กห่วยแตกมาก)
เพื่อนในห้องเสียงดัง ตะโกนโวกเวกโวยวาย ทุกคาบเลย ยิ่งเป็นคาบที่อาจารย์ไม่เข้านี่ ทำเราปวดหัวเลยค่ะ
(แบบปวดมากจริงๆนะ ถึงขั้นต้องไปขอยาที่ห้องพยาบาล) เราไม่มีสมาธิ เพื่อนเปิดเพลงเสียงดัง เล่นคอมเสียงดัง
นี่คือหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เรายากย้ายออกจากที่นี่ค่ะ
ต่อมาคือเรื่องของแผนการเรียน เอาจริงๆเลยคือเราเหมือนโดนเชียร์ให้เรียนสายนี้ ซึ่งถามว่าทำไมต้องเข้าห้องพิเศษ
เพราะอาจารย์แกบอกว่าจะมีโอกาสได้เข้ามหาลัยดีๆกว่าคนอื่น(เกี่ยวมั้ย?)เราก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นไง แต่ยังไงอาจารย์ที่เคารพบอกมาเราเลยตัดสินใจ
สอบเข้าห้องโครงการพิเศษ แล้วเราก็ติด ถามว่าทำไมต้องวิทย์คณิต เพราะตอนนั้นเรากลัวไม่มีที่เรียนค่ะ ที่โรงเรียนนี่ห้องวิทย์คณิตเปิด3ห้อง
ส่วนศิลป์อังกฤษคณิตเปิดห้องเดียว เราเลยต้องเอาอัตตราการติดไว้ก่อน แต่เราว่าอักฤษคณิตเราก็น่าจะติดนะ เพราะเขาใช้คะแนนภาษาอังกฤษตัดสิน
ที่มั่นใจขนาดนั้นเพราะเราเป็นคนชอบวิชานี้มากเวอร์ เราเคยสอบวัดผลความรู้วิชาภาษาอังกฤษระดับจังหวัด เราได้อันดับที่4 จากผู้สมัครสอบ5,000กว่าคนทั่วจังหวัด (ถึงไม่ได้ที่๑ก็แอบดีใจนะที่ติดท็อปเทน555)พอล้ะๆ ช่างมันเถอะผ่านมาลล้ะ ปัจจัยต่อไป
คือ อาจารย์ประจำชั้นเราเองค่ะ เราไม่ชอบเขามาก เขาชอบเอาเราไปพูดหน้าห้อง ยกตัวอย่างอะไรที่แย่ๆก็เราตลอด อย่างเช่น สมมติว่าเราสอบไม่ผ่านวิชานี้บลาๆๆๆ พอคาบโฮมรูมวันต่อมาเขาก็จะพูดประมานว่า อ่าาา อย่างเช่น คนที่ตกครูก็เสียใจด้วยนะคะ อย่างเช่นแพรวาเนี้ย(นามสมมติ)สอบวิชานี้ตก วิชานี้ก็ตก ก็ตั้งใจๆหน่อยล้ะกัน(แล้วคือเราเป็นผู้หญิงคนเดียวที่โดนพูดถึงบ่อยมากกก จนแบบเราเซ็งแล้วอยากตะโกนใส่หน้าเขาดังๆว่า เป็นอะไรกะกูมากมั้ย!!!) แต่เราก็ทำได้ยิ้มและค่าาาา ค่าาาาา ไปวันๆๆๆ(แมร่งเอ้ย***) แล้วคือขี้ฟ้องมากกแกกกกก เราสอบตกวิชาเครือวิทยาศาสตร์เกือบทุกวิชาแต่เราแก้หมดแล้ว เ_ือกโทรมาฟ้องแม่เราว่าเราเรียนแย่มากกกกกก ไม่ตั้งใจเรียนเลย (จนทำให้เรารู้สึกกดดันและอยากออกไปห่างๆเขามากที่สุด) บางครั้งเราร้องไห้เพราะน้อยใจกะอะไรแบบนี้ เราไม่อยากไปโรงเรียนเพราะเจอหน้าเขาอ่ะ เราเกลียดเขามาก ทั้งสีหน้าท่าทาง เขาทำอะไรก็ดูน่ารำคาญไปหมด เรารู้ว่าเป็นห่วงแต่ความเป็นห่วงเขาทำเรากดดันมาก มากที่สุดเลย เรารำคาญญญญญญญ เราจะย้ายออกให้ได้!!!
ต่อมาคือเพื่อนค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนพูดเสียงเบาก็มักจะถูกมองข้ามบ่อยๆ เดินไม่รอมั่ง ไปไหนไม่บอกไม่ชวน พอเราน้อยใจไปก็เท่านั้นแหละค่ะ
เราโดนแบบนี้จนชินล้ะ คือพยายามจะพูดตะโกนดังๆแต่เสียงมันไม่ออก ก็ไม่เข้าใจ เหมือนมันติดที่คออะ ก็มันดังได้แค่นี้ให้ทำไงล่ะไอ่เวงงงงง
แต่แบบก็ไม่เป็นไรหรอกเราว่าก็ดีกว่าไม่มีเพื่อนคุย เราคิดถึงเพื่อนเก่ามาก
แค่นี้แหละค่ะ ใครทนอ่านได้คือแบบสุดดดดมากอ่ะ อันที่จริงแล้วเรื่องแบบนี้เราแค่ย้ายแผนการเรียนก็ได้นะ
แต่เราว่าถึงเราย้ายที่เรียนยังไง เราก็กลับไปเจอเรื่องแบบนี้เดิมอยู่ดีอะ ระบบการศึกษาไทยทำให้เราไม่อยากเรียนที่โรงเรียน
เพราะเราเกลียดการทำเกรดเปรียบเทียบ มันทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ คะแนนก็เหมือนกันอาจารย์ชอบเอาคะแนนมาประกาศหน้าห้อง
เราเกลียดมากถึงจะได้เยอะได้น้อยแค่ไหนก็ควรจะคิดถึงสภาพจิตใจคนได้คะแนนน้อยบ้างดิ อีกอย่างการที่เราคิดว่าเราอยากเรียนด้วยตัวเอง
เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่โรงเรียนทำให้เรา เรียนไม่รู้เรื่องอย่างที่เคยบอกเพื่อนเสียงดังมากกก เราเกลียดการบ้าน งานเยอะ ไหนโครงงาน ออกเงินช่วยกันหมดเป็นพัน งานกลุ่มก็ทำคนเดียว เราเรียนพิเศษเพื่อไปสอบที่โรงเรียน
สำหรับเราโรงเรียนมีหน้าที่เป็นเครื่องออกวุฒการศึกษาให้เราเฉยๆอ่ะ เรารู้สึกว่าชีวิตเราไม่ได้ต้องการจะเรียนวิชาอะไรเยอะแยะขนาดนั้น
เราอยากเรียนแค่วิชาที่จะทำให้เราสอบติดมหาวิทยาลัยดีๆและคณะที่อยากจะเข้าได้ ถ้าเราไปโรงเรียนแล้วกลับมาเรียนอีกรอบแบบนี้
มันเสียเวลา เสียเงินค่าไปโรงเรียน เสียแรงด้วย ชีวิตเราไม่ต้องการเพื่อนขนาดนั้น ค่าเทอมเราก็หลายหมื่นแต่เรียนไม่รู้เรื่อง แล้วยังกลับมาเรียนพิเศษ
ต่อยันดึก การบ้านก็เยอะ เราว่าเราเอาค่าเทอมที่ต้องจ่ายทุกเทอมไปเป็นค่าเรียนพิเศษไม่ดีกว่าหรอ เราอยากเรียน กศน นะแต่เรารู้ว่ายังไง
พ่อกับแม่เราก็ไม่อนุญาตแน่ๆ เพราะโรงเรียนเรียนไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นว่าได้ เรียนไว้เพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่ครอบครัว
เรายอมนะถ้าเราเป็นเด็ก กศน แล้วทำให้เราจบแล้วมีงานทำ เรายอมนะถ้าต้องสอบในระบบ กสพท เพราะคณะที่เราจะเข้าคือนิติศาสตร์
เรามีเพื่อนที่เรียนมัธยมด้วยกันแต่นางย้ายออกไปตั้งแต่ ม.สองแล้ว ไปเรียน กศน เพราะไม่โอเคกับการศึกษาไทย สมัยนั้นเพื่อนเราก็โดนแบบเรานี่แหละ
โดนกดดันบ่อยมาก จนเพื่อนเราเป็นโรคซึมเศร้า นางเลยขอพ่อออกจากโรงเรียนเพราะไม่อยากเจอหน้าอาจารย์คนนั้น เรียนพร้อมกันแต่ตอนนี้นางจะจบ
ม.หก แล้ว แถมเพื่อนเราเรียนพรีดีกรีคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหงด้วย ได้ยินว่าเรียนมาได้ปีกว่าๆแล้ว แต่เรายังอยู่ม.สี่แล้วยังเคว้งกับตัวเองอยู่เลย
ใครก็ได้ช่วยแนะนำเราที เราจะสอบปลายภาคเดือนกันยานี้ เราจะได้ย้ายเลย
ปล.เราสังเกตตัวเองตอนนี้อาการค่อนข้างเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว แต่เราจะไม่คิดสั้นนะ เพราะเรายังไม่ถึงที่สุดของชีวิตเลย
เอาใจช่วยเราด้วยนะทุกคน^^
ใครผ่านประสบการณ์แบบนี้มาบ้าง ขอคำแนะนำหน่อย #การเรียนโฮมสคูล #การเรียนกศน #ปัญหาชีวิต #วัยรุ่น #โรคซึมเศร้า #โดนกดดัน
ตอนนี้เราอยู่ ม.ปลาย(ม.๔) ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
คือเราย้ายมาจากต่างจังหวัดค่ะ พึ่งมาเรียนที่นี่ได้หนึ่งเทอมพอดี แผนการเรียนที่เราเรียนคือSMEP หรือ Science Mathematics English Program
ซึ่งเราเป็นคนที่ถนัดภาษาอังกฤษมากกว่า หัวเราไม่ไปวิทย์คณิตเลยก็ว่าได้ ยิ่งคณิตเรายิ่งอ่อนมากเป็นพิเศษ เพราะที่โรงเรียนเดิมเราไม่ได้เรียน
วิชาคณิตเพิ่มเติมมาค่ะ แต่มาอยู่ที่นี่พ่อกับแม่ของเราก็ให้เราเรียนพิเศษวิชานี้ ก็ทำให้เราเข้าใจขึ้นอยู่บ้าง
เข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ ว่าทำไมเราถึงตั้งหัวข้อกระทู้แบบนี้
ตั้งแต่เราย้ายมาเรียนที่โรงเรียนนี้ เรารู้สึกไม่มีสมาธิมากๆเลยค่ะ ห้องเราเป็นห้องโครงการพิเศษที่...(ถ้าเทียบกับที่อื่นคือเด็กห่วยแตกมาก)
เพื่อนในห้องเสียงดัง ตะโกนโวกเวกโวยวาย ทุกคาบเลย ยิ่งเป็นคาบที่อาจารย์ไม่เข้านี่ ทำเราปวดหัวเลยค่ะ
(แบบปวดมากจริงๆนะ ถึงขั้นต้องไปขอยาที่ห้องพยาบาล) เราไม่มีสมาธิ เพื่อนเปิดเพลงเสียงดัง เล่นคอมเสียงดัง
นี่คือหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เรายากย้ายออกจากที่นี่ค่ะ
ต่อมาคือเรื่องของแผนการเรียน เอาจริงๆเลยคือเราเหมือนโดนเชียร์ให้เรียนสายนี้ ซึ่งถามว่าทำไมต้องเข้าห้องพิเศษ
เพราะอาจารย์แกบอกว่าจะมีโอกาสได้เข้ามหาลัยดีๆกว่าคนอื่น(เกี่ยวมั้ย?)เราก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นไง แต่ยังไงอาจารย์ที่เคารพบอกมาเราเลยตัดสินใจ
สอบเข้าห้องโครงการพิเศษ แล้วเราก็ติด ถามว่าทำไมต้องวิทย์คณิต เพราะตอนนั้นเรากลัวไม่มีที่เรียนค่ะ ที่โรงเรียนนี่ห้องวิทย์คณิตเปิด3ห้อง
ส่วนศิลป์อังกฤษคณิตเปิดห้องเดียว เราเลยต้องเอาอัตตราการติดไว้ก่อน แต่เราว่าอักฤษคณิตเราก็น่าจะติดนะ เพราะเขาใช้คะแนนภาษาอังกฤษตัดสิน
ที่มั่นใจขนาดนั้นเพราะเราเป็นคนชอบวิชานี้มากเวอร์ เราเคยสอบวัดผลความรู้วิชาภาษาอังกฤษระดับจังหวัด เราได้อันดับที่4 จากผู้สมัครสอบ5,000กว่าคนทั่วจังหวัด (ถึงไม่ได้ที่๑ก็แอบดีใจนะที่ติดท็อปเทน555)พอล้ะๆ ช่างมันเถอะผ่านมาลล้ะ ปัจจัยต่อไป
คือ อาจารย์ประจำชั้นเราเองค่ะ เราไม่ชอบเขามาก เขาชอบเอาเราไปพูดหน้าห้อง ยกตัวอย่างอะไรที่แย่ๆก็เราตลอด อย่างเช่น สมมติว่าเราสอบไม่ผ่านวิชานี้บลาๆๆๆ พอคาบโฮมรูมวันต่อมาเขาก็จะพูดประมานว่า อ่าาา อย่างเช่น คนที่ตกครูก็เสียใจด้วยนะคะ อย่างเช่นแพรวาเนี้ย(นามสมมติ)สอบวิชานี้ตก วิชานี้ก็ตก ก็ตั้งใจๆหน่อยล้ะกัน(แล้วคือเราเป็นผู้หญิงคนเดียวที่โดนพูดถึงบ่อยมากกก จนแบบเราเซ็งแล้วอยากตะโกนใส่หน้าเขาดังๆว่า เป็นอะไรกะกูมากมั้ย!!!) แต่เราก็ทำได้ยิ้มและค่าาาา ค่าาาาา ไปวันๆๆๆ(แมร่งเอ้ย***) แล้วคือขี้ฟ้องมากกแกกกกก เราสอบตกวิชาเครือวิทยาศาสตร์เกือบทุกวิชาแต่เราแก้หมดแล้ว เ_ือกโทรมาฟ้องแม่เราว่าเราเรียนแย่มากกกกกก ไม่ตั้งใจเรียนเลย (จนทำให้เรารู้สึกกดดันและอยากออกไปห่างๆเขามากที่สุด) บางครั้งเราร้องไห้เพราะน้อยใจกะอะไรแบบนี้ เราไม่อยากไปโรงเรียนเพราะเจอหน้าเขาอ่ะ เราเกลียดเขามาก ทั้งสีหน้าท่าทาง เขาทำอะไรก็ดูน่ารำคาญไปหมด เรารู้ว่าเป็นห่วงแต่ความเป็นห่วงเขาทำเรากดดันมาก มากที่สุดเลย เรารำคาญญญญญญญ เราจะย้ายออกให้ได้!!!
ต่อมาคือเพื่อนค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนพูดเสียงเบาก็มักจะถูกมองข้ามบ่อยๆ เดินไม่รอมั่ง ไปไหนไม่บอกไม่ชวน พอเราน้อยใจไปก็เท่านั้นแหละค่ะ
เราโดนแบบนี้จนชินล้ะ คือพยายามจะพูดตะโกนดังๆแต่เสียงมันไม่ออก ก็ไม่เข้าใจ เหมือนมันติดที่คออะ ก็มันดังได้แค่นี้ให้ทำไงล่ะไอ่เวงงงงง
แต่แบบก็ไม่เป็นไรหรอกเราว่าก็ดีกว่าไม่มีเพื่อนคุย เราคิดถึงเพื่อนเก่ามาก
แค่นี้แหละค่ะ ใครทนอ่านได้คือแบบสุดดดดมากอ่ะ อันที่จริงแล้วเรื่องแบบนี้เราแค่ย้ายแผนการเรียนก็ได้นะ
แต่เราว่าถึงเราย้ายที่เรียนยังไง เราก็กลับไปเจอเรื่องแบบนี้เดิมอยู่ดีอะ ระบบการศึกษาไทยทำให้เราไม่อยากเรียนที่โรงเรียน
เพราะเราเกลียดการทำเกรดเปรียบเทียบ มันทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ คะแนนก็เหมือนกันอาจารย์ชอบเอาคะแนนมาประกาศหน้าห้อง
เราเกลียดมากถึงจะได้เยอะได้น้อยแค่ไหนก็ควรจะคิดถึงสภาพจิตใจคนได้คะแนนน้อยบ้างดิ อีกอย่างการที่เราคิดว่าเราอยากเรียนด้วยตัวเอง
เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่โรงเรียนทำให้เรา เรียนไม่รู้เรื่องอย่างที่เคยบอกเพื่อนเสียงดังมากกก เราเกลียดการบ้าน งานเยอะ ไหนโครงงาน ออกเงินช่วยกันหมดเป็นพัน งานกลุ่มก็ทำคนเดียว เราเรียนพิเศษเพื่อไปสอบที่โรงเรียน
สำหรับเราโรงเรียนมีหน้าที่เป็นเครื่องออกวุฒการศึกษาให้เราเฉยๆอ่ะ เรารู้สึกว่าชีวิตเราไม่ได้ต้องการจะเรียนวิชาอะไรเยอะแยะขนาดนั้น
เราอยากเรียนแค่วิชาที่จะทำให้เราสอบติดมหาวิทยาลัยดีๆและคณะที่อยากจะเข้าได้ ถ้าเราไปโรงเรียนแล้วกลับมาเรียนอีกรอบแบบนี้
มันเสียเวลา เสียเงินค่าไปโรงเรียน เสียแรงด้วย ชีวิตเราไม่ต้องการเพื่อนขนาดนั้น ค่าเทอมเราก็หลายหมื่นแต่เรียนไม่รู้เรื่อง แล้วยังกลับมาเรียนพิเศษ
ต่อยันดึก การบ้านก็เยอะ เราว่าเราเอาค่าเทอมที่ต้องจ่ายทุกเทอมไปเป็นค่าเรียนพิเศษไม่ดีกว่าหรอ เราอยากเรียน กศน นะแต่เรารู้ว่ายังไง
พ่อกับแม่เราก็ไม่อนุญาตแน่ๆ เพราะโรงเรียนเรียนไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นว่าได้ เรียนไว้เพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่ครอบครัว
เรายอมนะถ้าเราเป็นเด็ก กศน แล้วทำให้เราจบแล้วมีงานทำ เรายอมนะถ้าต้องสอบในระบบ กสพท เพราะคณะที่เราจะเข้าคือนิติศาสตร์
เรามีเพื่อนที่เรียนมัธยมด้วยกันแต่นางย้ายออกไปตั้งแต่ ม.สองแล้ว ไปเรียน กศน เพราะไม่โอเคกับการศึกษาไทย สมัยนั้นเพื่อนเราก็โดนแบบเรานี่แหละ
โดนกดดันบ่อยมาก จนเพื่อนเราเป็นโรคซึมเศร้า นางเลยขอพ่อออกจากโรงเรียนเพราะไม่อยากเจอหน้าอาจารย์คนนั้น เรียนพร้อมกันแต่ตอนนี้นางจะจบ
ม.หก แล้ว แถมเพื่อนเราเรียนพรีดีกรีคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหงด้วย ได้ยินว่าเรียนมาได้ปีกว่าๆแล้ว แต่เรายังอยู่ม.สี่แล้วยังเคว้งกับตัวเองอยู่เลย
ใครก็ได้ช่วยแนะนำเราที เราจะสอบปลายภาคเดือนกันยานี้ เราจะได้ย้ายเลย
ปล.เราสังเกตตัวเองตอนนี้อาการค่อนข้างเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว แต่เราจะไม่คิดสั้นนะ เพราะเรายังไม่ถึงที่สุดของชีวิตเลย
เอาใจช่วยเราด้วยนะทุกคน^^