อยากมาเล่าเรื่องราวที่ได้เจอเพื่อนคนนึง ที่ขึ้นชื่อว่าเห็นแห่ตัวสุดๆ

อยากมาแชร์ปสก. เกี่ยวกับเพื่อนคนนึงที่เราเป็นเพื่อนมามากกว่า10ปี ของแทนชื่อเพื่อนว่าK ซึ้งเป็นเพื่อนข้างบ้านกันมาตั้งแต่มัธยม แต่ไม่ได้เรียนที่เดียวกัน สิ่งที่เราเจอจากเพื่อนคนนี้เกิดขึ้นจากมุมมองและความรู้สึกของเราที่สัมผัสมา

เรื่องแรกที่อยากแชร์และแสดงความคิดเห็นเข้ามานะ ด้วยความที่เป็นเพื่อนข้างบ้านและเราอยู่บ้านคนเดียวได้เงินเป็นเดือน เวลาKกลับบ้านและไม่มีเงินค่าแท๊ก K มักจะโทรให้เราเอาเงินลงไปจ่ายให้K อยู่ตลอด จนกระทั้งเราไม่มีเงินกลับบ้านเราโทรหาK นางบอกไม่มีเงินถ้าอยากยืมก็ให้มายืมพ่อเค้าเอง จบข่าวสุดท้ายยืมเพื่อนคนอื่น

ผ่านไปเหตุการณ์ต่อมาคือเวลาKจะนัดเพื่อนบองนาง นางชอบให้เพื่อนของนางมารอที่บ้านเราเพราะKไม่สะดวกให้เพื่อนKไปบ้าน เราก็โอเคได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะไม่มีใครอยู่บ้าน จนกระทั้งแม่เรามาอยู่ด้วยและแม่เราเอากุญแจบ้านไป เราเลยไลน์ไปหาK ขอไปรอบ้านK ได้ไหม ซึ้งเราก็รู้จักพ่อแม่K แต่Kไม่ให้บอกไม่สะดวกพ่อไม่สบาย

วันเวลาผ่านไปจนเรียนจบก็ยังเป็นเพื่อนแต่เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เราเปลี่ยนความคิดตัวเองคือเราทำงานกะซึ้งเลิกงานตี2 เราเลยไปดริ๊งต่อที่ผับแห่งหนึ่ง ซึ้งเราเมามากก่อนภาพตัดโทรไปหาเพื่อนชื่อB ว่าอยู่ที่นี้เมามาก B เลยโทรหาพี่สาวเรา พี่สาวเราเลยโทรK ให้ไปดูเราที่บ้านหน่อยเพราะติดต่อเราไม่ได้ ซึ้งตอนนั้นก็เกือบเช้า K บอกว่าไม่มีใครอยู่บ้านกุญแจหน้าบ้านล็อค B เลยตัดสินใจนั่งรถไปดูเราที่ผับแห่งนั้นก็เจอเราเมาสลบอยู่หน้าผับ BกับK แค่คนรู้จัก B พี่สาวเราบอกว่า Kยังดีนะที่ยังตื่นมาดูให้ เราก็รู้สึกขอบคุณK และก็พยายามเปลี่ยนความคิดตัวเองว่าเพื่อนมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี

ผ่านไปไม่กี่ปี K ตกงานมาบ่นๆให้เราฟังว่าไม่มีเงินต้องผ่อนรถอีก แม่ก็ด่าอีกเราเลยเสนอว่าเรามีเงินเก็บที่แม่ทิ้งไว้ให้ยามฉุกเฉินให้ยืมได้ K ขอยืม 1หมื่นเราก็ได้แต่ว่าเราต้องถอนออกนะเพราะเป็นบัญชีฝากประจำ Kก็บอกรอได้ก่อนวันนัดเอาเงินแค่จะขอยืมเพิ่มเป็น2หมื่น เพราะกลัวไม่พอ K ต้องไปภูเก็ตไปสมัครแอร์อีก เราก็โอเค วันนัดเอาเงิน K ขอเปลี่ยนจำนวนเงินอีกครั้งเป็น2หมื่น5 เราเลยโทรไปปรึกษา B  B บอกว่าเงินจำนวนเยอะขนาดนั่นให้ยืมได้ยังไง ถ้าจะให้ยืมต้องทำลายเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าไม่มีคืนทำยังไง เราเลยให้Kยืม5พันเราอ้างว่าเราถอนเงินออกไม่ได้แบงค์ไม่อนุมัติต้องเอาแม่มาด้วย เราเลยเอาเงินที่พอมีอยู่ให้ยืมK ก็หงุดหงิดเหวี่ยงไปตามภาษาของนางสุดท้าย Kก็บ่นๆ ว่าจะหาเงินจากไหนอารมณ์เสียใส่เราอีก

เวลาผ่านไปสุดท้าย Kก็คืนเงิน แต่ไม่ได้คืนเป็นก้อนนะ ผ่อนคืน เราก็โอเคอย่างน้อยก็ได้เงิน สิ่งที่บ้านเราไม่ชอบKเลยนะคือเวลาKยืมเงิน100 200 อะ พอทวงK จะมีวิธีการคืนที่ไม่เหมือนใครคือเอามาวางบนรองเท้าหน้าบ้าน ซึ้งตอนนั้นเราโมโหมากว่าคนปกติที่ไหนเค้าคืนเงินแบบนี้แล้วถ้ามีคนมาหยิบไปทำยังไง Kก็ไม่ตอบสนองและบ่นว่าก็เห็นรีบใช้เงินเราเลยว่าไปว่าถ้าไม่ทวงแกก็ไม่เอามาคืนอะ Kเนี่ยเวลายืมของอะไรไปไม่ค่อยคืนไม่ว่าจะสิ่งของเล็กน้อย เพราะทวงก็บอกให้เดินไปเอาที่บ้าน เป็นแบบนี้อยู่หลายๆครั้ง จนเราต้องปล่อยวาง เวลาเรายืมเงินK เนี่ยนางไม่เคยให้ยืมเลยนะอ้างว่าไม่มีเงิน ต้องใช่จ่ายส่วนตัว แต่เวลาไปกินข้าวเราออกก่อนนะ เพราะKไม่พกเงินสด สุดท้ายกว่าจะได้เงินคืนก็เออลืมม
เวลาผ่านไปยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ยังไม่เลิกคบ

วันหนึ่งไปเที่ยวที่ผับแห่งนึงด้วยกันกับ K และเพื่อนของ K เราก็กินไปเยอะเมามากอยู่ในห้องน้ำ โทรหา K Kไม่รับ เพราะออกจากห้องน้ำไม่ไหว เลยโทรหาB B ก็เอื่อมเราเพราะเราเป็นแบบนี่บ่อย Bเล่าให้ฟังว่า เราหายไปนานมากเลยนะ Kไม่สงสัยหรอว่าเพื่อนหาย เพราะตอนเราวางสายจากB BพยายามโทรหาK แต่Kไม่รับสาย B เลยให้เพื่อนคนอื่นช่วยโทรหาเราเพื่อไม่ให้เราหลับ B บอกว่าถ้าเป็นเราจะไม่ทิ้งเพื่อนแบบนี้แน่ๆ นี่อะไรเพื่อนหายไปขนาดนี้ไม่สนใจเลย สุดท้ายเพื่อนที่ไม่ได้ไปด้วยก็คุยกับเราดึงสติเรา จนเรากลับบ้านเองได้ จนถึงบ้านนอน Kโทรหาเราและถามเราว่าเราอยู่ไหน แล้วทำไมเพื่อนเราต้องไลน์มาด่าKเยอะขนาดนี้หาว่า Kทิ้งเพื่อน ทิ้งบ้าอะไรก็แกบอกจะไปห้องน้ำไม่ใช่หรอ ส่งเพื่อนไปดูแกที่ห้องน้ำก็ดูปกติดีนิ แล้วกลับบ้านก่อนทำไมไม่บอกเพื่อนกูต้องมาตามหาเมิงเนี่ย จบKวางสาย วันรุ่งขึ้นเราไปเจอB Bเล่าให้ฟังว่า Kไลน์ตอบกลับมาว่าKก็เมาเอาตัวเองไม่รอดเหมือนกันต้องพยุงกับเพื่อนอีกคนกลับบ้าน มาเที่ยวแบบนี้ก็ต้องดูแลตัวเองสิ Bเลยบอกกับเราว่าให้เราเลิกคบเพื่อนแบบนี้ซะที

ก็ยังไม่จบเพราะเราชวนK ไปเขาคิชกูฎ ซึ้งเคบอกเราว่าเพื่อนเคจะไปด้วยแต่ว่ามันเพิ่งเลิกงานตอนเช้าให้เพื่อนเคมานอนบ้านเราได้ไหม ซึ้งเราก็รู้จักเพื่อนเคคนนี้เราบอกได้แต่เรามีสัมงานตอนเช้าเคบอกให้เราทิ้งกุญแจไว้หน้าบ้านเดี๋ยวให้เพื่อนเคไขเข้าไปเราบอกไม่ได้ สุดท้ายเคก็เจรจาคุยกับเพื่อนเพื่อนเคก็มาตอนบ่าย ส่วนตัวเคที่เลิกงานเช้าก็กลับบ้านตัวเองนอน ซึ้งเรานัดกัน4โมงเย็นออกจากบ้านเพื่อนเคเป็นคนตรงเวลามาก โมโหเคที่โทรไปก็ไม่รับจะ4โมงแล้ว เลยบุกไปถึงบ้านพ่อเคเปิดประตูมาและเราขึ้นไปข้างบนเห็นเคนอนอยู่ยังไม่ตื่น ตอนนั้นเป็นอะไรที่โมโหสุดๆ คนที่ควรโกรธคือเราแต่เคกลับดันโกรธที่เราไปบุกถึงห้องนอนเค สุดท้ายสายย ซึ้งเราก็เจอประมาณนี้บ่อยๆ

และเรื่องที่จะเล่าเรื่องสุดท้ายที่ทำให้เราตัดขาดความเป็นเพื่อนก็คือ Kตกงานอีกครั้ง คราวนี้ไม่กล้าบอกแม่ว่าตกงาน เลยขอมานอนที่บ้านแต่จะมาตอนตี5เพราะเป็นเวลาออกจากบ้านของเค และตี2เป็นเวลาเลิกงานของเรา เราก็นอนรอเค สรุปเคมาตี5ครึ่งเปิดประตูให้เคเข้าบ้านจน4โมงเย็นเราไปทำงานเคค่อยกลับบ้านเป็นอย่างนี้อยู่2 -3 วัน เรารู้สึกเหนื่อยเพราะเราเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อย ซึ้งตอนนั้นเราปิดไฟบ้านมืดหมดแล้วเพราะไม่ไหวแล้วเหนื่อยมาก เคโทรมาแต่เราไม่ได้ยิน นางมาเคาะประตูบ้านซึ้งตอนนั้นตี 5.40และเราต้องเข้างานอีกทีบ่ายโมง เราก็แอบเหวี่ยงเค แต่เคก็ไม่สนใจอะไร ผ่านไปจนวันหยุดเรา เราก็นอนดูซีรีย์ของเรายันเช้าเคบอกเราว่าทำอะไร.ซักอย่างจะเล่นเกมส์หรือจะดูหนังถ้าไม่นอนเคจะลงไปนานข้างล่างเราเลยต้องนอน ซึ้งเราเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังเพื่อนเราก็สงสัยว่าอ้าวแล้วทำไมให้นอนข้างล่างไม่ได้ละ วันสุดท้ายเคขอมานอนบ้านเราไม่ให้อ้างว่าเพื่อนบลาๆ จนเคบอกกับเราว่าช่วยกรูหน่อยเหอะ กรูไม่อยากบอกแม่จริงๆ ถ้าเมิงจะนอนก่อนก็นอนเลยเมิงทิ้งกุญแจไว้หน้าบ้านเดี๋ยวกรูไขเข้าไปนอนเอง เราเลยตั้งคำถามในหัวว่าเพื่อนแบบนี้ควรช่วยหรอ ตลอดเวลาเค้าเคยช่วยเราไหม บางทีเค้าก็ทำเหมือนเราไม่ใช่เพื่อน เราเลยพิมตอบกลับไปในไลน์ว่า เราช่วยได้ แต่ถามหน่อยเหอะเมิงเห็นกรูเป็นเพื่อนแบบไหน เห็นเป็นเพื่อนที่เวลาเจอปัญหาวิ่งเข้าหาแต่เวลากรูมีปัญหาวิ่งหนีกรูรึป่าวเพราะตลอดเวลาคือกรูรู้สึกแบบนี้ และเราก็ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เจอให้เคฟัง คำตอบที่ได้จากเคคือ งั้นไม่เป็นไรกรูไม่ไปนอนละ และเมิงคิดแบบนี้หรอ เอาที่เมิงสบายใจเลย เราเลยตอบกลับไปว่าใช้เราคิดแบบนี้เพราะเมิงเป็นคนกระทำให้กรูรู้สึกแบบนี้เอง K ตอบกลับมาแค่เคเคตามใจ ไม่แม้แต่จะอธิบายหรืออะไร เราเลยตัดสินใจว่าก็ในเมื่อเพื่อนจบประโยคสั้นๆแบบนี้โดยไม่อธิบาย เราก็อันเฟรนเพื่อนคนนี้ทักโซเชี่ยวทุกทาง และทวงเสื้อผ้าที่ยืมเราไปช่วงที่มานอนบ้านเรา แต่ก็เงียบหายไม่แม้กระทั่งพูดอะไรเงียบหายไปเลย ตอนนี้ทำให้เราตาสว่างว่าต่อให้คบกันมานานอะก็ใช่ว่าจะดี เพราะเราถามเค้าอีกคำถามนึงว่า กับเพื่อนคนอื่นทำนิสัยแบบนี้ด้วยรึป่าว คำตอบที่ได้รับคือความเงียบบ

เราอยากรู้ว่าคนอื่นอะเวลาเพื่อนคุณรู้สึกอะไรในทำนองแบบนี้คุณจะอธิบายให้เค้าฟังไหม หรือปล่อยผ่าน เพราะถ้าเป็นเรา เราคงอธิบายให้เค้าฟังเพราะเรากลัวเสียเพื่อนไปอะ นี้ไม่แม่จะกระทั้งกลัวเสียเพื่อนไปเลยซักนิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่