เห็นเพื่อนๆในเฟสหลายคนแชร์และถกกันเรื่องค่าปรับเกี่ยวกับใบขับขี่ เราก็เลยอยากจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้และแลกเปลี่ยนกับเพื่อนในพันทิปว่าคิดเห็นเป็นอย่างไรกันบ้าง
ก่อนอื่นเราขอพูดก่อนว่า กฏหมายออกมาเพื่อดูแลให้สังคมมีระเบียบเรียบร้อย จำเป็นไหมที่คนขับขี่รถจะต้องมีใบขับขี่ เราเห็นด้วยนะคะ เหมือนกับการปฏิบัติตามกฏจราจรอื่นๆ เราขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เราก็ใส่หมวกกันน็อคตลอด ไม่ได้ใส่เพราะกลัวตำรวจจะปรับ แต่คิดว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุมา ความปลอดภัยจะมีมากกว่า เพราะมีคนรู้จัก เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม หัวกระแทก ต้องกลายสภาพเป็นอัมพฤกษ์ ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนกายภาพบำบัด ฝึกเดิน และฝึกมาไม่ต่ำกว่า 4-5 ปีแล้ว
ส่วนตัว เราคิดว่า การมีใบขับขี่ หนึ่งล่ะ คือ ต้องฝึกหัดขับขี่ให้ชำนาญระดับหนึ่ง สอง เข้ารับการอบรมหรืออ่านและเรียนรู้กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ และผู้ที่ผ่านทั้งการฝึกหัดและอบรมความรู้มาแบบนี้ ก็สมควรแล้วที่จะสามารถนำรถออกมาขับขี่บนท้องถนนได้ นั่นก็คือมีใบขับขี่นั่นเอง เราถึงคิดว่า การไม่มีใบขับขี่ถือว่าผิด
แต่มันต่างกับการไม่พกใบขับขี่นะคะ ยกกรณีเข้าข้างตัวเอง 55 เราเป็นคนเปลี่ยนกระเป๋าบ่อย จะมีกระเป๋าสำหรับเข้าป่า กระเป๋าไปสำนักงาน กระเป๋าสำหรับไปว่ายน้ำ กระเป๋าตังค์เล็กสำหรับไปซื้อของห้างหรือร้านค้าใกล้บ้าน ถ้าเราขับขี่ในซอยเล็กๆลัดเลาะๆฝั่งเดียวกับบ้านเรา ไม่ออกถนนใหญ่หรือถนนเมน เรามักจะไม่เอากระเป๋าใบใหญ่ไป จะใช้กระเป๋าใบเล็ก ถ้าไปว่ายน้ำจะไม่เอากระเป๋าตังค์ซึ่งมีสารพัดบัตรไป เพราะเคยหาย และด้วยที่ต้องสลับกระเป๋าเวลาไปไหนมาไหน ทำให้เราพกมั่งไม่พกมั่ง แต่เราก็มั่นใจว่า ความสามารถในการขับขี่ของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับการพกใบขับขี่ แต่กฏจราจรมีอยู่ในหัวของเราตั้งแต่สอบใบขับขี่ผ่านแล้ว
และพออ่านกระทู้และความเห็นของบางคนที่บอกว่า ก็กฎหมายเขาบอกให้พก แต่ไม่พกจะมาเรียกร้องอะไร เราก็อยากจะถามกลับเหมือนกันว่า ใส่หมวกกันน็อค เรายังพอเห็นประโยชน์นะคะ ต่อตัวเราเอง ต่อสังคม แต่การไม่พกใบขับขี่นี่มันมีผลต่อสังคมอย่างไร ถึงต้องมีการบังคับปรับ อันนี้ไม่นับรวมกรณีไม่มีใบขับขี่นะคะ อันนั้นเราเห็นด้วยที่จะให้เพิ่มค่าปรับ และหามาตรฐานมาตรวจสอบด้วยซ้ำ แต่กับการพกใบขับขี่ เราว่ามันไม่ใช่อ่ะ
กรณีตำรวจที่เราเจอ ปกติเราสวมหมวกกันน็อค ขับรถไม่เร็ว ตำรวจก็ไม่เคยโบกเราสักที นั่นเราว่าเป็นการใช้วิจารณญานที่ดีในการบังคับใช้กฏหมาย มีบางครั้งเราลืมหมวกกันน็อค พี่ตำรวจก็จะคุย ถ้าครั้งแรกก็จะเตือน จะไม่ออกใบสั่งเราเลย
และนี่แหละค่ะที่เป็นอีกประเด็นที่บอกว่า โทษปรับหนึ่งหมื่นบาทเป็นโทษสูงสุด แล้วก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้วิจารณญาณในการตัดสินเองว่าควรจะปรับเท่าไหร่ ไม่อยากบอกเลยว่า คนเราเกิดมาก็แตกต่างกันแล้ว ความคิด การศึกษา แล้วจะให้ทุกคนมีวิจารณญาณของตัวเองมาตัดสินคนอื่นเนี้ย มันไม่โอเค ถ้าจะปรับจริงๆ ค่าปรับต้องสมเหตุสมผล และต้องเป็นมาตรฐานไปเลย เพื่อลดการใช้วิจารณญาณ ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง และอาจเกิดการใช้อำนาจบังคับใช้กฏหมายโดยไม่เป็นธรรม
นี่เป็นความคิดของเรานะคะ เพื่อนๆคนไหนคิดเห็นต่างอย่างไรก็ลองแลกเปลี่ยนกันได้
ไม่มีเราให้เพิ่มค่าปรับ แต่ไม่พกเพิ่มค่าปรับ ทำไปเพื่อ???
ก่อนอื่นเราขอพูดก่อนว่า กฏหมายออกมาเพื่อดูแลให้สังคมมีระเบียบเรียบร้อย จำเป็นไหมที่คนขับขี่รถจะต้องมีใบขับขี่ เราเห็นด้วยนะคะ เหมือนกับการปฏิบัติตามกฏจราจรอื่นๆ เราขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เราก็ใส่หมวกกันน็อคตลอด ไม่ได้ใส่เพราะกลัวตำรวจจะปรับ แต่คิดว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุมา ความปลอดภัยจะมีมากกว่า เพราะมีคนรู้จัก เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม หัวกระแทก ต้องกลายสภาพเป็นอัมพฤกษ์ ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนกายภาพบำบัด ฝึกเดิน และฝึกมาไม่ต่ำกว่า 4-5 ปีแล้ว
ส่วนตัว เราคิดว่า การมีใบขับขี่ หนึ่งล่ะ คือ ต้องฝึกหัดขับขี่ให้ชำนาญระดับหนึ่ง สอง เข้ารับการอบรมหรืออ่านและเรียนรู้กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ และผู้ที่ผ่านทั้งการฝึกหัดและอบรมความรู้มาแบบนี้ ก็สมควรแล้วที่จะสามารถนำรถออกมาขับขี่บนท้องถนนได้ นั่นก็คือมีใบขับขี่นั่นเอง เราถึงคิดว่า การไม่มีใบขับขี่ถือว่าผิด
แต่มันต่างกับการไม่พกใบขับขี่นะคะ ยกกรณีเข้าข้างตัวเอง 55 เราเป็นคนเปลี่ยนกระเป๋าบ่อย จะมีกระเป๋าสำหรับเข้าป่า กระเป๋าไปสำนักงาน กระเป๋าสำหรับไปว่ายน้ำ กระเป๋าตังค์เล็กสำหรับไปซื้อของห้างหรือร้านค้าใกล้บ้าน ถ้าเราขับขี่ในซอยเล็กๆลัดเลาะๆฝั่งเดียวกับบ้านเรา ไม่ออกถนนใหญ่หรือถนนเมน เรามักจะไม่เอากระเป๋าใบใหญ่ไป จะใช้กระเป๋าใบเล็ก ถ้าไปว่ายน้ำจะไม่เอากระเป๋าตังค์ซึ่งมีสารพัดบัตรไป เพราะเคยหาย และด้วยที่ต้องสลับกระเป๋าเวลาไปไหนมาไหน ทำให้เราพกมั่งไม่พกมั่ง แต่เราก็มั่นใจว่า ความสามารถในการขับขี่ของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับการพกใบขับขี่ แต่กฏจราจรมีอยู่ในหัวของเราตั้งแต่สอบใบขับขี่ผ่านแล้ว
และพออ่านกระทู้และความเห็นของบางคนที่บอกว่า ก็กฎหมายเขาบอกให้พก แต่ไม่พกจะมาเรียกร้องอะไร เราก็อยากจะถามกลับเหมือนกันว่า ใส่หมวกกันน็อค เรายังพอเห็นประโยชน์นะคะ ต่อตัวเราเอง ต่อสังคม แต่การไม่พกใบขับขี่นี่มันมีผลต่อสังคมอย่างไร ถึงต้องมีการบังคับปรับ อันนี้ไม่นับรวมกรณีไม่มีใบขับขี่นะคะ อันนั้นเราเห็นด้วยที่จะให้เพิ่มค่าปรับ และหามาตรฐานมาตรวจสอบด้วยซ้ำ แต่กับการพกใบขับขี่ เราว่ามันไม่ใช่อ่ะ
กรณีตำรวจที่เราเจอ ปกติเราสวมหมวกกันน็อค ขับรถไม่เร็ว ตำรวจก็ไม่เคยโบกเราสักที นั่นเราว่าเป็นการใช้วิจารณญานที่ดีในการบังคับใช้กฏหมาย มีบางครั้งเราลืมหมวกกันน็อค พี่ตำรวจก็จะคุย ถ้าครั้งแรกก็จะเตือน จะไม่ออกใบสั่งเราเลย
และนี่แหละค่ะที่เป็นอีกประเด็นที่บอกว่า โทษปรับหนึ่งหมื่นบาทเป็นโทษสูงสุด แล้วก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้วิจารณญาณในการตัดสินเองว่าควรจะปรับเท่าไหร่ ไม่อยากบอกเลยว่า คนเราเกิดมาก็แตกต่างกันแล้ว ความคิด การศึกษา แล้วจะให้ทุกคนมีวิจารณญาณของตัวเองมาตัดสินคนอื่นเนี้ย มันไม่โอเค ถ้าจะปรับจริงๆ ค่าปรับต้องสมเหตุสมผล และต้องเป็นมาตรฐานไปเลย เพื่อลดการใช้วิจารณญาณ ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง และอาจเกิดการใช้อำนาจบังคับใช้กฏหมายโดยไม่เป็นธรรม
นี่เป็นความคิดของเรานะคะ เพื่อนๆคนไหนคิดเห็นต่างอย่างไรก็ลองแลกเปลี่ยนกันได้