จากใจคนไทยคนหนึ่งในแดนเวียดนาม
ซูซูกิคัพ ครั้งก่อนหน้า (ยุกต์เจ ฯ และ ซิโก้ )นักร้องดังเวียดนาม ประกาศศึกฟุตบอลกับไทย เมื่อเราชนะ มีแต่ดีใจ ที่ไทยเราชนะได้ตลอด
และสนุกกับการดูฟุตบอล มันช่างแตกต่างกับเมื่อก่อนมากๆ และยังทึ่งกับ การเล่น ต่อบอลแบบสั้นๆ ที่เรียกว่า ติ๊กตอก และ สุขใจกับความสำเร็จ อันสวยงาม และ ยังได้ ที่ 4 เอเชียนเกมส์ , ชนะจีน นัดอุ่นเครื่อง , เข้ารอบ 12 ทีม รอบคัดเลือกบอลโลก โซนเอเชีย เป็นครั้งแรกอีกด้วย
แน่นอน ว่า ความหวังของผม ( และคนไทยทุกคน ) ก็พังทลาย เพราะ เรา ผ่านรอบนี้ไม่ได้ และ ที่เราคิดว่าเราเก่งแล้ว ไปได้ไกลแล้ว จริงๆ คือ เพิ่งเริ่มต้น เท่านั้นเอง แน่นอนว่า นัดกับอิรัก ทำให้เรา สุดช้ำใจมากๆ
เอามาต่อ กัน ที่ นายกสมาคมคนใหม่ ผมดีใจที่ได้คนวิสัยทัศน์ ดี มาบริหาร คาดว่าน่าจะดีกว่าคนเก่า
แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้ คือ ซิโก้ โดนแน่ๆ
ผมก็ไม่เข้าใจว่า ซิโก้ ที่รู้อยู่แล้ว ว่า ถ้าแพ้กลับมา จะต้องเจอกับอะไร ทำไมเขายังทำต่อ นั่นคือความผิดพลาด ทำให้เขาถูกโจมตีอย่างหนัก เมื่อแพ้อย่างไม่สวย
แต่ถ้าเทียบ กับ การตกรอบแรกเอเชียนเกมส์ ครั้งนี้ มันน่าระอา ยิ่งนัก การเริ่มใหม่ ในยุดใหม่นี้ มันแย่มากๆ มันรู้สึกเหมือนดูหนัง ตอนเสียกรุงศรีเลย
ลองดู คอมเม้นท์ เพื่อนๆชาวอาเชียน เมื่อเราตกรอบแรก สิ
แผนบริหาร 10 ปี อะไร ทำไม มีแต่ดิ่งลงเหว ในขณะ ที่เพื่อนบ้าน พม่า เวียดนาม มาเลย์ อินโด เขาไปได้ดี ในครั้งนี้
หรือ ต้องผมถึงปีที่ 10 ถึงจะเห็นผล กันแน่ ขนาด บริษัทที่ผมอยู่ ยังวัดผล KPI ทุกๆ 3 เดือนเลย คงไม่ต้องรอ วัดผลปีที่ 10 หรอกนะ
ถ้าโค๊ชไทย ไม่เก่ง ทำไม ไม่เอา เกาหลี ญี่ปุ่น ที่ วัฒนธรรม ใกล้เคียง กับเรา มาคุมล่ะ
การเอา ราเยวัช มา ก็ไม่ได้เห็น อะไรใหม่ๆ เท่าไหร่ ก็ยังใช้คน เหมือนๆซิโก้ เหมือน กับ เพลย์เซฟ ยังไงไม่รู้
ยิ่งได้ดูข่าว ทั้ง นายก , เฮงซัง , โย่ง ให้สัมภาษณ์ ช่างแตกต่าง กับตอนที่เข้ามาใหม่ๆ ทั้งสิ้น ผมว่า ถ้าพวกคุณทำไม่ได้ ก็ให้ คนอื่นมาทำเถอะ
คงต้องมีคนไทยคนอื่น เก่งๆ บ้างล่ะน่า ทั้งประเทศ คงไม่ได้มีแค่ ยศ กับ ยี แน่ๆ ครับ
ตอนนี้ เวลาเดินไปไหน มาไหน ในเวียดนาม แทบจะเอาปิ๊บ คุมหัว พยายามเลี่ยงไม่คุยเรื่องบอล เลย ถ้าเขาคุยมาเราก็ยอมรับ ว่า ปีนี้เรา ตกรอบแรก จริงๆ เท่านั้น และ ผม ก็ชื่นชมเวียดนาม ที่เขาทำได้ดี
การตกรอบแรก ก็มีข้อดีนะ ทำให้ ผมได้เชียร์เวียดนาม ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัว เหมือนเวลา บอลไทย แข่งกับ เวียดนาม ที่ต้องหมกอยู่แต่ในบ้าน
"ใครไม่อาย แต่ ผมอาย " บอลไทยร่วงรอบแรก เอเชียนเกมส์
ซูซูกิคัพ ครั้งก่อนหน้า (ยุกต์เจ ฯ และ ซิโก้ )นักร้องดังเวียดนาม ประกาศศึกฟุตบอลกับไทย เมื่อเราชนะ มีแต่ดีใจ ที่ไทยเราชนะได้ตลอด
และสนุกกับการดูฟุตบอล มันช่างแตกต่างกับเมื่อก่อนมากๆ และยังทึ่งกับ การเล่น ต่อบอลแบบสั้นๆ ที่เรียกว่า ติ๊กตอก และ สุขใจกับความสำเร็จ อันสวยงาม และ ยังได้ ที่ 4 เอเชียนเกมส์ , ชนะจีน นัดอุ่นเครื่อง , เข้ารอบ 12 ทีม รอบคัดเลือกบอลโลก โซนเอเชีย เป็นครั้งแรกอีกด้วย
แน่นอน ว่า ความหวังของผม ( และคนไทยทุกคน ) ก็พังทลาย เพราะ เรา ผ่านรอบนี้ไม่ได้ และ ที่เราคิดว่าเราเก่งแล้ว ไปได้ไกลแล้ว จริงๆ คือ เพิ่งเริ่มต้น เท่านั้นเอง แน่นอนว่า นัดกับอิรัก ทำให้เรา สุดช้ำใจมากๆ
เอามาต่อ กัน ที่ นายกสมาคมคนใหม่ ผมดีใจที่ได้คนวิสัยทัศน์ ดี มาบริหาร คาดว่าน่าจะดีกว่าคนเก่า
แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้ คือ ซิโก้ โดนแน่ๆ
ผมก็ไม่เข้าใจว่า ซิโก้ ที่รู้อยู่แล้ว ว่า ถ้าแพ้กลับมา จะต้องเจอกับอะไร ทำไมเขายังทำต่อ นั่นคือความผิดพลาด ทำให้เขาถูกโจมตีอย่างหนัก เมื่อแพ้อย่างไม่สวย
แต่ถ้าเทียบ กับ การตกรอบแรกเอเชียนเกมส์ ครั้งนี้ มันน่าระอา ยิ่งนัก การเริ่มใหม่ ในยุดใหม่นี้ มันแย่มากๆ มันรู้สึกเหมือนดูหนัง ตอนเสียกรุงศรีเลย
ลองดู คอมเม้นท์ เพื่อนๆชาวอาเชียน เมื่อเราตกรอบแรก สิ
แผนบริหาร 10 ปี อะไร ทำไม มีแต่ดิ่งลงเหว ในขณะ ที่เพื่อนบ้าน พม่า เวียดนาม มาเลย์ อินโด เขาไปได้ดี ในครั้งนี้
หรือ ต้องผมถึงปีที่ 10 ถึงจะเห็นผล กันแน่ ขนาด บริษัทที่ผมอยู่ ยังวัดผล KPI ทุกๆ 3 เดือนเลย คงไม่ต้องรอ วัดผลปีที่ 10 หรอกนะ
ถ้าโค๊ชไทย ไม่เก่ง ทำไม ไม่เอา เกาหลี ญี่ปุ่น ที่ วัฒนธรรม ใกล้เคียง กับเรา มาคุมล่ะ
การเอา ราเยวัช มา ก็ไม่ได้เห็น อะไรใหม่ๆ เท่าไหร่ ก็ยังใช้คน เหมือนๆซิโก้ เหมือน กับ เพลย์เซฟ ยังไงไม่รู้
ยิ่งได้ดูข่าว ทั้ง นายก , เฮงซัง , โย่ง ให้สัมภาษณ์ ช่างแตกต่าง กับตอนที่เข้ามาใหม่ๆ ทั้งสิ้น ผมว่า ถ้าพวกคุณทำไม่ได้ ก็ให้ คนอื่นมาทำเถอะ
คงต้องมีคนไทยคนอื่น เก่งๆ บ้างล่ะน่า ทั้งประเทศ คงไม่ได้มีแค่ ยศ กับ ยี แน่ๆ ครับ
ตอนนี้ เวลาเดินไปไหน มาไหน ในเวียดนาม แทบจะเอาปิ๊บ คุมหัว พยายามเลี่ยงไม่คุยเรื่องบอล เลย ถ้าเขาคุยมาเราก็ยอมรับ ว่า ปีนี้เรา ตกรอบแรก จริงๆ เท่านั้น และ ผม ก็ชื่นชมเวียดนาม ที่เขาทำได้ดี
การตกรอบแรก ก็มีข้อดีนะ ทำให้ ผมได้เชียร์เวียดนาม ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัว เหมือนเวลา บอลไทย แข่งกับ เวียดนาม ที่ต้องหมกอยู่แต่ในบ้าน