ตอนมองโกลแข็งๆ บุกไปทั่วนี่พอมีประเทศไหนยันต้านได้บ้างไหม อ่านเจอ Siege of Baghdad (1258) แล้วกลัวไปเลย?

https://en.wikipedia.org/wiki/Siege_of_Baghdad_(1258)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
#5 นั่นคือศึกครั้งแรกครับ

มองโกลบุกอียิปต์หลายครั้งแบ่งเป็นสามระลอกใหญ่

ครั้งแรก 1260 รู้จักในชื่อสงคราม Ain Jalut ทัพมองโกลที่นำโดยคิบูซาผู้พิชิตแบกแดด ซึ่งมีกำลังมากกว่าอียิปต์เล็กน้อยต้องกลศึกและถูกทำลายทั้งหมด เพื่อไม่ให้ยืดยาว จะขอเล่าถึงช่วงสุดท้ายของการรบ ทางอียิปต์ได้วางกับดักไว้ในหุบเขาแคบๆที่มีลำธารไหลผ่าน หลังจากนั้นก็ออกมารบล่อแล้วถอยหนีเข้าไปในหุบเขา มองโกลรุกไล่ตามเข้าไป พื้นที่ในหุบเขาเป็นป่าละเมาะ มีทางคนสัญจรที่ค่อนข้างแคบ ทัพมองโกลจึงกลายเป็นแถวตอนที่ทอดยาวไปตามหุบเขา พอถึงพื้นที่ที่ถูมิประเทศเป็นป่าหญ้า ทหารอียิปต์อีกกลุ่มที่ซุ่มบนเนินด้านข้างและมีที่กำบังอย่างดีก็โจมตีด้วยธนู ส่วนทัพอียิปต์ที่ถอยหนีก็หันกลับมาสู้ มองโกลอยู่ในที่โล่งเห็นเสียเปรียบจึงถอยเข้าไปในป่าหญ้าหาที่กำบัง อียิปต์จึงยิงธนูไฟเข้าใส่ ผลคือทหารมองโกลถูกไฟครอกตายในป่าหญ้าจำนวนมาก หลังการรบเจอศพหลายพัน ที่วิ่งหนีไฟออกมาก็ถูกธนูยิงตายจำนวนมาก หลังจากนั้นมองโกลก็กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ คิบูซาจึงพาทหารที่เหลือหนีย้อนออกจากหุบเขา แต่ถูกอียิปต์ตามไล่ล่าจนกระทั่งไปจนมุมที่ริมแม่น้ำ จึงถูกจับได้และถูกตัดหัวพร้อมเชลยทั้งหมด สรุปคือตายหมดทั้งกองทัพ หนีรอดไม่ถึงร้อย คนที่รอดคือตอนหนีไฟพลัดหลงไปทางอื่น ไม่ได้ตามแม่ทัพออกมา

ครั้งที่สอง 1281 รู้จักในชื่อสงคราม Homs ครั้งที่ 2 ทัพมองโกลที่มีกำลังมากกว่าราวสองเท่ากลับถูกตีแตกอย่างไม่น่าเชื่อ ในช่วงสุดท้ายของการรบ ทัพทั้งสองฝ่ายตั้งแนวหน้ากระดานเข้าปะทะกัน เวลาผ่านไปมองโกลที่มีกำลังมากกว่าก็สามารถหักปีกซ้ายของอียิปต์ได้ ทัพอียิปต์จึงถอยแยกออกห่างจากการปะทะ แต่ไม่ได้หนีไปไกล มองโกลเห็นได้ทีจึงสั่งให้ขยายปีกเข้าโอบล้อม หวังจะรุมโจมตีจากทุกทิศทางในแบบที่มองโกลถนัด แต่การขยายแนวเข้าโอบทำให้ความหนาแน่นของแถวทหารมองโกลบางลง ในขณะที่ปีกของทัพมองโกลใกล้จะล้อมอียิปต์สำเร็จ ยังไม่ทันได้เริ่มเข้าโจมตี ทัพอียิปต์ที่ตกอยู่ในวงล้อมแทนที่จะหาทางหนี กลับเคลื่อนกำลังทั้งหมดเดินหน้าเป็นลิ่มเจาะเข้ากลางแนว และสามารถเจาะทะลุเข้าไปถึงกองบัญชาการมองโกลที่อยู่ข้างหลัง สังหารขุนศึกเสนาธิการไปหลายคน Temur แม่ทัพใหญ่ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ทหารพาหนีรอดไปได้ เมื่อส่วนบัญชาการถูกทำลายกองทัพมองโกลก็ต้องถอยกลับ ชัยชนะของอียิปต์ครั้งนี้นักการทหารถือว่าสุดยอดมากๆ ถ้าเป็นคนอื่นคงถูกล้อมสังหารหมู่ไปแล้ว แต่อียิปต์เลือกจังหวะเวลาเข้าทำได้ดีมาก พลิกสถานการณ์จากที่ควรจะแพ้เป็นชนะได้อย่างน่าอัศจรรย์

ครั้งที่สาม 1303 รู้จักในชื่อสงคราม Marj al-Saffar เป็นการแพ้ในแบบล้มละลายหมดตัว ในช่วงสุดท้ายของยุทธการ กองทัพทั้งสองฝ่ายเกิดการรบแบบติดพันข้ามวันข้ามคืน พอล่วงพ้นวันที่สองทัพอียิปต์ก็ถอยหนี สถานการณ์ดูเหมือนมองโกลได้ชัยชนะแล้วและได้เวลาที่จะรุกไล่บดขยี้ข้าศึก เมื่อมองโกลไล่ตามมาถึงธารน้ำ กองทัพมองโกลก็อยู่ในสภาพยุ่งเหยิงเพราะม้าที่หิวน้ำขัดขืนไม่ยอมไปต่อ พากันเบียดเสียดแย่งจะเข้าไปดื่มน้ำ แม่ทัพมองโกลจึงสั่งหยุดการไล่ล่า และตัดสินใจหยุดพักและเรียกกองหนุนให้นำม้ามาเปลี่ยนและส่งเสบียง ปรากกฏว่ากองทัพอียิปต์ที่หนีไป ไปรับเสบียงและเปลี่ยนม้าได้เสร็จก่อน จึงย้อนกลับมาโจมตี กองทัพมองโกลในขณะนั้นไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำการรบ กองเสบียงเพิ่งจะมาถึง ทหารมองโกลยังไม่ทันได้รับเสบียงและเปลี่ยนม้า หลังจากนั้นประมาณครึ่งวันกองทัพมองโกลก็แตกหนี โดยมีทหารอียิปต์ไล่ตามฆ่าไปไกลจนสุดชายแดน ผลคือทัพมองโกลหนึ่งแสนตายเรียบ เหลือรอดกลับไปรายงานข่าวไม่ถึงพันคน นักการทหารวิจารณ์ว่าชัยชนะของอียิปต์น่าจะเป็นเพราะกองทัพมองโกลหมดแรง ชาวมองโกลไม่คุ้นอากาศร้อน ม้ามองโกลไม่อึดเท่าม้าอาหรับ อียิปต์ยื้อการรบให้ยาวนานแล้วเลือกเวลาเข้าตีเมื่อเห็นว่าทั้งคนทั้งม้าหมดแรงแล้ว

ในปี 1312 มองโกลพยายามจะบุกอียิปต์อีกครั้ง แต่ไม่สามารถตีฝ่าดินแดนที่ขวางทางไปถึงอียิปต์ได้

อียิปต์สมัยที่ปกครองโดยมัมลุก เป็นอาณาจักรเดียวที่รบกับมองโกลอย่างโชกโชน และต้านทานได้ทุกครั้ง
สำหรับญี่ปุ่น ผมไม่อยากจะนับว่าเป็นคู่ต่อสู้ของมองโกลเลย เพราะชนะด้วยโชค ไม่ได้ชนะด้วยความสามารถ
ส่วนที่อื่นๆก็เป็นแค่ชนะกองทหารย่อยๆ ไม่ได้เจอกับทัพใหญ่ระดับหนึ่งแสนอย่างที่บุกอียิปต์
และที่น่าประหลาดคือ ทุกครั้งสถานะการณ์การรบดูเหมือนมองโกลจะอยู่ใกล้ชัยชนะแค่เอื้อม
แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผันกลายเป็นหายนะโดยสิ้นเชิง แสดงว่ากลยุทธของอียิปต์นั้นเหนือชั้นกว่ามาก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่