มาเริ่มกันเลยกันเลยดีกว่า #ไม่พูดมากเจ็บคอ
เริ่มจากการเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวนประเทศไต้หวัน
ด้วยสายการบิน ที่ฟรีโหลดกระเป๋า 20กิโล ณ เวลา 03.10น.ของวันที่ 17/08/18 ถึง เวลา 08.00 น.ของวันเดียวกันตามเวลาไต้หวัน
พอถึงที่ไต้หวันแล้วเราก็มุ่งหน้าเข้าเมืองด้วย รถไฟฟ้า MRT EXpress มุ่งหน้า Taipei Main Station






พอถึงสถานี Taipei Main Station (เป็นสถานีที่เชื่อมต่อระหว่างMRTสายสีน้ำเงิน (BL12) และMRTสายสีแดง (R10) เราก็เดินมุ่งหน้าไปที่ รถไฟฟ้าMRTสายสีแดง(R10) เพื่อไปยังMRTสายสีเขียว (G14)


บัตร MRT สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วได้เลยนะคะ ขายในราคา 100 เหรียญ แล้วสามารถเติมเงินได้ตลอด เหมือนบัตรของบ้านเรา แต่ที่ต่างคือมันสามารถใช้จ่ายได้แทบทุกที่ในประเทศเขาเลย แม้แต่การเช่าจักรยาน เหมือนสามารถคืนบัตรได้ด้วยนะ แต่เงินในบัตรต้องเหลือมากกว่ามูลค่าที่ซื้อ แต่ของเราเหลือแค่ 30 เหรียญเลยคืนไม่ได้ 5555

เรื่องการใช้ขนส่งที่บ้านเขา เขาจะให้ความสำคัญกับ เด็ก คนชรา คนพิการ สตรีมีครรภ์ โดยเขาจะมีที่นั่ง priority seat สำหรับบุคคลเหล่านี้ไว้เสมอ และที่สำคัญประชากรบ้านเขาจะไม่มีใครนั่งที่นั่งเหล่านี้เว้นแต่เป็นบุคคลที่เขากล่าวไว้ มีวินัยมากกก รถเข็นสำหรับคนพิการก็สามารถใช้บริการได้ เขาให้ความสะดวกกับบุคคลเหล่านี้มาก






พอเราได้บัตรมาแล้วก็ไปคร้าาาา ไปที่พักกัน ที่พักบ้านเขาหาได้ตาม เวปเลย ชอบที่ไหนเลือกที่นั้นได้เลยนะจ๊ะ ของเราเลือกที่เดิมเนื่องจากติดใจที่ที่พักอยู่ติดสถานีเลย ไปไหนมาไหนก็สะดวก เสียตรงไม่มีบันไดเลื่อนตรงทางออกของเรา พอถึงที่พักแล้วก่อนเช็คอินเราก็หาข้าวเช้ากินกันก่อน อาหารการกินที่โน่น จะว่าถูกก็ไม่ถูกนะจ๊ะ ราคา 60 เหรียญขึ้น แต่ Size ที่ได้ มันเยอะมาก สำหรับเรากินทีอิ่มไปสองมื้อได้
ทั้งหมดนี้ประมา 300 กว่าเหรียญ ราคาแพงก็จริงแต่ปริมาณที่ได้ก็คุ้มราคา



แหล่งช้อปปิ้ง ของฝาก ต้องที่ Ximending เลยจ้า ที่นี่ขายของเยอะมาก นั่งMRTสายสีเขียว (G14) จากสถานีที่เราพักไปอีกสองสถานี ลงที่สถานี Ximen (G12) อยากได้อยากกินอะไรมีทุกอย่าง

Ximen ตอนกลางวันคนจะน้อย ๆ แบบนี้


Ximen ตอนกลางคืน


แนะนำอีกสถานี Taipei Main Station ที่นี่มีทั้งของกินและของฝาก ค่อยๆ เดินดีๆ ค่อยๆ อ่านป้ายนะคะ หลงกันมานักต่อนักแล้ว เราก็หลง เพราะสถานีนี่ใหญ่มากเป็นแลนมาร์คเลยก็ว่าได้

ที่ขายตั๋วรถบัสที่สถานี Taipei Main Station

อาหารที่ขายที่นี่

มีร้านซูชิ10เหรียญ




ตลาดปลา Taipei Fish Market แนะนำเลยค่ะ ซาซิมิปลาดิบสดมาก ซูชิก็อร่อย ผลไม้ราคาไม่แพง ต้องมาค่ะ การเดินทางเรานั่งแท๊กซี่จากที่พักสถานี Zhongshan ไปถึงตลาด 170 เหรียญ ขากลับเลยลองเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง O09 ไม่คิดว่าจะเดินได้ ก็ไม่ไกลมาก อ้อ แท๊กซี่ที่โน้น มิเตอร์เริ่มต้นที่ 70 เหรียญนะคะ







และอีกที ก็ที่ Mitsui Outlet Park ของขายราคาไม่แพง ลองตามอ่านรีวิวของคนอื่นๆดูนะคะ ส่วนเราจะแนะนำการเดินทางไป มีสองทางคือรถบัสและรถไฟฟ้าMRT Express ขาไปเรานั่งบัสไป สาย1210 นั่งไปประมาณเกือบชั่วโมงได้ ราคาก็ประมาณ 28 เหรียญถ้าจำไม่ผิด ขากลับเรานั่ง MRT กลับ จากสถานี Linkou มุ่งหน้า Taipei Main Station ราคา 80 เหรียญ เร็วกว่า ไม่เหนื่อย ไม่ต้องกลัวหลงเลยด้วย

อ้อ ถ้ากลับด้วย MRT ต้องเดินอีกหน่อยนะคะ ไม่ไกลมาก เปิดGoogle Map เดินได้เลย ง่าย  ของที่ขายที่Outlet ราคาน่าซื้อ แต่ข้อจำกัดเยอะ เช่น รองเท้าคู่นี้สวยถูกใจ แต่ไม่มี Size หรืออันที่ถูกใจราคาก็ไม่น่าซื้อก็มีนะจ๊ะ อีกอย่าง รองเท้าต้องขอเขาลองนะ เพราะบางรุ่นบางยี่ห้อ Size ไม่เท่ากัน เราไปได้มาสามคู่ แต่ละคู่Size ไม่เหมือนกันสักคู่ 555 แต่พอดีเท้าทุกคู่










แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เริ่มที่กระเช้าเหมากง Mao Kong เลยค่ะ ที่นี่ต้องไปนะคะ คุ้มมาก คุ้มทุกอย่าง การเดินทาง ก็เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลมุ่งหน้า Taipei Zoo นั่งมาลงที่สถานี้ Taipei Zoo BR01 เดินต่ออีกนิดหน่อยจะเห็นทางขึ้น ค่านั่งกระเช้าจะแบ่งตามระยะสถานีที่จะลงนะคะ เราแนะนำให้ลงทุกสถานีเลย ราคาก็ประมาณ 250 เหรียญ สถานีสุดท้ายของกระเช้าจะเป็นไร่ชา ชาหอมมาก รสชาติดี ครั้งก่อนเราไปตอนหน้าหนาว อากาศดีมาก วิวสวย ต้องไปให้ได้นะที่นี่





ต่อกันด้วย Jiufen หมู่บ้านโบราณ การเดินทางค่อนข้างลำบากหน่อย แต่ไปถึงแล้วจะรู้สึกว่าคุ้มที่ตัดสินใจมา คุ้มที่นั่งรถไกลๆมาที่นี่ สำหรับการเดินทางนั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินลงที่สถานี BL15 หรือ สายสีน้ำตาล ลงที่สถานี BR10 ก็ได้ ออกทางออกที่ 2 ทางออกนี้จะเชื่อมกับห้างสรรพสินค้า SOGO สีเขียว ย้ำนะคะว่าสีเขียว แล้วออกมาหน้าห้างเลี้ยวขวาจะเห็นป้ายรถบัส ดูที่ป้ายรถบัสจะเห็นว่ารถมุ่งหน้าไปทางไหน เรานั่งรถบัสสาย 1062 ไปจิวเฟิ่น หรือจะนั่งสาย 788 ก็ได้นะ ถึงเหมือนกัน นั่งรถประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ต้องกลัวหลงเพราะอยู่เกือบสุดสาย คนลงเยอะ ที่นี่วิวสวยมาก อากาศก็ดีมาก ครั้งนี้เราไปหน้าร้อน อากาศยังไม่ร้อนเลย คุ้มค่าสมกับความลำบากหน่อยๆ เลยทีเดียว กาแฟก็ห๊อมมมหอม อร่อยเราชอบมาก จัดไปสองแก้ว ส่วนการเดินทางกลับ ก็นั่งรถบัสสายเดิมกลับ มุ่งหน้ากลับ Taipei โดยเดินขึ้นเขาเลยเซเว่นไปนิดหน่อย จะมีป้ายรถบัสอยู่ฝั่งตรงข้ามก็รอตรงนั้นได้เลย

ป้ายรถเมล์ขากลับ


ภายในรถบัส ที่นั่งสีน้ำเงินสำหรับบุคคลธรรมดา

ที่นั่งสีแดง สำหรับเด็กคนชราคนพิการและสตรีมีครรภ์

เขาดริพกาแฟขายกัน


แก้วสองต้องมา

นี่คือกุนเชียงนะจ๊ะ ไม่ใช่ไส้กรอกอีกสาน คุณนายผมโดนมาแล้ว 555

บรรยากาศที่หมู่บ้านโบราณ








บ่อน้ำร้อนเป่ยโถว ครั้งนี้เราไปน้ำพุร้อนตอนหน้าร้อน เราพลาดดด 5555 แต่ก็ได้บรรยากาศอีกแบบนะ เสียงจั๊กจั่นร้องกันสมเป็นฤดูร้อนจริงๆ เราไปแค่แป๊ปเดียวก็กลับ การเดินทางไปที่นี่โดยรถไฟฟ้าสายสีแดง มุ่งหน้า Tumsui เปลี่ยนรถไฟฟ้าที่สถานี R22 ไปยัง R22A ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมกันอยู่แล้วไม่ต้องออกสถานีนะคะ หลังจากที่เราแวะที่นี่แป๊ปเดียวเราก็ไปกันต่อเลยค่ะ





ตลาดริมทะเล Tumsui หลังจากบ่อน้ำพุร้อน ก็ไปต่อเลยค่ะ โดยนั่งจาก R22A ไปยัง R22และยาวไป R28 สุดสายปลายทางของรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่นี่มีตลาดริมทะเล ของกิน ของฝากก็มี เราซื้อชานมไปฝากแม่จากที่นี่ แม่เราชอบ ห๊อมหอม เสน่ห์ของที่นี่คือการเดินกินลมชมวิวริมทะเล ดูพระอาทิตย์ตกดินงิ แต่วันที่เราไปฝนตกเบาๆ เลยไม่ได้อยู่จนพระอาทิตย์ตกดิน






หลัก ๆ ครั้งนี้ไปก็จะเที่ยวนอกเมืองซะส่วนใหญ่ ส่วนครั้งก่อนมาตอนฤดูหนาวก็จะเที่ยวในเมือง เที่ยววัด รวมๆแล้วครั้งนี้สนุกพอควร

เรื่องของกิน
ชุดนี้ 120 เหรียญ กินกันได้สองคน

นี่คือชาบูหม่าล่า กินที่ Ximending





ชูครีมที่ Tumsui


เค้กไข่ ก้อนละ 90 เหรียญ ถ้าเอาแบบมีชีส ก้อนละ 130 เหรีนญ



สุดท้ายนี้ แนะนำเที่ยวตลาดกลางคืนด้วยนะคะ มีเยอะมาก ของกินเยอะค่ะ และวัดต่างๆ แต่วัดเขาไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษ แต่บางสถานที่มีภาษาไทยด้วยนะคะ

เป็นการรีวิวครั้งแรกยังไงก็อย่าว่ากันนะคะ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะ