“When God created Lebanon, He gave her beautiful mountains and valleys and hills that He sculpted with His own hands, and He planted them with majestic trees. He gave her the sea and the snow. Richness of the soil and beauty of the earth. He crafted the land with the rarest flowers and most exotic plants that were unknown in their beauty to man. He wept so that His tears created the purest ponds and springs. But all the people of the other countries He had created complained to God; “Why have You given Lebanon so much and all the others so little?” And so God decided to mar His perfect creation. He made the Lebanese.” Libanesisches Sprichwort
ทริปนี้เป็นทริปที่เกิดขึ้นมาได้โดยไม่ได้คาดคิดเลย เราพยายามหาวิธีการไปเที่ยวประเทศเลบานอนมาเกือบสิบปี แต่คำตอบที่ได้มาตลอดจากบริษัททัวร์ที่นู่นคือ เราไม่จัดให้คนไทย เมื่อปีที่แล้วเราซื้อตั๋วเครื่องบินไป Iraqi Kurdistan ไว้ แต่หลังจากที่ประชาชนโหวตเสียงส่วนมากที่จะขอแยกตัวออกจากอิรัก ทางอิรักจึงสั่งปิดสนามบินส่วน Kurdistan ทั้งหมด เราต้องมาหาประเทศอื่นไปเที่ยวแทน ด้วยความที่ตั๋วไป Kurdistan ได้เงินคืนทั้งหมด แต่ตั๋วจากกรุงเทพไปอิสตันบูลยกเลิกไม่ได้ เราเลยลองหาดูว่าจากอิสตันบูลไปไหนได้บ้างที่เรายังไม่เคยไปและราคาไม่ได้สูงเกินจากที่เตรียมไว้สำหรับทริปนี้ เลบานอนดูเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดและจังหวะดีที่พี่คนนึงเจอบริษัททัวร์ที่นู่นที่ยอมจัดทริปให้คนไทย แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีคนเดินทางไม่น้อยกว่าแปดคน ตอนแรกเรามีกันแค่สี่คน การหาคนที่ห้า หก เจ็ด ง่ายมากๆ คนที่ถามไปตอบตกลงภายในห้านาทีทุกคน แต่คนที่แปดนั้นยากเหลือเกิน เราเริ่มโพสต์ลงเฟสหาดู และในที่สุดก็ได้พี่อีกคนนึงในกลุ่มเดินทางมาร่วมทริปกัน ความฝันที่จะได้ไปเลบานอนจึงเป็นจริง
การเดินทาง
ทั้งแปดคนต้องบินเข้าเลบานอนด้วยเที่ยวบินเดียวกัน ด้วยความที่เรามีตั๋วไปลงอิสตันบูลที่ยกเลิกไม่ได้ ทุกคนจึงต้องไปเริ่มบินที่นั่นเหมือนกัน เราซื้อตั๋วของสายการบิน Etihad ราคา 18xxx บาท ช่วงบินอาบูดาบีอิสตันบูลเป็นจังหวะช่วงที่พายุหิมะเข้ายุโรปทำให้อากาศข้างบนก็หนาวกว่าปกติมาก แต่สายการบินมีผ้าห่มให้ไม่ครบมีหลายคนที่นั่งขดตัวสั่นกันรวมถึงเราด้วย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราบินกับสายนี้พอมาเจอแบบนี้คิดว่าคงไม่บินด้วยอีกแล้ว เราสั่งอาหารเป็น Low Fat Meal จะได้ข้าวกับปลาแบบนี้สี่มื้อ
หลังจากนั้นบินสายการบิน Atlas Global เข้าเลบานอนกัน ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ตั๋วไปกลับอยู่ที่หกพันเศษๆ
ว๊ซ่า
คนไทยไม่สามารถทำวีซ่าด้วยตัวเองได้ มีสองวิธีคือให้คนที่นู่นทำจดหมายเชิญและดำเนินเรื่องให้ หรือ ไปเที่ยวกับทัวร์โดยมีคนอย่างน้อยแปดคน เมื่อเราโอนเงินไปจ่ายเงินค่าทัวร์แล้วบริษัทก็จะขอรูปหน้าแรกของพาสปอร์ต และมีแบบฟอร์มให้กรอก
หลังจากนั้นบริษัททัวร์จะไปดำเนินการให้ซึ่งทำได้ก่อนเดินทางหนึ่งเดือนเท่านั้น เมื่อเสร็จแล้วทัวร์จะส่งเอกสารมาให้เราไว้ยื่นกับสายการบินที่จะบินไปเลบานอน
กลุ่มเราติดอยู่ที่เคาเตอร์เช็คอินกันเป็นชั่วโมงกว่าสายการบินจะเช็คข้อมูลเสร็จ เมื่อถึงสนามบินที่เลบานอนต้องไปจ่ายค่าวีซ่า $20 ก่อน แล้วค่อยมาเข้าช่องตรวจ บริษัททัวร์ส่งคนมารับเราข้างในดำเนินเรื่องเอกสารต่างๆ ใช้เวลาซักพักกว่าจะออกไปได้
โปรแกรมคร่าวๆ
Day 1: Arrive in Lebanon
Day 2: Sidon, Echmoun, Tyre
Day 3: Anjar, Baalbeck
Day 4: Qadisha Valley, Byblos
Day 5: Beirut, Broumana – Baabda – Dhour El Chouier
Day 6: Depart Lebanon
เดี๋ยวค่อยๆเขียนทีละวันนะคะ
http://www.facebook.com/thelittlevoice
[CR] Lebanon, not just a warzone
ทริปนี้เป็นทริปที่เกิดขึ้นมาได้โดยไม่ได้คาดคิดเลย เราพยายามหาวิธีการไปเที่ยวประเทศเลบานอนมาเกือบสิบปี แต่คำตอบที่ได้มาตลอดจากบริษัททัวร์ที่นู่นคือ เราไม่จัดให้คนไทย เมื่อปีที่แล้วเราซื้อตั๋วเครื่องบินไป Iraqi Kurdistan ไว้ แต่หลังจากที่ประชาชนโหวตเสียงส่วนมากที่จะขอแยกตัวออกจากอิรัก ทางอิรักจึงสั่งปิดสนามบินส่วน Kurdistan ทั้งหมด เราต้องมาหาประเทศอื่นไปเที่ยวแทน ด้วยความที่ตั๋วไป Kurdistan ได้เงินคืนทั้งหมด แต่ตั๋วจากกรุงเทพไปอิสตันบูลยกเลิกไม่ได้ เราเลยลองหาดูว่าจากอิสตันบูลไปไหนได้บ้างที่เรายังไม่เคยไปและราคาไม่ได้สูงเกินจากที่เตรียมไว้สำหรับทริปนี้ เลบานอนดูเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดและจังหวะดีที่พี่คนนึงเจอบริษัททัวร์ที่นู่นที่ยอมจัดทริปให้คนไทย แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีคนเดินทางไม่น้อยกว่าแปดคน ตอนแรกเรามีกันแค่สี่คน การหาคนที่ห้า หก เจ็ด ง่ายมากๆ คนที่ถามไปตอบตกลงภายในห้านาทีทุกคน แต่คนที่แปดนั้นยากเหลือเกิน เราเริ่มโพสต์ลงเฟสหาดู และในที่สุดก็ได้พี่อีกคนนึงในกลุ่มเดินทางมาร่วมทริปกัน ความฝันที่จะได้ไปเลบานอนจึงเป็นจริง
การเดินทาง
ทั้งแปดคนต้องบินเข้าเลบานอนด้วยเที่ยวบินเดียวกัน ด้วยความที่เรามีตั๋วไปลงอิสตันบูลที่ยกเลิกไม่ได้ ทุกคนจึงต้องไปเริ่มบินที่นั่นเหมือนกัน เราซื้อตั๋วของสายการบิน Etihad ราคา 18xxx บาท ช่วงบินอาบูดาบีอิสตันบูลเป็นจังหวะช่วงที่พายุหิมะเข้ายุโรปทำให้อากาศข้างบนก็หนาวกว่าปกติมาก แต่สายการบินมีผ้าห่มให้ไม่ครบมีหลายคนที่นั่งขดตัวสั่นกันรวมถึงเราด้วย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราบินกับสายนี้พอมาเจอแบบนี้คิดว่าคงไม่บินด้วยอีกแล้ว เราสั่งอาหารเป็น Low Fat Meal จะได้ข้าวกับปลาแบบนี้สี่มื้อ
หลังจากนั้นบินสายการบิน Atlas Global เข้าเลบานอนกัน ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ตั๋วไปกลับอยู่ที่หกพันเศษๆ
ว๊ซ่า
คนไทยไม่สามารถทำวีซ่าด้วยตัวเองได้ มีสองวิธีคือให้คนที่นู่นทำจดหมายเชิญและดำเนินเรื่องให้ หรือ ไปเที่ยวกับทัวร์โดยมีคนอย่างน้อยแปดคน เมื่อเราโอนเงินไปจ่ายเงินค่าทัวร์แล้วบริษัทก็จะขอรูปหน้าแรกของพาสปอร์ต และมีแบบฟอร์มให้กรอก
หลังจากนั้นบริษัททัวร์จะไปดำเนินการให้ซึ่งทำได้ก่อนเดินทางหนึ่งเดือนเท่านั้น เมื่อเสร็จแล้วทัวร์จะส่งเอกสารมาให้เราไว้ยื่นกับสายการบินที่จะบินไปเลบานอน
กลุ่มเราติดอยู่ที่เคาเตอร์เช็คอินกันเป็นชั่วโมงกว่าสายการบินจะเช็คข้อมูลเสร็จ เมื่อถึงสนามบินที่เลบานอนต้องไปจ่ายค่าวีซ่า $20 ก่อน แล้วค่อยมาเข้าช่องตรวจ บริษัททัวร์ส่งคนมารับเราข้างในดำเนินเรื่องเอกสารต่างๆ ใช้เวลาซักพักกว่าจะออกไปได้
โปรแกรมคร่าวๆ
Day 1: Arrive in Lebanon
Day 2: Sidon, Echmoun, Tyre
Day 3: Anjar, Baalbeck
Day 4: Qadisha Valley, Byblos
Day 5: Beirut, Broumana – Baabda – Dhour El Chouier
Day 6: Depart Lebanon
เดี๋ยวค่อยๆเขียนทีละวันนะคะ
http://www.facebook.com/thelittlevoice
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้