ต้องบอกก่อนว่ารีวิวนี้ ไม่ค่อยมีเนื้อหารายละเอียดหรือเจาะลึกอะไรมากมายน่ะครับ
เรียกว่าเอารูปมาให้ชมกันดีกว่า ได้ทีวีมาตั้งวางไว้ก็อาทิตย์กว่าแล้ว
ตัวที่จัดมาก็จะเป็น Mi TV 4 จากแบรนด์ Xiaomi ขนาด 55 นิ้วๆ
ตอนแรกเลยผมตั้งใจจะซื้อขนาด 65 นิ้วมา แต่ขายพวงพร้อมกับ Mi TV bar + 2 wireless speakers + subwoofer ราคาเลยกระโดดสูง
จะหาแยกที่เป็นขนาด 65 นิ้วและเป็นตัวบาง 4.9 mm ไม่มีขาย เลยต้องมาจบที่ตัว 55 นิ้วแทน
- Mi TV 4 ขนาด 55 นิ้ว ราคา 3999 หยวน ตีเป็นเงินไทย 2 หมื่น
- Mi TV 4 ขนาด 65 นิ้ว + Mi Tv Bar ราคา 9999 หยวน ตีเป็นเงินไทย 5 หมื่น
โจทย์ตอนแรกในการซื้อคือเอามาไว้บ้านที่สำหรับปล่อยเช่า ไม่ได้ใช้งานเองด้วยจะจัดตัว 65 มาก็เสียดายเงิน
แถมตอนนั้นสั่งเข้ามาก็กลัวเรื่องขนส่งจะรอดไหม เพราะบางมาก 4.9 mm เอง เกิดหน้าจอแตกเท่ากับเงินศูนย์เลย
ยอมรับที่ความเสี่ยงได้ที่ 55 นิ้ว พอของมาถึงก็ตามนี้เลยครับ
พอขนส่งมาส่งถึงบ้าน ตีลังไม้มา ลังไม้ข้างหน้าเป็นลังทีวีจะแน่นหนากว่าอีกลัง
ยังไม่ได้แกะเปิดก็ยังกังวลอยู่ถ้าเปิดมาจะเจอจอร้าวไหม ฮ่าๆ
ตอนเริ่มงัดตะปูออกบางจุดต้องใช้ค้อนในการเคาะแรงเหมือนกัน ว่าจะงัดได้เล่นระวังเหนื่อยเลย พี่จีนแกตอนตีลังยิงปืนตะปูไว้เยอะมาก
สภาพกล่องกระดาษจากการถอดรูปออกมาแล้ว ถือว่าสมบูรณ์ดี ต้องรอลุ้นเปิดดูภายในกัน
การเปิดกล่องก็ตามรูปภาพเลยครับ บีบปลดล๊อคตัวพลาสติกตามจุดออก แล้วดึงกล่องลังขึ้น
สำหรับความคิดผมต้องขอชมเฉยๆ ปัจจุบันสินค้าพี่จีนหลายๆอย่างตอนนี้การออกแบบแพคเกจหีบห่อ
มีคำแนะนำข้อมูลแบบรูปภาพเข้าใจง่ายถึงคนไม่ได้ภาษาจีนก็เข้าใจ
คำนึงถึงการใช้งาน ขนส่ง ป้องกันวัสดุได้ดี
หลังจากดึงกล่องออกไปแล้ว เห็นทีวีความกังวลหายไปและ สภาพอยู่ดีไม่มีเสียหาย มีโฟมบล๊อกและพลาสติกห่อหุ้มแค่นั้น
ของที่มากับทีวีก็ไม่มีอะไรเลย มีแค่รีโมท สายทีวี ขาทีวี+น๊อตติดตั้ง เท่านั้น น้อยๆเรียบง่าย
ถึงเวลาก็ยกทีวีออกมาติดขาตั้งทีวี สามารถยกคนเดียวได้เลย เพราะถุงที่ออกแบบมาเป็นมีหูหิ้วไว้ดึงยกเคลื่อนย้าย
ถุงเหนียวแข็งแรงไม่มีปัญหา น้ำหนักทีวีทั้งหมดประมาณ 17-18 กิโล คนเดียวสามารถยกได้แต่ลำบากหน่อย ต้องระวังจอที่บาง
หลังจากนั้นยกพลิกวางนอนกับโซฟาเพื่อติดขาทีวี แล้วฉีดถุงบริเวณที่สำหรับติดตั้งขาทีวี ขาที่ให้มาเป็นขาอลูอย่างดีสีดำด้าน
ฉีกเฉพาะตรงจุดที่จะติดขาทีวีพอ เพราะยังใช้ถุงในการยกย้ายไปตั้งที่จุดอื่น ผมติดตั้งคนเดียวก็จะลำบากนิดหน่อยไม่ค่อยถนัด
ด้วยที่จอมันบาง จะยกหรือจะถือก็จะจับได้เฉพาะตัวฐานล่างของตัวทีวี
ติดตั้งเสร็จเอาไปวาง สรุปว่าทีวีเล็กไปสำหรับซุ้มทีวีบิ้วอิน ปลั๊กมันโผล่ออกมาเลย ฮ่าๆๆ
สายที่ให้มาเป็นหัวปลั๊กตัวเล็กสำหรับติดในที่แคบ เวลาติดทีวีแบบแขวนผนังสามารถเสียบปลั๊กได้ไม่มีปัญหา
ส่วนปลายสายเสียบเข้าหลังเครื่องด้านหลัง
ถึงเวลาเปิดเครื่องเช็คดูว่าทำงานหรือเปล่าๆ ตอนเปิดเครื่องมันก็อัพเดทตามระบบ
หลังจากนั้นก็ทำตามระบบไปเรื่อยๆๆ เป็นการสอนวิธีการใช้รีโมท
มาพูดถึงตัวรีโมทก็ออกแบบมาใช้งานง่ายเกิน แทบไม่มีปุ่มอะไรเลย เป็นระบบ Bluetooth
ที่สามารถสั่งงานไปยังทีวีได้โดยไม่ต้องชี้สัญญาณแบบ Infrared เพื่อให้ถูกทิศทางเหมือนทีวีสมัยก่อน
เรามาดูความเรียวแล้วความเพียวกันดีกว่า ที่ซื้อก็เพราะความบางเฉียบยิ่งกว่า iPhone พร้อมหน้าจอไร้ขอบนั้นเอง ฮ่าๆๆๆ
ลองเทียบกับรีโมทที่ให้มา
จัดไปกับเหรียญห้า 2 เหรียญ
รายละเอียดข้อมูลเฉพาะ Mi TV 4 ตามที่เปิดอ่านหน้าเว็บ
สเปค 64bit Quad-Core
CPU: Amlogic Cortex A53 Quad core, up to 1.8GHz
GPU: Mali-T830 MP2, up to 750MHz
2GB+8GB
RAM: 2GB DDR
Storage: 8GB eMMC
รองรับการแสดงผล 4K HDR บางเพียง 4.9 มิลลิเมตร
ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android TV และเทคโนโลยีซอฟท์แวร์ PatchWall
ซึ่งเป็นระบบ AI แบบ Deep Learning ที่จดจำเรียนรู้พฤติกรรมการรับชมของผู้ใช้งาน
และจะนำไปประมวลผลเพื่อแนะนำคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้แก่เจ้าของ
ตัวเครื่องออกแบบด้วยแนวคิดแบบ Modular สามารถแยกชิ้นส่วนหน้าจอแสดงผล, แผงวงจร และระบบเสียง
ล้วนแล้วแต่ถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายเพื่อการอัปเกรด หรือซ่อมแซม
พร้อมกับระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ รองรับเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos แบบ 3D
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0, Wi-Fi 2.4 และ 5GHz, HDMI, USB และ Ethernet
สรุปท้ายเลยทำไมถึงเลือกซื้อทีวีของจีน
ราคาและดีไซน์ครับ 2 หมื่นมีทอน ไม่รวมค่าขนส่งน่ะครับ คิดว่าคุ้มสำหรับผม เพราะได้ที่ดีไซน์ความเรียวบาง
แต่ถ้าเทียบสเปคอันนี้ผมไม่แน่ใจ ถ้าประมาณนี้ราคาในไทยจะเท่าไร
ตอนทำบ้านให้เช่าเลยต้องหาซื้อทีวีมาลง ก่อนหน้าผมเคยไปดูตามพวกโฮมโปร พาวเวอร์บาย ก็ไม่เจอที่ถูกใจ
ส่วนที่ถูกใจน่ะราคาก็สูงเกินไม่กล้าซื้อกลัวคนเช่าทำเสียหายอีก เพราะไม่ได้ใช้เองใส่ของราคาสูงไปก็กังวล
ขนาดบ้านตัวเองยังไม่มีทีวีใช้เลย ฮ่าๆ ที่จริงไม่มีเวลาดูเลยไม่เคยวางแผนที่จะซื้อทีวี
ตอนนี้ยังไม่ได้ทดลองใช้งาน พอดีที่บ้านยังไม่ได้ติดตั้งสัญญานเน็ตและช่องจาน
คิดว่าจะต่อเน็ต แล้วให้ใช้สำหรับดู Netflix ก็พอและ
ขอจบเท่านี้ก่อนน่ะครับ มีอะไรจะมาอัพเดทเพิ่มเติม งานรีวิวไฟไหม้
ข้อมูลเขียนผิดพลาดไปต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมน่ะครับ
[CR] จัดไปกับ Mi TV 4 จากแบรนด์ Xiaomi
เรียกว่าเอารูปมาให้ชมกันดีกว่า ได้ทีวีมาตั้งวางไว้ก็อาทิตย์กว่าแล้ว
ตัวที่จัดมาก็จะเป็น Mi TV 4 จากแบรนด์ Xiaomi ขนาด 55 นิ้วๆ
ตอนแรกเลยผมตั้งใจจะซื้อขนาด 65 นิ้วมา แต่ขายพวงพร้อมกับ Mi TV bar + 2 wireless speakers + subwoofer ราคาเลยกระโดดสูง
จะหาแยกที่เป็นขนาด 65 นิ้วและเป็นตัวบาง 4.9 mm ไม่มีขาย เลยต้องมาจบที่ตัว 55 นิ้วแทน
- Mi TV 4 ขนาด 55 นิ้ว ราคา 3999 หยวน ตีเป็นเงินไทย 2 หมื่น
- Mi TV 4 ขนาด 65 นิ้ว + Mi Tv Bar ราคา 9999 หยวน ตีเป็นเงินไทย 5 หมื่น
โจทย์ตอนแรกในการซื้อคือเอามาไว้บ้านที่สำหรับปล่อยเช่า ไม่ได้ใช้งานเองด้วยจะจัดตัว 65 มาก็เสียดายเงิน
แถมตอนนั้นสั่งเข้ามาก็กลัวเรื่องขนส่งจะรอดไหม เพราะบางมาก 4.9 mm เอง เกิดหน้าจอแตกเท่ากับเงินศูนย์เลย
ยอมรับที่ความเสี่ยงได้ที่ 55 นิ้ว พอของมาถึงก็ตามนี้เลยครับ
พอขนส่งมาส่งถึงบ้าน ตีลังไม้มา ลังไม้ข้างหน้าเป็นลังทีวีจะแน่นหนากว่าอีกลัง
ยังไม่ได้แกะเปิดก็ยังกังวลอยู่ถ้าเปิดมาจะเจอจอร้าวไหม ฮ่าๆ
ตอนเริ่มงัดตะปูออกบางจุดต้องใช้ค้อนในการเคาะแรงเหมือนกัน ว่าจะงัดได้เล่นระวังเหนื่อยเลย พี่จีนแกตอนตีลังยิงปืนตะปูไว้เยอะมาก
สภาพกล่องกระดาษจากการถอดรูปออกมาแล้ว ถือว่าสมบูรณ์ดี ต้องรอลุ้นเปิดดูภายในกัน
การเปิดกล่องก็ตามรูปภาพเลยครับ บีบปลดล๊อคตัวพลาสติกตามจุดออก แล้วดึงกล่องลังขึ้น
สำหรับความคิดผมต้องขอชมเฉยๆ ปัจจุบันสินค้าพี่จีนหลายๆอย่างตอนนี้การออกแบบแพคเกจหีบห่อ
มีคำแนะนำข้อมูลแบบรูปภาพเข้าใจง่ายถึงคนไม่ได้ภาษาจีนก็เข้าใจ
คำนึงถึงการใช้งาน ขนส่ง ป้องกันวัสดุได้ดี
หลังจากดึงกล่องออกไปแล้ว เห็นทีวีความกังวลหายไปและ สภาพอยู่ดีไม่มีเสียหาย มีโฟมบล๊อกและพลาสติกห่อหุ้มแค่นั้น
ของที่มากับทีวีก็ไม่มีอะไรเลย มีแค่รีโมท สายทีวี ขาทีวี+น๊อตติดตั้ง เท่านั้น น้อยๆเรียบง่าย
ถึงเวลาก็ยกทีวีออกมาติดขาตั้งทีวี สามารถยกคนเดียวได้เลย เพราะถุงที่ออกแบบมาเป็นมีหูหิ้วไว้ดึงยกเคลื่อนย้าย
ถุงเหนียวแข็งแรงไม่มีปัญหา น้ำหนักทีวีทั้งหมดประมาณ 17-18 กิโล คนเดียวสามารถยกได้แต่ลำบากหน่อย ต้องระวังจอที่บาง
หลังจากนั้นยกพลิกวางนอนกับโซฟาเพื่อติดขาทีวี แล้วฉีดถุงบริเวณที่สำหรับติดตั้งขาทีวี ขาที่ให้มาเป็นขาอลูอย่างดีสีดำด้าน
ฉีกเฉพาะตรงจุดที่จะติดขาทีวีพอ เพราะยังใช้ถุงในการยกย้ายไปตั้งที่จุดอื่น ผมติดตั้งคนเดียวก็จะลำบากนิดหน่อยไม่ค่อยถนัด
ด้วยที่จอมันบาง จะยกหรือจะถือก็จะจับได้เฉพาะตัวฐานล่างของตัวทีวี
ติดตั้งเสร็จเอาไปวาง สรุปว่าทีวีเล็กไปสำหรับซุ้มทีวีบิ้วอิน ปลั๊กมันโผล่ออกมาเลย ฮ่าๆๆ
สายที่ให้มาเป็นหัวปลั๊กตัวเล็กสำหรับติดในที่แคบ เวลาติดทีวีแบบแขวนผนังสามารถเสียบปลั๊กได้ไม่มีปัญหา
ส่วนปลายสายเสียบเข้าหลังเครื่องด้านหลัง
ถึงเวลาเปิดเครื่องเช็คดูว่าทำงานหรือเปล่าๆ ตอนเปิดเครื่องมันก็อัพเดทตามระบบ
หลังจากนั้นก็ทำตามระบบไปเรื่อยๆๆ เป็นการสอนวิธีการใช้รีโมท
มาพูดถึงตัวรีโมทก็ออกแบบมาใช้งานง่ายเกิน แทบไม่มีปุ่มอะไรเลย เป็นระบบ Bluetooth
ที่สามารถสั่งงานไปยังทีวีได้โดยไม่ต้องชี้สัญญาณแบบ Infrared เพื่อให้ถูกทิศทางเหมือนทีวีสมัยก่อน
เรามาดูความเรียวแล้วความเพียวกันดีกว่า ที่ซื้อก็เพราะความบางเฉียบยิ่งกว่า iPhone พร้อมหน้าจอไร้ขอบนั้นเอง ฮ่าๆๆๆ
ลองเทียบกับรีโมทที่ให้มา
จัดไปกับเหรียญห้า 2 เหรียญ
รายละเอียดข้อมูลเฉพาะ Mi TV 4 ตามที่เปิดอ่านหน้าเว็บ
สเปค 64bit Quad-Core
CPU: Amlogic Cortex A53 Quad core, up to 1.8GHz
GPU: Mali-T830 MP2, up to 750MHz
2GB+8GB
RAM: 2GB DDR
Storage: 8GB eMMC
รองรับการแสดงผล 4K HDR บางเพียง 4.9 มิลลิเมตร
ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android TV และเทคโนโลยีซอฟท์แวร์ PatchWall
ซึ่งเป็นระบบ AI แบบ Deep Learning ที่จดจำเรียนรู้พฤติกรรมการรับชมของผู้ใช้งาน
และจะนำไปประมวลผลเพื่อแนะนำคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้แก่เจ้าของ
ตัวเครื่องออกแบบด้วยแนวคิดแบบ Modular สามารถแยกชิ้นส่วนหน้าจอแสดงผล, แผงวงจร และระบบเสียง
ล้วนแล้วแต่ถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายเพื่อการอัปเกรด หรือซ่อมแซม
พร้อมกับระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ รองรับเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos แบบ 3D
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0, Wi-Fi 2.4 และ 5GHz, HDMI, USB และ Ethernet
สรุปท้ายเลยทำไมถึงเลือกซื้อทีวีของจีน
ราคาและดีไซน์ครับ 2 หมื่นมีทอน ไม่รวมค่าขนส่งน่ะครับ คิดว่าคุ้มสำหรับผม เพราะได้ที่ดีไซน์ความเรียวบาง
แต่ถ้าเทียบสเปคอันนี้ผมไม่แน่ใจ ถ้าประมาณนี้ราคาในไทยจะเท่าไร
ตอนทำบ้านให้เช่าเลยต้องหาซื้อทีวีมาลง ก่อนหน้าผมเคยไปดูตามพวกโฮมโปร พาวเวอร์บาย ก็ไม่เจอที่ถูกใจ
ส่วนที่ถูกใจน่ะราคาก็สูงเกินไม่กล้าซื้อกลัวคนเช่าทำเสียหายอีก เพราะไม่ได้ใช้เองใส่ของราคาสูงไปก็กังวล
ขนาดบ้านตัวเองยังไม่มีทีวีใช้เลย ฮ่าๆ ที่จริงไม่มีเวลาดูเลยไม่เคยวางแผนที่จะซื้อทีวี
ตอนนี้ยังไม่ได้ทดลองใช้งาน พอดีที่บ้านยังไม่ได้ติดตั้งสัญญานเน็ตและช่องจาน
คิดว่าจะต่อเน็ต แล้วให้ใช้สำหรับดู Netflix ก็พอและ
ขอจบเท่านี้ก่อนน่ะครับ มีอะไรจะมาอัพเดทเพิ่มเติม งานรีวิวไฟไหม้
ข้อมูลเขียนผิดพลาดไปต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมน่ะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้