ยาวหน่อยนะคะ
จขกท.กับแฟน คบกันมาปีกว่า เค้าอายุมากกว่าเราสามสี่ปี ทำงาน มีอาชีพที่มั่นคงแล้ว
ในขณะที่เรากำลังจะเรียนจบในเร็วๆนี้ ซึ่งทางฝั่งแฟน ก็กำลังจะซื้อบ้าน (บ้านตอนนี้อยู่กับพ่อแม่ เค้าเลยจะซื้อบ้านแยกออกมาเอาไว้อยู่ด้วยกันกับเรา)
เราคิดว่าเรียนจบก็คงทำงานที่ กทม อยู่บ้านที่แฟนซื้อ เพราะตัวเราเองเป็นเด็ก ตจว มาเรียนในกทม
ญาติที่สนิทก็อยู่คนละทิศคนละทาง นานๆถึงนัดมาเจอกันซักทีนึง เราเลยไม่อยากกลับไปทำงานที่บ้านเกิด เพราะต้องอยู่คนเดียว
แต่การที่เราจะเข้าไปอยู่บ้านแฟน ยังไงมันก็คือการอยู่ก่อนแต่ง เราคิดว่าควรบอกที่บ้านให้ทราบ ถามความเห็นที่บ้านก่อน
ตอนแรก เราบอกเค้าว่าการซื้อบ้าน แต่งบ้าน ต้องใช้เงินเยอะ เราไม่ต้องจัดงานแต่งก็ได้ แค่ไปคุยกับที่บ้านเรา ทานข้าวกันในครอบครัวให้รับรู้ว่าเราสองคนตกลงเป็นสามีภรรยากันก็พอ แต่เค้าก็บอกไม่เอา ที่บ้านเค้าคงไม่ยอมให้ทำแบบนั้น
ซึ่งเราเลยไปปรึกษาพี่สาว พี่สาวเราก็เข้าใจว่าการซื้อบ้านต้องใช้เงินเยอะ จะให้ทั้งจัดงานแต่ง ทั้งซื้อบ้านพร้อมกัน มันหนักเกินไป
เลยเสนอว่าให้ผูกข้อไม้ข้อมือก็พอ วันที่ทำบุญบ้านใหม่ ก็รวบตึงงานเดียวไปเลยง่ายๆ เพราะฝั่งบ้านเราไม่ต้องการสินสอด(ถามมาเรียบร้อย)
แต่พอเราเสนอให้แฟนไป เค้าก็บอกว่าไม่เอา ที่บ้านเค้ายังไงก็ต้องจัดให้มันเป็นกิจลักษณะไปเลย รวบตึงแบบนั้นไม่เอา
เราก็เลยโอเค จัดก็จัด แต่สรุปคือให้มาอยู่ด้วยกันก่อน ละมีเงินค่อยแต่งใช่มั้ย งั้นปลายปีให้ไปเจอที่บ้านเราหน่อย ไปนั่งทานข้าว คุยกันว่าเราจะทำงานที่กทม นะ อยู่บ้านกับแฟน แต่ไม่ได้จะอยู่ด้วยกันไปเลย ยังไงก็แต่ง แต่ขอเก็บตังค์ก่อน แต่เค้าก็ดูเหมือนไม่พร้อมจะไปคุย ซึ่งมันทำให้เราอึดอัดมาก เพราะเราเป็นคนที่ชอบอะไรที่ชัดเจน ถ้าไม่แต่งก็คือไม่แต่ง อยู่ด้วยกันไปแบบนี้ก็ได้ ไม่ใช่บอกว่าจะแต่ง จะเอานู่นเอานี่ แต่พอเราถามว่าจะเอาเงินจากไหน วางแผนยังไงกับการใช้ชีวิตคู่ เค้ากลับบอกแต่ว่ายังไม่รู้ มันยังอีกนาน
ซึ่งความจริงเรื่องซื้อบ้าน เราก็เคยเบรกเค้าไปแล้ว ว่าอยู่บ้านกับพ่อแม่ก็ได้ แต่เค้าบอกว่าก็ควรซื้อ อายุจะ30ละยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง เราก็ตามใจ ซื้อก็ซื้อ แต่พอซื้อแล้วเค้าเอาแต่พูดว่าที่ซื้อบ้านนี้เพราะเรานะ เราต้องอยู่กับเค้านะ มันเลยเป็นอีกเหตุผลที่เราเลือกทำงานที่กทม เพราะตอนแรกถ้าไม่ซื้อบ้าน ไม่ติดว่าแฟนซื้อบ้านเพราะเรา เราคงไปทำงานที่อื่น
สรุปคือตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเค้ากำลังเอาเรื่องบ้านมายึดให้เราอยู่กับเค้า แต่เหมือนอยากให้อยู่ด้วยกันแค่นั้น ไม่ได้ดูอยากจะให้เราเป็นคู่ชีวิต ซึ่งสำหรับเรา จะให้อยู่แบบนั่นเราก็ไม่มีปัญหา แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าต้องคอยบอกว่าแต่งแน่ แต่รอก่อน ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่ เราเองก็ไม่ได้จะเร่งรัดว่าต้องแต่งตอนนี้เดี๋ยวนี้ เเต่เราแค่อยากรู้ว่าคิดจะอยู่ด้วยกันแบบไหน เพราะเราจะได้บอกแม่ บอกพี่ ให้เค้าไม่ต้องมาคอยกังวล ว่าตอนนี้ลูกอยู่กับแฟน แต่วันดีคืนดี ทะเลาะกัน โดนแฟนไล่ออกจากบ้าน หันไปทางไหนก็ไม่มีที่พึ่ง เพราะเรามาอยู่ กทม คนเดียว(เรื่องนี้แม่เรากังวลจริงๆ เพราะแม่อยู่ ตปท พี่สาวก็กำลังจะไป ตปท. เท่ากับเราอยู่คนเดียวที่ไทย ถ้าไม่ติดว่าต้องอยู่บ้านที่แฟนซื้อ เราก็คงไปอยู่กับแม่แล้ว)
เค้าอยากมีเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หรือแค่อยากอยู่ด้วยกันแค่นั้นคะ
จขกท.กับแฟน คบกันมาปีกว่า เค้าอายุมากกว่าเราสามสี่ปี ทำงาน มีอาชีพที่มั่นคงแล้ว
ในขณะที่เรากำลังจะเรียนจบในเร็วๆนี้ ซึ่งทางฝั่งแฟน ก็กำลังจะซื้อบ้าน (บ้านตอนนี้อยู่กับพ่อแม่ เค้าเลยจะซื้อบ้านแยกออกมาเอาไว้อยู่ด้วยกันกับเรา)
เราคิดว่าเรียนจบก็คงทำงานที่ กทม อยู่บ้านที่แฟนซื้อ เพราะตัวเราเองเป็นเด็ก ตจว มาเรียนในกทม
ญาติที่สนิทก็อยู่คนละทิศคนละทาง นานๆถึงนัดมาเจอกันซักทีนึง เราเลยไม่อยากกลับไปทำงานที่บ้านเกิด เพราะต้องอยู่คนเดียว
แต่การที่เราจะเข้าไปอยู่บ้านแฟน ยังไงมันก็คือการอยู่ก่อนแต่ง เราคิดว่าควรบอกที่บ้านให้ทราบ ถามความเห็นที่บ้านก่อน
ตอนแรก เราบอกเค้าว่าการซื้อบ้าน แต่งบ้าน ต้องใช้เงินเยอะ เราไม่ต้องจัดงานแต่งก็ได้ แค่ไปคุยกับที่บ้านเรา ทานข้าวกันในครอบครัวให้รับรู้ว่าเราสองคนตกลงเป็นสามีภรรยากันก็พอ แต่เค้าก็บอกไม่เอา ที่บ้านเค้าคงไม่ยอมให้ทำแบบนั้น
ซึ่งเราเลยไปปรึกษาพี่สาว พี่สาวเราก็เข้าใจว่าการซื้อบ้านต้องใช้เงินเยอะ จะให้ทั้งจัดงานแต่ง ทั้งซื้อบ้านพร้อมกัน มันหนักเกินไป
เลยเสนอว่าให้ผูกข้อไม้ข้อมือก็พอ วันที่ทำบุญบ้านใหม่ ก็รวบตึงงานเดียวไปเลยง่ายๆ เพราะฝั่งบ้านเราไม่ต้องการสินสอด(ถามมาเรียบร้อย)
แต่พอเราเสนอให้แฟนไป เค้าก็บอกว่าไม่เอา ที่บ้านเค้ายังไงก็ต้องจัดให้มันเป็นกิจลักษณะไปเลย รวบตึงแบบนั้นไม่เอา
เราก็เลยโอเค จัดก็จัด แต่สรุปคือให้มาอยู่ด้วยกันก่อน ละมีเงินค่อยแต่งใช่มั้ย งั้นปลายปีให้ไปเจอที่บ้านเราหน่อย ไปนั่งทานข้าว คุยกันว่าเราจะทำงานที่กทม นะ อยู่บ้านกับแฟน แต่ไม่ได้จะอยู่ด้วยกันไปเลย ยังไงก็แต่ง แต่ขอเก็บตังค์ก่อน แต่เค้าก็ดูเหมือนไม่พร้อมจะไปคุย ซึ่งมันทำให้เราอึดอัดมาก เพราะเราเป็นคนที่ชอบอะไรที่ชัดเจน ถ้าไม่แต่งก็คือไม่แต่ง อยู่ด้วยกันไปแบบนี้ก็ได้ ไม่ใช่บอกว่าจะแต่ง จะเอานู่นเอานี่ แต่พอเราถามว่าจะเอาเงินจากไหน วางแผนยังไงกับการใช้ชีวิตคู่ เค้ากลับบอกแต่ว่ายังไม่รู้ มันยังอีกนาน
ซึ่งความจริงเรื่องซื้อบ้าน เราก็เคยเบรกเค้าไปแล้ว ว่าอยู่บ้านกับพ่อแม่ก็ได้ แต่เค้าบอกว่าก็ควรซื้อ อายุจะ30ละยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง เราก็ตามใจ ซื้อก็ซื้อ แต่พอซื้อแล้วเค้าเอาแต่พูดว่าที่ซื้อบ้านนี้เพราะเรานะ เราต้องอยู่กับเค้านะ มันเลยเป็นอีกเหตุผลที่เราเลือกทำงานที่กทม เพราะตอนแรกถ้าไม่ซื้อบ้าน ไม่ติดว่าแฟนซื้อบ้านเพราะเรา เราคงไปทำงานที่อื่น
สรุปคือตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเค้ากำลังเอาเรื่องบ้านมายึดให้เราอยู่กับเค้า แต่เหมือนอยากให้อยู่ด้วยกันแค่นั้น ไม่ได้ดูอยากจะให้เราเป็นคู่ชีวิต ซึ่งสำหรับเรา จะให้อยู่แบบนั่นเราก็ไม่มีปัญหา แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าต้องคอยบอกว่าแต่งแน่ แต่รอก่อน ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่ เราเองก็ไม่ได้จะเร่งรัดว่าต้องแต่งตอนนี้เดี๋ยวนี้ เเต่เราแค่อยากรู้ว่าคิดจะอยู่ด้วยกันแบบไหน เพราะเราจะได้บอกแม่ บอกพี่ ให้เค้าไม่ต้องมาคอยกังวล ว่าตอนนี้ลูกอยู่กับแฟน แต่วันดีคืนดี ทะเลาะกัน โดนแฟนไล่ออกจากบ้าน หันไปทางไหนก็ไม่มีที่พึ่ง เพราะเรามาอยู่ กทม คนเดียว(เรื่องนี้แม่เรากังวลจริงๆ เพราะแม่อยู่ ตปท พี่สาวก็กำลังจะไป ตปท. เท่ากับเราอยู่คนเดียวที่ไทย ถ้าไม่ติดว่าต้องอยู่บ้านที่แฟนซื้อ เราก็คงไปอยู่กับแม่แล้ว)