สวัสดีค่าาา~
ขอออกตัวก่อนนะคะว่า นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของเรา มือใหม่กริ๊บๆ*>v<
แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดน้าาา ถ้าผิดพลาดประการใด ข้อมูลตกหล่นยังไง ก็ขออภัยล่วงหน้าเลยแล้วกันนะคะ ><“ เพราะเป็นนักเรียนคนนึงที่ไม่ค่อยมีข้อมูล แต่อยากแชร์ปสกแค่นั้นเอง แง่ก!
—-> *รีวิวนี้ อยากเขียนเอาไว้เป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่อยากไปเรียนภาษาต่อที่ต่างประเทศ
ก็ขอฝาก QUT ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ เป็นตัวเลือกดีดีเอาไว้ช้อยนึงนะคะ
เอ่า หนึ่ง สอง สามม!
v
v
v
มันเริ่มมาจาก เราอยากเรียนภาษาที่ต่างประเทศ
แต่ไม่รู้ว่าจะเรียนของสถาบันไหนดี ระหว่างเอกชน กับของมหาลัย
ลองถามๆ อ่านๆ จากในพันทิพบ้าง เว็บนั่น โน่น นี่ จากคนที่เคยไปเรียนมาบ้าง
ก็มีมติว่า “ไปเรียนของมหาลัยดีกว่า” ความรู้เข้มข้นกว่า ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ปล่อยผ่านด้วย
ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของเราเลย ที่อยากเรียนแบบ Academic แล้วเอาไปใช้ในการเรียนป.โทด้วย
คะแนนความช่างใจจึงเท เท เท เทมาทางมหาลัยมากๆ
แถมเรายังได้ฟังเพื่อนที่เรียนสถาบันเอกชนแชร์ให้ฟังว่า เรียนในคลาสแค่ครึ่งวัน
ครึ่งบ่ายเป็นกิจกรรมที่จะจอยหรือไม่จอยก็ได้ (อ่าว ต้องเรียนสิ นั่นก็เงินที่เสียไปนะเฮ่ย ><‘’)
แถมสอบเลื่อนระดับก็ชิวไปอีก
(แต่เพื่อนเราชอบนะ เพราะมันเหมือนมาหาเพื่อนทุกวัน
ได้ speak english กับเพื่อนๆ ไม่เครียดด้วย กิจกรรมก็เหมือนปาร์ตี้
แถมมันไปจากภาษาอังกฤษเลเวล 0 อยู่มา 6 เดือน.....ไฟแล๊บ นำเราไปแล้วจ้าาา)
แต่มันไม่ใช่ทางของจขกทแงะ >< เราถนัดเรียนแบบเนิร์ดๆ จริงจังๆ มันถึงจะเข้าหัวเรามากกว่า
ดังนั้นแล้ว ผู้ที่ชนะใจบุพการีและจขกทมากที่สุดก็คื้ออ..... “QUT” ท้าดาาา***
(ด้วยปัจจัยจาก cost, สภาพบ้านเมือง, การเรียนการสอน, ความคุ้ม มาประกอบการตัดสินใจ จากหลายๆช้อย)
เวิ่นเว้อ มากมายแล้ว ตามไปดูกันเล้ยยยย
(ขอข้าม step การขอวีซ่านะคะ เพราะให้เอเย่นเป็นคนทำเรื่องให้ค่ะ ><“)
[รีวิว+รูปเยอะ] พาทัวร์ที่เรียนภาษาในมหาลัย QUT ณ เมืองบริสเบน แห่งออสเตรเลีย
ขอออกตัวก่อนนะคะว่า นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของเรา มือใหม่กริ๊บๆ*>v<
แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดน้าาา ถ้าผิดพลาดประการใด ข้อมูลตกหล่นยังไง ก็ขออภัยล่วงหน้าเลยแล้วกันนะคะ ><“ เพราะเป็นนักเรียนคนนึงที่ไม่ค่อยมีข้อมูล แต่อยากแชร์ปสกแค่นั้นเอง แง่ก!
—-> *รีวิวนี้ อยากเขียนเอาไว้เป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่อยากไปเรียนภาษาต่อที่ต่างประเทศ
ก็ขอฝาก QUT ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ เป็นตัวเลือกดีดีเอาไว้ช้อยนึงนะคะ
เอ่า หนึ่ง สอง สามม!
v
v
v
มันเริ่มมาจาก เราอยากเรียนภาษาที่ต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าจะเรียนของสถาบันไหนดี ระหว่างเอกชน กับของมหาลัย
ลองถามๆ อ่านๆ จากในพันทิพบ้าง เว็บนั่น โน่น นี่ จากคนที่เคยไปเรียนมาบ้าง
ก็มีมติว่า “ไปเรียนของมหาลัยดีกว่า” ความรู้เข้มข้นกว่า ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ปล่อยผ่านด้วย
ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของเราเลย ที่อยากเรียนแบบ Academic แล้วเอาไปใช้ในการเรียนป.โทด้วย
คะแนนความช่างใจจึงเท เท เท เทมาทางมหาลัยมากๆ
แถมเรายังได้ฟังเพื่อนที่เรียนสถาบันเอกชนแชร์ให้ฟังว่า เรียนในคลาสแค่ครึ่งวัน
ครึ่งบ่ายเป็นกิจกรรมที่จะจอยหรือไม่จอยก็ได้ (อ่าว ต้องเรียนสิ นั่นก็เงินที่เสียไปนะเฮ่ย ><‘’)
แถมสอบเลื่อนระดับก็ชิวไปอีก (แต่เพื่อนเราชอบนะ เพราะมันเหมือนมาหาเพื่อนทุกวัน
ได้ speak english กับเพื่อนๆ ไม่เครียดด้วย กิจกรรมก็เหมือนปาร์ตี้
แถมมันไปจากภาษาอังกฤษเลเวล 0 อยู่มา 6 เดือน.....ไฟแล๊บ นำเราไปแล้วจ้าาา)
แต่มันไม่ใช่ทางของจขกทแงะ >< เราถนัดเรียนแบบเนิร์ดๆ จริงจังๆ มันถึงจะเข้าหัวเรามากกว่า
ดังนั้นแล้ว ผู้ที่ชนะใจบุพการีและจขกทมากที่สุดก็คื้ออ..... “QUT” ท้าดาาา***
(ด้วยปัจจัยจาก cost, สภาพบ้านเมือง, การเรียนการสอน, ความคุ้ม มาประกอบการตัดสินใจ จากหลายๆช้อย)
เวิ่นเว้อ มากมายแล้ว ตามไปดูกันเล้ยยยย (ขอข้าม step การขอวีซ่านะคะ เพราะให้เอเย่นเป็นคนทำเรื่องให้ค่ะ ><“)