เห็นเลนรุ่น 2 แล้ว คนน้อยมาก
ผมว่าความยากของธุรกิจ Bnk48 ต่อไป คือทำให้คนชอบ คนรักภาพรวมของ Bnk48 เหมือนที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่โอตะชอบเพลงคุกกี้เสี่ยงทาย โดยไม่สนใจว่าสมาชิกจะเป็นใคร เหมือน คนชอบทีมฟุตบอล แมนยู ลิเวอร์พูล พร้อม สนับสนุน ไม่ว่าใครจะมาเป็นนักบอล
ปัจจุบัน โอตะ ส่วนใหญ่ ชอบสมาชิกเป็นรายบุคคลไป ไม่สนใจ BNK48 ด้วยซ้ำ ดูจากเสื้อที่ใส่มางานจับมือ มีคนใส่เสื้อ BNK48 น้อยมาก มีแต่ใส่เสื้อคลับของตัวเอง แข่งขันกัน โอตะ บางคนร้องเพลงยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ยิง Mix ได้อย่างเดียว
ต่อไป ถ้ายังสร้างความคิดว่า ใครมาเป็น BNK48 ก็ได้ โอตะพร้อมสนับสนุน พอรุ่น 1 ตัวหลักๆ แกรดออกไปทีละยูนิต BNK48 น่าจะอยู่ไม่ยืด แต่ถึงเวลานั้น อฟช.อาจทำกำไรจนคุ้มแล้วก็ได้
ถามใจเราเองก้ได้ว่า ถ้า คามิ และโอชิ เราแกรด ออกไป แล้ว เราจะตาม BNK48 ต่อมั้ย หรือไปตามผลงานน้อง ในชื่ออื่นๆ
ปล.ตัว กขกท. ก็ มีคามิ โอชิ รุ่น 1 ไม่สนรุ่น 2 เลย สนใจที่ตัวตน และไม่สนใจ องค์กร 48 เช่นกัน
เห็นเลน จับมือ Bnk48 รุ่น 2 แล้ว ผมว่าความยากต่อไป คือ ทำให้คนชอบ Bnk48 โดยรวมให้ได้นะ
ผมว่าความยากของธุรกิจ Bnk48 ต่อไป คือทำให้คนชอบ คนรักภาพรวมของ Bnk48 เหมือนที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่โอตะชอบเพลงคุกกี้เสี่ยงทาย โดยไม่สนใจว่าสมาชิกจะเป็นใคร เหมือน คนชอบทีมฟุตบอล แมนยู ลิเวอร์พูล พร้อม สนับสนุน ไม่ว่าใครจะมาเป็นนักบอล
ปัจจุบัน โอตะ ส่วนใหญ่ ชอบสมาชิกเป็นรายบุคคลไป ไม่สนใจ BNK48 ด้วยซ้ำ ดูจากเสื้อที่ใส่มางานจับมือ มีคนใส่เสื้อ BNK48 น้อยมาก มีแต่ใส่เสื้อคลับของตัวเอง แข่งขันกัน โอตะ บางคนร้องเพลงยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ยิง Mix ได้อย่างเดียว
ต่อไป ถ้ายังสร้างความคิดว่า ใครมาเป็น BNK48 ก็ได้ โอตะพร้อมสนับสนุน พอรุ่น 1 ตัวหลักๆ แกรดออกไปทีละยูนิต BNK48 น่าจะอยู่ไม่ยืด แต่ถึงเวลานั้น อฟช.อาจทำกำไรจนคุ้มแล้วก็ได้
ถามใจเราเองก้ได้ว่า ถ้า คามิ และโอชิ เราแกรด ออกไป แล้ว เราจะตาม BNK48 ต่อมั้ย หรือไปตามผลงานน้อง ในชื่ออื่นๆ
ปล.ตัว กขกท. ก็ มีคามิ โอชิ รุ่น 1 ไม่สนรุ่น 2 เลย สนใจที่ตัวตน และไม่สนใจ องค์กร 48 เช่นกัน