ดูทีมชาติมาหลายเกมส์ รวมทั้งปัญหาทีมฟุตบอลเอเชี่ยนเกมส์ แล้วอยากเขียนเรื่องกองหน้าทีมชาติสักหน่อย
กองหน้าทีมชาติไทย เบอร์หนึ่งคงเป็นใครไม่ได้นอกจาก ธีรศิลป์ แดงดา ส่วนเบอร์สองนี่ตัดสินยากมาก ไม่ใช่ว่าตัวเลือกมาก แต่หาตัวเลือกแทบไม่เจอ (- -”) มองไปที่รุ่นเยาวชน U ต่างๆ ก็เห็นแต่นิวธีรศิลป์ที่อายุน้อยๆ(ต่ำกว่า20ปี) ที่ไม่รู้ว่าโตมาแล้วจะไปได้ดีเหมือนรุ่นพี่หรือไม่
ส่วน U23 ที่ใช้บริการกองหน้าจิตอาสา(แซวเจนรบหน่อย คริคริ) ที่ฟอร์มปัจจุบันยังต้องใส่สนับก้นในสโมสรก็ยังไม่น่าฝากผีฝากไข้ในทีมชาติชุดใหญ่ได้ในตอนนี้ ที่มาแรงคือ น้องศุภชัย ใจเด็ด ซึ่งได้ลงเล่นบ่อยในลีก แต่เป็นตำแหน่งกองกลาง ซึ่งก็แปลว่าความไม่สามารถยังสู้กองหน้าต่างชาติระดับพระกาฬในทีมได้ ยิ่งมาดูอันดับดาวซัลโวในT1 เห็นว่าเป็นต่างชาติทั้งนั้น ส่วนคนไทยที่ติดอันดับกลับเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองกลาง
เกิดอะไรขึ้นกับตำแหน่งยอดฮิตของเด็กไทย ที่แทบจะต่อยกันในทีมตอนเด็กเพื่อให้ได้เล่นกองหน้า ในยุคที่กองหน้าต่างชาติดีกรีโหดๆ มาค้าแข้งบ้านเรา ส่วนกองหน้าคนไทย ทักษะสู้ต่างชาติไม่ได้? สรีระสู้ต่างชาติไม่ได้? ทัศนะคติสู้ต่างชาติไม่ได้? ฯลฯ มากมายเหตุผลว่ากันไป
วันนี้จะขอพูดถึงกองหน้าทีมชาติจีน ที่เล่นในไชนีสซุปเปอร์ลีก ลีกที่มีตัวต่างชาติระดับโลกมาเล่น มีโค้ชระดับโลกมาคุมทีม แต่ ณ ตอนนี้ มีดาวซัลโวเป็นคนจีน “อู๋เหล่ย” (武磊)
อู๋เหล่ย ปัจจุบันอายุ 27 ปี ฤดูกาลนี้ผ่านไป 18 นัด ยิงให้เซี่ยงไฮ้เอสไอพีจีไปแล้ว 18 ประตู นำเดี่ยวอันดับดาวซัลโวรวม(อันดับสอง 16 ประตู) ฤดูกาลที่แล้ว 2017 ยิงได้ 20 ประตู ส่วนฤดูกาลก่อนๆ ก็ยิงได้สิบกว่าประตูต่อฤดูกาล เป็นดาวยิงอันดับหนึ่งสัญชาติจีนมา 5 ปีติดกัน (ปี 2013-2017 ลีกจีน แยกอันดับดาวยิงรวม กับ ดาวยิงสัญชาติจีน)
ทักษะดีกว่าตัวต่างชาติ? ไม่ใช่แน่นอนต่างชาติโหดกว่าเยอะ
สรีระดีกว่าตัวต่างชาติ? สูง 173 เซ็นฯ หนัก 62 ก.ก. สรีระคนเอเชียออกจะผอมๆคนหนึ่งเอง
ทัศนะคติดีกว่าตัวต่างชาติ? เรื่องนี้ไม่ทราบ รู้แต่อู๋เหล่ยเป็นนักเตะที่มีความฟิตสูง เล่นได้ตลอด90นาที แรงไม่ตก ซึ่งแสดงว่าเขามีวินัย ดูแลร่างกายตัวเองได้เป็นอย่างดี
กับนักฟุตบอล สูง 173 เซ็นฯ หนัก 62 ก.ก. มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว ทักษะเลี้ยงบอลก็ธรรมดา แต่มีทักษะยิงประตูเข้าขั้นยอดเยี่ยมสมเป็นกองหน้าทั้งเท้าทั้งศีรษะ แล้วอะไรที่ทำให้เขาเป็นที่แตกต่างจากคนอื่น เขาบอกว่าเขาใช้สมองเล่นฟุตบอลมากกว่าคนอื่น
จุดเด่นเขาคือ มีทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม การยืนตำแหน่ง การหาที่ว่าง อู๋เหล่ยมักอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ เมื่อได้บอลจะพร้อมหันหน้าหาประตูเสมอและมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว ประตูที่เขายิงได้ส่วนใหญ่มาจากลูกโต้กลับเร็ว กับลูกที่เขาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกที่ถูกเวลาและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง สามารถพูดได้ว่าไอคิวลูกหนังของเขาทำให้เขายิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ
เมื่อย้อนมาดูกองหน้าชาวไทยเราบ้าง ที่สรีระสู้ต่างชาติไม่ได้ต้องไปเล่นตำแหน่งอื่น (เช่น นูรูล ) ที่ทักษะสู้ต่างชาติไม่ได้จนไม่ได้เล่น (เช่น ปีโป้ เจนรบ มงคล ชนานัน) คงต้องหันมาใช้สมองเล่นฟุตบอลให้มากกว่าคนอื่นบ้าง ซึ่งความจริงพวกเขาเองก็มีความสามารถ ทั้งนี้ต้องฝากผู้ฝึกสอนว่าจะนำความสามารถที่เขามี มาใช้ให้เกิดประโยชน์และพัฒนาเพิ่มได้มากกว่าเดิมหรือไม่
ในฐานะที่เป็นแค่คนดู เป็นแค่กองเชียร์ ไม่กล้าชี้แนะอะไร ได้แต่เอาสิ่งที่พบเห็นจากที่อื่นมาเล่าสู่กันฟัง (แสดงความเห็นงูๆปลาๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นแสดงความทุเรศให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอา) ในอนาคตประเทศไทยจะมีผู้ฝึกสอนที่ผ่านการอบรมมีใบอนุญาตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้แต่หวังว่าหลักสูตรโค้ชที่เรียนมาจะมีหลักสูตรฝึกสอนกองหน้า เพื่อให้กองหน้าชาวไทยได้พัฒนาฝีเท้า ได้ลงเล่นตัวจริงในลีกบ้าง ให้ทีมชาติมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นบ้าง กองหน้าทีมชาติจะได้ไม่สูญพันธุ์นะครับ _/ll\_
เครดิตข้อมูล :
https://baike.baidu.com/item/%E6%AD%A6%E7%A3%8A/31290?fr=aladdin#3
บ่นด้วยความห่วงใย ก่อนที่ศูนย์หน้าสายพันธุ์ไทย จะสูญพันธุ์
กองหน้าทีมชาติไทย เบอร์หนึ่งคงเป็นใครไม่ได้นอกจาก ธีรศิลป์ แดงดา ส่วนเบอร์สองนี่ตัดสินยากมาก ไม่ใช่ว่าตัวเลือกมาก แต่หาตัวเลือกแทบไม่เจอ (- -”) มองไปที่รุ่นเยาวชน U ต่างๆ ก็เห็นแต่นิวธีรศิลป์ที่อายุน้อยๆ(ต่ำกว่า20ปี) ที่ไม่รู้ว่าโตมาแล้วจะไปได้ดีเหมือนรุ่นพี่หรือไม่
ส่วน U23 ที่ใช้บริการกองหน้าจิตอาสา(แซวเจนรบหน่อย คริคริ) ที่ฟอร์มปัจจุบันยังต้องใส่สนับก้นในสโมสรก็ยังไม่น่าฝากผีฝากไข้ในทีมชาติชุดใหญ่ได้ในตอนนี้ ที่มาแรงคือ น้องศุภชัย ใจเด็ด ซึ่งได้ลงเล่นบ่อยในลีก แต่เป็นตำแหน่งกองกลาง ซึ่งก็แปลว่าความไม่สามารถยังสู้กองหน้าต่างชาติระดับพระกาฬในทีมได้ ยิ่งมาดูอันดับดาวซัลโวในT1 เห็นว่าเป็นต่างชาติทั้งนั้น ส่วนคนไทยที่ติดอันดับกลับเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองกลาง
เกิดอะไรขึ้นกับตำแหน่งยอดฮิตของเด็กไทย ที่แทบจะต่อยกันในทีมตอนเด็กเพื่อให้ได้เล่นกองหน้า ในยุคที่กองหน้าต่างชาติดีกรีโหดๆ มาค้าแข้งบ้านเรา ส่วนกองหน้าคนไทย ทักษะสู้ต่างชาติไม่ได้? สรีระสู้ต่างชาติไม่ได้? ทัศนะคติสู้ต่างชาติไม่ได้? ฯลฯ มากมายเหตุผลว่ากันไป
วันนี้จะขอพูดถึงกองหน้าทีมชาติจีน ที่เล่นในไชนีสซุปเปอร์ลีก ลีกที่มีตัวต่างชาติระดับโลกมาเล่น มีโค้ชระดับโลกมาคุมทีม แต่ ณ ตอนนี้ มีดาวซัลโวเป็นคนจีน “อู๋เหล่ย” (武磊)
อู๋เหล่ย ปัจจุบันอายุ 27 ปี ฤดูกาลนี้ผ่านไป 18 นัด ยิงให้เซี่ยงไฮ้เอสไอพีจีไปแล้ว 18 ประตู นำเดี่ยวอันดับดาวซัลโวรวม(อันดับสอง 16 ประตู) ฤดูกาลที่แล้ว 2017 ยิงได้ 20 ประตู ส่วนฤดูกาลก่อนๆ ก็ยิงได้สิบกว่าประตูต่อฤดูกาล เป็นดาวยิงอันดับหนึ่งสัญชาติจีนมา 5 ปีติดกัน (ปี 2013-2017 ลีกจีน แยกอันดับดาวยิงรวม กับ ดาวยิงสัญชาติจีน)
ทักษะดีกว่าตัวต่างชาติ? ไม่ใช่แน่นอนต่างชาติโหดกว่าเยอะ
สรีระดีกว่าตัวต่างชาติ? สูง 173 เซ็นฯ หนัก 62 ก.ก. สรีระคนเอเชียออกจะผอมๆคนหนึ่งเอง
ทัศนะคติดีกว่าตัวต่างชาติ? เรื่องนี้ไม่ทราบ รู้แต่อู๋เหล่ยเป็นนักเตะที่มีความฟิตสูง เล่นได้ตลอด90นาที แรงไม่ตก ซึ่งแสดงว่าเขามีวินัย ดูแลร่างกายตัวเองได้เป็นอย่างดี
กับนักฟุตบอล สูง 173 เซ็นฯ หนัก 62 ก.ก. มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว ทักษะเลี้ยงบอลก็ธรรมดา แต่มีทักษะยิงประตูเข้าขั้นยอดเยี่ยมสมเป็นกองหน้าทั้งเท้าทั้งศีรษะ แล้วอะไรที่ทำให้เขาเป็นที่แตกต่างจากคนอื่น เขาบอกว่าเขาใช้สมองเล่นฟุตบอลมากกว่าคนอื่น
จุดเด่นเขาคือ มีทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม การยืนตำแหน่ง การหาที่ว่าง อู๋เหล่ยมักอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ เมื่อได้บอลจะพร้อมหันหน้าหาประตูเสมอและมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว ประตูที่เขายิงได้ส่วนใหญ่มาจากลูกโต้กลับเร็ว กับลูกที่เขาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกที่ถูกเวลาและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง สามารถพูดได้ว่าไอคิวลูกหนังของเขาทำให้เขายิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ
เมื่อย้อนมาดูกองหน้าชาวไทยเราบ้าง ที่สรีระสู้ต่างชาติไม่ได้ต้องไปเล่นตำแหน่งอื่น (เช่น นูรูล ) ที่ทักษะสู้ต่างชาติไม่ได้จนไม่ได้เล่น (เช่น ปีโป้ เจนรบ มงคล ชนานัน) คงต้องหันมาใช้สมองเล่นฟุตบอลให้มากกว่าคนอื่นบ้าง ซึ่งความจริงพวกเขาเองก็มีความสามารถ ทั้งนี้ต้องฝากผู้ฝึกสอนว่าจะนำความสามารถที่เขามี มาใช้ให้เกิดประโยชน์และพัฒนาเพิ่มได้มากกว่าเดิมหรือไม่
ในฐานะที่เป็นแค่คนดู เป็นแค่กองเชียร์ ไม่กล้าชี้แนะอะไร ได้แต่เอาสิ่งที่พบเห็นจากที่อื่นมาเล่าสู่กันฟัง (แสดงความเห็นงูๆปลาๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นแสดงความทุเรศให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอา) ในอนาคตประเทศไทยจะมีผู้ฝึกสอนที่ผ่านการอบรมมีใบอนุญาตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้แต่หวังว่าหลักสูตรโค้ชที่เรียนมาจะมีหลักสูตรฝึกสอนกองหน้า เพื่อให้กองหน้าชาวไทยได้พัฒนาฝีเท้า ได้ลงเล่นตัวจริงในลีกบ้าง ให้ทีมชาติมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นบ้าง กองหน้าทีมชาติจะได้ไม่สูญพันธุ์นะครับ _/ll\_
เครดิตข้อมูล : https://baike.baidu.com/item/%E6%AD%A6%E7%A3%8A/31290?fr=aladdin#3