บรรยากาศสุดสยองของบ้านที่เกิดจากระบอบทักษิณ



โครงการบ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก  ผู้ซื้อได้ทำสัญญาระหว่างการเคหะแห่งชาติ ในราคา 390,000 บาท โดยมีการชำระค่ามัดจำเป็นเงิน 9,000 บาท และผ่อนงวดละ 500 บาท ซึ่งตามข้อกำหนดแนบท้ายสัญญาระบุว่าผู้ขายจะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่ง ปลูกสร้างให้แก่ผู้ซื้อเมื่อครบกำหนด 5 ปี นับแต่วันทำสัญญา

โครงการบ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก ถือเป็นอีกหนึ่งเหยื่อนโยบายประชานิยม “ระบอบทักษิณ” ที่ผู้รับเหมาสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ประชาชนสนใจเข้าจองเกือบ 2,000 ราย  รับไม่ได้ และเป็นกังวลถึงความไม่ปลอดภัยหากเข้าอยู่อาศัยจริง จึงทยอยหยุดการชำระเงิน  ซึ่งผู้บริหารโครงการซึ่งเป็นผู้รับเหมาจึงต้องหยุดดำเนินการเพราะไม่มีเงินหมุนเวียน  ทว่าปัจจุบันโครงการนี้ถูกทิ้งร้าง จนกลายเป็นสุสานบ้านเอื้ออาทรนับพันยูนิตและเริ่มพังลงหลายหลัง และมีสภาพปรากฎ

ช่วงปี54 ด้านนายวีระ สมความคิด  เคยกล่าวถึงโครงการบ้านเอื้ออาทรสุไหง โก-ลกเอาไว้ว่า เรื่องนี้เป็นความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่เริ่มต้น เพราะมีข่าวว่าผู้รับผิดชอบโครงการนั้นได้มีการวิ่งเต้นจ่ายเงินให้แก่ ผู้หญิงใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ในราคายูนิตละ 10,000 บาท เพื่อจะได้โครงการนี้มาดำเนินการเอง และยังต้องจ่ายใต้โต๊ะอีกหลายรายการ ดังนั้นผู้รับเหมาจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำกำไรจากโครงการนี้ให้ได้มากที่ สุด โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย จึงใช้การก่อสร้างแบบสำเร็จรูป และผลักภาระให้ผู้ซื้อบ้านซึ่งเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยต้องเสียทั้งเงิน เสี่ยงชีวิตกับบ้านคุณภาพต่ำ ทั้งที่ระบอบทักษิณบอกว่าโครงการจะช่วยเหลือคนจน แต่สิ่งเหล่านี้นี่เอง คือคุณภาพชีวิตที่ระบอบทักษิณตั้งใจมอบให้แก่ประชาชน


นายหัวเผ่นหนีคดีไปหาที่ซุกหัวนอนที่อื่นแล้ว เหลือแต่สมุนที่ยังตาไม่สว่างทยอยรับกรรมทีละคนสองคนแทนนายสังเวยระบอบทักษิณที่เคยก่อกรรมไว้กับประเทศไทย