GIRLS DON'T CRY | สารคดีโลกกลม ที่ทำให้เห็นทั้งความมืดและความสว่างของชีวิต #ร้องไห้หนักมาก



Girls Don't Cry (2018) : เสี่ยงแต่คงต้องยิ้มต้องสู้กันไป


หมายเหตุ : นี่คือความรู้สึกจากคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของ BNK48 .. ไม่ได้รู้จักน้อง ๆ มากไปกว่าเป็นวงน้องสาวของ AKB48, คุ้กกี้เสี่ยงทาย และกัปตันเฌอปราง

สำหรับเราสารคดี Girls Dont Cry จึงเป็นการมองข้ามความเป็นงานตีแผ่เส้นทางของน้อง ๆ วง #BNK48 ไปแล้วครับ แต่นี่คือ สารคดีที่ว่าด้วยสัจธรรมของการดิ้นรนบนโลกใบนี้

โลกสวย ๆ ที่มันก็มีความมืดมนซุกซ่อนอยู่มากมาย แต่ก็อย่าลืมว่าโลกนี้มันกลม มีมืดก็มีสว่าง ก็แค่อยู่ที่เวลา

****


ส่วนตัวความสนใจที่มีต่อสารคดีเรื่องนี้ เพิ่งจะเกิดขึ้นตอนที่หนังใกล้จะลงจอแล้วครับ เราเพิ่งเห็นตัวอย่างของหนังในโรงภาพยนตร์ และพบว่า แค่ตัวอย่างที่ตัดออกมา มันกระแทกกระทั้นใจอย่างรุนแรงเหลือเกินพี่จ๋า ด้วยคำพูดของน้อง Jib BNK48 แล้วพอเจอเพลงคุ้กกี้เสี่ยงทาย ที่ไม่มีดนตรีแล้วได้มีสมาธิตั้งใจฟังเนื้อหาของเพลงจริง ๆ จัง ๆ ครั้งแรก ... อ้าว ลบทุกภาพที่เคยจำมา เพราะครั้งนี้ทำไมฟังแล้วเศร้า มันคือ การต่อสู้ดิ้นรนในโลกที่โหดร้าย ความเจ็บปวดของความฝัน แต่ก็พยายามปลอบประโลมตัวเองด้วยความหวัง และเลือกจะมองหาแง่งามความดีจากสิ่งร้าย ๆ ที่ตัวเองต้องเผชิญ !!!

*****

การที่พอเราเองไม่รู้จักตัวน้อง ๆ เท่าไหร่เลย นั้นมันยิ่งทำให้อินไปกับการเล่าเรื่องของหนังมาก ๆ ครับ คือ เราไม่รู้ว่าเรื่องจะไปยังไงต่อ สตอรี่ไลน์การเดินทางของน้อง ๆ มันจะก้าวไปยังไง ซึ่งคุณเต๋อสามารถถ่ายทอดหนังสารคดีที่มีแต่คนมานั่งพูด ๆๆๆๆๆ ได้สนุกและบันเทิงมากจริง ๆ

เราไม่รู้จักว่าใครเป็นใคร ไม่ได้เป็นแฟนคลับใคร มันเลยไม่ได้มีฟิลลิ่งแบบคนที่ตัวเองชอบจะออกมากหรือออกน้อย แต่มันคือ การปล่อยให้หนังมัน Lead มันนำเรื่องต่อ ๆ ไปให้เราค่อย ๆ รู้จักสตอรี่ของน้อง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน เพลินเวออออร์

จากเคยกังวลว่า สารคดี มันจะน่าเบื่อ แต่ #GirlsDontCry ไม่เป็นแบบนั้นครับ บันเทิงมากนะ หนังเต็มไปด้วยเสน่ห์ สตอรี่ที่น่าติดตาม และมันคือการเอาเรื่องจริงมาดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมอย่างจขกท.ได้ตลอดเวลา เป็นการนั่งดูหนังตลอดสองชั่วโมงที่ไม่มีวินาทีไหนที่รู้สึกเบื่อเลย ! (จริง ๆ นะ)

******

มาพูดถึงความรู้สึกที่ได้ ... ชื่อหนังบอกให้ Girls Don't Cry ... แต่ผู้ชมอย่างเรากลับ CRY หนักมากกกกก ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ทุกอย่างประจวบไปหมดครับ ระหว่างเรื่องราวของน้อง ๆ กับตัวเราเอง (ในโลกของการทำงานและการวิ่งตามความฝัน)

ร้องไห้หนักมาก แบบถ้าสามารถลงไปกองร้องดิ้นกับพื้นได้ ก็คงทำไปแล้ว ...

อิน BNK48? ... เปล่าเลยครับ แต่เราอินกับบริบทของการเป็น BNK48 มาก ๆ มันไม่แตกต่างอะไรเลยกับโลกจริงของการทำงาน การใช้ชีวิต และการได้ทำอะไรที่เรารัก แต่มันจะมีความคาดหวังวางอยู่ตรงนั้น

.. มันเหมือนการได้เข้ามา 'ทำ' ในที่ ๆ ฝัน แต่พยายามให้ตายยังไง ก็ไม่สามารถไปยืนใน 'จุด' ที่ฝันได้สักที

ถามว่า ทำไมไม่ grad ? ไปล่ะจะได้จบ ๆ ออกจากที่ที่ฝันไปซะ เพราะถ้าความฝันมันกดดันมาก ออกไปอาจจะมีความสุขมากกว่าไหม ...

แต่ก็เห้ยยย มันไม่ใช่ไหม เราแฮปปี้ที่จะอยู่ในที่ที่เราฝันไว้ไง แต่แค่พอมันยังไม่ใช่แบบที่คาดหวัง มันยังไม่เต็มฝัน เราก็ยังอยากจะสู้ต่ออยู่ดี

แต่เราก็เป็นคนธรรมดาอ่ะเนอะ .. ก็ท้อเป็น .... self esteem หรือความภาคภูมิใจในตัวเอง มันมีได้ ก็หมดได้ ถ้าจุดที่ฝันมันต้องใช้มากกว่าความพยายาม ซึ่งในวันนี้เราไม่มีอะไรจะให้แล้วไง

ต้องหลอนไปอีกนานแค่ไหนกับคำว่า พิสูจน์ตัวเองต่อไปซิ สู้ต่อไปซิ พยายามไม่พอเหรอ เพิ่มอีก ๆ ทำให้สุดอีก ๆ แต่ก็ยังย่ำอยู่บนจุดเดิม ๆ

เราชอบที่ Jib บอกว่า อย่ามาบอกหนูว่าอย่าท้อ นั่นยิ้มทำให้หนูโคตรท้อ บอกให้หนูพยายามอีก ๆ แต่มันก็ไม่ได้ถูกเลือกเป็นเซ็มอีกไง แล้วหนูต้องพยายามแค่ไหนอ่ะ ถึงจะพอ

ความพยายามมันไม่เคยทำร้ายคนที่ตั้งใจจริง ๆ เหรอ ? ในเมื่อโลกนี้มันไม่เคยมีคำว่าเสมอภาคที่แท้จริง เพราะฉะนั้นความพยายามอย่างเดียว มันก็คงไม่พอจริง ๆ นั่นแหล่ะ (มั๊ง)

ในโลกสวย ๆ ใบนี้ มันก็ยังซุกซ่อนความดำมืดเอาไว้

หรือจริง ๆ แล้ว มันอาจไม่ได้ซุกซ่อนอะไรเลย .. เราต่างหากที่เลี่ยงจะพูดถึงหรือมองเห็นมันมากกว่า

มันก็จะต้องมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่ต่อให้สู้พยายามยังไง ก็ต้องจบลงตรงที่ #ผู้หญิงคนนั้นที่ฉันไม่เคยได้เป็น เสมอ ๆ

แต่ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งกับได้รับมันไป ... ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้ผิด หรือแปลว่าเขาไม่ได้พยายาม .. แต่มันก็ยังมีอะไรหลาย ๆ อย่างเข้ามาอุ้มชูมากกว่านั้น

และไม่ว่าจะอยู่ในจุด ๆ ไหนก็ตาม ... ก็ยังต้องเจ็บปวดอยู่ดี

ซึ่งมันไม่มีใครจะเข้าใจใครได้ดีจริง ๆ หรอก ตราบใดที่เขาไม่ได้ไปอยู่ในจุด ๆ นั้นจริง ๆ

เฌอปราง ... คนที่สปอตไลท์สาดส่องตลอดเวลา การมายืนในจุด Top ของเธอ ก็ใช่จะมีแต่ความสุขอย่างที่หลายคนเข้าใจ

หนังทำให้เห็นชัดเจน กับไอ้คำว่า "เราต้องแข่งกับตัวเอง" มันเป็นแค่คำพูดสวย ๆ ที่เป็นอุดมคติ ในเมื่อโลกไม่มีความเสมอภาค สุดท้าย เราก็ต้องแข่งขันกับคนอื่นอยู่ดี

****

แต่ก่อนที่อะไร ๆ จะเลยเถิด ฟูมฟาย และกระชากความฝันจนชอกช้ำไปมากกว่านี้ ... หนังเองก็วกกลับมาสู่การสรุปที่ทำให้เรายังไม่ลืมว่า

"โลกมันกลมนะเห้ย"

เพราะเอาจริง ๆ ไม่ว่าจะทำอะไร แม้เราไม่เคยไปอยู่ในจุดที่ฝันเลยสักครั้ง แต่อย่างน้อยครั้งนึงเราก็กล้าจะได้มายืนในที่ที่นั้น

เอาแต่นั่งบ่น ๆๆๆ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ร้องไห้ให้ตายจนตาบวม .. แล้ว? ยังไงเราก็ต้องลุกเดินต่อ เพื่อก้าวต่อไปอยู่ดี เหมือนที่เฌอปรางพูดไว้นั่นแหล่ะฮะ

และสุดท้าย มันจะต้องมีที่ที่นึง ที่ที่เราจะได้เปล่งประกาย

*****

"ฉันมั่นใจว่าเราจะเป็นดั่งฝัน
ในวันแห่งความรักสักวันหนึ่ง"


-----


ปล. สารคดีไอดอล BNK48 ... ที่คนทั่วไป ก็ดูได้ และเข้าใจ

ปล. อีกที ... แอบอิจฉาน้อง ๆ นะ ที่อย่างน้อย ก็ได้มีพื้นที่ได้ระบาย และพรั่งพรู แล้วมันมีคนพร้อมจะฟังทุก ๆ อย่างที่น้องพูดจริง ๆ



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่