ช่วงสองวันนี้มีรีวิวทั้งแบบสปอยล์และไม่สปอยล์เกี่ยวกับ BNK48 documentary: Girl Don't Cry มากทีเดียว
ส่วนมากก็จะเป็นรีวิวและเสียงวิจารณ์ต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีความเห็นเรื่อง แอร์ไทม์ของน้องบางคนน้อยและถามว่า ไม่รู้ว่าด้อมมิว โมจะคิดอย่างไร
????
เออ....ประเด็นนี้ก็น่าสนใจนะ เพราะคนบ้านสิคมักแสดงความเห็นในทวิตเตอร์แล้วรีทวีตกันไปมาอย่างเมามันส์
แต่คนที่ไม่ได้ตามทวิตเตอร์เลยก็จะไม่รู้ว่าคนบ้านมิวมีความคิดเห็นอย่างไรต่อหนังเรื่องนี้ ผมจึงลองรวบรวมและสรุปออกมา
ซึ่งมันก็มีสปอยล์หลายจุดอยู่ ดังนั้นใครยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ จะโดนสปอยล์เอาได้นะครับ
เรื่องแอร์ไทม์น้อย คนบ้านมิวคิดเห็นอย่างไร
จากที่ไล่ดูความเห็นต่างๆ มากกว่า 50 ความเห็น ผมเจออยู่ 1 ความเห็นเท่านั้น ที่บ่นเรื่องแอร์ไทม์น้อย ดูเหมือนบ้านมิวจะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนั้นเท่าไรนัก แต่มีความเห็นที่น่าสนใจจากแฟนคลับของน้องมิวสิคดังนี้ครับ
"ในฐานะแฟนคลับ #BNK48 เข้าใจพี่เต๋อว่าต้องเลือกปมเรื่องชูพ้อยท์ของหนัง เลยทำให้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเฌอและอันเดอร์ ส่วนกลุ่มกลางที่ติดเซ็มมาตลอดๆ เช่น ชราไลน์ บทน้อยไปเลย เชื่อว่าไม่สามารถยัดทุกอย่างใส่ใน 2 ชม. ได้หรอก เข้าใจ"
คนนี้แสดงความเห็นที่ค่อนข้างตรงกับความเห็นผมในเรื่องแอร์ไทม์ ผมมองว่า สมาชิกรุ่น 1 ทั้ง 26 คน ได้สัมภาษณ์คนละ 2 ชม. รวมเวลาทั้งสิ้นที่ผู้กำกับต้องนั่งฟังและจับประเด็นคือ 52 ชม. แต่ต้องนำเสนอในเวลา 1ชั่วโมง 50 นาที จึงต้องหยิบประเด็นที่น่าสนใจออกมาและมุ่งทำแต่เรื่องนั้น ทำให้บทสัมภาษณ์ใดๆที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไปด้วยกันไม่ได้กับโครงเรื่องก็จะถูกตีตกไปด้วย
เสียงวิจารณ์ต่อหนัง
ถ้าแบบวิจารณ์สับแหลกนี่ ผมแทบไม่เห็นจากบ้านมิวเลยนะ มีบ้างบางคนที่บอกว่า "มันไปไม่สุด" หรือ "หนังมันสั้นไปนะ นี่จบแล้วเหรอ?"
ที่ให้เป็นคะแนนไปเลย ก็น้อยจนผมจำไม่ได้ ความเห็นของแฟนคลับที่แท็กชื่อน้องต่อเนื้อเรื่องจะออกมากลางๆ เช่น
1)
รู้สึกระหว่างทางที่ขับรถกลับ พอมีเพลงของ BNK48 ขึ้นมา เราไม่กดข้าม และตั้งใจฟังเพลงในทุกท่อนมากขึ้น เพราะเรารู้ว่าแม้จะเป็นท่อนเล็กๆเพียงท่อนเดียวในเพลง น้องแต่ละคนตั้งใจแค่ไหน จากนี้พี่จะเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคนนะ
2)
หนังสนุกมากดูแล้วได้รู้อะไรกลับมาหลายอย่างเลย แถมยังร้องไห้อีก สาวๆน่ารักมากเจอกันตั้งแต่ก่อนเข้าโรงจนดูเสร็จเลย
3)
#GirlsDontCry ขอบคุณที่ทำให้รู้จักเมมเบอร์มากขึ้น รู้เรื่องราวที่พวกเค้าเจอ ทัศนคติและการรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆของทุกคน เราใช้คำว่ารู้จักเพราะไม่กล้าใช้คำว่าเข้าใจ เราก็แค่รู้ชีวิตอีกส่วนนึงและอยากให้กำลังใจเค้าเหมือนเดิม มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ รู้สึกรักBNK48มากขึ้น รักทุกคนมากๆเลย
4)
คือต้องบอกตามตรงเลยว่าดูหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้รักใครน้อยลงเลยนะ รักเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำกับความพยายามของน้องๆหลายคน เป็นกำลังใจให้นะคร้าบบบ (คนนี้โอชิปัญแต่แท็กน้องมิวสิคและคนอื่นๆด้วย)
5)
เป็นหนังที่DarkMildนุ่มนวล/ความเป็นDocumentaryที่เต๋อเรียบเรียงความรู้สึกได้กลมเกลียวจนเรารู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในความรู้สึกของน้อง/ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเต๋อทำให้มีสติ/เหมือนเต๋อโยนหินลงน้ำแล้วปล่อยให้น้ำกระเพื่อม/ไม่ได้รู้จักใครมากกว่าแต่ตั้งใจฟังทุกคำของทุกคน
6)
ดูหนังจบจะไม่ใช่แค่รักน้องๆเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความเข้าใจในตัวน้องๆมากขึ้น
7)
หลังจากดูหนังจบกลับมานั่งคิด ว่าวันนี้เราทำอะไรเพื่อน้องแล้วรึยัง เราว่าเมื่อแฟนคลับดูหนังเรื่องนี้แล้ว เราจะเปลี่ยนมุมมองออกไป หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมที่เราเป็นอยู่จริงแต่เราไม่เคยยอมรับว่ามันมีอยู่จริง เราว่าเรารักวงนี้และเรารักน้องมากขึ้น
8)
ในหนังเราชอบความสัมพันธ์ที่ดีที่มันเป็นของจริง ความใส่ใจกันของเมมเบอร์ มิวสิคกับเฌอปราง แก้วกับปัญ ปัญกับจิ๊บ จิ๊บกับมิวสิค
บางคนอาจจะรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่คำวิจารณ์มันเป็นคำชมเชยมากกว่า ต้องบอกว่ามันเป็นอย่างนั้นแหละครับ เพราะในทวิตเตอร์ บ้านมิวไม่ค่อยแสดงความเห็นเชิงลบกับใคร (เพื่อเลี่ยงดราม่าในแท็กน้อง) ยิ่งกับคนทีทำหนังเกี่ยวกับน้องแล้ว ยิ่งอยากจะให้กำลังใจเสียมากกว่า
การข้ามความเห็นความรู้สึกของคนที่ได้เป็นเซ็นเตอร์ในหนัง
เช่นเดียวกับเรื่องแอร์ไทม์ บ้านมิวไม่พูดถึงเลย ถ้าจากความเห็นส่วนตัว เมื่อได้ดูหนังแล้วผมเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้เป็นเวทีของน้องๆที่สื่อไม่ค่อยเข้าถึงนะ ส่วนเซนเตอร์นั้นประสบความสำเร็จและมักเข้าถึงสื่อได้มากกว่าคนอื่นๆ ทั้งมีบทสัมภาษณ์ส่วนตัว ทั้งการได้ออกงานต่างๆ ฯลฯ
ผู้กำกับจึงอยากนำเสนอในอีกมุมมองหนึ่งว่า "ถ้าเป็นเมมคนอื่นพูดถึงเซนเตอร์คนนั้นล่ะ มันจะออกมาอย่างไร?"
ความเห็นเกี่ยวกับเฌอปราง
ความเห็นที่กล่าวถึงน้องเฌอปรางมักไปเกี่ยวข้องกับโมเมนต์เฌอสิค ซึ่งคนที่ได้ดูหนังแล้วคงทราบว่าน้องมิวสิคกล่าวถึงเฌออย่างไร ในความเห็นเหล่านี้มีทั้งคนที่โอชิเฌอแล้วรู้สึกดีกับสิค รวมทั้งคนที่โอชิสิคและเห็นใจเฌอ เข้าใจดีว่าในฐานะกัปตัน ในฐานะคนที่ได้รับโอกาส เฌอต้องแบกความรู้สึกอย่างไร บางทีน้ำตาอาจไม่ใช่มาจากผู้ผิดหวังฝ่ายเดียว มันอาจจะมาจากความกดดันของคนที่ได้รับโอกาสและต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อคนที่ไม่ได้รับโอกาสนั้นๆด้วย
ซึ่งผมขอยกมาบางอัน และบอกก่อนว่า มีสปอยล์คำพูดของสิคอยู่ในความเห็นเหล่านี้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1) คนที่อยู่ในจุดสูงสุดไม่ได้สบายและมีความสุขเสมอไป บางสิ่งที่ทำก็ไม่ได้อยากทำแต่จำใจต้องทำเพราะมันเป็นหน้าที่ ดูหนัง girls dont cry จบอยากเข้าไปกอดและบอกว่าสู้ๆนะเจ้าเฌอ ที่สำคัญขอบคุณสิคที่เข้าใจและคอยอยู่ข้างเฌอเสมอ ไม่ผิดหวังเลยที่รักทั้งคู่ #เฌอสิค
2) เฌอเหนื่อยและกดดันมาก แต่พร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และมีคนๆนึงที่พยายามมายืนข้างๆเฌอปราง "ไม่ได้จะโค่น แค่อยากอยู่ข้างๆ" คือต้องเข้าใจและรักกันมากแค่ไหนนะ ความเป็นห่วง คอยดูแล เทคเเคร์ มันมากมายจนเราสัมผัสได้ สู้นะมิวสิค !!!
3) เราที่คามิเฌอ ดูแล้วยังรู้สึกถึงความกดดันที่น้องได้รับผ่านการสื่อออกมาจากหนังเลย แต่พอสิคพูดถึงพิเฌอเรากลับมองถึงความอบอุ่นของสิค มันคือคำพูดที่ไม่เหมือนคนอื่นแต่มันรู้สึกถึงว่าบางคนไม่ได้ต้องการจะไปยืนอยู่สูงกว่า แต่แค่อยากก้าวขึ้นไปเพื่ออยู่ข้างๆกัน โคตรอบอุ่น #เฌอสิค
4) ในขณะที่เมมเบอร์คนอื่นคิดว่าทำไมอะไรๆก็เฌอ เพราะเป็นกัปตันจึงมีโอกาสมากกว่า ในขณะเดียวกันสิคคือคนที่พูดถึงพิเฌอได้อบอุ่นมาก เหมือนได้เข้าใจสิ่งที่เฌอเจอราวกับเฌอได้ระบายให้สิคฟัง สิคเลยเลือกที่จะพัฒนาตัวเองให้มาก แต่ไม่ได้เอาไปแข่งหรือโค่นเฌอแต่ต้องการแค่ขึ้นไปอยู่ข้างๆ #เฌอสิค
5) ไม่ได้จะละลายน้ำแข็ง...แค่อยากทำให้อบอุ่น เครดิตภาพคุณ lucferzzz
ความเห็นเกี่ยวกับจิ๊บ
จิ๊บเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของมิวสิค กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน ซึ่งคนบ้านสิคก็เข้าใจถึงความรู้สึกของจิ๊บ และเมื่อจิ๊บพูดถึงมิวสิคก็ทำให้คนบ้านสิครักในสายสัมพันธ์ของมิวและจิ๊บยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
1) ชอบความสัมพันธ์ของมิวสิคกับจิ๊บจนถึงทุกวันนี้ ที่ไม่มีมีคำว่าชนชั้นมาแบ่ง
2) "คุณพระอาทิตย์" สำหรับน้องไม่ใช่แค่ "สดใส"แต่ยัง "อบอุ่น" อีกด้วย
-ไม่อยากตั้งชื่อเรียกด้อม เพราะอยากให้รักทุกคนเท่าเทียม
-เข้าแถวจับมือวนซ้ำก็ไล่ให้ไปจับมือแถวคนอื่น "ทำไมไม่ลองไปจับมือจิ๊บบ้างคะพี่" น้องรู้เสมอ ฟค.และเมมเบอร์ คือครอบครัวที่เป็นทุกอย่างของน้อง
3) ครั้งแรกที่ไปจับมือกับ #JibBNK48 ก็ซิง Shoniji เพราะเห็นว่าเลนน้องว่าง ซึ่งเราไม่ได้โอชิน้องเลย แต่พอได้ไปจับมือน้องเท่านั้นแหละ น้องน่ารักมาก คุยดีมาก หลังจากวันนั้นก็ติดตามน้องอีกคนรองจากมิวสิค แล้ววันนี้ได้มาดูหนัง ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าน้องมีว่ามีความตั้งใจและมีความทะเยอทะยานสูงมาก บอกตรงๆเลยว่ารู้สึกไม่ผิดหวังที่ได้โอชิจิ๊บ และก็ภูมิใจในตัวมิวสิคมาก ที่แคร์จิ๊บมากด้วยเช่นกัน รักเด็กสองคนจัง ขอบคุณ GirlDontCry ที่ทำให้เข้าใจความรู้สึกของสมาชิก bnk48 มากขึ้น ทุกอย่างมันไม่ได้สวยหรู มันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดไว้จริงๆ
4) ถ้ามองดีๆ จิ๊บคือความดีงามของหนังเรื่องนี้ ส่วนคนนี้รักเหมือนเดิม #MusicBNK48 ปล.อยากให้ติดเซ็มพร้อมกันสักรอบ
ความเห็นต่อเคท
เคทก็เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของน้องมิวสิค อย่างที่เคยแซวกันว่าเสี่ยสิคเคยส่งเครื่องบินให้น้องเคทใน VOOV ในหนังเคทมีความเห็นที่ตรงกับสิค ซึ่งก็มีความเห็นของแฟนคลับที่แท็กน้องมิวสิคพูดถึงเคทไว้ว่า
"BNK = BanNongKate ไม่ใช่แค่ฉายาหรือแค่คำที่ตั้งขึ้นมา แต่มันเป็นบ้านของน้องเคทจริงๆ และน้องเคทรักบ้านหลังนี้มากๆด้วย หนังทำให้เรารู้สึกชอบเคทมากขึ้นเลยอ่ะ"
ความเห็นต่อปูเป้
อันนี้แฟนคลับหยิบมาแซวจากที่น้องให้สัมภาษณ์เมื่อวานเฉยๆ ว่า ในหนังเรื่องนี้สิคชอบปูเป้
"น้องมิว : พี่เต๋อหนูขอโทษนะ หนูไม่ได้มีฉากไหนในหนังที่ชอบเป็นพิเศษ แต่หนูชอบพี่เป้อ้ะ ฮาาาาาา
เลาก็ชอบพี่เป้ในหนังเหมือนคามิโอชิของเลาาา~ ใครยังไม่ได้ดู ไปดูเบย แล้วเธอจะกรี๊ดกร๊าดไปกับปู๊ปทรูฟอร์ม"
ความเห็นต่อน้องมิวสิค
แน่นอนว่าถ้าแฟนคลับน้องพูดถึงน้องมันก็ต้องให้กำลังใจสนับสนุนกันเต็มพิกัดอยู่แล้ว เราลองหยิบยกมาดูกันเป็นตัวอย่างดูสักหน่อย
1) ขอพูดถึงโอชิมิวๆ #MusicBnk48 หลังจากดู #GirlsDontCry คิดมากนานแล้วว่าน้องเป็นคนสองบุคลิก จากความเต็มที่บนเวทีที่ทำให้เราประทับใจในต้วน้องมากๆ กับเบื้องหลังความคิดความอ่านที่กำลังค่อยๆโตขึ้นจนแฟนคลับรับรู้ได้ เหมือนมีโลกนึงที่น้องสดใสมากๆ แต่ก็มีอีกมุมนึงที่น้องโลกส่วนตัวสูงมากๆ
2) ในรอยยิ้มพวกนั้นพี่ไม่รู้ว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ มันเป็นแหล่งพลังงานก็จริง แต่พระอาทิตย์ยังไงมันก็มีเวลาตกดิน จะให้ส่องแสงตลอดก็ไม่ใช่อะเนาะ แต่เวลาที่คุณพระอาทิตย์ขึ้น ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีจริงๆ เป็นความสดใสให้ทุกคน ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน
3) เป็นกำลังใจให้เสมอนะยัยหนู ท้อได้แต่ก็ต้องสู้นะ ถ้าเราล้มร้องไห้แต่ไม่มีใครได้ยิน เราก็ต้องยืนขึ้นมาด้วยตัวเองแม้ว่าจะยังเจ็บปวดอยู่ก็ตาม
4) ไปดูมาเเล้ว คืออย่างน้อยก็รู้เลยว่าน้องมีความตั้งใจที่จะมายืนในจุดนี้ ทำสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน ทำให้เห็นว่าน้องมันพยามในสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ เข้าใจนะขอบใจที่มาพูดเเล้วก็ได้รู้อะไรบางเรื่องที่เรายังไม่รู้ ทำดีเเล้ว ชอบความเสียงเเมนมาก นั่งดูหน้าม้าน้องเพลิน 555
5) ไม่ว่าจะอย่างไงก็จะสนับสนุนสิคต่อไปนะ เหล่าแฟนคลับ...จะเป็นเหมือนลมใต้ปีกคอยพยุงให้น้องบินไปให้ไกลที่เท่าจะทำได้ล่ะนะ สู้ๆ เพื่อเป็นตัวแทนความฝันของใครหลายๆคน
6) ทำอะไรแล้วหนูมีความสุข ทำให้เต็มที่นะ แต่ไม่ต้องฝืนตัวเองเพื่อใคร ยังไงก็ยังมีพวกเราคอยสนับสนุนอยู่เสมอ
7) Girls Don’t Cry ไม่มีอะไรต้องเสียใจเพราะเป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุดแล้ว (•̀ᴗ•́)و
8) สำหรับมิวสิก ดู voov ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยๆ พูดจาน่ารักสดใส จนถึงตอนดราม่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนน้องจะพูดใน voov น้อยลง แต่วันนี้โตขึ้นมากเลย ดูเป็นอีกคนที่เข้าใจระบบ 48G และมีความมุ่งมั่นมาก สุดท้ายชอบ part ที่พูดถึงเฌอ อบอุ่นมากสมกับคุณพระอาทิตย์
9) ไม่ว่ามิวจะเป็นยังไงในสายตาคนอื่น ไม่ว่ามิวจะท้อหรือเหนื่อยแค่ไหน พวกพี่ ป๊า ม๊า จะอยู่เคียงข้างมิวเสมอนะ ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม สัญญาด้วยใจเลย ^ ^
Girl Don't Cry อาจไม่ใช่หนังที่สุดจริงๆ อาจไม่ได้ดังหวังของใครหลายคน
แต่สิ่งที่หนังได้สื่อก็ได้แสดงความเห็นในมุมที่ต่างจากที่เราได้ดูจากสื่อต่างๆ บางทีการได้มองจากมุมที่แตกต่างบ้าง เราน่าจะได้เห็นอะไรมากขึ้นนะครับ
18 - 19 สิงหาคมนี้ เข้าเลนไปจับมือให้กำลังใจน้องๆกันครับ
สวัสดีครับ
Girl Don't Cry กับนานาความเห็นแฟนคลับ # Music BNK48 (มีสปอยล์บ้าง)
ส่วนมากก็จะเป็นรีวิวและเสียงวิจารณ์ต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีความเห็นเรื่อง แอร์ไทม์ของน้องบางคนน้อยและถามว่า ไม่รู้ว่าด้อมมิว โมจะคิดอย่างไร
????
เออ....ประเด็นนี้ก็น่าสนใจนะ เพราะคนบ้านสิคมักแสดงความเห็นในทวิตเตอร์แล้วรีทวีตกันไปมาอย่างเมามันส์
แต่คนที่ไม่ได้ตามทวิตเตอร์เลยก็จะไม่รู้ว่าคนบ้านมิวมีความคิดเห็นอย่างไรต่อหนังเรื่องนี้ ผมจึงลองรวบรวมและสรุปออกมา
ซึ่งมันก็มีสปอยล์หลายจุดอยู่ ดังนั้นใครยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ จะโดนสปอยล์เอาได้นะครับ
เรื่องแอร์ไทม์น้อย คนบ้านมิวคิดเห็นอย่างไร
จากที่ไล่ดูความเห็นต่างๆ มากกว่า 50 ความเห็น ผมเจออยู่ 1 ความเห็นเท่านั้น ที่บ่นเรื่องแอร์ไทม์น้อย ดูเหมือนบ้านมิวจะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนั้นเท่าไรนัก แต่มีความเห็นที่น่าสนใจจากแฟนคลับของน้องมิวสิคดังนี้ครับ
"ในฐานะแฟนคลับ #BNK48 เข้าใจพี่เต๋อว่าต้องเลือกปมเรื่องชูพ้อยท์ของหนัง เลยทำให้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเฌอและอันเดอร์ ส่วนกลุ่มกลางที่ติดเซ็มมาตลอดๆ เช่น ชราไลน์ บทน้อยไปเลย เชื่อว่าไม่สามารถยัดทุกอย่างใส่ใน 2 ชม. ได้หรอก เข้าใจ"
คนนี้แสดงความเห็นที่ค่อนข้างตรงกับความเห็นผมในเรื่องแอร์ไทม์ ผมมองว่า สมาชิกรุ่น 1 ทั้ง 26 คน ได้สัมภาษณ์คนละ 2 ชม. รวมเวลาทั้งสิ้นที่ผู้กำกับต้องนั่งฟังและจับประเด็นคือ 52 ชม. แต่ต้องนำเสนอในเวลา 1ชั่วโมง 50 นาที จึงต้องหยิบประเด็นที่น่าสนใจออกมาและมุ่งทำแต่เรื่องนั้น ทำให้บทสัมภาษณ์ใดๆที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไปด้วยกันไม่ได้กับโครงเรื่องก็จะถูกตีตกไปด้วย
เสียงวิจารณ์ต่อหนัง
ถ้าแบบวิจารณ์สับแหลกนี่ ผมแทบไม่เห็นจากบ้านมิวเลยนะ มีบ้างบางคนที่บอกว่า "มันไปไม่สุด" หรือ "หนังมันสั้นไปนะ นี่จบแล้วเหรอ?"
ที่ให้เป็นคะแนนไปเลย ก็น้อยจนผมจำไม่ได้ ความเห็นของแฟนคลับที่แท็กชื่อน้องต่อเนื้อเรื่องจะออกมากลางๆ เช่น
1) รู้สึกระหว่างทางที่ขับรถกลับ พอมีเพลงของ BNK48 ขึ้นมา เราไม่กดข้าม และตั้งใจฟังเพลงในทุกท่อนมากขึ้น เพราะเรารู้ว่าแม้จะเป็นท่อนเล็กๆเพียงท่อนเดียวในเพลง น้องแต่ละคนตั้งใจแค่ไหน จากนี้พี่จะเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคนนะ
2) หนังสนุกมากดูแล้วได้รู้อะไรกลับมาหลายอย่างเลย แถมยังร้องไห้อีก สาวๆน่ารักมากเจอกันตั้งแต่ก่อนเข้าโรงจนดูเสร็จเลย
3) #GirlsDontCry ขอบคุณที่ทำให้รู้จักเมมเบอร์มากขึ้น รู้เรื่องราวที่พวกเค้าเจอ ทัศนคติและการรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆของทุกคน เราใช้คำว่ารู้จักเพราะไม่กล้าใช้คำว่าเข้าใจ เราก็แค่รู้ชีวิตอีกส่วนนึงและอยากให้กำลังใจเค้าเหมือนเดิม มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ รู้สึกรักBNK48มากขึ้น รักทุกคนมากๆเลย
4) คือต้องบอกตามตรงเลยว่าดูหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้รักใครน้อยลงเลยนะ รักเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำกับความพยายามของน้องๆหลายคน เป็นกำลังใจให้นะคร้าบบบ (คนนี้โอชิปัญแต่แท็กน้องมิวสิคและคนอื่นๆด้วย)
5) เป็นหนังที่DarkMildนุ่มนวล/ความเป็นDocumentaryที่เต๋อเรียบเรียงความรู้สึกได้กลมเกลียวจนเรารู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในความรู้สึกของน้อง/ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเต๋อทำให้มีสติ/เหมือนเต๋อโยนหินลงน้ำแล้วปล่อยให้น้ำกระเพื่อม/ไม่ได้รู้จักใครมากกว่าแต่ตั้งใจฟังทุกคำของทุกคน
6) ดูหนังจบจะไม่ใช่แค่รักน้องๆเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความเข้าใจในตัวน้องๆมากขึ้น
7) หลังจากดูหนังจบกลับมานั่งคิด ว่าวันนี้เราทำอะไรเพื่อน้องแล้วรึยัง เราว่าเมื่อแฟนคลับดูหนังเรื่องนี้แล้ว เราจะเปลี่ยนมุมมองออกไป หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมที่เราเป็นอยู่จริงแต่เราไม่เคยยอมรับว่ามันมีอยู่จริง เราว่าเรารักวงนี้และเรารักน้องมากขึ้น
8) ในหนังเราชอบความสัมพันธ์ที่ดีที่มันเป็นของจริง ความใส่ใจกันของเมมเบอร์ มิวสิคกับเฌอปราง แก้วกับปัญ ปัญกับจิ๊บ จิ๊บกับมิวสิค
บางคนอาจจะรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่คำวิจารณ์มันเป็นคำชมเชยมากกว่า ต้องบอกว่ามันเป็นอย่างนั้นแหละครับ เพราะในทวิตเตอร์ บ้านมิวไม่ค่อยแสดงความเห็นเชิงลบกับใคร (เพื่อเลี่ยงดราม่าในแท็กน้อง) ยิ่งกับคนทีทำหนังเกี่ยวกับน้องแล้ว ยิ่งอยากจะให้กำลังใจเสียมากกว่า
การข้ามความเห็นความรู้สึกของคนที่ได้เป็นเซ็นเตอร์ในหนัง
เช่นเดียวกับเรื่องแอร์ไทม์ บ้านมิวไม่พูดถึงเลย ถ้าจากความเห็นส่วนตัว เมื่อได้ดูหนังแล้วผมเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้เป็นเวทีของน้องๆที่สื่อไม่ค่อยเข้าถึงนะ ส่วนเซนเตอร์นั้นประสบความสำเร็จและมักเข้าถึงสื่อได้มากกว่าคนอื่นๆ ทั้งมีบทสัมภาษณ์ส่วนตัว ทั้งการได้ออกงานต่างๆ ฯลฯ
ผู้กำกับจึงอยากนำเสนอในอีกมุมมองหนึ่งว่า "ถ้าเป็นเมมคนอื่นพูดถึงเซนเตอร์คนนั้นล่ะ มันจะออกมาอย่างไร?"
ความเห็นเกี่ยวกับเฌอปราง
ความเห็นที่กล่าวถึงน้องเฌอปรางมักไปเกี่ยวข้องกับโมเมนต์เฌอสิค ซึ่งคนที่ได้ดูหนังแล้วคงทราบว่าน้องมิวสิคกล่าวถึงเฌออย่างไร ในความเห็นเหล่านี้มีทั้งคนที่โอชิเฌอแล้วรู้สึกดีกับสิค รวมทั้งคนที่โอชิสิคและเห็นใจเฌอ เข้าใจดีว่าในฐานะกัปตัน ในฐานะคนที่ได้รับโอกาส เฌอต้องแบกความรู้สึกอย่างไร บางทีน้ำตาอาจไม่ใช่มาจากผู้ผิดหวังฝ่ายเดียว มันอาจจะมาจากความกดดันของคนที่ได้รับโอกาสและต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อคนที่ไม่ได้รับโอกาสนั้นๆด้วย
ซึ่งผมขอยกมาบางอัน และบอกก่อนว่า มีสปอยล์คำพูดของสิคอยู่ในความเห็นเหล่านี้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความเห็นเกี่ยวกับจิ๊บ
จิ๊บเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของมิวสิค กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน ซึ่งคนบ้านสิคก็เข้าใจถึงความรู้สึกของจิ๊บ และเมื่อจิ๊บพูดถึงมิวสิคก็ทำให้คนบ้านสิครักในสายสัมพันธ์ของมิวและจิ๊บยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
1) ชอบความสัมพันธ์ของมิวสิคกับจิ๊บจนถึงทุกวันนี้ ที่ไม่มีมีคำว่าชนชั้นมาแบ่ง
2) "คุณพระอาทิตย์" สำหรับน้องไม่ใช่แค่ "สดใส"แต่ยัง "อบอุ่น" อีกด้วย
-ไม่อยากตั้งชื่อเรียกด้อม เพราะอยากให้รักทุกคนเท่าเทียม
-เข้าแถวจับมือวนซ้ำก็ไล่ให้ไปจับมือแถวคนอื่น "ทำไมไม่ลองไปจับมือจิ๊บบ้างคะพี่" น้องรู้เสมอ ฟค.และเมมเบอร์ คือครอบครัวที่เป็นทุกอย่างของน้อง
3) ครั้งแรกที่ไปจับมือกับ #JibBNK48 ก็ซิง Shoniji เพราะเห็นว่าเลนน้องว่าง ซึ่งเราไม่ได้โอชิน้องเลย แต่พอได้ไปจับมือน้องเท่านั้นแหละ น้องน่ารักมาก คุยดีมาก หลังจากวันนั้นก็ติดตามน้องอีกคนรองจากมิวสิค แล้ววันนี้ได้มาดูหนัง ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าน้องมีว่ามีความตั้งใจและมีความทะเยอทะยานสูงมาก บอกตรงๆเลยว่ารู้สึกไม่ผิดหวังที่ได้โอชิจิ๊บ และก็ภูมิใจในตัวมิวสิคมาก ที่แคร์จิ๊บมากด้วยเช่นกัน รักเด็กสองคนจัง ขอบคุณ GirlDontCry ที่ทำให้เข้าใจความรู้สึกของสมาชิก bnk48 มากขึ้น ทุกอย่างมันไม่ได้สวยหรู มันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดไว้จริงๆ
4) ถ้ามองดีๆ จิ๊บคือความดีงามของหนังเรื่องนี้ ส่วนคนนี้รักเหมือนเดิม #MusicBNK48 ปล.อยากให้ติดเซ็มพร้อมกันสักรอบ
ความเห็นต่อเคท
เคทก็เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของน้องมิวสิค อย่างที่เคยแซวกันว่าเสี่ยสิคเคยส่งเครื่องบินให้น้องเคทใน VOOV ในหนังเคทมีความเห็นที่ตรงกับสิค ซึ่งก็มีความเห็นของแฟนคลับที่แท็กน้องมิวสิคพูดถึงเคทไว้ว่า
"BNK = BanNongKate ไม่ใช่แค่ฉายาหรือแค่คำที่ตั้งขึ้นมา แต่มันเป็นบ้านของน้องเคทจริงๆ และน้องเคทรักบ้านหลังนี้มากๆด้วย หนังทำให้เรารู้สึกชอบเคทมากขึ้นเลยอ่ะ"
ความเห็นต่อปูเป้
อันนี้แฟนคลับหยิบมาแซวจากที่น้องให้สัมภาษณ์เมื่อวานเฉยๆ ว่า ในหนังเรื่องนี้สิคชอบปูเป้
"น้องมิว : พี่เต๋อหนูขอโทษนะ หนูไม่ได้มีฉากไหนในหนังที่ชอบเป็นพิเศษ แต่หนูชอบพี่เป้อ้ะ ฮาาาาาา
เลาก็ชอบพี่เป้ในหนังเหมือนคามิโอชิของเลาาา~ ใครยังไม่ได้ดู ไปดูเบย แล้วเธอจะกรี๊ดกร๊าดไปกับปู๊ปทรูฟอร์ม"
ความเห็นต่อน้องมิวสิค
แน่นอนว่าถ้าแฟนคลับน้องพูดถึงน้องมันก็ต้องให้กำลังใจสนับสนุนกันเต็มพิกัดอยู่แล้ว เราลองหยิบยกมาดูกันเป็นตัวอย่างดูสักหน่อย
1) ขอพูดถึงโอชิมิวๆ #MusicBnk48 หลังจากดู #GirlsDontCry คิดมากนานแล้วว่าน้องเป็นคนสองบุคลิก จากความเต็มที่บนเวทีที่ทำให้เราประทับใจในต้วน้องมากๆ กับเบื้องหลังความคิดความอ่านที่กำลังค่อยๆโตขึ้นจนแฟนคลับรับรู้ได้ เหมือนมีโลกนึงที่น้องสดใสมากๆ แต่ก็มีอีกมุมนึงที่น้องโลกส่วนตัวสูงมากๆ
2) ในรอยยิ้มพวกนั้นพี่ไม่รู้ว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ มันเป็นแหล่งพลังงานก็จริง แต่พระอาทิตย์ยังไงมันก็มีเวลาตกดิน จะให้ส่องแสงตลอดก็ไม่ใช่อะเนาะ แต่เวลาที่คุณพระอาทิตย์ขึ้น ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีจริงๆ เป็นความสดใสให้ทุกคน ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน
3) เป็นกำลังใจให้เสมอนะยัยหนู ท้อได้แต่ก็ต้องสู้นะ ถ้าเราล้มร้องไห้แต่ไม่มีใครได้ยิน เราก็ต้องยืนขึ้นมาด้วยตัวเองแม้ว่าจะยังเจ็บปวดอยู่ก็ตาม
4) ไปดูมาเเล้ว คืออย่างน้อยก็รู้เลยว่าน้องมีความตั้งใจที่จะมายืนในจุดนี้ ทำสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน ทำให้เห็นว่าน้องมันพยามในสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ เข้าใจนะขอบใจที่มาพูดเเล้วก็ได้รู้อะไรบางเรื่องที่เรายังไม่รู้ ทำดีเเล้ว ชอบความเสียงเเมนมาก นั่งดูหน้าม้าน้องเพลิน 555
5) ไม่ว่าจะอย่างไงก็จะสนับสนุนสิคต่อไปนะ เหล่าแฟนคลับ...จะเป็นเหมือนลมใต้ปีกคอยพยุงให้น้องบินไปให้ไกลที่เท่าจะทำได้ล่ะนะ สู้ๆ เพื่อเป็นตัวแทนความฝันของใครหลายๆคน
6) ทำอะไรแล้วหนูมีความสุข ทำให้เต็มที่นะ แต่ไม่ต้องฝืนตัวเองเพื่อใคร ยังไงก็ยังมีพวกเราคอยสนับสนุนอยู่เสมอ
7) Girls Don’t Cry ไม่มีอะไรต้องเสียใจเพราะเป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุดแล้ว (•̀ᴗ•́)و
8) สำหรับมิวสิก ดู voov ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยๆ พูดจาน่ารักสดใส จนถึงตอนดราม่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนน้องจะพูดใน voov น้อยลง แต่วันนี้โตขึ้นมากเลย ดูเป็นอีกคนที่เข้าใจระบบ 48G และมีความมุ่งมั่นมาก สุดท้ายชอบ part ที่พูดถึงเฌอ อบอุ่นมากสมกับคุณพระอาทิตย์
9) ไม่ว่ามิวจะเป็นยังไงในสายตาคนอื่น ไม่ว่ามิวจะท้อหรือเหนื่อยแค่ไหน พวกพี่ ป๊า ม๊า จะอยู่เคียงข้างมิวเสมอนะ ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม สัญญาด้วยใจเลย ^ ^
Girl Don't Cry อาจไม่ใช่หนังที่สุดจริงๆ อาจไม่ได้ดังหวังของใครหลายคน
แต่สิ่งที่หนังได้สื่อก็ได้แสดงความเห็นในมุมที่ต่างจากที่เราได้ดูจากสื่อต่างๆ บางทีการได้มองจากมุมที่แตกต่างบ้าง เราน่าจะได้เห็นอะไรมากขึ้นนะครับ
18 - 19 สิงหาคมนี้ เข้าเลนไปจับมือให้กำลังใจน้องๆกันครับ
สวัสดีครับ