[CR] [Mr. Coffee รีวิว 6/2561] Girls don't Cry (ไม่สปอยล์)

#GirlsDontCry - สารคดีครบรส เต็มอารมณ์ ทำให้คนทั่วไปที่รู้จัก #BNK48 อย่างผิวเผินเช่นผม สามารถอินได้ตั้งแต่ต้นยันจบ แถมตอนจบรอบนี้ผมชอบมากกว่าหนังหลายๆเรื่องของ @ter_nawapol เสียด้วย เสียนิดเดียวที่ยาวไปหน่อยสำหรับความเป็นสารคดี ทำให้ยังชอบ The Master มากกว่านิดนึง


         สวัสดีครับ เมื่อวานนี้ ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยเรื่อง "Girls don’t Cry" ในรอบฉายจริงในวันที่หนังเข้าเป็นวันแรกที่โรงหนังใกล้บ้าน ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าทึ่งที่หนังสารคดีของ เต๋อ นวพล เข้าฉายที่โรงหน้าบ้านผมได้ทั้งๆที่ปกติต้องวิ่งไปดูที่ House RCA หรือโรงหนังขนาดใหญ่เท่านั้น

          "Girls don’t Cry" น่าจะเป็นหนังสารคดีที่เปิดตัวมาได้โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยมีมาในประเทศไทย ด้วยการที่ดูเหมือนจะนำเสนอข้อมูลเบื้องลึกแบบครบวง ของวงไอดอลชื่อดังล่าสุดแห่งยุค BNK48 ที่ปกติเรามักจะได้เห็นแต่มุมภายนอก มุมการแสดง ของสาวๆไอดอลในวงนี้เท่านั้น แต่เมื่อเราเริ่มเห็น เต๋อ นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์ ออกมาโปรโมทภาพที่ยืนอยู่เบื้องหลังสาวๆในวง ในหลายๆงาน และได้ทราบว่าเต๋อจะเป็นผู้ได้ทำสารคดี สำหรับคอหนังย่อมมีความคาดหวังที่จะได้เห็นสารคดีคุณภาพคับแก้ว ดั่งเช่นที่เคยได้ดูใน The Master ผลงานสารคดีเรื่องก่อนของเต๋อนั่นเอง (อ่านรีวิว The Master ได้ที่นี่ครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้)

          จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา เรียกเสียงฮือฮาได้มากพอสมควร เพราะดูเหมือนทำท่าจะไม่ไช่แค่ Girls don’t Cry ซะแล้ว คนดูนี่แหล่ะที่น่าจะต้องปลอบให้ don’t Cry ด้วย เพราะท่าทางเต๋อจะเล่นหนักกับความดราม่าแน่นอน รวมถึงทำท่าจะมีเรื่องราวลึกๆ เรื่องราวที่อาจจะลึกไปจนถึงความขัดแย้งภายในของ BNK48 ทั้งตัวไอดอลและทีมงานเสียด้วย แต่ถ้าเป็นแบบนั้นผมว่าเต๋อคงไม่ได้ฉายสารคดีเรื่องนี้เป็นแน่555

         สารคดีเรื่องนี้ผมขอที่จะพูดในประเด็นของตัวสารคดีเป็นหลักไว้ก่อนนะครับ เพราะหากพูดลงไปถึงประเด็นของ BNK48 ก็คงจะไม่แคล้วเป็นการสปอยล์หนังเป็นแน่

          รูปแบบของสารคดีนี้เรียกว่ามาแนวคล้ายที่เคยดูใน The Master มากเหมือนกัน ซึ่งสามารถเข้าใจได้เลยว่าเป็นเพราะเต๋อใช้วิธีสัมภาษณ์ไอดอลทั้งวงในประเด็นที่ตัวเองสนใจ ที่แต่เพิ่มไปกว่าครั้งก่อนตอน The Master อย่างชัดเจนก็เห็นจะเป็นในส่วนเรื่องของการที่มีฟุตเตจเบื้องหลังกิจกรรมของ BNK48 ตั้งแต่เริ่มต้นกันเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับเหล่าโอตะและสาวก มันมีค่าเป็นอย่างยิ่ง และถึงแม้กับคนภายนอกทั่วๆไป ก็เสริมสร้างให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ BNK48 ได้เป็นอย่างดี เปรียบเหมือนหลักสูตรเรียนลัดการเป็นโอตะที่เข้าใจไอดอลได้ใน 30 นาที

          แน่นอนว่าความเก่งกาจของ เต๋อ นวพล ได้แสดงออกมาตั้งแต่การตั้งคำถามเพื่อตะล่อมให้ไอดอลทั้งหลายเปิดใจ คุ้นเคย กล้าพูดกล้าตอบ ตามที่เต๋อวางแผนไว้ ทิศทางของสารคดีได้ถูกกำหนดจากถามแบบมีจุดมุ่งหมาย ถามนำ ชัดเจนเลยว่าเต๋อได้ทำการบ้านมาอย่างละเอียดมากกับคำถามที่จะถาม หลายคำถามมันก้าวล่วงไปถึงสิ่งที่จะทำให้เกิดความไม่พอใจระหว่างไอดอลด้วยกันหรือระหว่างไอดอลกับต้นสังกัดได้ด้วยซ้ำ แต่เต๋อก็ใช้วิธีการตัดต่อมาแก้ปัญหาได้เพื่อให้มันไม่ดูรุนแรง ดูเหมือนแม้กระทั่งกราฟหนัง กราฟอารมณ์ ก็ถูกเต๋อกำกับไว้ล่วงหน้าแล้วอย่างสมบูรณ์ เมื่อรวมเข้ากับการใช้สกอร์ช่วยเสริมในบางช่วง ช่วยเร่งเร้าอารมณ์ ช่วยดึงความดราม่า ทั้งหมดทำให้สารคดีออกมาอย่างลงตัวในระดับเกือบสมบูรณ์แบบ

          แต่ในคราวนี้ มีบางสิ่งที่เต๋อไม่สามารถควบคุมได้ คือจุดพีคของหนัง ที่มันไม่ได้อยู่ในจังหวะปกติทั่วไป ช่วงพีคที่ดูแล้วทำให้ตื้นตันและหัวใจพองโตนั้น มันมาเร็วและมาตาม step ที่แก้ไขปรับเปลี่ยนไม่ได้ ซึ่งย่อมทำให้ช่วงท้ายของหนังดูยืดยาวมากกว่าที่ควรจะเป็นไปบ้าง และทำให้มันดูยาวกว่าสารคดีทั่วไป ที่มักจะสั้นกว่าหนังเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นจุดด้อยที่ผมยอมรับและเข้าใจได้ว่าเต๋อทำดีที่สุดแล้ว อีกส่วนก็เห็นจะเป็นเทคนิกที่ผมเคยเห็นเต๋อใช้ใน The Master แต่มันหายไปในเรื่องนี้ คือการกำกับมุมภาพของการสัมภาษณ์ อันนี้แอบเสียดาย เพราะเชื่อว่าน่าจะเค้นอารมณ์ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่อย่างน้อย เต๋อก็มีทางจบแบบใหม่ ที่แปลกและแหวกแนว ผมชอบมากครับ มันไม่เหมือนอะไรที่เคยดูมาเลยจริงๆ

          สรุป - มาตรฐานของสารคดีไทยที่ถูกฉายในวงกว้าง ได้ถูก set ขึ้นมาใหม่ด้วยหนังเรื่องนี้ เป็นสารคดีที่ดูเพลิน มีครบทุกอารมณ์ เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากรู้จัก BNK48 มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนโอตะ ผมคงถามแค่ว่า จองตั๋วหรือยัง? ถ้ายังไม่ได้วางแผนว่าจะดูวันไหน ผมว่าคุณไม่ใช่โอตะแล้วล่ะ ส่วนคนที่ถามว่า คนนี้ออกเยอะไหม คือต้องเข้าใจว่า ออกมาก็มาเพื่อสัมภาษณ์ ส่วนออกเยอะน้อย นั้นก็ขึ้นกับตอนสัมภาษณ์นั่นแหล่ะครับว่า เต๋อสามารถเลือกเอามาใช้ได้มากน้อยแค่ไหน แถมที่ออกมาในงานภาพเบื้องหลังนั้นเป็นสไตล์ Handheld ของเต๋อ นวพล ที่เชื่อเถอะว่ามันไม่ได้สวยงามแบบในหนังปกติแน่นอน แต่ถ้าอยากดูความจริงของ BNK48 ก็จัดได้เลย แถมสุดท้าย เชื่อว่าทุกคนจะได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตไปไม่มากก็น้อยจากสารคดีเรื่องนี้ครับ

ความคาดหวังก่อนชม / หลังชม – คาดหวังสูงมาก / ดีกว่าที่หวังไว้

เกรดหนัง – เหนือชั้น

คะแนน  9/10

****รีวิว เกรดหนัง และคะแนน อยู่บนพื้นฐานของหนังไทยเท่านั้น ไม่นำหนังเทศมารวมแต่อย่างใด***

หมายเหตุ    ขอฝากข้อความบางอย่างถึงสาวๆในวง BNK48 หลังจากได้ดูสารคดีนี้นะครับ
         [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   Girls don’t Cry
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่