คือเอาจริงๆ เรื่องโกง เนี่ยะ นิยาม มันมีเยอะ..แค่ ฝากเพื่อนตอกบัตร ทำงาน แต่ตัวเองมาสายกว่า .ก็เรียกโกง แล้ว
ดังนั้นเรื่องโกง น้อยลง  ถ้าเอาตามทฤษฏี ต้องบอกว่า ไม่จริงครับ..

ถ้าคุณรับรุ้เรื่องการคดโกงของรัฐมากขึ้น มีเรื่องฉาวโฉ่ในระบบราชการมาก ..และสามารถตรวจสอบ ประท้วงการทำงาน
และสื่อสารมวลชน สามารถลากไส้ ออกมาให้ประชาชนทราบได้... นั้นแปลว่า .มีระบบการตรวจสอบที่ดี. ทั้งที่เรื่องนั้น จะจริงหรือไม่จริง
แต่มันเป้นการป้องปราม ที่ทำให้การ คดโกงในระบบราชการ ทำได้ยากขึ้น..

แต่ถ้าคุณไม่ได้รับรู้เรื่องการคดโกงในระบบราชการ.. ถ้าคุณไม่สามารถ สงสัย หรือ ตรวจสอบในระบบการทำงานที่ตนสงสัยได้ หรือแม้แต่สื่อ หรือ ภาคประชาชน ที่สงสัยและตรวจสอบ ต้องถูกจับกุมคุมขัง..  นั้นหมายถึง ระบบการตรวจสอบคอรัปชั่น มีปัญหา..!!!!  และนั่นเท่ากับมีการคอรัปชั่น มากขึ้นๆๆ

ส่วนเรื่องการโกง เงินสีเทา ผมแบ่งออกเป้นสองประเภทคือ  ผิดศีลธรรม ผิดกฏหมาย ขึ้นรุนแรง.. กับผิดกฏหมาย ประเภทเล็กๆน้อย ประเภท พรบ ความสะอาดหรือ จราจร..

ถ้าบอกว่า อาบอบนวดค้ากามลดลง.. นี่ ..คือ หมายถึง มีสถาน ค้าเหล่านี้ลดลง..หรือปริมาณเงินในระบบลดลง.. ถ้าเงินในระบบลดลง.นั้นอาจจะเกิดจากปัญหา เศรษฐกิจที่มากขึ้น จนทำให้ความสามารถในการจ่ายเงินเหล่านี้ลดลง.. ซึ่งแน่นอน.ผลมันจะไปปรากฏ กับ คดีข่มขืน กระทำชำเราที่มากขึ้น..ปัญหาการละเมิดทางเพศ ที่สูงขึ้น

ส่วนการรับส่วย ที่ลดลง อาจจะไม่ใช่.. ดีไม่ดี ผุ้ประกอบการ อาจจะต้องจ่ายหลายทางมากขึ้น ..จากข่าว ที่เคยได้อ่าน..

ยาเสพติด..ไม่ได้น้อยลง..สังเกตได้จากปัญหาที่เกิดคดีต่างๆ ล้วนมี ยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง.. นั้นหมายถึงการเข้าถึงยาเสพติดง่ายขึ้น
และพัฒนารุปแบบ เพื่อการเข้าถึงที่หลากหลายขึ้น..



แต่ปัจจัย สำคัญ ที่ทำให้ เศรษฐกิจดูแย่ ลง หลายนโยบาย มีส่วนทำให้.เงินสีเทา ที่ผิดกฏหมายเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกจัดระเบียบ (จริงๆดีนะครับ แต่ต้องมีแผนสำหรับ ผุ้ค้าที่ดีที่เหมาะสมด้วย ไม่ใช่ลอยแพ)  ทำให้ การเข้าถึง แหล่งรายได้ ของผุ้ค้า จำนวนไม่น้อย..ต้องเกิดปัญหา
ทำให้การจับจ่าย..ค้าขาย ลำบากมากขึ้น..การเข้าถึงแหล่งทุน หรือรายได้ของ.คนตัวเล็กตัวน้อย ยากขึ้น

ในขณะเดียวกัน..ทุนใหญ่ สามารถ เจาะช่องกำแพงใยแมงมุม ให้เข้าถึงแหล่งรายได้ ได้ง่ายขึ้น..

ดังนั้นเศรษฐกิจ จึงแบ่งแยก เป้น สองวรรณะ .. คือ ถ้าก้าวพ้น ในระดับ  ฐานราก ..จนไตไปสู่ฐานบน ได้.. ภาวะเศรษฐกิจของคุณจะเป้นไปตาม จีดีพี โดยเฉลี่ย..คือสามารถเกาะกลุ่ม ทำรายได้ ไปได้ด้วย

แต่ถ้า คุณเป้น ผุ้ที่เกี่ยวข้องหรือแม้แต่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ คนฐานราก ที่ยังก้าวไม่พ้น. เส้นความยากจน.. คุณมีปัญหาด้านธุรกิจแน่นอน เพราะคนกลุ่มนี้ ไม่ได้อานิสงค์ใดใด จาก ตัวเลข จีดีพี ที่สุงขึ้น.. รวมถึง ปัญหา ที่หมักหมม ยังส่งผลในด้านลบ ..ทั้งจาก นโยบายในปัจจุบัน และปัญหาดั้งเดิม ที่ยังแก้ไม่ได้ ด้วย..

ดังนั้น เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ กำลังประสพปัญหาค่อนข้างรุนแรง และเรื้อรัง.. คนกลุ่มใหญ่ มากๆของประเทศที่ไม่มีปากมีเสียง เรียกร้องอะไรไม่ได้ ณ. เวลานี้.. สถานการณ์ค่อนข้างแย่..

แต่ คนฐานบน ที่ มีสิทธิ์ มีเสียงเรียกร้อง ได้เต็มที่.. กำลัง ระเริง กับความสามารถในการก่อหนี้. เพราะมั่นใจในความสามารถในการหาเงินของตนเอง ในขณะที่ มันเป้นช่วงขาขึ้น ของกลุ่มตน

ดังนั้น ปัญหาของคนกลุ่มใหญ่ ที่เรื้อรัง ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข ..ในอนาคต มันจะลามไปสุ่ปัญหาใหญ่ๆ ในหลายๆด้าน