บทความโดยเพจ: Billionaire Mindset - แนวคิดพันล้าน
#ใครเป็นเจ้าของJASPAL!? #เชื่อว่าคุณต้องเคยผ่านตาสินค้าของJASPALมาแล้วแน่นอน
เพราะ JASPAL ไม่ได้มีเพียงแบรนด์เสื้อผ้านี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังประกอบไปด้วยแบรนด์อื่นๆ รวมถึง 11 ตัว
ได้แก่ CPS CHAPS, CC DOUBLE O, LYN, LYN AROUND, MISTY MYNX, Royal Ivy Regatta, Jelly Bunny, Jelly Dream, V Eyewear และ QUINN
คุณรู้จักหนึ่งในแบรนด์เหล่านี้รึเปล่า และกว่าจะมาเป็นบริษัทยอดขายเกือบหมื่นล้านแบบทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เราจะไปย้อนอดีตกันสักเล็กน้อยครับ...
เปิดประวัติ JASPAL จากธุรกิจขายเสื้อผ้าในยุคเริ่มแรก
- ปี พ.ศ.2490 คุณยัสปาล ซิงค์ หนุ่มชาวอินเดียที่มาก่อตั้งชีวิตใหม่ในประเทศไทย ได้เปิดร้านขายเสื้อผ้า "ยัสปาล สโตร์" ในย่านพาหุรัด
- หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2515 ยัสปาลเริ่มประสบความสำเร็จจากการนำเข้าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่นจากต่างประเทศ มาขายในเมืองไทย
- ปี พ.ศ.2523 คุณวิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ทายาทรุ่นที่ 2 เล็งเห็นว่าทางยัสปาล ควรผลิตเสื้อผ้าเองควบคู่ไปด้วย
- บริษัทยัสปาล จึงนำเข้าเครื่องจักรมาเพื่อผลิตเสื้อผ้าจำหน่ายเอง คู่กับการนำเข้าเสื้อผ้าจากต่างประเทศมาขายซึ่งเป็นธุรกิจหลัก
จุดเปลี่ยนและวิกฤติของยัสปาล
- ปี พ.ศ.2540 ช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ธุรกิจนำเข้าต่างได้รับผลกระทบจากการลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าแพงขึ้นเกือบ 2 เท่า
- ในขณะนั้นยัสปาลมีธุรกิจหลักคือการนำเข้าสินค้าแบรนด์นอก อาทิเช่น Paul Smith หรือ Max Mara ถ้ายังนำเข้าแต่แบรนด์นอกต่อไป จะมีต้นทุนสูงมาก
ประกอบกับช่วงนั้นคนไม่ค่อยมีกำลังจับจ่าย ถ้าฝืนทำแบบเดิมต่อไป หนีไม่พ้นจะต้องขาดทุนจนถึงขั้นเลิกกิจการแน่ๆ!!
- ทายาทรุ่นที่ 3 คุณวิเศษ สิงห์สัจจเทศ เล็งเห็นว่าบริษัทสามารถผลิตเสื้อผ้าเองได้ และมีร้านค้าเป็นช่องทางการขายอยู่แล้ว น่าจะลองสร้างแบรนด์ของตนเอง
- ยัสปาลตัดสินใจปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ
JASPAL ในยุคเกิดใหม่ใหม่
- ภายหลังปี พ.ศ.2540 บริษัทยัสปาลยุคใหม่ คือการสร้างแบรนด์ของตัวเองให้แข็งแกร่ง ตั้งแต่แบรนด์ JASPAL เป็นแฟชั่นเครื่องแต่งกายในตลาดกลางถึงพรีเมียม
- หลังจากนั้นแบรนด์ลูกก็ทยอยเกิดขึ้นมา จนปัจจุบันมีทั้งสิ้นกว่า 11 แบรนด์
- มีสาขาช่องทางจำหน่ายมากกว่า 350 ร้านทั่วประเทศไทย
- กลยุทธ์หนึ่งของทางยัสปาล คือการตั้งช็อปต่างๆ ไว้ใกล้เคียงกัน เราจึงมักจะเห็นแบรนด์ต่างๆ ของบริษัทนี้ตั้งเรียงรายในส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้าใหญ่อยู่เสมอ
แบรนด์ JASPAL ขายดีแค่ไหน!?
จากรายได้ของบริษัท ยัสปาล จำกัด ปี 2560 ทำรายได้ 8,310 ล้านบาท กำไร 577 ล้านบาท
ผู้บริหารให้สัมภาษณ์ว่ารายได้ของ JASPAL มีประมาณ 20% ของทั้งกิจการ
เพราะฉะนั้นเราคำนวณคร่าวๆ ก็จะทราบว่า JASPAL ขายได้ปีละ 1,660 ล้านบาท
ยังไม่รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในเครือบริษัทยัสปาล ทั้งธุรกิจเครื่องนอน และของใช้ในบ้าน รายได้ปีละ 1,800 ล้านรวมถึงอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ
กลุ่มบริษัทนี้จึงทำรายได้รวมถึงปีละกว่า 10,000 ล้านบาท!!
นี่คือ 3 เคล็ดลับทำให้แบรนด์ดูดีและดึงดูด
หลายคนอาจจะเข้าใจว่า JASPAL คือแบรนด์ต่างชาติ เพราะภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรามีระดับ ที่บริษัทสามารถสร้างขึ้นมได้อย่างดี
1. ทั้งการตกแต่งร้านค้าให้ดูสวยงามทันสมัย ทำให้คนระดับกลางรู้สึกอยากจะสัมผัส ทำให้คนระดับพรีเมียมรู้สึกดีที่จะซื้อ
2. ร่วมมือกับดีไซน์เนอร์ระดับโลก ในการออกคอลเลคชั่นใหม่ เพื่อเอาใจลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
3. ว่าจ้างดาราเซเลบทั้งไทยและต่างชาติ ที่หลายคนรู้จักดี ทั้งเซเลบระดับท็อปอย่าง "พลอย เฌอมาลย์" และ "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" หรือแบรนด์ CPS CHAPS ที่ใช้ Adam Levine เป็นพรีเซ็นเตอร์เมื่อปีก่อน
ศึกษาบริษัทยัสปาล ให้ข้อคิดอะไรกับเรา!?
JASPAL รู้ว่าตำแหน่งแบรนด์ของตัวเองอยู่ตรงไหน ลูกค้าคือกลุ่มไหน และต้องนำเสนออะไรให้ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
ขณะเดียวกันแบรนด์ลูกที่มีนับสิบแบรนด์ ก็คอยตอบสนองลูกค้าในกลุ่มอื่นๆ ที่แตกต่างกัน จนสามารถตอบโจทย์ของคนได้หลายระดับ
วันนี้คุณรู้หรือยังว่าธุรกิจของคุณขายให้ใคร ลูกค้าคุณต้องการอะไร!? แล้วอนาคตพวกเขาจะต้องการอะไรมากกว่านี้!?
รวมถึงคุณสามารถทำอะไรเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาได้อีก!?
ตอบคำถามพวกนี้ให้ได้ แล้วรับรองว่าธุรกิจของคุณจะไปได้สวยอย่างแน่นอน...
----------------------------------------------------------------------
สามารถติดตามอ่านความรู้ในด้านการลงทุน การตลาด ธุรกิจ และข่าวสารต่างๆ ได้ที่แฟนเพจ: Billionaire Mindset - แนวคิดพันล้าน
ที่มา:
https://www.facebook.com/ABillionaireMindset/
แหล่งข้อมูล:
www.thansettakij.com/content/285728
matichon.co.th/lifestyle/news_920982
unlockmen.com/adspark-why-cps-chaps-choose-adam-levine-as-presenter
https://brandinside.asia/lyn-expand-inter-market
http://datawarehouse.dbd.go.th/
กรณีศึกษา JASPAL ทำอย่างไร ให้เป็นแบรนด์ไทยยอดขาย 9,000 ล้าน!! by... แนวคิดพันล้าน
#ใครเป็นเจ้าของJASPAL!? #เชื่อว่าคุณต้องเคยผ่านตาสินค้าของJASPALมาแล้วแน่นอน
เพราะ JASPAL ไม่ได้มีเพียงแบรนด์เสื้อผ้านี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังประกอบไปด้วยแบรนด์อื่นๆ รวมถึง 11 ตัว
ได้แก่ CPS CHAPS, CC DOUBLE O, LYN, LYN AROUND, MISTY MYNX, Royal Ivy Regatta, Jelly Bunny, Jelly Dream, V Eyewear และ QUINN
คุณรู้จักหนึ่งในแบรนด์เหล่านี้รึเปล่า และกว่าจะมาเป็นบริษัทยอดขายเกือบหมื่นล้านแบบทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เราจะไปย้อนอดีตกันสักเล็กน้อยครับ...
เปิดประวัติ JASPAL จากธุรกิจขายเสื้อผ้าในยุคเริ่มแรก
- ปี พ.ศ.2490 คุณยัสปาล ซิงค์ หนุ่มชาวอินเดียที่มาก่อตั้งชีวิตใหม่ในประเทศไทย ได้เปิดร้านขายเสื้อผ้า "ยัสปาล สโตร์" ในย่านพาหุรัด
- หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2515 ยัสปาลเริ่มประสบความสำเร็จจากการนำเข้าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่นจากต่างประเทศ มาขายในเมืองไทย
- ปี พ.ศ.2523 คุณวิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ทายาทรุ่นที่ 2 เล็งเห็นว่าทางยัสปาล ควรผลิตเสื้อผ้าเองควบคู่ไปด้วย
- บริษัทยัสปาล จึงนำเข้าเครื่องจักรมาเพื่อผลิตเสื้อผ้าจำหน่ายเอง คู่กับการนำเข้าเสื้อผ้าจากต่างประเทศมาขายซึ่งเป็นธุรกิจหลัก
จุดเปลี่ยนและวิกฤติของยัสปาล
- ปี พ.ศ.2540 ช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ธุรกิจนำเข้าต่างได้รับผลกระทบจากการลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าแพงขึ้นเกือบ 2 เท่า
- ในขณะนั้นยัสปาลมีธุรกิจหลักคือการนำเข้าสินค้าแบรนด์นอก อาทิเช่น Paul Smith หรือ Max Mara ถ้ายังนำเข้าแต่แบรนด์นอกต่อไป จะมีต้นทุนสูงมาก
ประกอบกับช่วงนั้นคนไม่ค่อยมีกำลังจับจ่าย ถ้าฝืนทำแบบเดิมต่อไป หนีไม่พ้นจะต้องขาดทุนจนถึงขั้นเลิกกิจการแน่ๆ!!
- ทายาทรุ่นที่ 3 คุณวิเศษ สิงห์สัจจเทศ เล็งเห็นว่าบริษัทสามารถผลิตเสื้อผ้าเองได้ และมีร้านค้าเป็นช่องทางการขายอยู่แล้ว น่าจะลองสร้างแบรนด์ของตนเอง
- ยัสปาลตัดสินใจปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ
JASPAL ในยุคเกิดใหม่ใหม่
- ภายหลังปี พ.ศ.2540 บริษัทยัสปาลยุคใหม่ คือการสร้างแบรนด์ของตัวเองให้แข็งแกร่ง ตั้งแต่แบรนด์ JASPAL เป็นแฟชั่นเครื่องแต่งกายในตลาดกลางถึงพรีเมียม
- หลังจากนั้นแบรนด์ลูกก็ทยอยเกิดขึ้นมา จนปัจจุบันมีทั้งสิ้นกว่า 11 แบรนด์
- มีสาขาช่องทางจำหน่ายมากกว่า 350 ร้านทั่วประเทศไทย
- กลยุทธ์หนึ่งของทางยัสปาล คือการตั้งช็อปต่างๆ ไว้ใกล้เคียงกัน เราจึงมักจะเห็นแบรนด์ต่างๆ ของบริษัทนี้ตั้งเรียงรายในส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้าใหญ่อยู่เสมอ
แบรนด์ JASPAL ขายดีแค่ไหน!?
จากรายได้ของบริษัท ยัสปาล จำกัด ปี 2560 ทำรายได้ 8,310 ล้านบาท กำไร 577 ล้านบาท
ผู้บริหารให้สัมภาษณ์ว่ารายได้ของ JASPAL มีประมาณ 20% ของทั้งกิจการ
เพราะฉะนั้นเราคำนวณคร่าวๆ ก็จะทราบว่า JASPAL ขายได้ปีละ 1,660 ล้านบาท
ยังไม่รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในเครือบริษัทยัสปาล ทั้งธุรกิจเครื่องนอน และของใช้ในบ้าน รายได้ปีละ 1,800 ล้านรวมถึงอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ
กลุ่มบริษัทนี้จึงทำรายได้รวมถึงปีละกว่า 10,000 ล้านบาท!!
นี่คือ 3 เคล็ดลับทำให้แบรนด์ดูดีและดึงดูด
หลายคนอาจจะเข้าใจว่า JASPAL คือแบรนด์ต่างชาติ เพราะภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรามีระดับ ที่บริษัทสามารถสร้างขึ้นมได้อย่างดี
1. ทั้งการตกแต่งร้านค้าให้ดูสวยงามทันสมัย ทำให้คนระดับกลางรู้สึกอยากจะสัมผัส ทำให้คนระดับพรีเมียมรู้สึกดีที่จะซื้อ
2. ร่วมมือกับดีไซน์เนอร์ระดับโลก ในการออกคอลเลคชั่นใหม่ เพื่อเอาใจลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
3. ว่าจ้างดาราเซเลบทั้งไทยและต่างชาติ ที่หลายคนรู้จักดี ทั้งเซเลบระดับท็อปอย่าง "พลอย เฌอมาลย์" และ "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" หรือแบรนด์ CPS CHAPS ที่ใช้ Adam Levine เป็นพรีเซ็นเตอร์เมื่อปีก่อน
ศึกษาบริษัทยัสปาล ให้ข้อคิดอะไรกับเรา!?
JASPAL รู้ว่าตำแหน่งแบรนด์ของตัวเองอยู่ตรงไหน ลูกค้าคือกลุ่มไหน และต้องนำเสนออะไรให้ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
ขณะเดียวกันแบรนด์ลูกที่มีนับสิบแบรนด์ ก็คอยตอบสนองลูกค้าในกลุ่มอื่นๆ ที่แตกต่างกัน จนสามารถตอบโจทย์ของคนได้หลายระดับ
วันนี้คุณรู้หรือยังว่าธุรกิจของคุณขายให้ใคร ลูกค้าคุณต้องการอะไร!? แล้วอนาคตพวกเขาจะต้องการอะไรมากกว่านี้!?
รวมถึงคุณสามารถทำอะไรเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาได้อีก!?
ตอบคำถามพวกนี้ให้ได้ แล้วรับรองว่าธุรกิจของคุณจะไปได้สวยอย่างแน่นอน...
----------------------------------------------------------------------
สามารถติดตามอ่านความรู้ในด้านการลงทุน การตลาด ธุรกิจ และข่าวสารต่างๆ ได้ที่แฟนเพจ: Billionaire Mindset - แนวคิดพันล้าน
ที่มา:
https://www.facebook.com/ABillionaireMindset/
แหล่งข้อมูล:
www.thansettakij.com/content/285728
matichon.co.th/lifestyle/news_920982
unlockmen.com/adspark-why-cps-chaps-choose-adam-levine-as-presenter
https://brandinside.asia/lyn-expand-inter-market
http://datawarehouse.dbd.go.th/