สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิววิธีกำจัดขนด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ทำได้ที่บ้านด้วยเครื่องกำจัดขนถาวร HPL ของแบรนด์ Silk’n ให้ฟังกันจ้า
เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา งั้นเรามาเริ่มกันเล้ยย..
อันดับแรกเปิดกล่องมา ก็จะเจอกับอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ค่า
ตัวเครื่องเป็นสีขาว เรียบหรูดูดีฝุดๆ ขนาดกะทัดรัดจับถนัดมือ มาพร้อมกระเป๋าเก็บสีเทาเงินๆอย่างดี เอาไว้เผื่อพกพาเวลาเดินทาง ถือว่าสะดวกไปอีกค่า
ที่สำคัญยังมีหัวปลั๊กหลากหลายแบบสำหรับการใช้งานที่ต่างประเทศให้ด้วยแหละเธอออ
การรับประกันเครื่องจะอยู่ที่ 1 ปี นะคะ ซึ่งพนักงานขายบอกเราว่าบริษัทจะสามารถเช็กได้จากเลข Serial Number บนกล่อง หรือที่ตัวเครื่องค่ะ
จากนั้นเราก็มาดูคุณสมบัติต่างๆ ของเครื่องกำจัดขน Silk’n Infinity กันค่ะ
ปุ่มสีขาวมุมซ้ายบน คือ ปุ่ม Power ใช้ในการเปิดครื่อง และปรับระดับพลังงาน ซึ่งจะมีอยู่ 5 ระดับ โดยเราสามารถเลือกระดับที่เหมาะสมกับผิวเราได้จากแถบวัดสีผิวข้างกล่องค่ะ
จุดเด่นของแบรนด์ Silk’n ก็คือ เป็นการกำจัดขนด้วยแสง HPL ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำกว่า ซึ่งมันจะไม่เจ็บ แถมเวลาใช้ก็ไม่ต้องประคบเย็น หรือทาเจลที่ผิวก่อนยิงด้วยนะ เริดมากจริงๆๆ
คุณสมบัติพิเศษของรุ่น Infinity คือสามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ Silk’n ซึ่งต่างจากเครื่อง ทั่วๆ ไปจะไม่สามารถใช้กับสีผิวเข้มๆ ได้ เพราะจะทำให้ผิวไหม้
ดูอุปกรณ์ในกล่องครบแล้ว คราวนี้ก็มาถึงวิธีใช้งานกันบ้างงงง
เริ่มแรกทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อย เช็ดให้แห้ง แล้วโกนขนก่อนจ้า
เหตุผลที่ต้องโกน
เพื่อให้แสง HPL ลงไปจับตัวกับรากขนได้ ห้ามถอนหรือแว็กนะจ๊ะ เพราะจะทำให้รากขนหลุดออก แสงมันจะลงไปจับไม่ได้เนอะ แต่ถ้าใช้ไปประมาณครั้งที่ 4 ขนมันจะไม่ค่อยขึ้นแล้ว แบบนี้ก็สามารถยิงได้เลย ไม่ต้องโกนก่อนจ้า
ต่อมาถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว เราจะมาเริ่มยิงๆๆ กำจัดเจ้าขนพวกนี้ออกไป วิธียิง คือ
1. เสียบปลั๊ก
2. กดปุ่ม Power ได้เลย จากนั้นเราก็ได้ยินเสียงเครื่องแสดงว่าพร้อมใช้งานแล้วค่ะ วางหัวยิงให้แนบสนิทกับผิว ถ้าแนบไม่สนิทจะยิงไม่ออกนะคะ จากนั้นกดปุ่มสีขาวตรงกลางตัวเครื่อง เลือกระดับพลังงานที่เหมาะกับสีผิวแล้วยิงได้เลยยยย อาจจะเริ่มจากระดับที่ 1 ได้ค่ะ
แล้วก็ปรับมาใช้เป็นระดับที่ 4 ค่ะ เพราะเทียบจากแถบสีข้างกล่อง สีผิวเราเค้าเเนะนำประมาณนี้จ้า แต่เครื่องนี้เค้ามีระบบเซฟตี้ด้วยนะ ถ้าสมมุติเราไม่เเน่ใจว่าควรใช้ระดับไหน เเล้วเราเลือกระดับเกินกว่าที่ผิวเรารับได้ เครื่องจะยิงไม่ออก ล้ำเว่อร์ๆๆๆ ดีงาม
หลายคนอาจสงสัย เอ๊ะ ยิงแบบนี้
ไม่ต้องใส่แว่นตากันแสงหรออ ขอบอกว่า ไม่ต้องจ้า เพราะเครื่องกำจัดขนของ Silk’n เค้าปลอดภัยสุดๆ
มีระบบป้องกันยิงแสงกลางอากาศ จึงสามารถยิงได้โดยไม่ต้องสวมแว่นตา
อีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษของรุ่นนี้ ก็คือ
พลังงานกัลวานิก ซึ่งเท่าที่เราหาข้อมูลมามี
แบรนด์นี้แค่แบรนด์เดียวที่มี
โดยพลังงานกัลวานิกจะช่วยเปิดรูขุมขนชั่วคราวให้
แสงลงลึกถึงรากขนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้
เส้นขนฝ่อเร็วขึ้น
หลังจากยิงที่แขนทั่วแล้ว เราก็จะมายิงที่หน้ากันต่อ เช็ดตรงหัวยิงให้สะอาด แล้วยิงได้เลย ถ้ายิงที่หน้าไม่ต้องโกนก่อนนะ
จะบอกว่ารุ่นนี้มีระบบยิงเร็วด้วยนะ ถ้ายิงทั้งตัวเนี่ยเค้าบอกว่าจะใช้เวลาอยู่ที่ 20-30 นาทีเท่านั้นเองงงง
พอใช้เสร็จ เราลองมาดูอีกหนึ่งฟังก์ชั่นของเครื่องนี้กันบ้างค่ะ ซึ่งก็คือ การเช็กจำนวนช็อตที่ใช้ไปและช็อตที่เหลือผ่านบลูทูธ โดยต้องดาวน์โหลดแอพ Silk’n Hair Removal เข้ามาในมือถือก่อนนะ
กดเข้ามาหน้าตาก็จะเป็นประมาณนี้ ใส่อีเมล์ของเราลงทะเบียนให้เรียบร้อย อย่าลืมเปิดบลูทูธในมือถือด้วยนะคะ จากนั้นมันก็จะขึ้นให้จับคู่บลูทูธของเรากับเครื่อง Silk’n Infinity ค่ะ
เชื่อมต่อแล้วหน้าตาก็จะเป็นประมาณนี้ มีบอกจำนวนว่าเราใช้ไปเท่าไรแล้ว และจำนวนช็อตที่เหลือ อีกทั้งในแอพยังสามารถตั้งเตือนการใช้งานครั้งต่อไปให้เราได้อีกด้วย สะดวกมากๆ เลยค่ะ
โอเคค่ะ ก่อนจะจบการรีวิวครั้งนี้ เราก็จะมาสรุปกันนิดนึงเนอะ ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เราอยากแนะนำ เครื่องกำจัดขนด้วยแสง HPL Silk’n Infinity
1. เป็นการกำจัดขนด้วยแสง HPL
ข้อดี -
ไม่เจ็บ
- ยิงได้เลย โดยไม่ต้องทาเจลเย็น ประคบเย็นก่อนใช้
2. จำนวนชอตเยอะม้ากกกกก ตั้ง 400,000 ชอต ไม่รู้กี่ปีถึงจะใช้หมด 555
3. เป็นแบรนด์เดียวเท่านั้น ที่มี
พลังงานกัลวานิก แบรนด์อื่นไม่มี
4. มีระบบยิงเร็ว ยิงทั่วตัวประมาณ 20-30 นาที
5. หัวยิงมีขนาดเล็ก สามารถ
ยิงบนใบหน้าได้
6.
ผิวเข้มมากก็ใช้ได้
7. เครื่องขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก เท่าที่เราเห็นคือแบรนด์อื่นมันค่อนข้างใหญ่ ดูเทอะทะ และน้ำหนักเยอะ
8. ราคาเข้าถึงได้ อันนี้สำคัญ! ได้ทั้งผิวเนียน ทั้งความคุ้มค่า ซื้อเครื่องนี้เครื่องเดียว ยังมีตังค์เหลือไปช้อปปิ้งได้อีก ฟินเว่อร์
สุดท้ายนี้เราก็ขอจบการรีวิวของเราไว้เท่านี้ก่อนนะคะ หวังว่ารีวิวของเราคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากใครมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมอะไร สามารถคอมเม้นท์มาถามกันได้เลยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า
[CR] รีวิว กำจัดขนด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้าน ด้วยเครื่องกำจัดขน HPL Silk’n Infinity
เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา งั้นเรามาเริ่มกันเล้ยย..
อันดับแรกเปิดกล่องมา ก็จะเจอกับอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ค่า
ตัวเครื่องเป็นสีขาว เรียบหรูดูดีฝุดๆ ขนาดกะทัดรัดจับถนัดมือ มาพร้อมกระเป๋าเก็บสีเทาเงินๆอย่างดี เอาไว้เผื่อพกพาเวลาเดินทาง ถือว่าสะดวกไปอีกค่า
ที่สำคัญยังมีหัวปลั๊กหลากหลายแบบสำหรับการใช้งานที่ต่างประเทศให้ด้วยแหละเธอออ
การรับประกันเครื่องจะอยู่ที่ 1 ปี นะคะ ซึ่งพนักงานขายบอกเราว่าบริษัทจะสามารถเช็กได้จากเลข Serial Number บนกล่อง หรือที่ตัวเครื่องค่ะ
จากนั้นเราก็มาดูคุณสมบัติต่างๆ ของเครื่องกำจัดขน Silk’n Infinity กันค่ะ
ปุ่มสีขาวมุมซ้ายบน คือ ปุ่ม Power ใช้ในการเปิดครื่อง และปรับระดับพลังงาน ซึ่งจะมีอยู่ 5 ระดับ โดยเราสามารถเลือกระดับที่เหมาะสมกับผิวเราได้จากแถบวัดสีผิวข้างกล่องค่ะ
จุดเด่นของแบรนด์ Silk’n ก็คือ เป็นการกำจัดขนด้วยแสง HPL ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำกว่า ซึ่งมันจะไม่เจ็บ แถมเวลาใช้ก็ไม่ต้องประคบเย็น หรือทาเจลที่ผิวก่อนยิงด้วยนะ เริดมากจริงๆๆ
คุณสมบัติพิเศษของรุ่น Infinity คือสามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ Silk’n ซึ่งต่างจากเครื่อง ทั่วๆ ไปจะไม่สามารถใช้กับสีผิวเข้มๆ ได้ เพราะจะทำให้ผิวไหม้
ดูอุปกรณ์ในกล่องครบแล้ว คราวนี้ก็มาถึงวิธีใช้งานกันบ้างงงง
เริ่มแรกทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อย เช็ดให้แห้ง แล้วโกนขนก่อนจ้า
เหตุผลที่ต้องโกนเพื่อให้แสง HPL ลงไปจับตัวกับรากขนได้ ห้ามถอนหรือแว็กนะจ๊ะ เพราะจะทำให้รากขนหลุดออก แสงมันจะลงไปจับไม่ได้เนอะ แต่ถ้าใช้ไปประมาณครั้งที่ 4 ขนมันจะไม่ค่อยขึ้นแล้ว แบบนี้ก็สามารถยิงได้เลย ไม่ต้องโกนก่อนจ้า
ต่อมาถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว เราจะมาเริ่มยิงๆๆ กำจัดเจ้าขนพวกนี้ออกไป วิธียิง คือ
1. เสียบปลั๊ก
2. กดปุ่ม Power ได้เลย จากนั้นเราก็ได้ยินเสียงเครื่องแสดงว่าพร้อมใช้งานแล้วค่ะ วางหัวยิงให้แนบสนิทกับผิว ถ้าแนบไม่สนิทจะยิงไม่ออกนะคะ จากนั้นกดปุ่มสีขาวตรงกลางตัวเครื่อง เลือกระดับพลังงานที่เหมาะกับสีผิวแล้วยิงได้เลยยยย อาจจะเริ่มจากระดับที่ 1 ได้ค่ะ
แล้วก็ปรับมาใช้เป็นระดับที่ 4 ค่ะ เพราะเทียบจากแถบสีข้างกล่อง สีผิวเราเค้าเเนะนำประมาณนี้จ้า แต่เครื่องนี้เค้ามีระบบเซฟตี้ด้วยนะ ถ้าสมมุติเราไม่เเน่ใจว่าควรใช้ระดับไหน เเล้วเราเลือกระดับเกินกว่าที่ผิวเรารับได้ เครื่องจะยิงไม่ออก ล้ำเว่อร์ๆๆๆ ดีงาม
หลายคนอาจสงสัย เอ๊ะ ยิงแบบนี้ไม่ต้องใส่แว่นตากันแสงหรออ ขอบอกว่า ไม่ต้องจ้า เพราะเครื่องกำจัดขนของ Silk’n เค้าปลอดภัยสุดๆ มีระบบป้องกันยิงแสงกลางอากาศ จึงสามารถยิงได้โดยไม่ต้องสวมแว่นตา
อีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษของรุ่นนี้ ก็คือ พลังงานกัลวานิก ซึ่งเท่าที่เราหาข้อมูลมามีแบรนด์นี้แค่แบรนด์เดียวที่มี
โดยพลังงานกัลวานิกจะช่วยเปิดรูขุมขนชั่วคราวให้แสงลงลึกถึงรากขนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เส้นขนฝ่อเร็วขึ้น
หลังจากยิงที่แขนทั่วแล้ว เราก็จะมายิงที่หน้ากันต่อ เช็ดตรงหัวยิงให้สะอาด แล้วยิงได้เลย ถ้ายิงที่หน้าไม่ต้องโกนก่อนนะ
จะบอกว่ารุ่นนี้มีระบบยิงเร็วด้วยนะ ถ้ายิงทั้งตัวเนี่ยเค้าบอกว่าจะใช้เวลาอยู่ที่ 20-30 นาทีเท่านั้นเองงงง
พอใช้เสร็จ เราลองมาดูอีกหนึ่งฟังก์ชั่นของเครื่องนี้กันบ้างค่ะ ซึ่งก็คือ การเช็กจำนวนช็อตที่ใช้ไปและช็อตที่เหลือผ่านบลูทูธ โดยต้องดาวน์โหลดแอพ Silk’n Hair Removal เข้ามาในมือถือก่อนนะ
กดเข้ามาหน้าตาก็จะเป็นประมาณนี้ ใส่อีเมล์ของเราลงทะเบียนให้เรียบร้อย อย่าลืมเปิดบลูทูธในมือถือด้วยนะคะ จากนั้นมันก็จะขึ้นให้จับคู่บลูทูธของเรากับเครื่อง Silk’n Infinity ค่ะ
เชื่อมต่อแล้วหน้าตาก็จะเป็นประมาณนี้ มีบอกจำนวนว่าเราใช้ไปเท่าไรแล้ว และจำนวนช็อตที่เหลือ อีกทั้งในแอพยังสามารถตั้งเตือนการใช้งานครั้งต่อไปให้เราได้อีกด้วย สะดวกมากๆ เลยค่ะ
โอเคค่ะ ก่อนจะจบการรีวิวครั้งนี้ เราก็จะมาสรุปกันนิดนึงเนอะ ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เราอยากแนะนำ เครื่องกำจัดขนด้วยแสง HPL Silk’n Infinity
1. เป็นการกำจัดขนด้วยแสง HPL
ข้อดี - ไม่เจ็บ
- ยิงได้เลย โดยไม่ต้องทาเจลเย็น ประคบเย็นก่อนใช้
2. จำนวนชอตเยอะม้ากกกกก ตั้ง 400,000 ชอต ไม่รู้กี่ปีถึงจะใช้หมด 555
3. เป็นแบรนด์เดียวเท่านั้น ที่มี พลังงานกัลวานิก แบรนด์อื่นไม่มี
4. มีระบบยิงเร็ว ยิงทั่วตัวประมาณ 20-30 นาที
5. หัวยิงมีขนาดเล็ก สามารถยิงบนใบหน้าได้
6. ผิวเข้มมากก็ใช้ได้
7. เครื่องขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก เท่าที่เราเห็นคือแบรนด์อื่นมันค่อนข้างใหญ่ ดูเทอะทะ และน้ำหนักเยอะ
8. ราคาเข้าถึงได้ อันนี้สำคัญ! ได้ทั้งผิวเนียน ทั้งความคุ้มค่า ซื้อเครื่องนี้เครื่องเดียว ยังมีตังค์เหลือไปช้อปปิ้งได้อีก ฟินเว่อร์
สุดท้ายนี้เราก็ขอจบการรีวิวของเราไว้เท่านี้ก่อนนะคะ หวังว่ารีวิวของเราคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากใครมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมอะไร สามารถคอมเม้นท์มาถามกันได้เลยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้