ตลาดญี่ปุ่น ตลาดจีน ตลาดเมกาอะไรสำคัญกับไอดอลเคป๊อปสุด

ใหญ่พอกันแล้วตลาดไหนสำคัญกับเคปอบสุด
ตลาดเมกาก็ BTSดังฟีเว่อมากคนทั่วไปรู้จักแน่

ตลาดญี่ปุ่นก็ดงบัง และBIGBANGแน่นอน

ตลาดจีนก็ EXOแม่จีนรักมากทุ่มเงินหนัก แฟนนด้อมใหญ่มาก

ไม่ได้ถามเรื่องวง แค่ยกตัวอย่างวงมา แต่ถามเรื่องตลาดไหนใหญ่สุดหรือสำคัญสุดกับ k-pop
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
คำถามคือ ตลาดเพลงประเทศไหนสำคัญสำหรับ K-pop มากที่สุด

ตลาดญี่ปุ่นสำคัญในแง่  royalty และ การเปย์ของแฟนด้อม ไม่ว่าจะวงเล็กวงใหญ่ ถ้าได้แฟนญี่ปุ่นมา ก็หากินได้ยาวๆ ศลป. เดท ก็ไม่ค่อยเทให้เห็นยังคงซัพพอตต่อ อย่าลืม ญี่ปุ่นคือ ตลาดเพลงที่ใหญ่ที่สุดอัดับ 2 รองจากอเมริกา

ตลาดจีน สำคัญในแง่ ปริมาณ ด้วยจำนวนประชากรที่เยอะมาก order ก็จะเยอะเป็นเงาตามจำนวนแฟนคลับ และปัจจุบันคนจีนเปย์หนัก แต่ก็เทแรง อย่าทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ ไม่งั้นอดได้เงิน

ตลาดอเมริกา คือ สำคัญในแง่การถูกยอมรับระดับโลก ตลาดเพลงอันดับ 1 ของโลก เจาะที่นี่ได้ก็เปิดโลก ไม่ได้จำกัดแค่เอเชีย หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกก็ยังคงฟังเพลงอ้างอิงเพลงในชาร์ตบิลบอร์ดเหมือนเดิม

เราว่าแต่ละ บ. คงอยากกินกำไรระยะยาว ญี่ปุ่นน่าจะเป็น piority แรกในตลาด ตปท. ส่วนตลาดจีน คือ ทำกำไรระยะสั้น - ยาว คือเปิดวงมาเพื่อโกยๆ หลังจากนั้นถ้าไม่มีปัญหาในวงก็กินยาวๆ ตลาดอเมริกาเราว่าคงมองเป็น ส่วนแถม ตีได้ก็ดี ตีไม่ได้ไม่เป็นไรเพราะยังมีแฟน K-pop เฉพาะกลุ่มอยู่ ถ้าจะ public ได้อันนั้นคือ กำไร

แถม...
ตลาดไทย สำคัญในแง่ ทาสในเรือนเบี้ย มีวงไหนชอบหมด ขายได้หมด โดยเฉพาะ Big 3 เหมือนต้องชดใช้กรรม ตกหลุมวนไปซ้ำๆ หาทางขึ้นไม่ได้ ดังนั้น ทิ้งไทยไม่ได้ ได้เงินน้อยแต่ขายได้เรื่อยๆ
ความคิดเห็นที่ 12
เราเห็นคำถามแนวนี้ถูกตั้งบ่อยมาก ใน Pantip เลยขอพูดต่อยอด หน่อยละกัน

อันนี้พูดถึงภาพรวมนะคะ ไม่เจาะถึงไอดอลเคป็อปวงใดวงหนึ่ง แล้วพูดถึงระยะยาวมากกว่าระยะสั้น ไม่เน้นเกิรลกรุ๊ปด้วยเพราะว่าเน้นระยะยาว 10 ปีอัพ เพราะถ้าระยะสั้น อันไหนก็ได้หมด ขอให้ดังจริงสักตลาดก็พอแล้ว ถ้าดังจริงจะอะไรก็สำคัญหมดไม่ว่าตลาดไหน อีกอย่างถ้าตอบระยะสั้นก็เห็นกันอยู่ว่าวงไหนทำได้ดีในตลาดไหน เดี๋ยวมันจะกลายเป็นบลัฟกันไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม

อยากได้ชื่อเสียงดัง ถูกพูดถึงบ่อยๆ ก็อเมริกา อิมแพคด้วยความที่เป็นตลาดอันดับ 1 ของโลก เพราะคนส่วนใหญ่ยึดตะวันตกก่อน สื่อกระแสหลัก จะกระจุกตัวที่นี่เพราะค่านิยมว่าฝรั่ง is the best ยังใช้ได้ดีเสมอ แต่เรื่องรสนิยมการเสพด้านดนตรีเขาก็คงชอบอะไรแบบนี้จริง อย่างบังทันนี่ก็ว่าเขาชอบจริงจังนะ คงถูกจริตในบ้านเขาอยู่
โอเคยยุคนี้ฝรั่ง อาจจะสนใจเอเชียมากขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลที่ทำให้เขาจะไม่สนใจ  ช่วงหลังถ้าจะสังเกตเขาไม่ได้สนใจแค่ไอดอลนะ หรือ kpop แต่สนใจอะไรที่เกี่ยวกับตลาดตะวันออกทั้งหมด รวมไปถึงเครื่องสำอาง  และอื่นๆอีกมากมาย เพราะเขารู้ว่าตลาดนี้มีกำลังซื้อเยอะ ซึ่งก็เห็นกันอยู่กับที่ลอรีอัล เทคโอเวอร์  stylenanda  แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี แต่โด่งดังสุดๆ ในจีน หรือจ้างพรีเซนเตอรคนเกาหลีที่ดังในจีนอย่างอินนิสฟรี  

หรือมาจับทำคุชชั่น ทั้งที่ความจริงแล้วพวกแบรนด์ฝรั่ง เขาไม่ได้ชอบงานผิวฉ่ำโกลว์ เน้นรองพื้นแมตต์ซะส่วนใหญ่  แต่เพราะมันขายได้ อันนี้ยกตัวอย่างเอาไว้เห็นภาพใกล้ๆตัว  เอเชียอย่างเรา ๆ ยุค 4.0 มี Power มากกว่าที่คิดนะ  ระดับที่ทำให้ฝรั่งเขาต้องสนใจ

ญี่ปุ่น เน้นโลยัลตี้แบบยาวๆ  เหมาะกับสายเพลง ดนตรี ประเทศนี้ยาวจริงๆ ลองไปดูเอาก็ได้ว่าศิลปินยุค 90 ของฝรั่ง รายไหนที่กลับมาทำมาหากินได้ก็มีแค่ที่นี่ที่เดียวที่ยอมรับอยู่ในรูปแบบบอยแบนด์ บอยแบนด์ฝรั่งตอนนี้เหลือที่ไหน หายเรียบ หายจริงจัง ที่มีชื่อเสียงอยู่ตอนนี้ก็เด็กรุ่นใหม่ที่เกิดช่วงปลายปี 2000 เกือบทั้งนั้น นอกนั้นคือระดับอาร์ติส ดีว่า แต่ทุกคนก็ไปทัวร์เอเชียบ้านเรา สเกลเล็กแต่ก็ขายได้เรื่อยๆ เมื่อก่อนไม่เห็นพวก Southeast อย่างเราอยู่ในแผนที่หรอกมั้ง ส่วนญี่ปุ่นนี่ไฟลท์บังคับต้องไปอยู่แล้ว เห็นประจำ

ถ้าช่วงปี 2000  ปลายๆ  เราก็คงเลือกตลาดญี่ปุ่น อย่างเดียวแต่ตอนนี้มันอัดแน่นด้วย Kpop ทุกพื้นที่

ตลาดจีน คนอาจจะเห็นว่าไม่สำคัญ ตลาดนี้ดีมากนะ แต่ต้องเป็นคนจีนหรือมีเชื้อสายจีนแล้วจะไปได้ดี หลังๆ พวกฝรั่งพยายามเจาะเข้าไปเยอะ แต่เขาไปในแง่ตลาดเทคโนโลยี ดิจิทัล สตาร์ทอัพ ก่อน ส่วนวงการบันเทิงคงอีกไม่นานแต่มีข้อแม้ว่าคนจีนต้องร่วมลงทุนด้วย   นักลงทุนฝรั่งรู้กันดีว่า ตลาดนี้ซับซ้อนที่สุดไม่เชื่อถามมารค ซัคเกอร์เบิร์คหรือซีอีโอตะวันตกอื่นๆ ได้  ขนาดทำตัวหัดเรียนภาษาจีนแล้วยังไม่ค่อยจะรอดเลย  ภรรรยาคนจีนของเขาพามารคไปแนะนำพูดคุยกับนักธุรกิจของจีน    อินไชนีสสุดๆ แล้ว แต่ดันโดนพี่จีนเชือดเข้าไปทำตลาดจริงจังไม่ได้ซะก่อน โดนบล็อคไปตั้งแต่ปี 2009

ต่อไปตลาดนี้ภาพรวมจะโตสุดเพราะเศรษฐกิจพุ่งเอา แล้วจะดันภาคอื่นโตด้วย แต่ก็การแข่งขันสูงมากแล้วไปสายนักแสดงจะรุ่งกว่า Mission impossible ภาคล่าสุดนี่ บริษัทจีนของแจ๊คหม่าซื้อไปแล้วนะ แล้วเขาจะขยายด้านเอนเตอร์เตอรเทนเม้นต์จริงจัง ผ่านแพลตฟอร์มที่มีในเครือของเขา  รายได้แค่วีคเดียวแทบจะเยอะกว่ากำไรในตลาดอเมริกาเหนือที่ฉายนานกว่า   อีกหน่อยก็คงเข้ามาจับอะไรทำในพวกไอดอลอีก ใช้เงินต่อเงินซื้อไปเรื่อยๆ
จีนเห็นเหมือนจะง่ายแต่เป็นตลาดที่ยากสุด ถ้ารัฐบาลเขาคิดจะขวาง ยากในแง่นี้ ซึ่งก็หินสุดทุกอย่างเขามีโซเชียลในมือหมด ทวิตเตอร์ เฟซบุค เขาไม่ใช้หรอก เขามีโซเชียลในรูปแบบตัวเอง

ถ้าเคป็อป เน้นความมีชื่อเสียง เป็นกระแส ไม่สนกระแสยาวหรือสั้น อเมริกาดีสุด อาจจะมีไม่กี่วงที่ทำได้ แต่คิดว่าเคป็อปจากค่ายต่างๆ เริ่มเข้าไปทำตลาดบ้างแล้ว  ฝั่งอเมริกาเองก็สนใจตลาดเอเชียเยอะขึ้นเพราะพวกนี้จ่ายหนัก ไม่ใช่แค่ไอดอลอย่างเดียว พวกแบรนด์เนมด้วย พวกนี้ยอดตกมาสักพักแล้วฝั่งยุโรป หลายแบรนด์ยอมลดความไฮโซเกรดตัวเองลงเยอะ ตั้งแต่มีคนจีน พวกเอเชียบุกเข้าไปถล่ม ยุคนี้ต้องปรับตัวค่ะ ไม่งั้นตายหมด ฝรั่งน่ะเขาจับได้รู้ว่าชาวเอเชียชอบอะไร ยิ่งทรัมป์ขึ้นมาเขาก็รู้สึกว่าประเทศ/เศรษฐกิจตัวเองไม่น่าอยู่เข้าไปใหญ่  

เดี๋ยวเอามาให้ไอดอล/คนดังใส่ ก็มีคนซื้อตามเอง โดยเพราะชาวเอเชีย ชอบอะไรที่มาจากตะวันตก โพลอะไรก็โหวตสนุกสนานแถมไวต่อกระแสโซเชี่ยลทุกรูปแบบ ทำรีแอคชั่นอะไรออกมา คนก็นิยมเข้าไปดู สร้างมูลค่าให้ตัวเองได้ไม่ยากเมือเทียบกับฝรั่งด้วยกัน

ถ้ายาว ด้านเพลงคือญี่ปุ่น แต่ส่วนแบ่งเยอะเกินไป มีเคป็อปมาตีตลาดเยอะ เศรษฐกิจตกต่ำลง เริ่มนโยบายส่งออกมากขึ้นเมื่อเทียบกับสมัยก่อน cool japan มายังไงก็นั่นแหละ  แล้วทำไมเจลีค  ถึงซื้อตัวนักเตะต่างชาติ โดยเฉพาะทางแถบเซาธ์อีสท์เพิ่มขึ้นก็ใช่เหมือนกัน  ส่วนเอาพวกฝรั่งมาเล่นเรื่องปกติของเขาอยู่แล้ว  จะสื่อว่าญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้อยู่ตามลำพังไม่ได้ง้อใครเหมือนเมื่อก่อนอีก แล้วมันไม่ได้จำกัดแค่เจป๊อปด้วยไง  

จีนด้านนักแสดง แต่ต้องเป็นเคป็อปที่มีคนจีนอยู่ด้วย  เงินหนา เงินถึง ไม่มีตลาดไหนจะรวยไปกว่าจีนอีกแล้ว ตลาดนี้ง้อคนน้อยสุด มีแต่คนอื่นต้องเข้ามาหากินแต่ดันติดที่รัฐบาลที่รักษาผลประโยชน์ให้ประเทศเขาอย่างดีเยี่ยม

ถ้าเป็นค่ายแล้วเลือกได้ คงอยากให้ปังในระดับอินเตอร์เพราะถูกพูดถึงเยอะ ต่อยอดได้ไกลเพราะมีคำว่าตะวันตกมาการันตี   แต่ถ้าออกจากกรมแล้วตลาดตะวันตกไม่เหมาะ   2 ปีที่หายไป นี่ว่ามีปัญหาแน่ๆ  แค่จะน้อยหรือมาก ฝรั่ง ไลฟ์สไตล์เขาไม่เหมือนเอเชีย เขายึดติดในระดับนึง คือมากกว่าสมัยก่อนแล้วล่ะ แต่ไม่เคยเห็นไอดอลในแบบบอยกรุ๊ปจะอยู่ในตลาดตะวันตกได้ยาวนาน เพราะเน้นขายเดี่ยวมากกว่าในระยะยาวแถมตอนนี้มีคู่แข่งมาแชร์ส่วนแบ่งเพิ่มกว่าสมัย 10 ปีก่อนมาก  แต่ถ้าเป็นไอดอลสายนักแสดงเชื้อสายจีนที่อยู่ในบริษัทเกาหลี ยังไงก็ขอตลาดจีน ได้แน่ๆ คืองานอีเว้นต์กับงานโฆษณาขึ้นกับพาร์ทเนอร์ที่บริษัทเกาหลีไปจับด้วยว่าแข็งเบอร์ไหน  ถ้าอาลีบาบา หรือสามยักษ์ใหญ่บริษัทจีนนี่ไม่ต้องห่วงมาก หรือจะเปิดสตูดิโอตัวเอง รับทรัพย์หารเปอร์เซ็นกับต้นสังกัดยังไงก็ได้เยอะอยู่ดี

สรุป ไอดอลแค่วงเดียวจะทำทั้ง 3 ตลาดแล้วไปได้สวยหมดในระยะยาวไม่ไหวหรอก  ถ้าจะเอาสั้นๆ ก็เอาสักตลาดที่ทำแล้วดังจริงเพราะอายุวงมันมีจำกัด 10 ปีนี่ก็จะลดลงตามวัฐจักรแล้ว เพราะทำมาทุกทางทุกคอนเซปต์ รีแบรนด์ใหม่ๆ ยากต้องแข่งกับคู่แข่งที่แต่ละค่ายพยายามขายซึ่งเขาจะเอาอะไรมาขายที่มันใหม่กว่า สดกว่า มีลูกเล่นจัดกว่า เพราะอาชีพในวงการบันเทิงอายุการทำงานเบื้องหน้ามันไม่ยาวมาก

ยุคนี้ต้องทำแบบระบบ Ecosystem น่ะ ส่วนใหญ่เคป็อปเลยเลือกจบที่ตลาดญี่ปุ่นกัน แบบเขาทำก็ทำต่อๆ กันมาเป็นธรรมเนียม แต่ถ้าค่ายไหนมีศักยภาพหน่อย ควรหาตลาดอื่นเพิ่มนอกจากญี่ปุ่นได้แล้ว  เรียกว่าตอนนี้มันเต็มจนล้น เคป็อปเดบิวมาส่งออกญี่ปุ่นหมดมันเลยเป็นสูตรสำเร็จแต่ก็นั่นล่ะ มันยังไปไหนไม่ได้มากก็ส่งมาที่นี่ต่อไป สิบปีก่อนอาจมาแค่ 10 วง ปัจจุบันก็คงมากกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า วนจัดกันไปฮอลล์ อารีน่า โดม สเตเดี้ยม

แต่ค่ายส่วนใหญ่ก็คงไม่คิดจะไปตลาดตะวันตกเต็มตัวอาจจะใช้ Social Media หรือ Partner ที่อยู่ต่างๆเข้าช่วยแทน  เพราะชั่งน้ำหนักแล้วผลได้ผลเสียมันก็ เสียค่าใช้จ่ายเยอะอยู่   แผนระยะยาวพวกนี้ต้องคิดอยู่แล้ว พวกที่มีหลายวงในค่ายจะไม่ทุ่มกับแค่วงใดวงหนึ่ง กับตลาดใดตลาดหนึ่ง จนหมดหน้าตักแน่นอน  มันเสี่ยงพอสมควร   ถ้าเป็นสมัยบุกเบิก มีวงน้อยๆก็พอไหว แบบไปบุกตลาดญี่ปุ่นสมัยโน่นน่ะ รอคนเปิดแล้วค่อยหาช่องทางไปจะสะดวกกว่า

ถ้าตีตลาดใหญ่ไม่ได้ก็จับตลาดเล็กๆ รายย่อยมาผสมรวมกันก็พอไหว นอกเหนือจากจีนแล้ว Southeast ก็น่าสนใจ จริงๆ นักลงทุนส่วนใหญ่ช่วงหลังสนใจตลาดนี้สุดเพราะมีอะไรเล่นเยอะ  ค่าใช้จ่ายน้อย ลงทุนน้อยกว่า ผลตอบแทนอาจจะไม่มากเท่า แต่เสี่ยงน้อยกว่า   การเมืองยังไม่เข้มข้นและไม่ถูกจับจ้องจากตะวันตกเท่าจีน

เช่น  อินโดนิเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ล่าสุดมีพม่าด้วย คือตลาดไทยไม่ต่างกับญี่ปุ่น ที่เคป็อปยังขายได้ที่นี่ เป็นที่นิยม ขายไปเรื่อยๆ วงเก่าไปใหม่มา แต่โลยัลตี้ไม่หนักเท่าญี่ปุ่นเท่านั้นเอง  ส่วนตลาดที่เหลือยังมีโอกาสเข้าไปลงทุนอยู่เพราะยังไม่ได้อิ่มตัวจัด เริ่มก่อนก็ได้กินเค้กก้อนใหญ่กว่า คอนเนคชั่นวงกว้างกว่า สุดท้ายได้มาร์เก็ตแชร์จนกินเงินได้มากกว่า

ยุคนี้จะไม่มีตลาดไหนที่ดีที่สุด แต่จะเป็นการผสมผสม มากกว่า เพราะไอดอลเกาหลีแต่ละคนก็ไม่ได้ถูกจริต ไปทุกประเทศ  บางคนขายได้ตลาดหนึ่งแต่บางคนขายได้อีกตลาด เพราะสุดท้ายส่วนใหญ่ยังไงก้อต้องแยกกันทำงานเดี่ยวมากกว่ากลุ่มอยู่ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่