สวัสดีครับ มาถึงห้องสุดท้ายในคอนโดแล้วครับ ห้องครัวเป็นห้องที่จุกจิกที่สุดแล้ว เพราะอุปกรณ์ทำครัวมันเยอะ ตั้งใจค่อยๆแต่งไปเรื่อยๆเพราะปกติก็ซื้ออาหารนอกบ้านกินอยู่แล้วจึงไม่รีบใช้ห้องนี้มากนัก
อันนี้ขอเริ่มจากภาพก่อน หลังก่อนนะครับ
อันนี้เป็นตอนที่เสร็จแล้ว
อาจจะดูรกๆไปนิดนึงนะครับ แต่เอาจริงๆ ห้องครัวในชีวิตจริงก็เป็นแบบนั้นแหละ
เนื่องจากมันมีของจุกจิกเต็มไปหมด ขอเล่าไว้เป็นอย่างๆแล้วกันนะครับ
อย่างแรกๆที่ผมซื้อมาก่อนคือตู้เย็น ไมโครเวฟ กับเครื่องกรองน้ำ ตู้เย็นนี่ผมใช้ยี่ห้อ beko เพราะราคาถูก และดีไซน์สวยมาก เท่าที่ลองหารีวิวแล้วหลายคนที่ใช้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมซื้อมาจากงาน powerbuy ที่เมืองทองราคาประมาณ 7-8 พันบาท
เครื่องกรองน้ำผมเลือกใช้ของคลีนซุย เนื่องจากอยู่คนเดียวและไม่ค่อยได้อยู่ห้องเท่าไร ผมชอบของยี่ห้อนี้เพราะช่วยนับอายุการใช้งานให้ บวกกับมีมาตรฐานรับรอบที่ชัดเจน ส่วนตัวเครื่องกรองน้ำไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก สำคัญคือรูฟิลเตอร์ละเอียดพอที่จะกรองสิ่งสกปรกได้หรือเปล่าก็พอแล้ว ในไทยราคาประมาณ 6 พันบาท แต่พอดีผมบินผ่านญี่ปุ่นบ่อยๆ ที่โน่นราคาพร้อมไส้กรอง 3 อันแค่ 3 พันบาทเองจึงซื้อมา (ไส้กรองอันนึงอยู่ได้ประมาณ ปีครึ่ง)
จานผมซื้อมาจากร้าน จ.จาน ใช้ดี แถวสายสอง อยู่แถวๆที่ทำงานน้องพอดี เป็นร้านที่เอาของมีตำหนิจากโรงงานมาปล่อยราคาถูกมาก จานใบนึงประมาณ 10 - 20 บาท เรียกว่าเครื่องเซรามิคทั้งหมดในรูปผมแค่ประมาณ 700 บาทเอง แค่ต้องเลือกดีๆหน่อย
ต่อมาเรื่องของตกแต่ง
กระเบื้องผมสั่ง shipping มาจากจีนครับ กด google translate พิมพ์คำว่ากระเบื้อง แปลเป็นภาษาจีน หาในเวป taobao แล้วจ้างบริษัท shipping ตีลังมาไทยประมาณ 3000 บาท ที่ทำแบบนี้เพราะหาแบบที่ถูกใจในไทยไม่ได้ ผมแค่อยากได้แบบเรียบๆ ด้านๆ อะครับ
กลั้นใจรอเดือนนึงเค้าก็พาข้ามน้ำข้ามทะเลมาส่ง
ส่วนปูนยาแนวและกาวใช้ของไทย ซึ่งวิธีการทำง่ายกว่าที่คิดไว้มาก เดี๋ยวนี้มีขายกาวกระเบื้องโมเสกที่ผสมเสร็จหมดแล้ว แค่เปิดฝาก็ทาได้เลย
อันนี้ผมนั่งแปะไปกับแม่สองคน
จากนั้นก็ลงยาแนว ตอนลงใช้เกรียงปาดเข้าไปให้ยาแนวเข้าไปในร่องกระเบื้องแล้วเช็ดส่วนเกินออกครับ
ติดปัญหานิดหน่อย เพราะไม่รู้จะจบมุมอย่างไรดี ถ้าจะตัดแล้วต่อกันให้สวยๆต้องเจียแบบ 45 องศา ซึ่งเท่าที่ลองมันทำยากมากกกกกก
พอดีว่าเหลือเศษไม้โอ๊คตั้งแต่ตอนที่ทำโต๊ะ เลยเอามาทำเป็นชั้นวางของ (กะไว้วางเกลือ น้ำตาล พริกไทย)
แล้ว finish ด้วย oil เพราะจะดูเป็นธรรมชาติ ไม้ๆ ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป และสีเข้มขึ้นเข้ากับไม้ลามิเนตของชุดครัวที่แถมมากับคอนโดครับ
จากนั้นยึดชั้นวางของอิเกียเข้าไป ผมเลือกที่จะยึดกับชั้นไม้อัดที่แถมมากับคอนโด แทนที่จะเจาะกับกำแพง เพราะกลัวไปโดนท่อน้ำ และตั้งใจว่าจะแขวนของไม่หนักอยู่แล้ว จึงคิดว่าน่าจะพอรับน้ำหนักไว้อยู่
ต่อมาอยากได้โต๊ะไม้พับได้ เนื่องจากวิวห้องครัวสวยกว่าห้องนั่งเล่นครับ -*- จึงอยากกินข้าวแล้วดูวิวเมืองไปด้วยในตัว ตัวโต๊ะไม้ผมสั่งมาจากจีนเหมือนกันเนื่องจากของอิเกียไม่มีไซส์ที่อยากได้และราคาบวกค่าคนส่งแค่ 500 บาท
แต่พอมาถึงพบว่ามันจีนจริงๆ ไม้เป็นไม้สน ไม่ได้ลง เคลือบผิวไว้ให้ด้วย และต้องมาเจาะรูกะระยะขันสกรูเอง
ผมเอาโพลียูริเทนที่เหลือจากตอนทำโต๊ะมานั่งทาอยู่สองสามรอบ
จากนั้นก็ขันสกรูยึดให้ได้ตามแบบ
เจาะรูเข้ากับกำแพงก็ได้ประมาณนี้
เป็นไงบ้างครับ จบละครับ หวังว่าจะเป็นไอเดียให้คนที่กำลังแต่งคอนโดนะครับ ทำเองก็สนุกดีครับ ไม่ต้องวุ่นวายกับช่าง แล้วก็ใช้เวลาว่างกับเพื่อนและคนในครอบครัว (ถ้าเค้าไม่เบื่อเราซะก่อน 555)
เล่าประสบการณ์แต่งคอนโด แบบทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ตอนที่ 4 - ห้องครัว
อันนี้ขอเริ่มจากภาพก่อน หลังก่อนนะครับ
อันนี้เป็นตอนที่เสร็จแล้ว
อาจจะดูรกๆไปนิดนึงนะครับ แต่เอาจริงๆ ห้องครัวในชีวิตจริงก็เป็นแบบนั้นแหละ
เนื่องจากมันมีของจุกจิกเต็มไปหมด ขอเล่าไว้เป็นอย่างๆแล้วกันนะครับ
อย่างแรกๆที่ผมซื้อมาก่อนคือตู้เย็น ไมโครเวฟ กับเครื่องกรองน้ำ ตู้เย็นนี่ผมใช้ยี่ห้อ beko เพราะราคาถูก และดีไซน์สวยมาก เท่าที่ลองหารีวิวแล้วหลายคนที่ใช้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมซื้อมาจากงาน powerbuy ที่เมืองทองราคาประมาณ 7-8 พันบาท
เครื่องกรองน้ำผมเลือกใช้ของคลีนซุย เนื่องจากอยู่คนเดียวและไม่ค่อยได้อยู่ห้องเท่าไร ผมชอบของยี่ห้อนี้เพราะช่วยนับอายุการใช้งานให้ บวกกับมีมาตรฐานรับรอบที่ชัดเจน ส่วนตัวเครื่องกรองน้ำไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก สำคัญคือรูฟิลเตอร์ละเอียดพอที่จะกรองสิ่งสกปรกได้หรือเปล่าก็พอแล้ว ในไทยราคาประมาณ 6 พันบาท แต่พอดีผมบินผ่านญี่ปุ่นบ่อยๆ ที่โน่นราคาพร้อมไส้กรอง 3 อันแค่ 3 พันบาทเองจึงซื้อมา (ไส้กรองอันนึงอยู่ได้ประมาณ ปีครึ่ง)
จานผมซื้อมาจากร้าน จ.จาน ใช้ดี แถวสายสอง อยู่แถวๆที่ทำงานน้องพอดี เป็นร้านที่เอาของมีตำหนิจากโรงงานมาปล่อยราคาถูกมาก จานใบนึงประมาณ 10 - 20 บาท เรียกว่าเครื่องเซรามิคทั้งหมดในรูปผมแค่ประมาณ 700 บาทเอง แค่ต้องเลือกดีๆหน่อย
ต่อมาเรื่องของตกแต่ง
กระเบื้องผมสั่ง shipping มาจากจีนครับ กด google translate พิมพ์คำว่ากระเบื้อง แปลเป็นภาษาจีน หาในเวป taobao แล้วจ้างบริษัท shipping ตีลังมาไทยประมาณ 3000 บาท ที่ทำแบบนี้เพราะหาแบบที่ถูกใจในไทยไม่ได้ ผมแค่อยากได้แบบเรียบๆ ด้านๆ อะครับ
กลั้นใจรอเดือนนึงเค้าก็พาข้ามน้ำข้ามทะเลมาส่ง
ส่วนปูนยาแนวและกาวใช้ของไทย ซึ่งวิธีการทำง่ายกว่าที่คิดไว้มาก เดี๋ยวนี้มีขายกาวกระเบื้องโมเสกที่ผสมเสร็จหมดแล้ว แค่เปิดฝาก็ทาได้เลย
อันนี้ผมนั่งแปะไปกับแม่สองคน
จากนั้นก็ลงยาแนว ตอนลงใช้เกรียงปาดเข้าไปให้ยาแนวเข้าไปในร่องกระเบื้องแล้วเช็ดส่วนเกินออกครับ
ติดปัญหานิดหน่อย เพราะไม่รู้จะจบมุมอย่างไรดี ถ้าจะตัดแล้วต่อกันให้สวยๆต้องเจียแบบ 45 องศา ซึ่งเท่าที่ลองมันทำยากมากกกกกก
พอดีว่าเหลือเศษไม้โอ๊คตั้งแต่ตอนที่ทำโต๊ะ เลยเอามาทำเป็นชั้นวางของ (กะไว้วางเกลือ น้ำตาล พริกไทย)
แล้ว finish ด้วย oil เพราะจะดูเป็นธรรมชาติ ไม้ๆ ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป และสีเข้มขึ้นเข้ากับไม้ลามิเนตของชุดครัวที่แถมมากับคอนโดครับ
จากนั้นยึดชั้นวางของอิเกียเข้าไป ผมเลือกที่จะยึดกับชั้นไม้อัดที่แถมมากับคอนโด แทนที่จะเจาะกับกำแพง เพราะกลัวไปโดนท่อน้ำ และตั้งใจว่าจะแขวนของไม่หนักอยู่แล้ว จึงคิดว่าน่าจะพอรับน้ำหนักไว้อยู่
ต่อมาอยากได้โต๊ะไม้พับได้ เนื่องจากวิวห้องครัวสวยกว่าห้องนั่งเล่นครับ -*- จึงอยากกินข้าวแล้วดูวิวเมืองไปด้วยในตัว ตัวโต๊ะไม้ผมสั่งมาจากจีนเหมือนกันเนื่องจากของอิเกียไม่มีไซส์ที่อยากได้และราคาบวกค่าคนส่งแค่ 500 บาท
แต่พอมาถึงพบว่ามันจีนจริงๆ ไม้เป็นไม้สน ไม่ได้ลง เคลือบผิวไว้ให้ด้วย และต้องมาเจาะรูกะระยะขันสกรูเอง
ผมเอาโพลียูริเทนที่เหลือจากตอนทำโต๊ะมานั่งทาอยู่สองสามรอบ
จากนั้นก็ขันสกรูยึดให้ได้ตามแบบ
เจาะรูเข้ากับกำแพงก็ได้ประมาณนี้
เป็นไงบ้างครับ จบละครับ หวังว่าจะเป็นไอเดียให้คนที่กำลังแต่งคอนโดนะครับ ทำเองก็สนุกดีครับ ไม่ต้องวุ่นวายกับช่าง แล้วก็ใช้เวลาว่างกับเพื่อนและคนในครอบครัว (ถ้าเค้าไม่เบื่อเราซะก่อน 555)