สวัสดีค่ะ
“พี่หยอดวัดยาง” จะมารีวิวสายการบินกันบ้าง... หลังจากที่ห่างหายไปนาน
ไปมาหลายต่อหลายทริปไม่ค่อยได้พูดถึงเรื่องสายการบินซักที...
แต่ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ
“พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่
Facebook Fanpage “เที่ยวรัวรัว”
www.facebook.com/travelruarua หรือที่
www.travelruarua.com
"พี่หยอด" จะพาไปเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยเรานี่แหละคะ
Bangkok-Osaka
ซึ่งเส้นทางนี้เอาจริงๆ แล้วก็มีสายการบินให้บริการมากมาย บินตรงบ้าง บินไม่ตรงบ้าง !! ทั้ง Low Cost และ Full-Service
คราวนี้ “พี่หยอด” ได้ลองใช้บริการของ
สายการบิน Malaysia Airlines หรือ MH นั่นเอง (เป็นครั้งแรกเหมือนกันนะกับสายการบินนี้)
Route นี้ไม่บินตรงเพราะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ Kuala Lumpur ค่ะ ราคาก็เป็นมิตรด้วย “พี่หยอด” ลองกดหาตั๋วมาได้ในราคาไป-กลับ คนละ 10,505 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีงามมากๆๆๆ สำหรับสายการบินแบบ Full-service ค่ะ ราคานี้รวมโหลดกระเป๋า 30 kg. และอาหารเสริฟบนเครื่องพร้อมค่ะ
และที่สำคัญเวลาในการบินก็ดีค่ะ ออกจากกรุงเทพช่วงเย็น ไปถึง Osaka แต่เช้าตรู่เที่ยวต่อได้เลยไม่เสียเวลา
พอได้ยินชื่อ MH หลายคนอาจจะมองข้ามสายการบินนี้ไป แต่เอาจริงๆ โดยรวมแล้วจัดว่าดีเลยนะคะ
“พี่หยอด” จะมาเล่าให้ฟังดีกว่าว่า การเดินทางไป Osaka ครั้งนี้กับ Malaysia Airlines เป็นไงบ้าง...
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ “พี่หยอด” เดินทางระหว่างวันที่ 25-30 กรกฎาคม ที่ผ่านมาค่ะ
ที่ญี่ปุ่นก็ถือเป็นช่วง Summer แบบหนักหน่วง อาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่เรียกว่า High Season ซักเท่าไหร่นัก เพราะทั้งอากาศร้อนและฝนตก
Route การเดินทางครั้งนี้ ตามนี้ค่ะ
เวลาที่ใช้ในการต่อเครื่องก็ไม่โหดร้ายค่ะ อยู่ที่ราวๆ 2 ชั่วโมงกำลังดี
เมื่อพร้อมแล้ว เราออกเดินทางกันเลยค่ะ
สำหรับ Malaysia Airlines นั้น เราสามารถทำ Online Check-in ได้ล่วงหน้า 48 ชั่วโมง ถึง 90 นาทีก่อนเวลาบินค่ะ
คราวนี้ “พี่หยอด” ก็โหลด application ของ Malaysia Airlines ติดมือถือไว้เลย เพื่อไว้ทำการ check-in ล่วงหน้า และเลือกที่นั่งได้เลย ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิวนานที่สนามบินค่ะ โดยจะมี Boarding Pass ส่งมาให้เราทันทีทาง e-mail สะดวกมากค่ะ
เมื่อไปถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ พุ่งตัวมาที่
ประตู 6 ได้เลยค่ะ เพราะ check-in counter ของ Malaysia Airlines อยู่ที่
Row M ซึ่งหากเราทำการ check-in online มาเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปที่ช่อง
Baggage Drop ได้เลย ใช้เวลาแป๊ปเดียวก็จบขั้นตอนส่วนนี้ค่ะ กระเป๋าเดินทางจะถูกส่งไปที่ Osaka เลย และเจ้าหน้าที่จะออก Boarding Pass ให้เราอีกทีเป็นกระดาษ ที่จะได้คนละ 2 ใบ
ใบแรก Bangkok-Kuala Lumpur และใบที่สอง Kuala Lumpur-Osaka เก็บให้ดีน้า
ครั้งนี้เราออกเดินทางจาก Gate D3 ค่ะ
Flight MH783 Bangkok-Kuala Lumpur
ใช้เครื่อง A330-300 จัดที่นั่งแบบแถว 2-4-2 ทุกที่นั่งมีจอส่วนตัว แต่เป็นรุ่นเก่านิดนึง และมีที่เสียบ USB ใครจะชาร์ตแบตก็ตามสบายค่ะเต็มที่เลย
แต่ตอน take off / landing ต้องดึงออกก่อนนะ ที่นั่งก็นั่งสบายระดับนึงค่ะ ไม่แคบจนเกินไป ใช้เวลาบินแค่ 2.15 ชม.
สำหรับอาหารมีเสริฟ 1 มื้อค่ะ ไปกัน 2 คนเลือกมาทานคนละเมนู เป็นบะหมี่ไก่ และ ข้าวปลาราดซอส (เผ็ดนิดๆ) เสริฟพร้อมขนมปัง ผลไม้ เบสิคทั่วไปค่ะ พอทานอิ่มปุ๊ป ไม่นานเราก็ต้อง prepare for landing แล้วล่ะ
และแล้วก็เดินทางมาถึง
Kuala Lumpur International Airport หรือ
KLIA เป็นสนามบินที่สวยงามอีกที่นึงเลยแหละ ใหญ่โต มีร้านค้า คาเฟ่มากมาย มาถึงก็มาเช็ค Gate สำหรับ flight ถัดไปซักหน่อยค่ะ เพราะที่ KLIA นี้จะมาหลาย Terminal และอาจจะต้องนั่งรถไฟข้ามอีก Terminal นึงจะได้เผื่อเวลาได้ถูกนะคะ โดยที่นี่เราไม่ต้องผ่าน immigration หรือตรวจเอกสารใดๆแล้ว รอไป scan ร่างกายและสัมภาระติดตัวที่ Gate ได้เลย
ระหว่างรอขอจัด Chocolate Ice Blend ของ The Coffee Bean & Tea Leaf ซักแก้ว...เมนูโปรดเลยค่ะ
ได้เวลาไปต่อแล้วล่ะ Route ต่อไปของเราคือ
MH52 Kuala Lumpur-Osaka Kansai International Airport (Terminal1)
สำหรับเส้นทางนี้ เราบินด้วยเครื่อง A350-900 เครื่องใหญ่และใหม่มากกกกก ชอบเลยค่ะ
ทุกที่นั่งมีจอส่วนตัวเช่นเคย แต่อันนี้เป็นรุ่นใหม่แบบ touch screen ปรื๊ดๆเลิศมาก หูฟัง ผ้าห่ม พร้อมรับการเดินทางตลอด 6.30 ชม. หลังจากนี้...
และที่สำคัญทุกที่นั่งก็มีปลั๊กเสียบที่สามารถใช้ได้กับปลั๊กทุกแบบ จะอยู่บริเวณด้านล่างระหว่างเบาะที่นั่งค่ะ
flight นี้จะเสริฟอาหารมื้อหลัก 1 มื้อ และ snack อีก 1 มื้อค่ะ
สำหรับอาหารมื้อหลัก ไปกัน 2 คน ก็เลือกมา 2 แบบไม่เหมือนกันเช่นเคยค่ะ
เมนูนึงเป็นหมี่ผัดสไตล์มาเลย์ผิดนิดๆ (คล้ายๆผัดไทย) เสริฟพร้อมขนมปัง เค้ก และสลัด
ส่วนอีกเมนูเป็นข้าวพะแนงไก่ เสริฟพร้อมบะหมี่เย็น และออเดิฟเย็นพอกรุบกริบ
เอาจริงๆรสชาติอาหารอาจจะไม่ว้าวมาก แต่รวมๆแล้วก็โอเคอยู่ค่ะ
ทานเสร็จแล้วจะดูหนัง ฟังเพลง หรือนอน ก็ตามอัธยาศัยค่ะ สำหรับใครที่ชอบดูหนัง บนเครื่องมีหนังให้เลือกหลากหลายดีค่ะ และค่อนข้างใหม่เลยทีเดียว
พอได้เวลาซักประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเครื่องลง แอร์สาวสวยก็จะเริ่มมาเดินเสริฟ snack meal ค่ะ โดยจะเป็นพายและชา-กาแฟ เบาๆ มีให้เลือกพายไก่และพายเห็ด (vegetarian)
ในที่สุดก็เดินทางมาถึง
Osaka Kansai International Airport อย่างปลอดภัยค่ะ
ตลอดการเดินทาง ค่อนข้างประทับใจนะคะ (ถ้าตัดเรื่องอาหารออกไป) บินนุ่ม ลงนิ่ง คือดี ไม่ต้องลุ้น และที่สำคัญมาถึงก่อนเวลาด้วยแหละ !!
ความดีงามของ Flight นี้ก็คือเวลาที่เดินทางมาถึง Osaka นี่แหละค่ะ มาถึงแต่เช้า เราก็เริ่มเที่ยวกันได้เลย ไม่เสียเวลาใดๆ
และนี่ก็คือ Mini Review สายการบิน Malaysia Airlines เส้นทาง Bangkok-Osaka ค่ะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ สำหรับนักเดินทางค่ะ
แถมๆๆๆๆ
สำหรับเที่ยวบินขากลับนั้น รายละเอียดเส้นทางการบินและเครื่องบินนั้นแทบจะไม่แตกต่างจากตอนขามาค่ะ
อย่าลืม check-in online ก่อนเดินทางเหมือนเดิมนะ จะได้ประหยัดเวลาในการต่อคิว
และที่สนามบิน Kansai International Airport นั้น ถ้าใครมีเหรียญอยากจะใช้ให้หมดๆ ก็พุ่งตัวไปที่ตู้กาชาปองได้เลยค่ะ บริเวณหน้า Gate จะมีตู้กาชาปองไว้ให้เราทลายเหรียญเพียบเลย !!
แต่สำหรับขากลับนี้ ส่งที่แตกต่างจากขามาก็คืออาหารที่เสริฟนี่แหละ ส่วนตัวแล้ว “พี่หยอด” คิดว่ามันอร่อยกว่าตอนขามานะ 555
เลยอยากเอาเมนูอาหารขากลับมาให้ดูกันค่ะว่ามีอะไรน่าทานบ้าง
อันนี้เป็นของ Flight Osaka-Kuala Lumpur ก่อนนะ
ปลานึ่งเสริฟคู่กับข้าวสไตล์ญี่ปุ่น อันนี้หน่อยดี ในชุดยังมีบะหมี่เย็น ไข่หวาน ผลไม้ และไอศกรีมวนิลลาอีก 1 ถ้วย มื้อนี้ดีจริงๆ ไม่ได้อวย !!
ส่วน snack ก็เป็น Muffin นุ่มๆ เสริฟพร้อมชา-กาแฟ
และมาต่อกันที่อาหารที่เสริปใน fight Kuala Lumpur-Bangkok กันบ้าง (เริ่มกลับมาเป็นอาหารสไตล์มาเลย์เช่นเดิม)
ข้าวปลาเปรี้ยวหวาน และข้าวแกงกระหรี่ไก่ค่ะ
------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ...
หากสนใจอ่านรีวิวอื่นๆ จิ้มเข้าไปดูกันได้ที่ "เที่ยวรัวรัว"
www.facebook.com/travelruarua
[CR] เที่ยวรัวรัว : ครั้งแรกกับ Malaysia Airlines เส้นทาง Bangkok - KL - Osaka
ไปมาหลายต่อหลายทริปไม่ค่อยได้พูดถึงเรื่องสายการบินซักที...
แต่ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ “พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage “เที่ยวรัวรัว”
www.facebook.com/travelruarua หรือที่ www.travelruarua.com
"พี่หยอด" จะพาไปเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยเรานี่แหละคะ Bangkok-Osaka
ซึ่งเส้นทางนี้เอาจริงๆ แล้วก็มีสายการบินให้บริการมากมาย บินตรงบ้าง บินไม่ตรงบ้าง !! ทั้ง Low Cost และ Full-Service
คราวนี้ “พี่หยอด” ได้ลองใช้บริการของสายการบิน Malaysia Airlines หรือ MH นั่นเอง (เป็นครั้งแรกเหมือนกันนะกับสายการบินนี้)
Route นี้ไม่บินตรงเพราะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ Kuala Lumpur ค่ะ ราคาก็เป็นมิตรด้วย “พี่หยอด” ลองกดหาตั๋วมาได้ในราคาไป-กลับ คนละ 10,505 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีงามมากๆๆๆ สำหรับสายการบินแบบ Full-service ค่ะ ราคานี้รวมโหลดกระเป๋า 30 kg. และอาหารเสริฟบนเครื่องพร้อมค่ะ
และที่สำคัญเวลาในการบินก็ดีค่ะ ออกจากกรุงเทพช่วงเย็น ไปถึง Osaka แต่เช้าตรู่เที่ยวต่อได้เลยไม่เสียเวลา
พอได้ยินชื่อ MH หลายคนอาจจะมองข้ามสายการบินนี้ไป แต่เอาจริงๆ โดยรวมแล้วจัดว่าดีเลยนะคะ
“พี่หยอด” จะมาเล่าให้ฟังดีกว่าว่า การเดินทางไป Osaka ครั้งนี้กับ Malaysia Airlines เป็นไงบ้าง...
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ “พี่หยอด” เดินทางระหว่างวันที่ 25-30 กรกฎาคม ที่ผ่านมาค่ะ
ที่ญี่ปุ่นก็ถือเป็นช่วง Summer แบบหนักหน่วง อาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่เรียกว่า High Season ซักเท่าไหร่นัก เพราะทั้งอากาศร้อนและฝนตก
Route การเดินทางครั้งนี้ ตามนี้ค่ะ
เวลาที่ใช้ในการต่อเครื่องก็ไม่โหดร้ายค่ะ อยู่ที่ราวๆ 2 ชั่วโมงกำลังดี
เมื่อพร้อมแล้ว เราออกเดินทางกันเลยค่ะ
สำหรับ Malaysia Airlines นั้น เราสามารถทำ Online Check-in ได้ล่วงหน้า 48 ชั่วโมง ถึง 90 นาทีก่อนเวลาบินค่ะ
คราวนี้ “พี่หยอด” ก็โหลด application ของ Malaysia Airlines ติดมือถือไว้เลย เพื่อไว้ทำการ check-in ล่วงหน้า และเลือกที่นั่งได้เลย ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิวนานที่สนามบินค่ะ โดยจะมี Boarding Pass ส่งมาให้เราทันทีทาง e-mail สะดวกมากค่ะ
เมื่อไปถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ พุ่งตัวมาที่ประตู 6 ได้เลยค่ะ เพราะ check-in counter ของ Malaysia Airlines อยู่ที่ Row M ซึ่งหากเราทำการ check-in online มาเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปที่ช่อง Baggage Drop ได้เลย ใช้เวลาแป๊ปเดียวก็จบขั้นตอนส่วนนี้ค่ะ กระเป๋าเดินทางจะถูกส่งไปที่ Osaka เลย และเจ้าหน้าที่จะออก Boarding Pass ให้เราอีกทีเป็นกระดาษ ที่จะได้คนละ 2 ใบ
ใบแรก Bangkok-Kuala Lumpur และใบที่สอง Kuala Lumpur-Osaka เก็บให้ดีน้า
ครั้งนี้เราออกเดินทางจาก Gate D3 ค่ะ
Flight MH783 Bangkok-Kuala Lumpur
ใช้เครื่อง A330-300 จัดที่นั่งแบบแถว 2-4-2 ทุกที่นั่งมีจอส่วนตัว แต่เป็นรุ่นเก่านิดนึง และมีที่เสียบ USB ใครจะชาร์ตแบตก็ตามสบายค่ะเต็มที่เลย
แต่ตอน take off / landing ต้องดึงออกก่อนนะ ที่นั่งก็นั่งสบายระดับนึงค่ะ ไม่แคบจนเกินไป ใช้เวลาบินแค่ 2.15 ชม.
สำหรับอาหารมีเสริฟ 1 มื้อค่ะ ไปกัน 2 คนเลือกมาทานคนละเมนู เป็นบะหมี่ไก่ และ ข้าวปลาราดซอส (เผ็ดนิดๆ) เสริฟพร้อมขนมปัง ผลไม้ เบสิคทั่วไปค่ะ พอทานอิ่มปุ๊ป ไม่นานเราก็ต้อง prepare for landing แล้วล่ะ
และแล้วก็เดินทางมาถึง Kuala Lumpur International Airport หรือ KLIA เป็นสนามบินที่สวยงามอีกที่นึงเลยแหละ ใหญ่โต มีร้านค้า คาเฟ่มากมาย มาถึงก็มาเช็ค Gate สำหรับ flight ถัดไปซักหน่อยค่ะ เพราะที่ KLIA นี้จะมาหลาย Terminal และอาจจะต้องนั่งรถไฟข้ามอีก Terminal นึงจะได้เผื่อเวลาได้ถูกนะคะ โดยที่นี่เราไม่ต้องผ่าน immigration หรือตรวจเอกสารใดๆแล้ว รอไป scan ร่างกายและสัมภาระติดตัวที่ Gate ได้เลย
ระหว่างรอขอจัด Chocolate Ice Blend ของ The Coffee Bean & Tea Leaf ซักแก้ว...เมนูโปรดเลยค่ะ
ได้เวลาไปต่อแล้วล่ะ Route ต่อไปของเราคือ MH52 Kuala Lumpur-Osaka Kansai International Airport (Terminal1)
สำหรับเส้นทางนี้ เราบินด้วยเครื่อง A350-900 เครื่องใหญ่และใหม่มากกกกก ชอบเลยค่ะ
ทุกที่นั่งมีจอส่วนตัวเช่นเคย แต่อันนี้เป็นรุ่นใหม่แบบ touch screen ปรื๊ดๆเลิศมาก หูฟัง ผ้าห่ม พร้อมรับการเดินทางตลอด 6.30 ชม. หลังจากนี้...
และที่สำคัญทุกที่นั่งก็มีปลั๊กเสียบที่สามารถใช้ได้กับปลั๊กทุกแบบ จะอยู่บริเวณด้านล่างระหว่างเบาะที่นั่งค่ะ
flight นี้จะเสริฟอาหารมื้อหลัก 1 มื้อ และ snack อีก 1 มื้อค่ะ
สำหรับอาหารมื้อหลัก ไปกัน 2 คน ก็เลือกมา 2 แบบไม่เหมือนกันเช่นเคยค่ะ
เมนูนึงเป็นหมี่ผัดสไตล์มาเลย์ผิดนิดๆ (คล้ายๆผัดไทย) เสริฟพร้อมขนมปัง เค้ก และสลัด
ส่วนอีกเมนูเป็นข้าวพะแนงไก่ เสริฟพร้อมบะหมี่เย็น และออเดิฟเย็นพอกรุบกริบ
เอาจริงๆรสชาติอาหารอาจจะไม่ว้าวมาก แต่รวมๆแล้วก็โอเคอยู่ค่ะ
ทานเสร็จแล้วจะดูหนัง ฟังเพลง หรือนอน ก็ตามอัธยาศัยค่ะ สำหรับใครที่ชอบดูหนัง บนเครื่องมีหนังให้เลือกหลากหลายดีค่ะ และค่อนข้างใหม่เลยทีเดียว
พอได้เวลาซักประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเครื่องลง แอร์สาวสวยก็จะเริ่มมาเดินเสริฟ snack meal ค่ะ โดยจะเป็นพายและชา-กาแฟ เบาๆ มีให้เลือกพายไก่และพายเห็ด (vegetarian)
ในที่สุดก็เดินทางมาถึง Osaka Kansai International Airport อย่างปลอดภัยค่ะ
ตลอดการเดินทาง ค่อนข้างประทับใจนะคะ (ถ้าตัดเรื่องอาหารออกไป) บินนุ่ม ลงนิ่ง คือดี ไม่ต้องลุ้น และที่สำคัญมาถึงก่อนเวลาด้วยแหละ !!
ความดีงามของ Flight นี้ก็คือเวลาที่เดินทางมาถึง Osaka นี่แหละค่ะ มาถึงแต่เช้า เราก็เริ่มเที่ยวกันได้เลย ไม่เสียเวลาใดๆ
และนี่ก็คือ Mini Review สายการบิน Malaysia Airlines เส้นทาง Bangkok-Osaka ค่ะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ สำหรับนักเดินทางค่ะ
แถมๆๆๆๆ
สำหรับเที่ยวบินขากลับนั้น รายละเอียดเส้นทางการบินและเครื่องบินนั้นแทบจะไม่แตกต่างจากตอนขามาค่ะ
อย่าลืม check-in online ก่อนเดินทางเหมือนเดิมนะ จะได้ประหยัดเวลาในการต่อคิว
และที่สนามบิน Kansai International Airport นั้น ถ้าใครมีเหรียญอยากจะใช้ให้หมดๆ ก็พุ่งตัวไปที่ตู้กาชาปองได้เลยค่ะ บริเวณหน้า Gate จะมีตู้กาชาปองไว้ให้เราทลายเหรียญเพียบเลย !!
แต่สำหรับขากลับนี้ ส่งที่แตกต่างจากขามาก็คืออาหารที่เสริฟนี่แหละ ส่วนตัวแล้ว “พี่หยอด” คิดว่ามันอร่อยกว่าตอนขามานะ 555
เลยอยากเอาเมนูอาหารขากลับมาให้ดูกันค่ะว่ามีอะไรน่าทานบ้าง
อันนี้เป็นของ Flight Osaka-Kuala Lumpur ก่อนนะ
ปลานึ่งเสริฟคู่กับข้าวสไตล์ญี่ปุ่น อันนี้หน่อยดี ในชุดยังมีบะหมี่เย็น ไข่หวาน ผลไม้ และไอศกรีมวนิลลาอีก 1 ถ้วย มื้อนี้ดีจริงๆ ไม่ได้อวย !!
ส่วน snack ก็เป็น Muffin นุ่มๆ เสริฟพร้อมชา-กาแฟ
และมาต่อกันที่อาหารที่เสริปใน fight Kuala Lumpur-Bangkok กันบ้าง (เริ่มกลับมาเป็นอาหารสไตล์มาเลย์เช่นเดิม)
ข้าวปลาเปรี้ยวหวาน และข้าวแกงกระหรี่ไก่ค่ะ
------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ...
หากสนใจอ่านรีวิวอื่นๆ จิ้มเข้าไปดูกันได้ที่ "เที่ยวรัวรัว"
www.facebook.com/travelruarua
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้